Toyota corona exsior ยังหน้าใช้อยู่มั้ยครับ

[FBI_501]

พอดีกำลังหาม้าใช้ราคาไมแรง เอามารับส่งพ่อแม่ รับสาวบ้างนิดหน่อย อยากได้รถที่กว้างๆนั่งสบาย ไม่ได้แข่งกับใคร ไปเรื่อยๆ ช่างแถวบ้านบอกว่า ท้ายโด่งหน้าเล่น คันใหญ่ อะไหล่เยอะ ซ่อมง่าย นั่งสบาย เล่นเครื่อง 1,600จะประหยัดทั้งค่าซ่อม และอัตราสิ้นเปลือง
ผมเลยมาหาของมูลในเน็ตก็เจอพอสมควร แต่อยากเห็นโบรชัวร์ กับข้อมูลจากคนใช้หรือเคยผ่านมือมา แชร์ข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ. ขอบคุณครับ

[johnlee]

เท่าที่ฟังๆมา ทน ไม่จุกจิก ราคาคุ้มค่า

ปล. น่าใช้ น่ารัก หน้าตา หน้าด้าน

หน้าคำนี้ หมายถึงอะไรที่เป็นหน้าตาจริงๆเกี่ยวข้องกับหน้าไปเลย

ส่วน น่ารัก น่าลอง น่าลุ้น น่าจะ เป็นคำใช้ประมาณว่าไม่เคยได้สัมผัสจะทดลอง

[meeuwarn]

ในงบ100000 ผมว่าน่าเล่นครับ
เทียบกับแคมรี่โฉมแรก coronaประหยัดน้ำมันกว่า อะไหร่หาง่ายและถูกกว่า วิ่งพอๆกัน แต่เกาะถนนเก็บเสียงสู้ไม่ได้

แต่เป็นผมจะหาโฉมสุดท้าย 2.0 SEG
1.6 taxi ใช้กันมากต้องระวัง

เล่นรถเก่า เล่นโตโยต้า คิดถูกแล้วครับ

[Eddy5659]

เครื่อง 2.0 ราคาประมาณแสนก็มีพอควร มีกลุ่มเพจขายรถบ้านในเฟสบุค ลองหาดู
เมื่อเดือนก่อนคนรู้จักก็ซื้อมาให้แม่บ้านไปจ่ายตลาด ไปทำธุระที่สั่ง สะภาพก็ดีทีเดียวครับ

[Enzo]

ถ้าแนะนำ ให้เล่น โฉมสุดท้ายประมาณ ปี 1999 - 2000 รุ่น 2.0 SEG ครับ

[tozmania]

ในฐานะที่ใช้ชีวิตกับ Exsior 1.6 MT มาร่วมห้าปี และมากุมบังเหียนพร้อมดูแลมันอีกร่วมปี ปัจจุบันก็ยังใช้งานอยู่
ขอแสดงความเห็นดังนี้

- ตัวรถกว้างขวางจริงครับ พื้นที่แนวกว้างแถวหลังนั่งสามคนสบายๆ
แต่พื้นที่ขาไม่ได้เหลือเฟือให้ตวัดขาไขว่ห้างได้อย่างรถสมัยใหม่

- หน้าตาพอไปวัดไปวา รับสาวๆได้ ถึงจะอายุจะสิบกว่า-ยี่สิบปีแล้ว
สายตาคนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถมากนักอย่างแม่ผม ก็บอกว่าจอดเทียบกับรถใหม่ๆได้ไม่น่าเกลียด

- อัตราเร่ง หากไม่เน้นก็พอมีเรี่ยวแรงฉุดลากบ้าง ส่วนผมที่เป็นคนเท้าหนัก เครื่องพันหกจับคู่เกียร์ธรรมดาแบบเดิมๆ ขอบอกว่าไม่พอ
แต่ออกต่างจังหวัดหลังร้อยนึงไปแล้วจะไหลไปแบบน่ากลัว (กลัวเบรคที่ไม่น่าไว้ใจกับช่วงล่างของมัน) ส่วนเกียร์ออโต้ไม่เคยลอง

- อัตราสิ้นเปลือง ผมมักใช้รถร่วมกับครอบครัว บางทีก็แบกสัมภาระไปเต็มท้าย เดินทางไกล ระยะทางราว 300 กิโลเมตร ปีไม่เกินสี่ครั้ง
สลับกับ ไป-กลับห้างใกล้ๆบ้านไม่เกินห้ากิโลเมตร สัปดาห์ละครั้ง คิดคร่าวๆ ก็ได้เกือบสิบโลลิตร ถังนึงคร่าวๆก็ไปได้ร่วมห้าร้อยโล
(อย่าลืมว่ารถผมแบกน้ำหนักและเกียร์ธรรมดา มักลดเกียร์เล่นรอบเร่งแซงแต่ไม่วิ่งเกินร้อยยี่สิบ)

