ผู้เขียน หัวข้อ: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //  (อ่าน 20040 ครั้ง)

ออฟไลน์ veturilo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 18:09:02 »
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ   มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า   แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า  20-30%    แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ   กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน

ขอบคุณครับผม  แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ  ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ

เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน

อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ

"เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร" - จนเพราะค่าน้ำมันเครื่องแน่ๆ... -_-"

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 18:23:48 »
ขอบคุณทุกท่านครับผม
เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจได้ดีเลยครับผม
 :)

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 18:40:25 »
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ   มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า   แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า  20-30%    แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ   กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน

ขอบคุณครับผม  แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ  ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ

เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน

อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ

"เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร" - จนเพราะค่าน้ำมันเครื่องแน่ๆ... -_-"

จะซื้อรถราคา 1.5-1.6 ล้าน แต่กังวลกับเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง เรื่องต่อประกัน มันยังไงๆ อยู่นะครับ
เห็นพูดกันจัง จ่ายแพงกว่าเดิมแค่ 2-3 พันบาทเอง
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ secrecyguy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,744
  • 3.2plus
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 19:02:55 »
แล้ว เอาแบบกลางๆ นะครับ ถ้าเป็นรถที่ซื้อมาใช้ 10 ปี ขึ้นไป ราคา+ค่าอะไหร่ +ค่าซ่อมบำรุง ยี่ห้อไหนน่าจะสบายใจกว่าครับ
ถ้าเอาซ่อมบำรุงสบายใจหนีไม่พ้นโตโยต้าเพราะขายเยอะอะไหล่เยอะ   มีอะไล่ทดแทนในร้านอะไหล่เยอะกว่า   แต่ถ้าของแท้ด้วยกันซื้อศูนย์ด้วยกันฟอร์ดแพงกว่า  20-30%    แต่รถพวกนี้มันไม่ได้ซ่อมจุกจิกเหมือนรถเก๋งน่ะ   กว่าจะซ่อมแต่ละครั้งก็นาน เพราะมันเน้นสมบุกสมบัน

ขอบคุณครับผม  แต่ ฟอร์ด ผมติดอีกอย่างคือ เครื่งใหญ่ไป 3.2 นี่ มันมีซดกับซดอย่างเดียวแน่ๆ  ถ้าตัว Top 2.2 full time 4WD มันจะสุดๆ เลยครับ
For ก็ไม่ Full time น่าเสียดายมากครับ

เรื่องค่าบำรุงรักษา ถ้าเข้าศูนย์ ค่าเเรงก็พอๆกันครับ อะไหล่บางตัว โตถูกกว่า
แต่ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนี้ เครื่อง3.2 เเพงกว่าครับ เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร ถ้าใช้เกรดแพงสุดในศูยน์ ราคาเข้าเช็คทุก 15,000กม จะอยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาทครับ โต เช็คทุก10,000กม พอถั่วเฉลี่ยก็พอๆกัน

อัตราการกินน้ำมัน เครื่อง2.2 ไม่ได้ประหยัดกว่าเครื่อง 3.2เลยครับ แล้วผมก็มั่นใจว่า เครื่อง2.8ของโตก็ไม่ได้มีตัวเลขที่ดีเด่อะไร
เรื่องเกียร์ พอได้ลองฟอร์จูนเนอร์ ผมว่าเกียร์เขาทำได้ไม่ดีเลย ไม่ฉลาด มีอาการชวนหงุดหงิดกว่า3.2wt โหมดสปอร์ต หรือEco ก็เหมือนคุณติดกล่องคันเร่งไฟฟ้านั้นละ
เรื่องการขับขี่ การเบรค การเกาะถนน สู้เเรงเจอร์ไม่ได้ ที่สำคัญฟอร์จูนเนอร์ตัวนี้เมื่อใช้ความเร็วเกิน120 มีอาการพวงมาลัยชวนเครียดเอาเรื่อง เบาเเปลกๆ
ฟอร์จูนเนอร์ตบเเต่ภายในได้สวย แต่กระจกตัดเเสงมีขายในราคา6,000บาท อันนี้พูดไม่ออกจริงๆ ตอนดูรถมีคนแก่คนหนึ่งถามเซลว่า ไม่มีดิสเบรคหลังหรอ? ......
ปี2005 ผมใช้วีโก้4wd 2013 ผมใช้3.2wt เขียนตามที่เจอจริงๆ

