ผู้เขียน หัวข้อ: [์ำข้อมูล]เกี่ยวกับภาษีนำเข้ารถยนต์ สำหรับเพื่อนๆทุกคนครับ[ใครทราบแล้วก็ขออภัย]  (อ่าน 24301 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (From siam speed)

วิธีคำนวน + เปอร์เซ็นส่วนลดลดภาษี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 22:19:48 โดย premed »
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
..
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
...
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
....
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
.....
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
ทะเบียน รถนำเข้า มี 2 แบบ

1 จดประกอบ ซึ่งขั้นตอนยุ่งยากมาก ต้องเสียเงินหลายขั้นตอน ทั้งต้องตรวจมาตรฐานอุตสาหกรรมด้วย
เฉพาะ มอก.ถ้าไม่ผ่านก็จบ เป็นเศษเหล็ก ตรวจได้ 3 ครั้ง และไปเสียภาษี สรรพสามิต และศุลกากร ก็จบ

2 จดรถเก่านำเข้า ต้องครอบครองที่ญี่ปุ่น ไม่น้อยกว่า 1-2 ปี และต้องมีใบอินวอย์ ของคนที่ญี่ปุ่นส่งมาด้วย
และแจ้งทางญี่ปุ่นว่าจะนำ กลับมาใช้ในประเทศไทย โดยไปแจ้งที่กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร
เช่นกัน เค้าจะออกใบ และคำนวนภาษีให้ก่อน ตัดสินใจว่าจะนำเข้าหรือไม่ มีการตัดค่าเสื่อมราคาให้

3 ลักลอบ นำเข้า และให้ศุลกากรจับ แล้วจึงไปประมูลจากกลุ่มศุลกากร ขั้นตอนง่าย แต่ภาษีก็แพง อาศัย
จนท. กรมศุลกากรช่วย ก็ง่าย โดยกรมศุล จะออกใบให้ไปขอเล่มทะเบียนที่ ขนส่ง ท้ายเล่มมีบันทึก
ด้วยว่า เป็นรถประมูล
http://www.customs.go.th/Formality/P...Vehicles.jsp#2

1. การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลชั่วคราว

รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือสำราญและกีฬา หรือเรือประมงที่เจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตนเป็นการชั ่วคราวและจะส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรภายใน 6 เดือนจะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้า โดยผู้ที่ประสงค์จะนำยานพาหนะส่วนบุคคลประเภทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือสำราญและกีฬา หรือเรือประมง เข้ามาพร้อมกับตนเองเป็นการชั่วคราวต้องปฏิบัติตามหล ักเกณ์และเงื่อนไขที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ให้ครบถ้วน

1.1 เอกสารที่ควรจัดเตรียมในการนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลช ั่วคราว

(1) ใบขนสินค้าพิเศษและมีสำเนา 5 ฉบับ
(2) ทะเบียนยานพาหนะ
(3) บัตรประจำตัวและหนังสือเดินทางของผู้ควบคุมยานพาหนะ
(4) หนังสือมอบอำนาจ กรณีผู้ควบคุมยานพาหนะมิใช่เจ้าของ
(5) คำร้องขอนำรถเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวเป็นการชั่วครา ว
(6) หลักฐานการซื้อขาย เช่น Proforma Invoice, Invoice
(7) สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล
( สัญญาประกันการส่งกลับ
(9) เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)

1.2 ขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการนำเข้าชั่วคราวยานพาหนะส่วน บุคคล

(1) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบ ต่อฝ่ายเอกสิทธิ์และส่งเสริมการลงทุน ส่วนการนำเข้า ของสำนักงานหรือด่านศุลกากรที่นำเข้า กรณีมีสิ่งของอื่นหรือผู้โดยสารและสิ่งของติดตัวผู้โ ดยสารเข้ามาพร้อมกับยานพาหนะ ผู้นำเข้าหรือตัวแทนต้องแจ้งกรมศุลกากรด้วย

(2) กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และกำหนดวงเงินค้ำประกันสำหรับการนำเข้านั้น ๆ

(3) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักประกัน (เงินสดหรือ ธนาคารค้ำประกัน) ไปชำระที่ฝ่ายบัญชีและอากร

(4) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการวางประกันมาแสดงต่อเ จ้าหน้าที่ศุลกากร

(5) กรมศุลกากรจะตรวจยานพานะและสิ่งของติดตัวผู้โดยสาร เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว จะมอบสำเนาใบขนสินค้าพิเศษ ให้ผู้นำเข้าไว้ 1 ฉบับ เพื่อใช้กำกับยานพาหนะและแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรเ มื่อนำยานพาหนะออกไปนอกประเทศไทย

1.3 ขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการส่งออกยานพาหนะส่วนบุคคล

(1) ผู้ส่งออกยื่นใบขนสินค้าพิเศษที่กรมศุลกากรออกให้ขณะ นำเข้าและสำเนา 1 ฉบับ พร้อมกับแบบธุรกิจต่างประเทศ (ธ.ต.1) 1 ฉบับ แก เจ้าหน้าที่ศุลกากร

(2) กรมศุลกากรจะตรวจยานพาหนะและสิ่งของติดตัวผู้โดยสาร เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะถอนประกันทัณฑ์บนที่ผู้นำเข้าทำ ไว้กับกรมศุลกากรขณะนำเข้า

1.4 ข้อควรทราบในการนำเข้าชั่วคราวยานพาหนะส่วนบุคคล

(1) หากผู้นำเข้าไม่นำรถกลับออกไปในระยะเวลาที่กำหนดไว้ใ นสัญญาประกันทัณฑ์บน กรมศุลกากรจะบังคับสัญญาทัณฑ์บนเต็มจำนวนที่กำหนดไว้ โดยไม่มีการลดหย่อนทั้งสิ้น

(2) กรณีผู้นำเข้าต้องการขอขยายเวลาการนำรถออกนอกประเทศไ ทยตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกันทัณฑ์บน ก็สามารถขอขยายเวลากับกรมศุลกากรได้อีกแต่ไม่เกิน 6 เดือน เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็น เช่น เครื่องยนต์เสีย หรือรถยนต์ถูกชนต้องเสียเวลาในการซ่อม ก็อาจขยายเวลาออกไปให้เกินกว่า 6 เดือนได้ แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 8 เดือน นับแต่วันนำเข้า

(3) การประกันและการค้ำประกัน
ผู้นำเข้าสามารถวางประกันด้วยเงินสด หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคาร แต่สำหรับรถจักรยานยนต์ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเท ศนำเข้าทางสำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ ให้ค้ำประกันตนเองได้
ในกรณีที่ผู้นำ เข้าไม่สามารถจะวางประกันด้วยเงินสด หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารได้จริงๆ กรมศุลกากรก็อาจพิจารณาอนุมัติให้ผู้นำเข้าค้ำประกัน ตนเองได้
การกำหนด เงินประกันและเงินค้ำประกัน กรมศุลกากรจะกำหนดโดยถือตามราคาบวกค่าภาษีอากรทุกประ เภทของรถที่นำเข้าเป็นยอดเงินประกัน

(4) การบังคับตามสัญญาประกัน
เมื่อ ครบกำหนดตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน หรือผู้นำของเข้าได้แสดงความจำนงก่อนครบกำหนดดังกล่า วว่าไม่ประสงค์จะนำรถกลับออกไป กรมศุลกากรจะบังคับสัญญาประกันเต็มตามจำนวนที่กำหนดไ ว้โดยไม่มีการลดหย่อนใดๆ ทั้งสิ้น
ในกรณีที่มีผู้นำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์เข้ามาในประเทศทางเขตแดนทางบกเป็นก ารชั่วคราวและจะนำกลับออกไป แต่นำกลับออกไปไม่ทันภายในเวลาที่กำหนดตามที่ระบุไว้ ในสัญญาประกัน โดยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนการปฏิบัติตามสัญญาประกันนั้น ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าปรับวันละ 100 บาท นับจากวันที่ครบกำหนดในสัญญาประกัน แต่ไม่เกิน 1,000 บาท
ในกรณีที่ผู้นำ เรือเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคร าว และจะนำกลับออกไป แต่นำกลับออกไปไม่ทันภายในเวลาที่กำหนดตามที่ระบุไว้ ในสัญญาประกัน โดยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนการปฏิบัติตามสัญญาประกันนั้น ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าปรับวันละ 500 บาท นับจากวันที่ครบกำหนดในสัญญาประกัน แต่ไม่เกิน 5,000 บาท