- การบำรุงรักษา ผมใช้รถเฉลี่ยแค่อาทิตย์ละครั้ง สตาร์ทชิ่งเดียวติด ก่อนออกรถดูยางเช็คน้ำในหม้อน้ำเสร็จ ออกรถได้เลย
รถเสียที่ไหนอู่ข้างทาง(ส่วนใหญ่)ก็ทำได้ เท่าที่ใช้ชีวิตกับมันมามีปัญหาหนักๆแค่เรื่องระบบระบายความร้อน
มันเล่นไล่เสียไปทั้งระบบทีเดียว (พัดลม/หม้อน้ำ/ท่อยาง ฯลฯ) ฮีตจนขีดแดง แต่สามารถเติมน้ำประคองรถวิ่งไปอีกยี่สิบโล
กลับมานอนบ้านเช้าอีกวันค่อยเอาไปซ่อม (เจอครั้งเดียว อีกรอบท่อยางตัวล่างหลุดจับยัดๆแล้ววิ่งไปซ่อมอู่ปากซอย จบ)

- อะไหล่พื้นฐานเยอะจริง แต่อะไหล่เฉพาะบางตัวอย่างหม้อลมเบรคต้องเทียบแล้ว อะไหล่แท้เบิกห้างหลักหมื่น
(แม่ม แพงยังกะอะไหล่รถเบนซ์ ต้องเทียบ ee100 มา ราคาพันกว่าสองพัน)
หากจะหามาเลี้ยงแล้วซีเรียสเรื่องนี้ ผมว่าลองถามๆ อู่ใกล้บ้านว่าอะไหล่ที่ไม่ค่อยต้องเปลี่ยนพวกนี้พอหาได้มั้ย

อีกอย่างคือตามอายุแล้วเจ้าท้ายโด่งนี้ก็เริ่มชราแล้ว มันถึงเวลาของอะไหล่หลายๆอย่างที่จะต้องเปลี่ยน
และจะมีรายการซ่อมใหญ่ตามมาอีกหลายรายการ อยากให้คิดให้หนักตรงนี้เวลาหารถขอให้มีสภาพที่สมบูรณ์ด้วย

[watchatom]

จาก(ผม)คนใช้ Corona รุ่นนี้ ในชีวิตประจำวัน แต่ใช้ตัว 2.0 AT อยู่นะ ใช้มา 4 5 ปีแล้ว

หากต้องการ Corona ไว้ใช้งานตามจุดประสงค์ที่ จขกท บอก เครื่อง 4AFE 1.6 ลิตร
ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว (อีกอย่าง เครื่อง 2.0 หากใช้ในเมืองแล้ว จะกินจุสักหน่อย)
อะไหล่ตัว 1.6 นี้ มีเยอะแยะมากมาย เพราะเครื่องยนต์ตัวนี้ อะไหล่บางชื้นใช้ร่วมกันได้หลายรุ่น ทั้ง Corolla ก็มี
เซียงกงมีจำหน่าย เยอะแยะ

แนะนำให้เลือก Exsior เพราะจะมีอุปกรณ์ความปลอดภัยมากกว่ายี่ห้ออื่นในปีเดียวกัน และให้เลือกปี 1998 เป็นต้นไป เพราะเป็นโฉมสุดท้าย แต่จะหายากหน่อย เพราะมีน้อยมาก
หากหาไม่ได้ หรือหาได้แต่สภาพไม่ดี ก็ลองเอาปี 1997 ก็ได้ เพราะแทบไม่แตกต่างกัน แต่หาคันที่สภาพดีๆทั้งเครื่องและรถ
ราคาตัว 1.6 ราคาตามบ้านกลางๆ ก็ไม่ค่อยเกิน 1 แสน

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ ในรุ่น 1.6 (แบบเดิมๆเลยนะ) อาทิ
-ไฟหน้ามัลติรีเฟลคเตอร์(โคมกระจกใส) / 1997 ลงมาจะเป็นโคมรุ่นเก่า
-มีถุงลมนิรภัย ที่พวงมาลัย 1 ใบ
-เบรค ABS (หน้าดิลก์/หลังดรัม)
-กระจกไฟฟ้ารอบคัน
-กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
-เซ็นทรัลล็อก
-ระบบปรับอากาศแบบปุ่มกด มีฮีตเตอร์ด้วย

