ผู้เขียน หัวข้อ: อนาคตหากเป็นแบบนี้ คนบ้านเราจะใช้ hybrid/plug-in เยอะขึ้นรึเปล่าครับ  (อ่าน 3082 ครั้ง)

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
  ผมมองอนาคตสัก 30-50ปีข้างหน้า พลังงานคงแพงมากและภาวะโลกร้อนคงหนักหนาสากันต์ ถ้าได้เริ่มช่วยกันอย่างจริงจังเหมือนหลายๆประเทศที่เขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องลดโลกร้อน
  ถ้าบ้านเราเริ่มจากการใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน ตัวอย่างเช่น Prius ราคาเท่า altis (เทียบ seg ไปเลย) หรือทำราคาถูกกว่าสักหน่อย อาจมี jazz hybrid  ที่ราคาถูกกว่าใช้น้ำมันสักหน่อย มี Camry hybrid ที่ถูกกว่า Camry E20 สักหน่อย คือทำรถหลายๆ segment ให้ใช้ hybrid  หรือใช้ไฟฟ้า (plug-in) ไม่ใช่ทำแต่ Eco car เพราะไม่เหมาะกับใช้วิ่งทางไกลๆ บรรทุกได้้นอน นั่งไม่สบายเท่า ฯลฯ
  ถ้าเป็นแบบนี้คิดว่าคนไทยจะใช้รถ hybrid /plug-in เยอะขึ้นรึเปล่า แบบ 50:50เลยนะครับ สงสัยครับสงสัย
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,874
  • เส้นขอบฟ้า
30-50 ข้างหน้าผมว่าอยากให้เป็นรถพลังงานไฮโดเจนมากกว่า ผมว่ารถ plug-in มันคือรถใช้ไฟฟ้าซึ่งไฟฟ้าก็ต้องผลิดมาจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินอยู่ดี

มันไม่ได้ช่วยเรื่องลดการใช้พลังงานลงซักเท่าไหร่ ร่วมถึงปัญหาโลกร้อนก็คงไม่ลดลงเท่าที่ควร อย่างที่ญี่ปุ่นคิดคืออนาคตของเขาจะให้เป็นรถที่ใช้ไฮโดเจนเพราะมันยั่งยืนกว่า

ที่เห็นญี่ปุ่นจริงๆจังๆก็โคลงการรถ Toyota Mirai ที่มีภาครัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
ผมว่านะครับเรีองเเบตเตอรีhybridเนียขอให้มันราคาถูกกว่า ทีเปนอยู่ครับตอนนี้มันเกีอบๆๆแสนบาทต่อชุดถ้าราคาเเบตถูกลงผมว่านะมีคนใช้รถhybridแน่ๆๆครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
30-50 ข้างหน้าผมว่าอยากให้เป็นรถพลังงานไฮโดเจนมากกว่า ผมว่ารถ plug-in มันคือรถใช้ไฟฟ้าซึ่งไฟฟ้าก็ต้องผลิดมาจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินอยู่ดี

มันไม่ได้ช่วยเรื่องลดการใช้พลังงานลงซักเท่าไหร่ ร่วมถึงปัญหาโลกร้อนก็คงไม่ลดลงเท่าที่ควร อย่างที่ญี่ปุ่นคิดคืออนาคตของเขาจะให้เป็นรถที่ใช้ไฮโดเจนเพราะมันยั่งยืนกว่า

ที่เห็นญี่ปุ่นจริงๆจังๆก็โคลงการรถ Toyota Mirai ที่มีภาครัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่

คืออีก 50ปีข้างหน้าอาเปลี่ยนแปลงไปเยอะครับ แต่ถ้าวันนี้เริ่มด้วย hybrid กับ plug-in คงดี และถ้าได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องแล้วทำราคาต่ำลงให้ได้นะครับ ประมาณนี้ครับน้า  ;D 
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,874
  • เส้นขอบฟ้า
30-50 ข้างหน้าผมว่าอยากให้เป็นรถพลังงานไฮโดเจนมากกว่า ผมว่ารถ plug-in มันคือรถใช้ไฟฟ้าซึ่งไฟฟ้าก็ต้องผลิดมาจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินอยู่ดี