(5) คำว่า “เรือสำราญและกีฬา” หมายถึง เรือที่ใช้สำหรับหาความสำราญ หรือเรือที่ใช้เพื่อการเล่นกีฬาโดยเฉพาะ และไม่ได้ใช้เพื่อการค้า การทหาร หรือการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร ์เรือสำราญและกีฬาหรือเรือประมงที่เข้ามาจากต่างประเ ทศนั้น นายเรือจะต้องมารายงานเรือเข้าเช่นเดียวกับเรือทั้งห ลายที่มาจากต่างประเทศ ส่วนเรือสำราญและกีฬาหรือเรือประมงที่เดินทางไปต่างป ระเทศ จะต้องยื่นใบสำแดงรายงานเรือออก และขอรับใบปล่อยเรือขาออกจากกรมศุลกากรด้วย

1.5 ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีความ ประสงค์จะขอทราบรายล ะเอียดพิธีการนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลชั่วคราว สามารถติดต่องานพิธีการ ฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนพิธีการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือ ฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนพิธีการนำเข้า สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้าทุกแห่งในวันและเวลาราชการ


2. การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวรการนำเข้ารถยนต์ส่ วนบุคคลหากในลักษณะนี้ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าภาษีอาก รตามปกติ หากเป็นรถยนต์ใหม่ก็ให้ปฏิบัติพิธีการนำเข้าเช่นเดีย วกับการนำเข้าสินค้าอื่น ๆ แต่หากเป็นรถยนต์นั่งเก่าใช้แล้วจะถือเป็นสินค้าควบค ุมการนำเข้ามาในประเทศไทย ในหลักการไม่อนุญาตให้นำเข้า เว้นแต่เป็นการนำเข้าชั่วคราวหรือการนำเข้าเฉพาะตัวท ี่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้เท่าน ั้น
2.1 หลักเกณฑ์การนำเข้ารถยนต์นั่งเก่าใช้แล้วแบบถาวร

(1) นำเข้ามาใช้ได้เองเพียงคนละ 1 คัน

(2) กรณีเป็นชาวต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ที่จะเข้ามาอยู่ใ นประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีหนังสืออนุญาตการเข้าเมืองจากกองตรวจคนเข้าเมือ ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และใบอนุญาตทำงานของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมม าแสดงในการนำเข้าด้วย

(3) กรณีชาวไทยมีคู่สมรสเป็นชาวต่างประเทศ จะต้องมีหลักฐานแสดงว่าเป็นคู่สมรสและนำรถยนต์เข้ามา เพื่อมีภูมิลำเนาในประเทศไทย รวมทั้งผู้นำเข้าต้องถือกรรมสิทธิ์หรือครอบครองรถยนต ์คันนั้นระหว่างอยู่ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์จนถึ งวันที่เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย

(4) กรณีเป็นชาวไทย ต้องเป็นชาวไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศติดต่อกันเป็นเวลา เกินกว่า 1 ปี 6 เดือน แล้วเดินทางกลับมามีภูมิลำเนาในประเทศไทย และถือกรรมสิทธิ์ครอบครองรถยนต์คันนั้นอยู่ในระหว่าง อยู่ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือนและมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์

2.2 เอกสารที่ควรจัดเตรียมการนำเข้ารถยนต์แบบถาวร

(1) เอกสารทั่วไป
ใบ ขนสินค้าขาเข้า ประกอบด้วยต้นฉบับและสำเนา 1 ฉบับ
ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading or Air Waybill)
เอกสารการซื้อขายรถยนต์ (ถ้ามี)
ใบสั่ง ปล่อยสินค้า (กศก.100/1)
แบบธุรกิจต่างประเทศ (Foreign Transaction Form) กรณีสินค้านำเข้ามีราคา CIFเกิน 500,000 บาท
ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice)
เอกสารอื่น ๆ เช่น หนังสือมอบอำนาจ
(2) เอกสารเพิ่มเติมกรณีเป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว
ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัว ประชาชน
หนังสือเดินทาง กรณีย้ายภูมิลำเนา
ทะเบียนรถยนต์ที่จด ทะเบียนการใช้งานที่ต่างประเทศมาแ ล้ว
ใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้า ต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

2.3 ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ

(1) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบ ต่อฝ่ายการนำเข้าที่ 4 ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้า

(2) กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และประเมินค่าภาษีอากรที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ

(3) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนไปชำระเงินค่าภาษีอากรที่ฝ่ายบัญ ชีและอากร

(4) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการชำระเงินมาแสดงต่อเจ ้าหน้าที่ส่วนตรวจสินค้าเพื่อรับของออกจากอารักขาศุล กากร

2.4 หลักเกณฑ์การประเมินอากร

(1) กรมศุลกากรกำหนดเกณฑ์การประเมินราคาโดยใช้ราคา CIF ( ราคา + ค่าประกันภัย+ค่าขนส่ง ) เป็นฐานการประเมินอากรนำเข้า
(2) ราคารวมค่าภาษี เป็นราคาที่รวมการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพ สามิต ( ถ้ามี ) เข้าไว้ ณ. วันที่ชำระค่าภาษีรถยนต์
(3) กรณีที่เป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว จะกำหนดส่วนลดตามระยะเวลาที่จดทะเบียนให้ ดังนี้



อัตราส่วนลดราคารถยนต์นั่งใช้แล้ว
1. จดทะเบียนใช้แล้วไม่เกิน2 เดือน
หักส่วนลด 2.50%

2. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า2 เดือน แต่ไม่เกิน 4 เดือน
หักส่วนลด 5.00%

3. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า4 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน
หักส่วนลด 7.50%

4. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 8 เดือน
หักส่วนลด 10.00 %

5. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน
หักส่วนลด 12.50 %

6. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 10 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี
หัก ส่วนลด 15.00 %

7. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 1ปี2 เดือน
หักส่วนลด 16.67 %

8. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 1 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 1ปี4 เดือน
หักส่วนลด 18.33 %

9. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 1 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 1ปี6 เดือน
หักส่วนลด 20.00 %

10. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 1 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 1ปี8 เดือน
หักส่วนลด 21.67 %

11. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า1 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 1ปี10 เดือน
หักส่วนลด 23.33 %

12. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า1 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน 2 ปี
หักส่วนลด 25.00 %

13. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า2 ปี แต่ไม่เกิน 2ปี2 เดือน
หักส่วนลด 26.67 %

14. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า2 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 2ปี4 เดือน
หักส่วนลด 28.33 %

15. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า2 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 2ปี6 ดือน
หักส่วนลด 30.00 %

16. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า2 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 2ปี8 เดือน
หักส่วนลด 31.67 %

17. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า2 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 2ปี10 เดือน
หักส่วนลด 33.33 %

18. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 2 ปี10 เดือนแต่ไม่เกิน 3 ปี
หัก ส่วนลด 35.00 %

19. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า3 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี2 เดือน
หักส่วนลด 36.67 %

20. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า3 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 38.33 %

21. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า3 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 3ปี6 เดือน
หักส่วนลด 40.00 %

22. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า3 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 41.67 %

23. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า3 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี10 เดือน
หักส่วนลด 43.33 %

24. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า3 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน 4 ปี
หักส่วนลด 45.00 %

25. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า4 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปี2 เดือน
หักส่วนลด 46.67 %

26. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า4 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 4 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 48.33 %

27. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า4 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน4 ปี6 เดือน
หักส่วนลด 50.00 %

28. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า4 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 4 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 51.67 %

29. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 4 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 4 ปี10 เดือน
หักส่วน ลด 53.33 %

30. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า4 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน5 ปี
หักส่วนลด 55.00 %

31. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า5 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี2 เดือน
หักส่วนลด 55.83 %

32. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 5 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 5 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 56.67 %

33. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 5 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 5 ปี6 เดือน
หักส่วนลด 57.50 %

34. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 5 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 5 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 58.33 %

35. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า5 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 5 ปี10 เดือน
หักส่วนลด 59.17 %

36. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 5 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน 6 ปี
หักส่วนลด 60.00 %

37. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า6 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี2 เดือน
หักส่วนลด 60.50 %

38. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 6 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 6 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 61.00 %

39. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 6 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 6 ปี6 เดือน
หักส่วนลด 61.50 %

40. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 6 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 6 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 62.00 %

41. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า6 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 6 ปี10 เดือน
หักส่วนลด 62.50 %

42. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า6 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน 7 ปี
หัก ส่วนลด 63.00 %

43. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า7 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี2 เดือน
หักส่วนลด 63.50 %

44. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า7 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 7 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 64.00 %

45. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า7 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 7 ปี6 เดือน
หักส่วนลด 64.50 %

46. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 7 ปี6เดือน แต่ไม่เกิน 7 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 65.00 %

47. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 7 ปี8เดือน แต่ไม่เกิน 7 ปี10 เดือน
หักส่วนลด 65.50 %

48. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 7 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน 8 ปี
หักส่วนลด 66.00 %

49. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี2 เดือน
หัก ส่วนลด 66.33 %

50. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 8 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 66.67 %

51. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 8 ปี6 เดือน
หักส่วนลด 67.00 %

52. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 8 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 67.33 %

53. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 8 ปี10 เดือน
หักส่วนลด 67.67 %

54. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 8 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน 9 ปี
หักส่วนลด 68.00 %

55. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 9 ปี แต่ไม่เกิน 9 ปี2 เดือน
หัก ส่วนลด 68.33 %

56. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 9 ปี2 เดือน แต่ไม่เกิน 9 ปี4 เดือน
หักส่วนลด 68.67 %

57. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 9 ปี4 เดือน แต่ไม่เกิน 9 ปี6 เดือน
หักส่วนลด 69.00 %

58. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 9 ปี6 เดือน แต่ไม่เกิน 9 ปี8 เดือน
หักส่วนลด 69.33 %

59. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 9 ปี8 เดือน แต่ไม่เกิน 9 ปี10 เดือน
หักส่วนลด 69.67 %

60. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 9 ปี10 เดือน แต่ไม่เกิน10 ปี
หักส่วนลด 70.00 %

61. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 10 ปี

--------ประเมินราคา ตามสภาพรถ-----------
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
วิธีคำนวณ
1. อากรขาเข้า = (ราคา CIF x อัตราอากรขาเข้า)
= (100 x 0.
= 80
2. ภาษีสรรพสามิต = (ราคา CIF + อากรขาเข้า) x อัตราภาษีสรรพสามิต/ 1-(1.1 x อัตราภาษีสรรพสามิต)
= (100 + 80) x 0.35/ 1-(1.1 x 0.35)
= 180 x 0.5691057
= 102.439
3. ภาษีเพื่อมหาดไทย = ภาษีสรรพสามิต x อัตราภาษีเพื่อมหาดไทย
= 102.439 x 0.1
= 10.2439
4. ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม = ราคา CIF + อากรขาเข้า + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเพื่อมหาดไทย
= 100 + 80 + 102.439 + 10.2439
= 292.6829
5. ภาษีมูลค่าเพิ่ม = ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม x อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม
= 292.6829 x 0.07
= 20.4878

รวมอัตราอากรทั้งหมด = 1 + 2 + 3 + 5 = 213.171


2.6 ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม   

ชาวไทย และชาวต่างประเทศที่มีความประสงค์จะขอทราบรายละเอียดพิธีการนำเข้ายานพาหนะ ส่วนบุคคลแบบถาวร สามารถติดต่อฝ่ายการนำเข้า ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้าทุกแห่งในวันและเวลาราชการ
 
..

ออฟไลน์ Tonaka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,706
ขอบคุณมากครับ
阿蘇山

ออฟไลน์ benley

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 405
Thank you for share your information

 ;) ;) ;)

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
เห็นว่าตอนนี้ เค้าไม่ให้ จดประกอบแล้วนะครับ

แล้วก็รถมือสองที่นำเข้ามา แล้วบอกว่าแอบจดทะเบียนให้ได้ กำลังโดนเช็คบิลกันแล้วครับ

ถ้าไงคนที่จะซื้อรถแบบนี้ ขอให้ตรวจสอบให้ดีด้วยนะครับ

ด้วยความหวังดีครับ


 :) :) :)
..

ออฟไลน์ Ohyoyo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 43
แล้วจดประกอบนี่หมายความว่าอะไรหรือครับ
หมายความว่า รถออกใหม่ (รุ่นใหม่) ที่ประกอบต่างประเทศหรือเปล่า

เอ ถ้าไม่ได้แล้ว พวกเกรย์เนี่ย จะนำเข้ารถรุ่นใหม่ๆ (ที่ไม่มีตัวแทน หรือ ตัวแทนไม่สนใจ) ได้อีกหรือเปล่า

งง กับศัพท์  ???

ออฟไลน์ buggaboo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
ระบบการคิดภาษีรถยนต์ประเทศเรานั้นมันโหดเกินไป ภาษีสรรพสามิตบ้าอะไรก็ไม่รู้แมร่งแพงกว่าราคารถอีก แถมยังเก็บภาษีอีกตั้งหลายตัว ไม่รู้ว่าไอ้ภาษีมหาดไทยนั้นจะเก็บไปซากอะไร   ค่าอากรก็แพงบรรลัย 80% ของตัวรถ  

มองในอีกแง่มุมหนึ่ง ระบบการจัดเก็บภาษีแบบนี้เป็นการแบ่งชนชั้น วรรณะ ไปโดยปริยาย  ในสมัยก่อนพวกขุนนางอำมาตย์ทั้งหลายแหล่ มีปัญญาเอารถเข้ามาใช้กัน แต่ชาวบ้านร้านตลาดหมดสิ้น ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ แบบอิจฉาและน้อยเนื้อต่ำใจ  ทีนี้พวกอำมาตย์มันก็กลัวซิว่า อีกหน่อยถ้าชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆไปมีปัญญาทำมาหากินเก็บเงินเพื่อซื้อความสุขสบายบ้างมันก็จะมีปัญญาซื้อรถมาขับมาขี่โก้หรูเหมือนพวกตรูซิว่า  แมร่งก็เลยหาทางออกข้อกฏหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีบ้าๆแบบนี้ขึ้นมา ให้เีรียกได้ว่าถ้าพวกเองทำงานโดยสุจริตแบบหาเช้ากินค่ำพอมีเงินเก็บออมบ้าง แต่ก็อย่าได้มีรถดีๆขับแบบพวกตรูเลยว่ะ  ขอให้พวกตรูเท่านั้นแหละที่จะมีปัญญาขับรถดีๆได้ ตั้งแต่นั้นมาระบบภาษีรถยนต์บ้านเราแมร่งก็พิศดารลันลึกแบบที่เ็ห็นทุกวันนี้  พวกเราๆท่านทำอาชีพสุจริต มนุษย์เงินเดือน(ไม่พวกพันธุ์พิเศษ) หมดสิทธิ์ที่จะมีรถเก๋งโก้ๆดีๆขับกับเขาหรอก  