การใช้งานโดยรวม พอหอมปากหอมคอ

-ความกว้างขวางของห้องโดยสารเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ (ตัวเล็กๆ นั่งหลัง 4 คนยังได้ พอจะไม่อึดอัดมากนัก)

-พวงมาลัยหมุนสบายช่วงความเร็วต่ำ แต่เมื่อความเร็วสูงมันก็ยังหมุนสบายเช่นกัน คือไม่ค่อยจะหนืดให้สักเท่าไหร่เลย

-ระบบเบรค สไตล์ของเบรคจะนุ่ม อาจจะดูเหมือนเบรคไม่ค่อยอยู่ แต่ถ้ากดลงลึกๆ หัวปักได้เลย แต่เนื่องจากไม่มีระบบเสริมแรงเบรค กระจายแรงเบรก
ทำให้ระยะเบรคอาจจะมากหน่อย ต้องคอยกดลงลึกๆ และอาการเบรคแล้วท้ายโด่งหน้าทิ่มจะมีให้เห็นบ่อยๆ แต่ก็ยังพอมี ABS ช่วยได้บ้างเวลาฉุกเฉิน
(คุณแม่เคยขับ 1.6 ปี 1993 ที่ไม่มี ABS และเพิ่งขับครั้งแรกๆ ผมขับวีออสอยู่ข้างหน้าเบรคกะทันหัน คันที่แม่ขับตามมาห่างๆ แต่ด้วยความที่ไม่คุ้นกับระบบเบรก
แม่บอกเบรคแล้วแต่เหมือนไม่อยู่ เนื่องจากกดลงไม่ลึกพอ กดลงพอหน่วงๆ คือคิดว่ากดลึกแล้วตามแรงผู้หญิง ผลก็คือ ปล่อยรถจุ๊บท้ายกันไปฟอดนึง โชคดีที่ความเร็วต่ำ
พอมีโอกาสผมก็เลยลองเอามาเบรคแบบกะทันหันบ้าง ผลคือ ล้อล็อคดังเอี๊ยดพวงมาลัยดังกึกเลย ..ใครว่ามันเบรคไม่อยู่) 

-ช่วงล่างเด่นที่นุ่มสบายมาก แบบฉบับรถ D Segment ลุคผู้บริหาร ขับผ่านรอยต่อถนนจะรู้สึกอยู่บ้างเล็กน้อย
ช่วงกระโดดคอสะพานจะพบความนุ่มนวลชวนฝันอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าหากใช้ความเร็ว ช่วงล่างเดิมๆออกจะนุ่มเกินไปหน่อย
เหมือนมันลอยแล้วโคลงเคลง ความเร็วไม่เกิน 100 ยังมั่นใจได้อยู่ เกินกว่านั้นต้องใช้สมาธิเพิ่มขึ้น หากเข้าใจลักษณะของมันแล้วก็จะโอเคกับมันเอง
คือ หากเพิ่งมาขับรถรุ่นนี้ครั้งแรกใหม่ๆ เมื่อขับเร็วๆ อาจจะคุมยาก ไม่มั่นใจ แต่หากไม่ใช้ความเร็วสูงอย่างที่ จขกท. บอก คงไม่มีปัญหา
(ผมใช้เวลาเรียนรู้บุคลิกช่วงล่างนุ่มๆให้เข้ากับการขับขี่ของตนเองอยู่พักนึง ปกติจะชอบขับเร็วแต่ไม่ใช่เร็วแบบเร่งรีบนะ มีบางโอกาส)
เคยวิ่ง 140-150 ทางตรงยาวๆ ลมนิ่งๆ หากมีการตั้งศูนย์ล้อที่ดี ระบบพวงมาลัยที่ปกติ ลูกหมาก ช็อกอัพ ที่ไม่หมดสภาพ จะพบว่ามันยังนิ่งอยู่ได้ ช่วงล่างก็รับไหวอยู่
แต่ถ้าหักพวงมาลัยช่วงความเร็วสูงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วงล่าง(เดิม)นุ่ม ไม่ใช่ช่วงล่างแบบสปอร์ต เลยไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ถ้าขับเร็ว เข้าโค้ง เล่นโค้ง แซงปาดไปมา อะไรทำนองนี้ แต่ถ้าคุ้นชินกับรถและร่วมประสบการณ์ไปกับรถจนเข้าใจเหมือนผมแล้ว การควบคุมรถจะมั่นใจได้มากขึ้นถึงขั้นไว้ใจมันได้เลย
แต่อย่างว่า จขกท. ไม่เน้นเร็ว ขับส่งพ่อส่งแม่ สบายๆ ผมว่าท่านจะประทับใจกับมันได้แน่ๆ แต่ถ้าจะเร็วแบบช่วงล่างเดิมๆ แนะนำไม่เกิน 120 จะโอเคที่สุด