มันไม่ได้ช่วยเรื่องลดการใช้พลังงานลงซักเท่าไหร่ ร่วมถึงปัญหาโลกร้อนก็คงไม่ลดลงเท่าที่ควร อย่างที่ญี่ปุ่นคิดคืออนาคตของเขาจะให้เป็นรถที่ใช้ไฮโดเจนเพราะมันยั่งยืนกว่า

ที่เห็นญี่ปุ่นจริงๆจังๆก็โคลงการรถ Toyota Mirai ที่มีภาครัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่

คืออีก 50ปีข้างหน้าอาเปลี่ยนแปลงไปเยอะครับ แต่ถ้าวันนี้เริ่มด้วย hybrid กับ plug-in คงดี และถ้าได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องแล้วทำราคาต่ำลงให้ได้นะครับ ประมาณนี้ครับน้า  ;D 
ถ้าวันนี้จะให้เริ่มด้วย hybrid กับ plug-in ก็คงต้องลดราคาเรื่องแบตเตอรีลงมาให้ถูกกว่านี้ ถ้ามันกูกกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ซัก 50-70 % จะดีมากจะช่วยกระตุ้นให้คนหันมาใช้เยอะๆ คนมาใช้เยอะๆกลไกมันก็จะบังคับให้ราคาแบตลดลงเรื่อยๆ มีการแข่งขันกันผลิตแบตเตอรีและพัฒนา สุดท้ายจะได้ใช้ไม่ได้ใช้ก็อยู่ที่การสนัยสนุนจากภาครัฐแหละ

promt

  • บุคคลทั่วไป
30-50 ข้างหน้าผมว่าอยากให้เป็นรถพลังงานไฮโดเจนมากกว่า ผมว่ารถ plug-in มันคือรถใช้ไฟฟ้าซึ่งไฟฟ้าก็ต้องผลิดมาจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินอยู่ดี

มันไม่ได้ช่วยเรื่องลดการใช้พลังงานลงซักเท่าไหร่ ร่วมถึงปัญหาโลกร้อนก็คงไม่ลดลงเท่าที่ควร อย่างที่ญี่ปุ่นคิดคืออนาคตของเขาจะให้เป็นรถที่ใช้ไฮโดเจนเพราะมันยั่งยืนกว่า

ที่เห็นญี่ปุ่นจริงๆจังๆก็โคลงการรถ Toyota Mirai ที่มีภาครัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่

รถ fuel cell ผมก็อยากให้มันมาแทนรถไฮบริดพันทางมาก

มันคือรถอนาคตที่แท้จริง

ต้องรอจนผมแก่นั่นแหละ จึงจะได้ใช้

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
สำหรับผมพอแล้วกับ Hybrid ถ้าดีขึ้นอีกสัก 10 ปีค่อยว่ากันใหม่
แต่ตอนนี้ไม่เอาเด็ดขาดเลย ไม่ใช่รถไม่ดีนะครับแต่เพราะตลาด
ไม่ยอมรับมันในฐานะรถมือสอง ขายต่อถูกกดราคาอย่างน่าเกลียด
โดยอ้างเรื่องระบบไฮบริดซ่อมแพง แบตเตอรี่แพง ทั้งๆที่ยังอยู่ในระยะ
ประกันที่ 10 ปีก็ไม่ได้มีผลไม่ให้ถูกกดราคา

ตราบใดก็ตามที่ชื่อเสียงเรื่องอะไหล่และราคาแบตเตอรี่ยังคง
แพงอยู่ ตราบนั้นรถ hybrid ไม่มีวันได้เกิดหรอกครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Tee+...Lek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
    • อีเมล์
โดยส่วนตัวแล้ว สุดท้ายมันคงจบที่รถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งน่าจะเข้ามาทดแทนเครื่องสันดาปปรกติค่อนข้างแน่