"เครื่องตัวนี้ใช้น้ำมันเครื่องราวๆ 10ลิตร" - จนเพราะค่าน้ำมันเครื่องแน่ๆ... -_-"

จะซื้อรถราคา 1.5-1.6 ล้าน แต่กังวลกับเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง เรื่องต่อประกัน มันยังไงๆ อยู่นะครับ
เห็นพูดกันจัง จ่ายแพงกว่าเดิมแค่ 2-3 พันบาทเอง

ถ้าคิดมากเรื่องค่าใช้จ่าย กระบะcabครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องเอง ภาษี900 ซื้อมือ2 ประหยัดค่าเสื่อมไปได้อีก

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 21:14:53 »
คุณ MUK

ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก

รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน

เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ






ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 09:18:41 »
DVDกับระบบกดปุ่มติดเครื่องนี่ติดเพิ่มเองทีหลังได้สบายครับ แต่ระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่นี่มาติดเองทีหลังไม่ได้เพราะไม่มีขายแยกมาให้  :-X รถผมก็ไม่มีDVDมาให้ตอนซื้อแต่ขอสองหมื่นบาทหน่อยเถอะน่า ทั้งDVDและลำโพงที่คุณภาพดีกว่าของติดรถจากโรงงานหามาใส่ได้ไม่ยากเลย  ::)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ thchalerms

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 377
    • อีเมล์
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 11:08:19 »
ผมมองว่า
ตัวล่างสุด เกียร์ manual ราคา เกือบ ล้านสอง...แพงไปไหม
ไปคบ...Xtrail 2.0 ตัวล่าง ภาพลักษณ์ และความคุ้มค่า น่าจะเหมาะสมกว่า

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 13:43:52 »
Toyota เจ้าตลาด ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็ขายได้อยู่แล้ว
Ford ต้องใส่มาเต็มพิกัด ถึงจะขายได้

ถ้าอยากให้ Toyota ใส่ option มามากๆ ก็คงต้องรอวันที่ยอดขายเค้าตกแบบน่าใจหายก่อนละครับ

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 14:10:10 »
คุณ MUK

ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก

รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน

เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ

ขอบคุณครับผม
จริงๆ ชอบฟอร์ดมากครับผม สวยดี และความปลอดภัยมาแบบจุใจ ช่วงล่างก็น่าจะไว้ใจได้กว่า for พอสมควร
ถ้าได้สัก 12-13 กม. ที่ 110 เหมือนคุณจิมมี่ทดสอบนี่สวยมากเลยครับผม
เพราะเท่าที่จำได้ for เครื่อง 3.0 ไม่ fulltime วิ่งได้ประมาณ 13.xx นะครับผม
ถ้าประมาณนี้รับได้ครับผม แต่ถ้าต่ำกว่านี้ผมว่า กินเยอะไปครับผม

ภาษี ต่อปี ไม่น่ากลัว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอักตราสิ้นเปลืองไปป้วนเปี้ยนที่
8-9 กม. นี่ไม่ไหวครับผม ต่อให้มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไม่อยากได้ที่กินน้ำมันเกินไปครับผม
หรือว่า EV จะทำรถให้ประหยัดได้กว่าเดิมครับผม ลุ่นที่ full review ครับผม

ที่ขัดใจ EV คือ แถวสามทำไมเข้าไปแบบนั้น แก้ไขก่อนส่งมอบได้ไหมครับผม จะให้เหียบเบาะสองเข้าไปเลยหรือครับผม
 :)