ให้พวกนายพล สส.  รัฐมนตรี ด้วยก็เถอะ เงินเดือนคนละ 1 แสน ยังไม่พอที่จะผ่อนรถเบนซ์สักคันเลย ถ้าไม่มีรายได้แบบพิเศษๆ ทางอื่นๆ มาช่วยเสริม  

ผมมีเหตุการณ์หนึ่งจะเล่าสู่กันให้รับทราบ  เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นนายทหารอากาศระดับสัญญาบัตรแล้ว ครั้งหนึ่งได้ทำเรื่องขอเสนอจัดซื้อรถประจำตำแหน่งให้นายพลกองทัพอากาศไทย ในระดับผู้บัญชาการ เป็น เมอร์เซดีส เบนซ์  เอส คลาส  ตัวใหม่  ทำเรื่องขอจัดซื้อแบบไม่เสียภาษีอากรเพราะเป็นหน่วยงานของรัฐสั่งซื้อ ในราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาทไทย เป็น เอส 500  นี่คือราคาที่จัดซื้อแบบหน่วยงานของรัฐ   ผมถามเพื่อนผมว่า ทำไมต้องซื้อแมร่งทุกปีเลยวะ ใครขึ้นมาก็ซื้อๆๆๆ แล้วไอ้คันเก่า ทีใช้ประจำตำแหน่งมันไปไหนว่ะ ไม่เอามาใช้   เพื่อนผมมันบอกว่า ก็ไอ้คนเก่ามันไม่ยอมคืนไง  ไอ้คนใหม่ก็ไม่อยากใช้ของคนเก่า เพราะมันไม่ใช่ของใหม่  ก็เลยต้องจัดซื้อใหม่   ไอ้คนเก่าแมร่งปลดไปแล้ว เกษียรไปแล้วมันก็ยังเอาไปใช้อยู่เลย  เหมือนพวกบ้านพักนายพลทั้งหลายแหล่นั้นแหละ  มันปลดแล้ว มันก็ยังอยู่  ใครจะกล้าไปไล่มันละ  มันบอกให้ผมไปไล่มันให้หน่อยดิ  โดนคุกทหารหรือกักบริเวณ หรือเด้งไปปู้ดขึ้นมา มรึงไม่ต้องวิ่งมาหากรูเลยนะ 55555   เรื่องมันเลยเป็นเอวังฉะนี้ นี่เอง กองทัพไทย พวกผู้หลักผู้ใหญ่ในไทย

เรื่องที่ผมเล่าให้รับรู้ในครั้งนี้ก็เพื่้อจะบอกว่า  ประเทศไทยเรานี้ ประชาชนไทยไม่ใช่เจ้าของประเทศอย่างแท้จริง  ทำงานไปเถอะครับ แล้วมองพวกใหญ่ๆโตมันเสวยสุขกันต่้อไป  เงินเดือนพวกมันเองก็ยังไม่มีปัญญาซื้อรถหรูๆแพงๆมาใช้เลย ถ้าใช้เงินเดือนตามปกติของพวกมัน ไม่รวมเงินพิเศษที่ได้นะครับ  ไปดูเถอะว่า พวกนายพลทั้งหลาย  ปลัดกระทรวงทั้งหลาย อธิบดีทังหลาย บ้านแมร่งใหญ่ยังกะวัง รถมีมากมายเกินจำนวนคนในบ้านอีก  มีทั้งเฟอร์รารี่  ปอร์เช่  เอส คลาส กันทั้งนั้น

ผมรู้ัจักกับเมียเก็บอธิบดีกรมขนส่งคนหนึ่ง ในอดีต  เมียเก็บอายุประมาณ 27 ตอนนี้ มันเก็บกันมาตั้งแต่อายุ 23   แมร่งขับ เมอร์เซดีส์ เบนซ์  เอสแอลเค 200 โรดเสอร์ ส่งไปเรียนโทที่ออสเตรเลีย อีกต่างหาก ไปชุบตัวว่างั้นเถอะ

นี่แหละคือผลพวงของระบบอำมาตย์ ที่ได้แบ่งชนชั้นวรรณะมาโดยตลอด นี่แค่เรื่องระบบภาษีรถยนต์อย่างเดียว แล้วยังมีอีกหลายๆระบบที่เราประสบเจอโดยตรงเองมั่งและฟังจากคนอื่นเองมั่ง  ก็เพราะการแบ่งชนชั้นเช่นนี้แหละครับ มันก็เลยทำให้คนที่อาศัยเขาอยู่ในประเทศนี้เลยต้องดิ้นรน ขนขวาย ให้ได้มาซึ่งอำนาจและอภิสิทธิ์ต่างๆในการดำรงชีพเช่น อำมาตย์  ก็เลยเป็นผลพวงให้สังคมไทยเรา แทบจะเละเทะกันอย่างทุกวันนี้  ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง อำนาจ เงินตรา อภิสิทธิ์ และความสะดวกสบายเหนือผู้อื่น  

ผมต้องขอโทษด้วยจากใจจริงที่ผมนั้นมองระบบของนักการเมือง และอภิสิทธ์ชนแบบในแง่ลบและอคติ  แต่ครับผมยอมรับว่าผมมองในแง่บลและอคติอย่างจริงใจและจริงจัง  และก็อยากจะฝากให้เพื่อนๆทุกคนคิดเช่นกันว่าสิ่งเหล่านี้นั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้วในสังคมไทยในประเทศไทยหรือไม่

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
แล้วจดประกอบนี่หมายความว่าอะไรหรือครับ
หมายความว่า รถออกใหม่ (รุ่นใหม่) ที่ประกอบต่างประเทศหรือเปล่า

เอ ถ้าไม่ได้แล้ว พวกเกรย์เนี่ย จะนำเข้ารถรุ่นใหม่ๆ (ที่ไม่มีตัวแทน หรือ ตัวแทนไม่สนใจ) ได้อีกหรือเปล่า

งง กับศัพท์  ???


จดประกอบคือแจ้งนำเข้ามาเป็นอะไหล่ครับ แล้วมา ประกอบเป็นคันภายในครับ
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
ระบบการคิดภาษีรถยนต์ประเทศเรานั้นมันโหดเกินไป ภาษีสรรพสามิตบ้าอะไรก็ไม่รู้แมร่งแพงกว่าราคารถอีก แถมยังเก็บภาษีอีกตั้งหลายตัว ไม่รู้ว่าไอ้ภาษีมหาดไทยนั้นจะเก็บไปซากอะไร   ค่าอากรก็แพงบรรลัย 80% ของตัวรถ  

มองในอีกแง่มุมหนึ่ง ระบบการจัดเก็บภาษีแบบนี้เป็นการแบ่งชนชั้น วรรณะ ไปโดยปริยาย  ในสมัยก่อนพวกขุนนางอำมาตย์ทั้งหลายแหล่ มีปัญญาเอารถเข้ามาใช้กัน แต่ชาวบ้านร้านตลาดหมดสิ้น ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ แบบอิจฉาและน้อยเนื้อต่ำใจ  ทีนี้พวกอำมาตย์มันก็กลัวซิว่า อีกหน่อยถ้าชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆไปมีปัญญาทำมาหากินเก็บเงินเพื่อซื้อความสุขสบายบ้างมันก็จะมีปัญญาซื้อรถมาขับมาขี่โก้หรูเหมือนพวกตรูซิว่า  แมร่งก็เลยหาทางออกข้อกฏหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีบ้าๆแบบนี้ขึ้นมา ให้เีรียกได้ว่าถ้าพวกเองทำงานโดยสุจริตแบบหาเช้ากินค่ำพอมีเงินเก็บออมบ้าง แต่ก็อย่าได้มีรถดีๆขับแบบพวกตรูเลยว่ะ  ขอให้พวกตรูเท่านั้นแหละที่จะมีปัญญาขับรถดีๆได้ ตั้งแต่นั้นมาระบบภาษีรถยนต์บ้านเราแมร่งก็พิศดารลันลึกแบบที่เ็ห็นทุกวันนี้  พวกเราๆท่านทำอาชีพสุจริต มนุษย์เงินเดือน(ไม่พวกพันธุ์พิเศษ) หมดสิทธิ์ที่จะมีรถเก๋งโก้ๆดีๆขับกับเขาหรอก  