ส่วนรถพลังงานไฮโดรเจนนั้น ผมยังไม่ได้ศึกษาแน่ชัด แต่ในความเห็นแล้วยังมี 2 อย่างที่น่าคิดคือ

1. การผลิตไฮโดรเจน ที่เข้าใจว่ายังมีความซับซ้อน และมีต้นทุนค่อนข้างสูง เพราะการแยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ ต้องใช้ไฟฟ้าแรงสูงเพื่อแยกอะตอมของไฮโดรเจนออกจากกัน (อันนี้ผมเคยอ่านผ่านๆ เจอ ถ้ามีข้อมูลใหม่ต้องขออภัยด้วยนะครับ)
2. คุณสมบัติของไฮโดรเจนเอง เพราะไฮโดรเจนเป็นสารที่ติดไฟได้เอง ไม่ต้องมีประกายไฟ ดังนั้นเกิดการรั่วไหลขึ้นมา อันตรายของมันก็ค่อนข้างมาก

สำหรับเรื่องแบตเตอรี่นี่เป็นปัญหาในการพัฒนารถไฟฟ้ามากว่า 10 ปีแล้ว เพราะตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วจนปัจจุปัน ยังไม่มีเทคโนโลยีทางแบตเตอรี่ใหม่ๆ ที่ถูกใช้งานจริงๆ เลย แม้ว่าจะมีข่าวว่ามีงานวิจัยที่สามารถพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความจุมาก แต่ขนาดเท่าเหรียญมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการผลิตเป็นจำนวนมาก คงหวังได้ยากที่จะมีราคาถูก

ส่วนเรื่องอะไหล่ Hybrid ผมมองต่างออกไปนะครับ ในอนาคตถ้าผู้ใช้รถจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อะไหล่ที่ผลิตก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ราคาก็จะลดลงไปเอง ตามหลักอุปสงค์ อุปทาน นั่นแหละ เอาง่ายๆ เรื่องติดแก๊ส ตอนผมติด Camry 2002 ติดแบบหัวฉีดซัดไปเกือบ 5x,xxx บาท เพราะในช่วงแรกมีคนติดรถในระดับ D-Segment ค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่ก็มักจะนิยมติดแบบดูดเดิมมากกว่า แต่ตอนที่ผมเปลี่ยนหัวฉีด และอุปกรณ์อื่นๆ ราคาอะไหล่มันลงมาในระดับไม่ถึงหมื่นแล้ว เนื่องจากพอติดระบบแก๊สกันเยอะ ตัวแทนจำหน่ายก็สั่งของล็อตใหญ่ขึ้น มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น ราคามันก็จะลดลงไปเองตามธรรมชาติ

ออฟไลน์ lacked

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจาก Better Place
http://xn--m3cbjzaof0kvg1b3a.blogspot.com/2012/07/better-place.html

เริ่มต้นโดยให้รถสาธารณะทั้งหมด โดยเฉพาะ taxi เป็นรถไฟฟ้า
รถยนต์ใน กทม ก็จะใช้ตาม เอาแค่ กทม นี่ก็เป็นสัดส่วนที่ใหญ่พอสมควรแล้วครับ

ประชาชนก็เป็นเจ้าของรถ ส่วนแบตเป็นของปั๊ม แล้วคนที่ใช้น้อยก็ให้ปลั๊กอินได้ ที่ทำงาน ที่บ้าน

คิดภาพ กทม ไม่มีควันรถเมล์ ไม่มีควันรถ taxi เหลือรถบ้านก็เป็นรถสภาพดี ไอเสียไม่มาก เมืองคงน่าอยู่ดี

ปล. ผมคนต่างจังหวัดนะครับ ไป กทม ทีไรหายใจไม่คล่องปอดเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 24, 2015, 12:51:04 โดย lacked »