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 18:15:11 »
คุณ MUK

ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก

รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน

เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ

ขอบคุณครับผม
จริงๆ ชอบฟอร์ดมากครับผม สวยดี และความปลอดภัยมาแบบจุใจ ช่วงล่างก็น่าจะไว้ใจได้กว่า for พอสมควร
ถ้าได้สัก 12-13 กม. ที่ 110 เหมือนคุณจิมมี่ทดสอบนี่สวยมากเลยครับผม
เพราะเท่าที่จำได้ for เครื่อง 3.0 ไม่ fulltime วิ่งได้ประมาณ 13.xx นะครับผม
ถ้าประมาณนี้รับได้ครับผม แต่ถ้าต่ำกว่านี้ผมว่า กินเยอะไปครับผม

ภาษี ต่อปี ไม่น่ากลัว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอักตราสิ้นเปลืองไปป้วนเปี้ยนที่
8-9 กม. นี่ไม่ไหวครับผม ต่อให้มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไม่อยากได้ที่กินน้ำมันเกินไปครับผม
หรือว่า EV จะทำรถให้ประหยัดได้กว่าเดิมครับผม ลุ่นที่ full review ครับผม

ที่ขัดใจ EV คือ แถวสามทำไมเข้าไปแบบนั้น แก้ไขก่อนส่งมอบได้ไหมครับผม จะให้เหียบเบาะสองเข้าไปเลยหรือครับผม
 :)

เข้าแถวสาม EV อย่าไปพับเบาะครับ ให้ใช้วิธีแบบกระบะ Cap มันจะเข้าไปง่ายครับ ถ้าพับมันจะเลื่อนไปหน้าได้ไม่สุดทำให้ไม่มีช่องเข้าไปครับ  :) :) :)
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: // เจาะรถเด่น : เทียบ Spec-Option Fortuner vs Everest : PPV คู่เดือด //
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2015, 23:57:42 »
คุณ MUK

ผมว่าซื้อ Everest เถอะครับ อย่าไปซีเรียสมาก

รถประเภทนี้มันหาความประหยัดไม่ได้หรอกครับ น้ำหนัก2ตัน++ หน้ายางกว้าง ยางแก้มหนา รถสูงต้านลม ออกตัวก็อืด พอกดเร่งหน่อยก็ยิ่งกิน

เครื่องเล็กยิ่งกดยิ่งเร่งยิ่งเค้น เผลอๆกินกว่าเครื่องใหญ่ด้วยซ้ำ

ขอบคุณครับผม
จริงๆ ชอบฟอร์ดมากครับผม สวยดี และความปลอดภัยมาแบบจุใจ ช่วงล่างก็น่าจะไว้ใจได้กว่า for พอสมควร
ถ้าได้สัก 12-13 กม. ที่ 110 เหมือนคุณจิมมี่ทดสอบนี่สวยมากเลยครับผม
เพราะเท่าที่จำได้ for เครื่อง 3.0 ไม่ fulltime วิ่งได้ประมาณ 13.xx นะครับผม
ถ้าประมาณนี้รับได้ครับผม แต่ถ้าต่ำกว่านี้ผมว่า กินเยอะไปครับผม

ภาษี ต่อปี ไม่น่ากลัว เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอักตราสิ้นเปลืองไปป้วนเปี้ยนที่
8-9 กม. นี่ไม่ไหวครับผม ต่อให้มีเงินเติมน้ำมัน ก็ไม่อยากได้ที่กินน้ำมันเกินไปครับผม
หรือว่า EV จะทำรถให้ประหยัดได้กว่าเดิมครับผม ลุ่นที่ full review ครับผม

ที่ขัดใจ EV คือ แถวสามทำไมเข้าไปแบบนั้น แก้ไขก่อนส่งมอบได้ไหมครับผม จะให้เหียบเบาะสองเข้าไปเลยหรือครับผม
 :)

เข้าแถวสาม EV อย่าไปพับเบาะครับ ให้ใช้วิธีแบบกระบะ Cap มันจะเข้าไปง่ายครับ ถ้าพับมันจะเลื่อนไปหน้าได้ไม่สุดทำให้ไม่มีช่องเข้าไปครับ  :) :) :)

ขอบคุณครับผม
แล้วเกียร์ AT ของ Ford จะทนสู้ Toyota ได้ไหมครับผม