ให้พวกนายพล สส.  รัฐมนตรี ด้วยก็เถอะ เงินเดือนคนละ 1 แสน ยังไม่พอที่จะผ่อนรถเบนซ์สักคันเลย ถ้าไม่มีรายได้แบบพิเศษๆ ทางอื่นๆ มาช่วยเสริม  

ผมมีเหตุการณ์หนึ่งจะเล่าสู่กันให้รับทราบ  เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นนายทหารอากาศระดับสัญญาบัตรแล้ว ครั้งหนึ่งได้ทำเรื่องขอเสนอจัดซื้อรถประจำตำแหน่งให้นายพลกองทัพอากาศไทย ในระดับผู้บัญชาการ เป็น เมอร์เซดีส เบนซ์  เอส คลาส  ตัวใหม่  ทำเรื่องขอจัดซื้อแบบไม่เสียภาษีอากรเพราะเป็นหน่วยงานของรัฐสั่งซื้อ ในราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาทไทย เป็น เอส 500  นี่คือราคาที่จัดซื้อแบบหน่วยงานของรัฐ   ผมถามเพื่อนผมว่า ทำไมต้องซื้อแมร่งทุกปีเลยวะ ใครขึ้นมาก็ซื้อๆๆๆ แล้วไอ้คันเก่า ทีใช้ประจำตำแหน่งมันไปไหนว่ะ ไม่เอามาใช้   เพื่อนผมมันบอกว่า ก็ไอ้คนเก่ามันไม่ยอมคืนไง  ไอ้คนใหม่ก็ไม่อยากใช้ของคนเก่า เพราะมันไม่ใช่ของใหม่  ก็เลยต้องจัดซื้อใหม่   ไอ้คนเก่าแมร่งปลดไปแล้ว เกษียรไปแล้วมันก็ยังเอาไปใช้อยู่เลย  เหมือนพวกบ้านพักนายพลทั้งหลายแหล่นั้นแหละ  มันปลดแล้ว มันก็ยังอยู่  ใครจะกล้าไปไล่มันละ  มันบอกให้ผมไปไล่มันให้หน่อยดิ  โดนคุกทหารหรือกักบริเวณ หรือเด้งไปปู้ดขึ้นมา มรึงไม่ต้องวิ่งมาหากรูเลยนะ 55555   เรื่องมันเลยเป็นเอวังฉะนี้ นี่เอง กองทัพไทย พวกผู้หลักผู้ใหญ่ในไทย

เรื่องที่ผมเล่าให้รับรู้ในครั้งนี้ก็เพื่้อจะบอกว่า  ประเทศไทยเรานี้ ประชาชนไทยไม่ใช่เจ้าของประเทศอย่างแท้จริง  ทำงานไปเถอะครับ แล้วมองพวกใหญ่ๆโตมันเสวยสุขกันต่้อไป  เงินเดือนพวกมันเองก็ยังไม่มีปัญญาซื้อรถหรูๆแพงๆมาใช้เลย ถ้าใช้เงินเดือนตามปกติของพวกมัน ไม่รวมเงินพิเศษที่ได้นะครับ  ไปดูเถอะว่า พวกนายพลทั้งหลาย  ปลัดกระทรวงทั้งหลาย อธิบดีทังหลาย บ้านแมร่งใหญ่ยังกะวัง รถมีมากมายเกินจำนวนคนในบ้านอีก  มีทั้งเฟอร์รารี่  ปอร์เช่  เอส คลาส กันทั้งนั้น

ผมรู้ัจักกับเมียเก็บอธิบดีกรมขนส่งคนหนึ่ง ในอดีต  เมียเก็บอายุประมาณ 27 ตอนนี้ มันเก็บกันมาตั้งแต่อายุ 23   แมร่งขับ เมอร์เซดีส์ เบนซ์  เอสแอลเค 200 โรดเสอร์ ส่งไปเรียนโทที่ออสเตรเลีย อีกต่างหาก ไปชุบตัวว่างั้นเถอะ

นี่แหละคือผลพวงของระบบอำมาตย์ ที่ได้แบ่งชนชั้นวรรณะมาโดยตลอด นี่แค่เรื่องระบบภาษีรถยนต์อย่างเดียว แล้วยังมีอีกหลายๆระบบที่เราประสบเจอโดยตรงเองมั่งและฟังจากคนอื่นเองมั่ง  ก็เพราะการแบ่งชนชั้นเช่นนี้แหละครับ มันก็เลยทำให้คนที่อาศัยเขาอยู่ในประเทศนี้เลยต้องดิ้นรน ขนขวาย ให้ได้มาซึ่งอำนาจและอภิสิทธิ์ต่างๆในการดำรงชีพเช่น อำมาตย์  ก็เลยเป็นผลพวงให้สังคมไทยเรา แทบจะเละเทะกันอย่างทุกวันนี้  ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง อำนาจ เงินตรา อภิสิทธิ์ และความสะดวกสบายเหนือผู้อื่น  

ผมต้องขอโทษด้วยจากใจจริงที่ผมนั้นมองระบบของนักการเมือง และอภิสิทธ์ชนแบบในแง่ลบและอคติ  แต่ครับผมยอมรับว่าผมมองในแง่บลและอคติอย่างจริงใจและจริงจัง  และก็อยากจะฝากให้เพื่อนๆทุกคนคิดเช่นกันว่าสิ่งเหล่านี้นั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้วในสังคมไทยในประเทศไทยหรือไม่

เฮ้อ งี้แหละครับ ประเทศไทยจงเจริญ

 :-[
..

ออฟไลน์ kopy081

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
โอ้ว ข้อมูลแน่นจิงๆ อ่านไม่ไหวตาลายครับ
แต่ก็ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เรื่องนี้ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปกครองการเมืองด้วยระบบใดทั้งสิ้น
แต่มันอยู่ที่สันดาน และสามัญสำนึกของคน ที่มีต่อชาติบ้านเมืองล้วนๆ

ขอความกรุณาแบ่งแยกให้ถูกเรื่อง
และ อย่าได้ทำให้บอร์ดนี้ แปดเปื้อนไปด้วยเรื่องการเมืองด้วยครับ

กฎของเรามี ขอให้เคร่งครัดด้วยครับ

ในนี้ เสื้อจะเหลือง หรือแดง เวลาเปียกน้ำ มันก็เห็นหัวนมโผล่เหมือนกันทั้งนั้นแหละครับ

จริงไหม อิอิ

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
 ;D ;D เสียวๆจะโดนโยงไปการเมืองเหมือนกัน เห็นคำว่าอำมาต เเล้วมัน คุ้นๆ

เเต่ที่เขียนมาก็สะท้อนความจริงในสังคมไทย ได้ดี เลยครับ  :-* :-*

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
ไปเรื่องการเมืองได้ไงเนี่ย!!!


กลับมาเรื่อง การนำเข้ารถดีกว่าครับ!!!


ฮ่าๆๆๆๆๆๆ



 ;D ;D ;D
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
;D ;D เสียวๆจะโดนโยงไปการเมืองเหมือนกัน เห็นคำว่าอำมาต เเล้วมัน คุ้นๆ

เเต่ที่เขียนมาก็สะท้อนความจริงในสังคมไทย ได้ดี เลยครับ  :-* :-*


เอาแล้วไงครับ มีคนสนับสนุนแล้ว 55+
..