ออฟไลน์ veturilo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
จากนโยบายภาษีจากภาครัฐฯ
- B/C segment เครื่องจะเล็กลง แรงเท่าเดิมหรือมากขึ้นนิดหน่อย ประหยัดมากขึ้น ใช้ E85 ได้ และมี CNG เป็นทางเลือก LPG จะโดนบีบให้สูญพันธุ์
- D segment ในรุ่นล่างเครื่องจะ 2,000cc เท่านี้น่ะแหละ แต่ประสิทธิภาพดีขึ้น แรงเท่าหรือดีกว่าเดิม กินน้ำมันลดลง ปล่อยไอเสียลดลง
ส่วนรุ่นบนที่แรงม้าระดับ 180~200+ แรงม้าจะโดนบีบบังคับโดยภาษีให้ต้องใช้ระบบ Hybrid แบบเลี่ยงไม่ได้

ความเห็นส่วนตัว ระบบ Hybrid มันจะเป็นที่นิยมถ้าส่วนประกอบของระบบมันถูกลง ดูแลง่าย หรือไม่ต้องดูแลเลย
ลองจินตนาการนะครับ ถ้าตัว Inverter หรือ Battery ตัวใหม่อายุการใช้งาน 20 ปีราคา 30,000 บาท คนคงใช้กันมากกว่านี้
ตอนนี้อายุการใช้งานระบบมันก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเริ่มเสื่อมเสียเมื่อไหร่ แถมราคาแต่ละชิ้นก็เกือบแสน คนไม่กล้าใช้มือสองแน่ๆนอน

ส่วนประกอบของระบบมันจะถูกลงได้ก็ต่อเมื่อ ชิ้นส่วนในยี่ห้อเดียวกันหรือต่างยี่ห้อกัน สามารถใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้
เอาง่ายๆ แค่ Prius, Camry Hybrid, Crown, Crown Majesta, Aqua  ยี่ห้อเดียวกันแท้ๆมันยังใช้ Battery คนละเบอร์ คนละแรงดันไฟฟ้าเลย
ยิ่งเยอะรุ่นก็ยิ่งแพงนะ...การพัฒนามันแยกกันอยู่แล้ว

Inverter กับสายไฟแรงสูงในระบบเนี้ยคงยากที่จะใช้ร่วมกันในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ
แต่ตัว Battery เนี้ย ถ้าแต่ละยี่ห้อตกลงร่วมกัน ทำให้มันเป็นมารตฐานเดียวกัน มันจะถูกลงแน่นอน
ตอนนี้ต่างคนต่างพัฒนา ค่า R&D มันก็คูณด้วยจำนวนยี่ห้อล่ะครับ ได้ของแบบเดียวกันออกมาหลายๆยี่ห้อแค่นั้นเอง

ในอนาคตอันไกล EV เฉยๆแบบ charge ไฟบ้านจะเป็นที่นิยมสำหรับการเดินทางระยะใกล้ แบบ routine เช่น ไปกลับที่ทำงาน
แต่ในประเทศที่รถยนต์ราคาแพงด้วยภาษีแบบบ้านเรา คนจะมีรถแค่คันสองคันต่อบ้าน Extended Range EV น่าจะเป็นที่นิยมมากว่า
เพราะใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เดินทางไกลได้

ผมมอง Plug-in Hybrid เหมือน Extended Range EV แบบหนึ่งนะครับ

ทำไม EV มันดูจะไม่รอด เพราะมันชาร์จนานครับ เว้ณแต่จะมีเทคโนโลยีในการชาร์จไวมาช่วย
คำว่าไวในที่นี่คือชาร์จใน 5-10 นาทีแล้ววิ่งได้ 400-500 km ให้ไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน

ส่วน Extended Range EV ในอนาคตอันใกล้ มันจะพ่วงกับเครื่องยนต์สันดาบขนาดเล็กเพื่อใช้ปั่นไฟอย่างเดียว เช่น BMW i3
แต่ในอนาคตที่น้ำมันร่อยหรอ หรือโดนภาษีสิ่งแวดล้อมกดดันหนักๆ มันจะพ่วงกับ Fuel Cell เช่น Toyota Mirai แทน

น่าจะประมาณนี้...

ออฟไลน์ warez

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
นานขนาดนั้น คงได้ขี่ม้ากันหละครับ

โลกหลังสงคราม