ชอบนึกกันว่าหนืดๆแล้วดี จริงๆแล้วน้ำมันเครื่องหนืดๆเช่นเบอร์ 0W-40 ก็ไม่ได้แปลว่าปกป้องดีกว่านะครับ ตรงกันข้าม การใช้นำ้มันเครื่องที่หนืดเกินไปจะยิ่งมีโอกาศทำให้เครื่องยนต์สึกหรอมากขึ้น
เพราะอะไร??
เพราะน้ำมันเครื่องเบอร์ 40 จะหนืดและไหลช้ากว่าน้ำมันเครื่องเบอร์ต่ำๆเช่น 0W-20, 0w-30 ทำให้เวลาสตร์ทเครื่องน้ำมันที่หนืดกว่าจะไหลไปหล่อลื่นชิ้นส่วนได้ช้ากว่าก็สึกหรอมากกว่า
ยังไม่พอ....อีกจุดนึงก็คือน้ำมันเครื่องหนืดๆโมเลกุลมันจะมีขนาดใหญ่ ชั้นฟิล์มน้ำมันก็จะหนา ซึ่งดูเหมือนจะดี แต่ไม่ใช่ เพราะเครื่องยนต์สมัยใหม่ไม่เหมือนเครื่องยนต์ยุคก่อนๆ สมัยนี้การผลิดมี Manufacturing tolerance ต่ำมากทำให้ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์สมัยนี้ชิดกันมาก และผิวสัมผัสก็เรียบกว่า เรียกว่าผิวสัมผัสของชิ้นส่วนต่างๆฟิตกันมากๆ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิตเครื่องยนต์สมัยใหม่จึงเรียกใช้น้ำมันที่ใสลงๆ ก็เพราะว่าเครื่องสมัยใหม่ต้องการฟิล์มนำ้มันบางๆไหลตัวเร็วๆเพื่อไชชอนเข้าไป"แทรกตัว"อยู่ระหว่างชิ้นส่วนที่ชิดกันมากๆได้ดีขึ้น ได้ไวขึ้น
อ้าว....พูดงี้แล้วผมจะเลือกนำ้มันเครื่องยังงัยหล่ะ??
จริงๆแล้วมันอยู่ที่ค่าอื่นๆในตัวน้ำมันเครื่องมากกว่า เช่นค่า Viscosity Index (VI), High Temp High Shear (HTHS), ค่า Antiwear Addivtive พวก Zinc, Sulphur เช่น ZDP, ZDDP ซึ่งค่าพวกนี้เป็นตัวบ่งบอกว่าน้ำมันเครื่องนั้นๆมีความสามารถป้องกันการสึกหรอ Metal-to-Metal contact ได้ดีเพียงไร (Zinc Content จะเป็นตัวบ่งชี้) ทนต่อแรงเฉือนแรงเสียดทานได้ดีแค่ไหน(ค่าHTHS จะเป็นคนบอก) เสถียรต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดีเพียงไร (VI บอกได้) ซึ่งค่าพวกนี้ต้องค้นเข้าไปดูตามเว็บไซท์ของผู้ผลิต หรือตามเว็บไซท์ของพวกเล่นน้ำมันเครื่อง เช่น Bob is the oil guy
แล้วน้ำมันเครื่องเบอร์หนาๆมีไว้ทำไม? ก็มีไว้เพื่อใช้กับเครื่องยนต์รุ่นเก่า หรือเครื่องยนต์ที่มีความสึกหรอสูงแล้ว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนต่างๆมากขึ้น เราก็ต้องการชั้นฟิล์มหนาๆ โมเลกุลนำ้มันอ้วนๆ ไปเติมเต็มช่องว่าเหล่านี้ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานหมุนต่อได้โดยไม่สึกหรอไปไวกว่าเดิม และเป็นการป้องกันการรั่วของกำลังอัด ลดอาการกินน้ำมันเครื่อง ดังนั้นเราควรเริ่มใช้น้ำมันเครื่องหนาขึ้นเมื่อสังเกตได้ว่าเครื่องเริ่มกินน้ำมันเครื่องมากขึ้น เพื่อชดเชยตรงนี้
.......เอาละผมพูดยาวไปละ.........
สรุป เบอร์หนา-บางไม่ได้บอกคุณสมบัติในการป้องกัน แต่ต้องดูที่สเปคที่มีค่าบางอย่างเป็นตัวบอก
อย่าแชร์อะไรจากความรู้สึก หรือฟังมาจากช่างเลยครับ มันห่างไกลกับความจริงเยอะมาก
สังเกตดูว่า ตัวท๊อปของบริษัทน้ำมันระดับโลกอย่าง Exxon กับ Shell เป็นเบอร์ 40 ทั้งนั้น
เพราะเขาวิจัยมาแล้วว่า เบอร์ 40 + Additive ที่ดีพอ จะเพิ่มความหนืดของน้ำมันเครื่องที่อุณหภูมิสูง แต่ส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อความหนืดที่อุณหภูมิต่ำ ซึ่งช่วยให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนอย่างเหมาะสมเมื่ออุณหภูมิต่ำ และยังคงข้นหนืดเพียงพอที่จะปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของคุณที่อุณหภูมิสูง
ที่สำคัญเครื่องยนต์เดี๋ยวนี้ เน้น Down-Size ใส่เทอร์โบ เครื่องยิ่งร้อน, น้ำมันเครื่องไม่ดี แปบๆก็ไปละครับ
ยกตัวอย่าง Mobil-1 มี Additive สูตรเฉพาะของเขา ส่วน Shell ล้ำที่สุดตอนนี้คือเป็น Gas to liquid ซึ่งบริสุทธิ์ที่สุดของเทคโนโลยีสังเคราะห์ตอนนี้
พวกนี้เขาทดลองกันจริงจัง ว่าเทสผ่านไปหลายแสนกิโล จะเห็นความแตกต่างจากสภาพของเครื่องยนต์ชัดเจนครับ (ยิ่ง Mobil-1 เน้นเรื่องการใช้งานกับเครื่องยนต์เทอร์โบ ที่เกิดความร้อนสูงเป็นพิเศษเลยด้วยซ้ำ)
ไม่งั้นพวก Porche, BMW ไม่ใช้ของแบรนด์เหล่านี้หรอกครับ