การขับในที่แคบๆ หากเทียบกับรถเล็กสมัยนี้ โคโรน่าจะดูไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่ เพราะความยาวของรถ exsior นั้นเกือบ 4.6 เมตร (ก่อนหน้า 4530 มม.)
ถือว่ายาวอยู่พอสมควร กว้าง 1690 มม. ฐานล้อ 2580 มม. รัศมีวงเลี้ยว 5.1 เมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตัน ในรุ่น 1.6 เมื่อบรรทุกแล้วจะหนักประมาณ 1.2-1.3 ตันได้ เลยอาจจะดูไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก แต่ก็ยังทันใจดีอยู่ แต่ยังดีกว่า 2.0 ที่ผมใช้ อยู่ในเมืองนี้จะเข้าจะออก โคโรน่าจะดูอุ้ยอ้ายไปหน่อย (2.0 น้ำหนักรถราว 1.2 ตัน บรรทุกแล้ว ราวๆ 1.5 ตัน)
เคยใช้รุ่นตัว 1.6 ที่เบากว่า อยู่ช่วงนึง รู้สึกเวลาเลี้ยวตามซอกตามซอยเบาสบายดี 

อัตราเร่งผมไม่เคยจับเวลา ทั้ง 1.6 และ 2.0
แต่ถ้าพูดถึง 1.6 เกียร์ธรรมดาที่เคยใช้ เท่าที่จำได้ หากขับแบบมนุษย์ปกติไม่ใช่นักซิ่ง ก็พอทันอกทันใจเอาการอยู่
เครื่อง 4A FE
ความจุ 1,587 cc.
ความกว้างกระบอกสูบ 81.0x77.0 มม.
แรงม้า 116PS/6000รอบต่อนาที
แรงบิด 15.0กก-ม./5200รอบต่อนาที
กำลังอัด 9.5:1

ประหยัดไหม รถรุ่นนี้ ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดยุคแรกๆของโตโยต้า และเครื่องยนต์ก็เก่าหลายปีแล้ว ดังนั้นจะคาดหวังมันประหยัดมากก็คงไม่ได้
ถ้าขับไม่เร็วเหมือน จขกท. เครื่อง 1.6 น่าจะให้ความประหยัดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12 กิโลเมตร/ลิตร ได้ ย้ำว่าโดยเฉลี่ยนะ อาจจะประหยัดกว่านี้ก็ได้ ไม่รู้
แต่หากเป็นสมัยปี 2538 น้ำมันลิตรละ 10 กว่าบาท ก็ถือว่าประหยัดเลยเชียวล่ะ
(แต่ 2.0 AT ผม ซดอยู่ แต่ไม่เคยทดลองวัด แต่อยุ่ในเกณฑ์ 8-10 กิโล/ลิตร เท่าๆกับ camry acv40 3.5Q เลยทีเดียว)

อุปกรณ์ที่มีให้ในรุ่น 1.6 เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว อาจจะมีมาให้ไม่มากเหมือน 2.0
ซึ่งมีทั้ง ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ปัดน้ำฝนตั้งหน่วงเวลาได้ ไฟส่องแผนที่ เบาะหลังพับได้ กระจกมองข้างพับไฟฟ้า
สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรคLED เสาวิทยุไฟฟ้า แผงโคนโซลลายไม้ เครื่องเล่นCD ถุงลม2ใบ ล้อแม็ก14นิ้ว
เคยทำตารางสเปค corona รุ่นนี้ไว้อยู่ และพอจะมีภาพโบร์ชัวร์อยู่บ้าง แต่คินนี้ดึกแล้ว เอาเป็นว่า มีเวลาจะค้นหาข้อมูลมาแปะให้เพิ่มเติมแล้วกัน

อะไหล่แพงมั้ย ไม่แพงมากครับ หายากมั้ย พอจะมีคลับรองรับครับ ที่นั่นจะมีผู้ขายอะไหล่นำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง จากเซียงกงมากมาย
ถามหาอะไร ได้อันนั้น แต่อะไหล่บางชิ้นของ Exsior จะหายากกว่าบ้าง เนื่องจากเป็นรุ่นพิเศษ เช่น ไฟหน้าปี98 ไฟท้าย กันชนหน้า-หลัง
แผงประตู แต่ส่วนใหญ่อะไหล่เครื่องใช้ร่วมกันกับปีต่ำกว่าได้เยอะ