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
 :-[ :-[ ไม่สนับสนุนเรื่องการเมืองเเน่นอนครับ ฟังคำว่าอำมาต เเล้วเสียวๆ หมิ่นๆเหม่ๆ

เเต่ที่ว่าสะท้อนความจริงในสังคมหนะครับ หมายถึงเรื่อง การไช้อำนาจผิดๆ   

จบครับจบ กลับเข้าเรื่องรถ   :P :P

ออฟไลน์ buggaboo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
ผมต้องขอบอกตามตรงๆเลยครับว่าผมเข้าใจดีว่าสิ่งที่ผมแสดงความคิดเห็นออกไปนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการเมืองพอสมควรไปทางนั้นค่อนข้างสูง และผมไม่ใช่เหลืองหรือแดงอะไรทั้งนั้น 

ผมรู้สึกว่าพวกเราประชาชนไทยนั้นกลัวคำว่าอำมาตย์กันเหลือเกิน กลัวจนเกินไป กลัวแม้แต่กระทั้งจะกล้าพูดและแสดงถึงความจริงและที่ถูกต้อง ผมกลับมองว่าอำมาตย์ หรือชนชั้นศักดินานั้นก็เป็นคนเหมือนเช่นๆกับเรา มีสองขา สองแขน สองหู หนึ่งสมอง สองตาเหมือนเรา บินไม่ได้เหมือนเรา ต้องกินข้าวเหมือนเรา เข้านอนเหมือนเรา ขับถ่ายเหมือนเรา  แล้วๆๆๆๆๆ ทำไมเราถึงได้กลัวที่จะพูดคำว่าอำมาตย์กันเหลือเกิน กลัวจนตัวสั่นและไม่กล้าที่จะกล่าวถึง

ผมเข้าใจดีว่า สถานะการณ์ในตอนนี้นั้นมันสุ่มเสียงมากๆ เพราะสังคมเราเอาคำว่าแบ่งแยก แตกแยก พวกใครพวกมัน ใครพูดถึงอำมาตย์คือแดงที่ต่อต้านอยุ่ ใครพูดถึงทุนนิยมคือเหลืองที่ต่อต้านอยู่  แต่ผม แต่ผม ขอยืนยันด้วยความเป็นคนไทย ที่เกิดบนแผ่นดินไทย ว่าผมไม่ใช่เหลืองและแดงทั้งสิ้น และผมไม่ต้องการที่จะเห็นการแตกแยกใดๆไปมากกว่านี้อีกแล้ว  เพียงแต่ผมกล้าที่จะแสดงถึงความรู้สึกเหลื่อมล้ำในสังคมเราเพราะการถูกแบ่งแยกชนชั้นจนเกินไป อันไหนดีผมก็ต้องกล้าที่จะพูดว่าดีแล้ว ถูกต้องแล้ว  อันไหนไม่ดีผมก็จะต้องกล้าที่จะบอกว่าไม่ดี ไม่ถูกต้อง  ยกตัวอย่างเช่น เรื่องมาตราฐานของรถยนต์ในประเทศไทย ก็เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่า ที่อื่นมีปัญหา แต่ที่ไทยจะไม่มีปัญหาอะไร  เพราะอะไร แล้วทำไมเราถึงต้องนั่งยอมรับชะตากรรมที่เขาหยิบยื่นมาให้และกำหนดให้เราเป็นเช่นนั้นหรือ เป็นต้น

ในประเทศที่เขาเจริญแล้วซึ่งวัตถุและจิตใจนั้น คนของประเทศนั้นเขาจะรู้จักการรักษาสิทธิของตัวเองและกล้าพูด กล้าที่จะแสดงออกซึ่งความถูกต้อง แต่คนไทยเรายังอีกไกลมากๆ ที่จะกล้าเช่นน้ัน ดั่งเช่นที่ ม.ร.ว.คึกฤิทธิ์ เคยกล่าวไว้นั้นแหละครับ ว่า ดีได้ แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย  มันใช้ได้กับสังคมไทยจริงๆ  ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย แต่คนที่พูดความจริงส่วนใหญ่จะตายทุกที เป็นต้น

ผมต้องขอโทษแก่คุณจิมมี่และทีมงาน และผู้ที่อ่านกระทู้ทุกท่าน ว่าผมยอมรับว่าในการแสดงความคิดอ่านของผมนั้นมันสุ่มเสี่ยงอย่างจริงๆ แต่ก็ด้วยเพราะผมต้องการแสดงออกถึงความคิด และความถูกต้องในสังคม  และผมยังคงยืนยันว่าผมไม่ใช่แดงเข้ามาป่วน ไม่ใช่เหลืองเข้ามารังควานแต่อย่างใด  เพียงแต่ผมรู้สึ่กถึงความไม่ยุติธรรมในระบบการคิดภาษีรถยนต์ของบ้านเรามานานแล้ว  เงินที่เราๆจ่ายๆเป็นค่าภาษีไปทุกบาททุกสตางค์นั้น ผมเสียดายจริงๆที่ ที่นำไปให้พวกคนใหญ่คนโต อำมาตย์ เสนาบดีทั้งหลายนั้น โกงกินและทุจริตกันจนประเทศแทบจะล่มจมกันอยู่แล้ว เช่น เครือง CT200 นั้นเป็นตัวอย่าง ผมรับไม่ได้จริงๆ

ผมขอแสดงความเสียใจและขอโทษทุกๆท่านอย่างใจจริง  ยังไงเสียต่อไปผมจะระมัดระวังในการแสดงออกถึงความคิดเห็นที่ตรงและสุ่มเสียงต่อการเมืองในภายภาคหน้าต่อไป  อ้อ ผมก็รักและเคารพในหลวงของเราเหมือนคุณๆท่านๆนี่แหละ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 02:06:35 โดย buggaboo »

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ผมไม่ได้กลัว ระบบอำมาตย์

แต่ผมเห็นว่า คุณมองปัญหาผิดจุด

เพราะระบบนี้ มันอยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน
และหลายครั้งมันได้พิสูจน์ให้เห็นว่า
ถ้า คนที่อยู่ในอำนาจ มีคุณธรรม ยึดมั่นซะอย่าง ใครก็ทำอะไรไม่ได้

แต่ไอ้ที่มันเป็นอย่างนี้ เพราะ คนในระบบ นั่นละ ที่ทั้งไม่ยอม และไม่อาจฝืนสู้ เลยต้องตามน้ำ

และ จะบอกว่า ไอ้การ พยายาม จะต่อสู้ในทุกวันนี้ มีใครบ้าง ที่หยุดคิดแล้วย้อนถามตัวเองว่า

สู้ เพื่ออะไร
สู้ เพื่อใคร

กันแน่...

พอแล้วครับ เดี๋ยวจะหลุดไปการเมืองมากกว่านี้

และขอบคุณ ที่คุณเข้าใจ ในเจตนารมณ์ของการทำเว็บนี้ขึ้นมาครับ

ด้วยคารวะ ในความเห็นอันเป็นปัจเจกของทุกคน

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
 :) :) การเเสดงออกไม่ผิดหรอกครับ

เเต่ที่คนเค้าไม่พูดกัน ไม่ใช่ว่ากลัว เเต่เพราะเว็บนี้มีกฎ ไม่พูดเรื่องการเมือง  อยู่บ้านไหนเราก็ต้องรักษากฎบ้านนั้น 

ออฟไลน์ ?????????

