ลองก้มลงไปดูหน่อยว่าที่เสื้อเกียร์ด้านล่างมีคราบน้ำมันเลอะเปราะออกมาไหม มันแสดงถึงอาการซีลเกียร์ภายในเกิดเสื่อมสภาพแล้วการเปลี่ยนยุ่งยากครับ ซีลยางปากเทอร์โบยังอยู่สุขสบายหรือเปล่า ถ้าซีลยางปากเทอร์โบรั่วแรงอัดจะตกรถจะไม่มีกำลังเลย
น้ำมันเกียร์น่าจะเปลี่ยนที่สัก50000กิโลหรือไม่ควร70000กิโลนะครับ รวมถึงกรองน้ำมันเกียร์และกรองน้ำมันดีเซลด้วยด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะรุ่นนี้หรอกรถทุกยี่ห้อทุกรุ่นนั่นแหละที่ควรจะเปลี่ยนที่ระยะนี้ถ้าอยากใช้นานๆโดยเกียร์ไม่พังจริงๆ การที่เกียร์จะพังนั้นมาจากการที่เวลาเราใช้งานแล้วเหยียบรอบสูงหรือออกตัวแรงๆบ่อยๆ มันจะมีเศษของคลัทช์ที่หลุดร่อนออกมาเรื่อยๆจากการใช้งาน ทีนี้เศษที่มันหลุดร่อนออกมาก็จะปะปนไปกับน้ำมันเกียร์โดยที่กรองเกียร์นี่แหละที่จะเป็นพระเอกสำคัญในการกรองไม่ให้เศษคลัทช์พวกนี้มันไหลไปติดขัดตามชิ้นส่วนต่างๆยามที่น้ำมันหล่อลื่น แต่ถ้าหากว่าเราใช้ไปนานๆไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์และกรองน้ำมันเลย พอเศษคลัทช์มันไปกระจุกตัวอุดตันที่กรองเกียร์มากๆเข้าการไหลเวียนหล่อลื่นของน้ำมันไม่ดีเหมือนเคยก็จะเป็นสาเหตุของเกียร์พังเกียร์ไม่จับตัวได้ ถ้าเคยเจอคำพูดที่ว่าเกียร์เริ่มทำงานลื่น ผืด เข้าเกียร์แล้วรถไม่ยอมเคลื่อนตัวเลยต้องเหยียบคันเร่งถึงจะเริ่มไหลให้ไปลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ดูอาจจะช่วยก็มาจากเรื่องนี้แหละครับ
เรื่องของเกียร์แยกเป็นสองเรื่องนะหนึ่งคือตัวน้ำมันเกียร์ที่ยิ่งใช้งานไปความสามารถในการหล่อลื่นและระบายความร้อนยิ่งลดลง สองคือกรองเกียร์ที่ทำหน้าที่กรองเศษคลัทช์ที่หลุดร่อนออกมาไม่ให้มันเกิดอาการตันจนทำหน้าที่ไม่เต็มที่
ประเด็นเรื่องของการเปลี่ยนกรองเกียร์นี้มีมาตั้งแต่สมัยซีวิคไดเมนชั่นแล้วครับที่ว่ารุ่นนี้โดนครหาว่าใช้งานไม่เกินแสนกิโลเกียร์พังทุกราย แท้จริงแล้วหลายคันเกียร์ไม่ได้พังนะแต่เกิดจากการที่กรองเกียร์ในไดเมนชั่นรุ่นแรกใส่มาขนาดเล็กเกินไป พอมีขนาดเล็กเกินไปมันก็อุดตันได้เร็วที่ระยะไม่เกินแสนกิโล นานมาแล้วมีสมาชิกกลุ่มฮอนด้าคันนึงเกียร์มีปัญหาเจอฮอนด้าอุดมสุขเสนอให้เปลี่ยนเกียร์ใหม่ทั้งลูกบอกแต่ว่าพังแล้ว แต่เค้ายังติดใจอยู่เลยยอมลากรถไปเข้าอู่แทน ปรากฏว่าถอดชิ้นส่วนออกมาพบว่ากรองเกียร์ตันครับเปลี่ยนกรองเกียร์ใหม่รถใช้ได้เหมือนเดิมเลย ซึ่งในซีวิคไดเมนชั่นรุ่นหลังๆมามีการเปลี่ยนกรองเกียร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เลขชิ้นส่วนไม่เหมืนเดิมแต่เอามาใส่เข้ากันได้ขนาดพอดีเด๊ะ