บางอย่างไม่ได้บอกไว้ในกระทู้ ก็ขออภัย อยากทราบอะไรเพิ่มเติม PM มาก็ได้ครับ
หากมีรถแล้วจะให้ดึงเข้าคลับก็ได้ หลังไมค์มาเลย ยินดีจะให้คำปรึกษา หากตอบได้จะช่วยตอบ หากไม่ทราบจะถามผู้มีประสบการณ์มากๆในรุ่นนี้ มาให้

หากมีเวลาพร้อมจริงๆ ทำรถพร้อมสมบูรณ์จริงๆ ก็อยากจะทำรีวิวรุ่นนี้ลงเว็บ HLM สักครั้งอยู่ ^^

[NS]

เคยใช้ชีวิตด้วยกันอยู่ราว 2ปี ทน กว้าง อะไหล่เพียบและไม่แพง ช่างรู้จักดี ได้มาเช็คพวงบูชกับลูกหมากและเปลี่ยนถ้าควรเปลี่ยน จบ ใช้งานเลย

[wa330]

ปีเก่าไปหน่อย งบแสนเล่นอัลติสหน้าหมูปี01-02ดีกว่า

[Slipknot`]

2.0 ไปเลยครับ

คนแถวบ้านผมยังใช้ตั้งแต่ป้ายแดง ดูแลดีมาก ไม่เก่าเลย

[Auto]

รุ่นนี้สวยอมตะ สวยนาน มองนาน ๆ แล้วสวย อีกรุ่นนึง  แนะนำว่าถ้าเน้นวิ่งทางยาว ๆ  เลือกตัวสุดท้ายเครื่อง 2.0 ดีกว่า   แต่ถ้าเน้นวิ่งเอามาใช้ในเมืองอย่างเดียว 1.6 ก็เพียงพอ    อะไหล่รถแบบนี้ถ้าเป็นแท้ศูนย์นะครับแพงมาก เพราะผมใช้ 3 ห่วงมาก่อน  ปกติเป็นคนซ่อมศูนย์อย่างเดียว จึงรู้ว่าอะไหล่พวกนี้เบิกญี่ปุ่นราคาแพงมาก   ไม่ได้ราคาถูกตามคำเล่าลือเลย  แต่ที่บอกราคาถูก ๆ กันส่วนมากอะไหล่เทียบกับอะไหล่ปลอมที่มีเกลื่อนตลาดตามร้านอะไหล่ข้างนอกต่างหาก    โคโรล่ารุ่นหลัง  ๆ มาอะไหล่ผลิตในไทยราคาจึงถูกกว่าพวกนี้ครับ แล้วก็พวกโซลูน่า วีออส  อะไหล่ผลิตไทยราคาถูกมากซ่อมศูนย์เหมือนกันราคาต่างกันเกิน 20-30%
สุดท้ายผมขายเจ้า 3 ห่วงไปแล้วหาวีออส กับอัลติสปีใหม่ ๆ มาใช้แล้วเข้าศูนย์เหมือนเดิม สบายใจกว่า

[FBI_501]

อัลติสราคามันอยู่แสนปลาย เอามาต้องมีเซอร์วิสก็ทะลุไประดับ2แสน. มันจะเกิน 150,000รวมบูรณะที่ตั้งไว้
คันนี้ตั้งใจว่าขับไม่เกิน120กม./ชม. แล้วส่วนมากผมอยู่ในกรุงเทพเป็นหลัก ออกต่างจังหวัดก็แค่พัทยา หัวหิน แค่นั้นเองครับไม่ได้ไปไหนไกล

[JONNY]

ผมเคยใช้ท้ายโด่ง ปี 94 2.0 AT ซ่อมจุกจิกใช้ได้เลย แต่หาอะไหล่เชียงกงง่ายหน่อย สมัยนั้นติดแก๊สตัวดูด ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ก็มีเรื่อยๆ จนได้ขายทิ้งไป ถ้ายังไงหารถปีใหม่ๆน่าดีกว่าครับ ราคาตกๆกันทั้งนั้น

[mothsan]

ผมเจอ 2.0 คันนึงครับ
http://www.taladrod.com/w30/iCar/CarDet.aspx?cid=1611005

ตอนนั้นที่บ้านผม เลือก accord ไฟท้าย 2 ก้อนครับ ราคาถูกกว่าอีัก ดูดีกว่าด้วยนะครับ