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 221
  • When I photograh, I make love.
ระบบการคิดภาษีรถยนต์ประเทศเรานั้นมันโหดเกินไป ภาษีสรรพสามิตบ้าอะไรก็ไม่รู้แมร่งแพงกว่าราคารถอีก แถมยังเก็บภาษีอีกตั้งหลายตัว ไม่รู้ว่าไอ้ภาษีมหาดไทยนั้นจะเก็บไปซากอะไร   ค่าอากรก็แพงบรรลัย 80% ของตัวรถ  

มองในอีกแง่มุมหนึ่ง ระบบการจัดเก็บภาษีแบบนี้เป็นการแบ่งชนชั้น วรรณะ ไปโดยปริยาย  ในสมัยก่อนพวกขุนนางอำมาตย์ทั้งหลายแหล่ มีปัญญาเอารถเข้ามาใช้กัน แต่ชาวบ้านร้านตลาดหมดสิ้น ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ แบบอิจฉาและน้อยเนื้อต่ำใจ  ทีนี้พวกอำมาตย์มันก็กลัวซิว่า อีกหน่อยถ้าชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆไปมีปัญญาทำมาหากินเก็บเงินเพื่อซื้อความสุขสบายบ้างมันก็จะมีปัญญาซื้อรถมาขับมาขี่โก้หรูเหมือนพวกตรูซิว่า  แมร่งก็เลยหาทางออกข้อกฏหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีบ้าๆแบบนี้ขึ้นมา ให้เีรียกได้ว่าถ้าพวกเองทำงานโดยสุจริตแบบหาเช้ากินค่ำพอมีเงินเก็บออมบ้าง แต่ก็อย่าได้มีรถดีๆขับแบบพวกตรูเลยว่ะ  ขอให้พวกตรูเท่านั้นแหละที่จะมีปัญญาขับรถดีๆได้ ตั้งแต่นั้นมาระบบภาษีรถยนต์บ้านเราแมร่งก็พิศดารลันลึกแบบที่เ็ห็นทุกวันนี้  พวกเราๆท่านทำอาชีพสุจริต มนุษย์เงินเดือน(ไม่พวกพันธุ์พิเศษ) หมดสิทธิ์ที่จะมีรถเก๋งโก้ๆดีๆขับกับเขาหรอก  

ให้พวกนายพล สส.  รัฐมนตรี ด้วยก็เถอะ เงินเดือนคนละ 1 แสน ยังไม่พอที่จะผ่อนรถเบนซ์สักคันเลย ถ้าไม่มีรายได้แบบพิเศษๆ ทางอื่นๆ มาช่วยเสริม  

ผมมีเหตุการณ์หนึ่งจะเล่าสู่กันให้รับทราบ  เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นนายทหารอากาศระดับสัญญาบัตรแล้ว ครั้งหนึ่งได้ทำเรื่องขอเสนอจัดซื้อรถประจำตำแหน่งให้นายพลกองทัพอากาศไทย ในระดับผู้บัญชาการ เป็น เมอร์เซดีส เบนซ์  เอส คลาส  ตัวใหม่  ทำเรื่องขอจัดซื้อแบบไม่เสียภาษีอากรเพราะเป็นหน่วยงานของรัฐสั่งซื้อ ในราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาทไทย เป็น เอส 500  นี่คือราคาที่จัดซื้อแบบหน่วยงานของรัฐ   ผมถามเพื่อนผมว่า ทำไมต้องซื้อแมร่งทุกปีเลยวะ ใครขึ้นมาก็ซื้อๆๆๆ แล้วไอ้คันเก่า ทีใช้ประจำตำแหน่งมันไปไหนว่ะ ไม่เอามาใช้   เพื่อนผมมันบอกว่า ก็ไอ้คนเก่ามันไม่ยอมคืนไง  ไอ้คนใหม่ก็ไม่อยากใช้ของคนเก่า เพราะมันไม่ใช่ของใหม่  ก็เลยต้องจัดซื้อใหม่   ไอ้คนเก่าแมร่งปลดไปแล้ว เกษียรไปแล้วมันก็ยังเอาไปใช้อยู่เลย  เหมือนพวกบ้านพักนายพลทั้งหลายแหล่นั้นแหละ  มันปลดแล้ว มันก็ยังอยู่  ใครจะกล้าไปไล่มันละ  มันบอกให้ผมไปไล่มันให้หน่อยดิ  โดนคุกทหารหรือกักบริเวณ หรือเด้งไปปู้ดขึ้นมา มรึงไม่ต้องวิ่งมาหากรูเลยนะ 55555   เรื่องมันเลยเป็นเอวังฉะนี้ นี่เอง กองทัพไทย พวกผู้หลักผู้ใหญ่ในไทย

เรื่องที่ผมเล่าให้รับรู้ในครั้งนี้ก็เพื่้อจะบอกว่า  ประเทศไทยเรานี้ ประชาชนไทยไม่ใช่เจ้าของประเทศอย่างแท้จริง  ทำงานไปเถอะครับ แล้วมองพวกใหญ่ๆโตมันเสวยสุขกันต่้อไป  เงินเดือนพวกมันเองก็ยังไม่มีปัญญาซื้อรถหรูๆแพงๆมาใช้เลย ถ้าใช้เงินเดือนตามปกติของพวกมัน ไม่รวมเงินพิเศษที่ได้นะครับ  ไปดูเถอะว่า พวกนายพลทั้งหลาย  ปลัดกระทรวงทั้งหลาย อธิบดีทังหลาย บ้านแมร่งใหญ่ยังกะวัง รถมีมากมายเกินจำนวนคนในบ้านอีก  มีทั้งเฟอร์รารี่  ปอร์เช่  เอส คลาส กันทั้งนั้น

ผมรู้ัจักกับเมียเก็บอธิบดีกรมขนส่งคนหนึ่ง ในอดีต  เมียเก็บอายุประมาณ 27 ตอนนี้ มันเก็บกันมาตั้งแต่อายุ 23   แมร่งขับ เมอร์เซดีส์ เบนซ์  เอสแอลเค 200 โรดเสอร์ ส่งไปเรียนโทที่ออสเตรเลีย อีกต่างหาก ไปชุบตัวว่างั้นเถอะ

นี่แหละคือผลพวงของระบบอำมาตย์ ที่ได้แบ่งชนชั้นวรรณะมาโดยตลอด นี่แค่เรื่องระบบภาษีรถยนต์อย่างเดียว แล้วยังมีอีกหลายๆระบบที่เราประสบเจอโดยตรงเองมั่งและฟังจากคนอื่นเองมั่ง  ก็เพราะการแบ่งชนชั้นเช่นนี้แหละครับ มันก็เลยทำให้คนที่อาศัยเขาอยู่ในประเทศนี้เลยต้องดิ้นรน ขนขวาย ให้ได้มาซึ่งอำนาจและอภิสิทธิ์ต่างๆในการดำรงชีพเช่น อำมาตย์  ก็เลยเป็นผลพวงให้สังคมไทยเรา แทบจะเละเทะกันอย่างทุกวันนี้  ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง อำนาจ เงินตรา อภิสิทธิ์ และความสะดวกสบายเหนือผู้อื่น  

ผมต้องขอโทษด้วยจากใจจริงที่ผมนั้นมองระบบของนักการเมือง และอภิสิทธ์ชนแบบในแง่ลบและอคติ  แต่ครับผมยอมรับว่าผมมองในแง่บลและอคติอย่างจริงใจและจริงจัง  และก็อยากจะฝากให้เพื่อนๆทุกคนคิดเช่นกันว่าสิ่งเหล่านี้นั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้วในสังคมไทยในประเทศไทยหรือไม่

ผมเข้าใจที่คุณพูดนะครับ และติดตามการเมืองไทยมานาน แต่เพื่อไม่ให้ออกนอกกฎเวปจนเกินไป อยากจะบอกสั้นๆ ว่า อย่าลืมมองในมุมกลับด้วยว่า หากเราเกลียดระบบชั่วร้ายต่างๆ ในสังคม แล้วเราเองได้ทำอะไรดีๆ ให้สังคมมากพอหรือยัง เพราะเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมที่เรากำลังวิจารณ์ วิจารณ์ผู้อื่นนั้นง่ายมาก แต่หากให้มองตัวเองอย่างตรงไปตรงมานั้นยากกว่า ดั่งคำสอนท่านพุทธทาสที่ว่า...

เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง ฯ


อย่าบอกว่าเรามันแค่คนๆ เดียวจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เคยฟังนิทานปลาดาวไหมครับ

ก่อนที่ตะวันจะขึ้นผ่านแนวเส้นขอบฟ้าในเช้าวันหนึ่ง
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม..
สถานที่เดิม . . คนเดิมๆ


ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามวัฏจักรของมัน
เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังผ่านไปอย่างไม่มีค่าอะไร

 

ชายผู้ที่มาจากดินแดนที่ไกล . . แสนไกล กำลังเดินผ่านเข้ามา
ตัวเขาเองถูกเรียกว่า  "เจ้าชายน้อย"

บนหาดทรายมีปลาดาวมาเกยตื้นเรียงรายกันอยู่มากมายตลอดแนวของชายหาด

เจ้าชายน้อยหยิบปลาดาวตัวแรกขึ้นมา แล้วโยนมันลงทะเล..
เขาทำอย่างนี้ตลอดทางที่เขาเดินมา
จนกระทั่งพบชายชราผู้หนึ่ง..ผู้ที่มองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ชายชราเอ่ยถามขึ้นว่า " ท่านกำลังทำอะไรอยู่หรือ? "
เจ้าชายน้อยยังคงทำสิ่งนั้นต่อไปโดยไม่ได้เอ่ยตอบชายชราผู้นั้น


ชายชราจึงถามต่อไปอีกว่า " ท่านทำสิ่งนี้ไปเพื่อใครกันเล่า? "
เจ้าชายน้อยยังเดินต่อไปโดยไม่ได้สนใจคำพูดของชายชราผู้นั้น


 ก่อนที่เจ้าชายน้อยจะเดินผ่านไป ชายชราก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า
" ท่านทำสิ่งนี้ด้วยแรงของท่านเพียงคนเดียว แต่ชายหาดยังอีกยาวไกล
ท่านหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดกันเล่า? "

เจ้าชายน้อยเดินต่อไป แล้วหยุดอยู่ที่ปลาดาวตัวหนึ่ง เขาก้มลงหยิบปลาดาวขึ้นมา แล้วก็พูดขึ้นว่า  " สิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็ที่ปลาดาวตัวนี้ไง "
แล้วเขาก็โยนปลาดาวลงทะเลไป ..
:) Women are like cars: we all want a Ferrari, sometimes want  pickup truck, and end up with a station wagon. :)

ออฟไลน์ kemjc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 230
อยากให้คุณจิมมี่ปักหมุดหัวข้อนี้ไว้ หรือทำเป็นหัวข้อสาระแยกออกไปครับ ดูแล้วน่าจะเป็นประโยชน์

ผมอยากได้เรื่องของการคิดภาษีประจำปีของรถยนต์ด้วยครับ
เช่นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เครื่อง 2000 ซีซีคิดเท่าไหร่ 3000ซีซีคิดเท่าไหร่
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,721
    • อีเมล์
เอาแค่เรื่องภาษีละกันนะครับ คือว่าขั้นตอนการชำระภาษีของรถประเภทนี้มีกฎหมายระบุอัตราเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่แล้ว สังเกตุนะครับว่าจะไม่มีส่วนไหนเลยที่ระบุถึงการออกทะเบียน บอกตรงๆครับว่ารถประเภทนี้คนที่เค้าทำได้จริงๆ เค้าไม่ได้ทำเพื่อการพานิชย์กันหรอกครับ แต่จะทำใช้เองมากกว่า
 ส่วนเรื่องที่ว่ารถที่เอามานั้นส่วนใหญ่เลยจะเอามาสวมทะเบียนกันครับ

ออฟไลน์ pond

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
ขออธิบายหน่อยนะคับ   บางครั้งสงสัย  เราก็ต้องหาคำตอบ  ผมพอที่จะเข้าใจระบบภาษี  การนำรถเข้า  คุณต้องเปรียบเทียบหลายๆอย่าง  เราไม่ได้อยู่ประเทศเดียวในอาเซียน  ต้องมองภาพรวมก่อนนะคับ เพราะเราเป็นประเทศภาคีนะคับ
1.ประชากรของไทย โดยประมาณ 60ล้านคน และรายได้ต่อหัวเท่าไหร่  จำไม่ได้
2. ประชากร ของอาเซียน 550-650 ล้านคน  ไม่ทราบรายได้ต่อหัว  โดยเฉลี่ยเท่าไหร่??
เพราะแต่ละประเทศ มีนโยบาย ที่คล้ายๆกัน  โดยเสียภาษีซ้ำซ้อน  รวมทั้งสิงค์โปร์  ที่มีรายได้ต่อหัวสูงสุดในกลุ่มอาเซียน  และมากกว่าไทยหลายเท่า รถนำเข้าที่นั้นก็ยังแพงเลยคับ  ไม่ได้ถูกเหมือนที่อเมริกา หรือยุโรป
ถ้าประเทศไทยขายรถถูกเหมือนยุโรป  คนไทยก็โชดดีไป(ในฝัน)  แล้วคุณคิดว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศ เขาจะไม่คิดหาทางป้องกันกันหรือคับ     ขนาดแพงขนาดนี้  เดี่ยวรุ่นนี้มา  เดี่ยวรุ่นนั้นมา  ดูที่เวียดนาม  รถก็แพงกว่าเรา ลาวหรือเขมร รถก็แพงกว่าเรา  มันเป็นสินค้าพุ่มเพือย   ถ้าเขือรถถูกเหมือนยุโรป  และให้คุณช่วยออกค่าตัดถนนด้วยเอาไม่คับ   เอาน่า  เอาที่มีอยู่   และพอเพียง  คุณก็อยากได้รถที่คุณชอบ  ผมก็อยากได้รุ่นใหม่ล่าสุดเหมือนกัน   แต่ในเมื่อมันเป็นแค่ความฝันและความหวังที่ตั้งใจเอาไว้   กับมามองรถที่อยู่ในท้องตลาดบ้านเราซิคับ   มันก็ไม่ได้น่าเกียดอะไร  ดูอย่าง nissan march รุ่นใหม่ล่าสุด  ก็เลือกเปิดต้วที่ประเทศเราก่อนคับ  อย่าไปมองคนรวย สส ทหารยศสูง และอธิบอดี  มันมีจำนวนน้อย   

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
โอ้ ผมไม่คิดเลยนะครับ ว่าการที่ผมตั้งกระทู้นี้มามันจะไปไกลขนาดนั้นได้ ..

ยังไง ก็ขออย่าให้ออกไปเรื่องการเมืองเลยนะครับ

ขอบคุณครับ..


p.s.

ส่วนใหญ่ข้อมูลภาษีพวกนี้จะเป็นการนำเข้ามาใช้เองนะครับ ไม่ได้เป็นภาษีเข้ามาขายครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 10:53:31 โดย premed »
..

ออฟไลน์ Dr.Shank

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616

ที่ผ่านมาตอนนี้ก็มีการสวมทะเบียนกันอยู่เยอะเลยครับ แต่ผมแนะนำว่าอย่าทำเลยครับ ขับไปจิตตกไปครับ
และผมขอแนะนำเพื่อนๆด้วยนะครับที่กำลังจะซื้อพวกรถนำเข้าที่เป็นมือสอง ย้ำว่าขอให้ดูดีๆนะครับ เพราะอาจไม่ปลอดภัย


ป.ล.

กระทู้นี้ผมตั้งมาเพื่อเป็นข้อมูลนะครับ ไม่ได้มีเจตนา จะไปรบกวนธุรกิจของใคร 

ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 10:57:16 โดย premed »
..