แต่บางคนนี่ก็ตีวงเผื่อเยอะเกินรถไซด์อีโคคาร์แต่ตีวงซะยังกะขับรถเทรลเลอร์หางยาวๆ ผมเจอประจำจะเผื่ออะไรกันนักหนารถคันนิดเดียว
เรื่องคนขับรถเล็ก แล้วขับเหมือนรถใหญ่นี่เห็นด้วยครับ เห็นบ่อยๆ รถ Ecocar ถอยจอดในที่จอดรถห้าง ถอยกันที 4-5 รอบกว่าจะจอดได้
ประเด็นที่คุณพูด ผมก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่างน่ะ ผมว่ารถสมัยก่อนเทคโนโลยีช่วยมันน้อย คนขับต้องใช้ฝีมือเยอะกว่าอารมณ์ แต่ทุกวันนี้รถมีเทคโนโลยีช่วยเยอะ คนเลยใช้อารมณ์ในการขับรถมากขึ้น โดยมีฝีมือน้อยลง สังเกตดูง่ายๆกระบะสมัย 15 ปีก่อน มีกี่คนที่กล้าขับถึง 150 แต่สมัยนี้ระบบช่วยเหลือสารพัด กระบะซิ่งกันเกิน 150 เกลื่อนถนน
ผมเข้าใจท่านครับ และเห็นด้วยกับท่าน 100% เลย แต่คนขับรถสมัยนี้ขับด้วย "เครื่อง" ไม่ได้ดู หรือใช้ "จังหวะ" ในการแซงชาวบ้านเลย มีอีกพวกคือช้าขับขวา ไม่เข้าใจว่าท่านไปขับรถในต่างประเทศมาหรืออย่างไร เลนขวาควรจะเป็นรถใช้ความเร็วกว่าเลนกลางหรือเลนซ้าย ถ้าจะขับความเร็วคงที่ เลนกลาง หรือเลนซ้ายเลยครับท่าน
ตอนอยู่บนถนนที่มีหลายเลน เวลากลับรถคันที่มีวงเลี้ยวกว้างก็ใช้วิธีีตวงช่วยได้
แต่ตอนจะออกจากที่จอดในห้าง มันตีวงไม่ได้สิครับ
แถมถ้าฝั่งตรงข้ามมีรถมาจอดซ้อนคัน จะออกทีก็ต้องขยับกันหลายรอบ
เวลาออกจากห้าง แทนที่จะหักพวงมาลัยเลี้ยวเลย ลองขยับพวกมาลัยไปทางขวาหน่อยเดียว เอาหัวออกไป 1/4 ก่อนแล้วค่อยหักเลี้ยวซ้ายนะครับ ท่านจะพบว่ามันจะเลี้ยวออกง่ายมาก แต่เรื่องจอดซ้อนคันที่น่า "ตำหนิ" มากครับ บางทีผมเจอ ที่จอดรถก็มีเหลือ พี่แกจอดซ้อนคันซะงั้น ไม่เข้าใจ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่า การปรับการขับรถนิดหน่อยๆ มันช่วยให้การใช้รถใช้ถนนมีความสุขขึ้น เช่น การกะเวลาเดินทางให้พอเหมาะ ไม่ใช่ออกจากบ้านไม่เผื่อเวลาเลย ไปมุดเอา เวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา มันคุ้มกันไหม การขับรถเร็วที่สิ้นเปลืองทั้งเชื้อเพลิง และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ การเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน อย่างที่ท่าน Jimmy บ่นในรายการวิทยุ เรื่องแบบนี้มันต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนครับ