สวัสดีค่ะ
วันนี้ขอรีวิวบ้าง เนื่องจากสิ้นเดือนเคลียร์งานหมดแล้ว และมันว่างมากกก อิอิ กับเห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆรีวิวกันเลยอยากลองบ้าง
แต่ขออนุญาตรีวิวแบบง่ายๆใช้ภาษาแบบบ้านๆเสมือนพูดคุยกับเพื่อนๆละกันนะคะ จะได้ไม่เกร็ง
และส่วนตัวเป็นคนไม่ได้
มีความรู้เรื่องรถมากมาย ดังนั้นรีวิวทั้งหมดเป็นความเห็นและความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ฮ่าๆ หากพูดอะไรผิดไป อย่าได้ถือสา
และสามารถติได้ เพราะดิชั้นจะไม่ตอบโต้ค่ะ
ขอเกริ่นเกี่ยวกับรถคันนี้คร่าวๆนะคะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนที่เคยให้คำแนะนำ ที่เคยโพสต์ถามคำแนะนำเกี่ยวกับ
ต้องการเปลี่ยนรถให้พ่อกับแม่ใหม่เพื่อใช้ที่ต่างจังหวัด เนื่องจากคันเก่ามันเล็กไป เวลากลับไปบ้านที่ตจวทีพร้อมกัน 5-6 คน
นั่งอัดกันรถแทบระเบิด ตอนแรกจะเอาซิลฟี่หรืออัลติส แต่มีเพื่อนๆแนะนำ x-trail หรือรุ่นที่ใหญ่กว่าถ้าผ่อนไหวเพราะมันจะ
สบายกว่าและใช้ยาวๆ ตอนแรกอยากได้เทียน่าเพราะส่วนตัวกับพี่สาวชอบเก๋งซีดาน แต่พ่ออยากได้ x-trail ก็เลยตามใจคนขับ
จบที่คันนี้ค่ะ ส่วนที่เอา 2.0 E เนื่องจากที่ต่างจังหวัดพ่อกับแม่คงใช้แค่ไปกลับที่ร้านอาหารเพื่อขายของแล้วก็กลับบ้าน
คงไม่ได้ใช้ 4WD และพ่อชอบสีภายในแบบทูโทน รับรถเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจากศูนย์ติวานนท์ค่ะ
หมายเหตุ : ภาพประกอบทั้งหมดบางรูปเป็นรูปที่ถ่ายตอนไปเช็ครถก่อนรับ และที่เหลือเป็นรูปที่ถ่ายเก็บไว้ตอนกลับบ้านที่ตจว.
เมื่อสัปดาห์ก่อน ดังนั้นภาพอาจจะไม่ละเอียดพอสำหรับรีวิวนะคะ ขออภัยในส่วนนี้ด้วยถ้าหากรีวิวบางช่วงไม่มีภาพประกอบ..
เริ่มกันจากภายนอกก่อนเลยนะคะ
เริ่มที่กุญแจก่อนเลยค่ะ
ดูมันก็สวยดีนะคะ แต่พอรับกุญแจไว้ในมือ คุณพระ! (เอามือทาบอก)...มันเบาโหรงเหรงมาก 555+
ดูไม่สมกับรถราคาหลักล้าน น่าจะน้ำหนักดูหนักกว่านี้สักนิด กับพลาสติกมันดูถูกไปหน่อยค่ะ อยากให้ดูดีกว่านี้หน่อย
ส่วนกระเป๋าคู่มือนี่ ส่วนตัวชีวิตนี้ซื้อรถมาก็มี Mazda, Honda, และ Nissan นี่คันที่ 3 จะบอกว่าคู่มือของนิสสันขี้เหร่สุดเลย
ส่วนภายในก็คู่มือการใช้ ฯลฯ เหมือนรถทั่วไปค่ะ
ต่อไปเป็นด้านหน้ารถโดยรวมค่ะ จะบอกว่ารูปนี้ถ่ายหลังจากเพิ่งล้างกับเคลือบสีเองนะคะ ทำคนเดียวใช้เวลาไปประมาณ
2.30 ชม. หอบแดรกอ่ะพูดเลย
รถมันก็ไม่ได้สูงมาก แต่ตอนล้างหลังคาล้างไม่ถึงต้องต่อเก้าอี้ ซึ่งลำบากพอสมควร
ล้างเคลือบไรเสร็จ แม่แซวว่า รอบหน้ากลับบ้านมาล้างให้อีกมั้ย?... เลยบอกแม่ว่า เชิญคาร์แคร์เถอะค่ะหม่อม 555+
รุ่นนี้ล้อ 17 นิ้ว ยางติดรถยี่ห้อ Dunlop ค่ะ และรุ่นนี้ไม่มีราวหลังคานะคะ จะมีแต่รุ่น 2.0V, 2.5 มันก็จะดูเรียบๆเหมือน
CRV, CX-5 ก็สวยเรียบๆไม่ได้ดูขี้เหร่นะ ไล่ลงมาจะเห็นที่ปัดน้ำฝนค้างอยู่แบบนั้น เพราะว่ารุ่นนี้จะเหมือนกับ slyphy
และ juke คือจะต้องกดสตาร์ทให้ระบบไฟติด หลังจากนั้นปัดที่ปัดน้ำฝนติดกันสองครั้ง ก้านปัดจะค้างแบบนนี้
แล้วเราค่อยง้างออกแล้วล้าง ส่วนตัวคิดว่ามันลำบาก ลำไยมาก ถ้าเกิดไปล้างตามร้านแล้วลืมแจ้งพนักงานนี่
ถ้าเค้าง้างเหมือนรถทั่วไปอาจจะโดนขอบกระโปรงรถสีถลอกได้.. ส่วนนี้น่าจะทำแบบเดิมๆดีกว่า
สีเทารุ่นนี้มันไม่เหมือนสีเทาม่วงของ Teana , Sylphy นะคะ รู้สึกมันจะเทาแบบเทาทั่วๆไป
ใจจริงอยากได้เทาม่วงมากกว่า แต่ไม่มี ทำไรไม่ได้ ทำใจค่ะ อิอิ
ต่อไปมาด้านไฟหน้า ส่วนตัวชอบไฟหน้ามากกกกก คิดว่ามันสวยนะ เฉี่ยวดี โดยเฉพาะเดย์ทามไลท์อ่ะ มันแจ่มดีนะ
ดูฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งดุ้งดิ้งดี และตอนกลางคืนไฟหน้ามันเป็นไฟขาว สว่างดีมากค่ะ เค้าจัดควบคุมแสงไฟดีนะ แบบว่าไม่ต้องกลัว
รถคันหน้าแช่งอ่ะเพราะไม่แยงตาคันหน้าแน่นอน ยกเว้นไปกดไฟสูงใส่เค้า 555+ ส่วนไฟตัดหมอกมีให้ครบค่ะ
แต่ไม่ต้องใช้ก็สว่างเกินพอแล้วนะ
ส่วนของกระจังหน้า อันนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ โดยเฉพาะ V อยากให้ออกแบบเหมือน CRV มากกว่า
แบบกระจังแนวนอนไรงี้ น่าจะสวยกว่านี้ ส่วนกันชนด้านล่างมีโครเมี่ยมแต่งให้ก็ดูสวยดีค่ะ รวมๆด้านหน้าให้ผ่านค่ะ
โดยเฉพาะไฟหน้า ถูกจริตดิชั้นมาก รักอ่ะ.. <3
ต่อไปมาดูเครื่องในตับไตไส้พุงของนางกัน อย่าถามเรื่องเครื่องยนต์ เพราะไม่รู้เรื่องเลย 555+ รู้แค่ว่า เป็นเครื่องใหม่
2.0 Direct Injection แบบฉีดพุ่งตรงภายในปิ๊ดๆ แรงม้านี่น่าจะ 140 มั้ง ส่วนแรงบิด กำลังอัด บลาๆๆ เชิญ
www.nissan.co.th<http://www.nissan.co.th/> หรือรีวิวคุณจิมละกันค่ะ แบบว่าไม่รู้จริงๆ อิอิ
ส่วนที่ในคลับหลายคันช่วงล็อตแรกมีปัญหาเรื่องท่อแอร์รั่ว เท่าที่ดูคันนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยปรับสายท่อแอร์ให้ใหญ่อวบขึ้น
น่าจะป้องกันจุดนี้ได้เรียบร้อยแล้ว โดยรวมถือว่าไม่มีปัญหาค่ะ ส่วนเสียงเครื่องไม่ดังค่ะ แต่มันก็ไม่ได้เงียบมากนะ ก็ประมาณ
รถสมัยใหม่ทั่วๆไปค่ะ
. เสียงแตรหวานมาก ไม่ผ่าน 555+ อยากได้แบบห้าวๆอ่ะ ออยว่า Mazda 2 รุ่นก่อนยังเสียงดุดัน
เหมาะกว่าบุคลิครถมากกว่าอีก
-_-
แต่
.!!! เครื่องฉีดตรงตัวนี้ประหยัดดีนะคะ คือวันที่ออกรถจากศูนย์ตอนเช้ามืด น้ำมันในถังแทบไม่มี แวะจอดเติมเต็มถัง
แก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถังประมาณ 1,700 กว่าบาท แล้ววันนั้นพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวนครปฐมจากนั้นกลับมาบ้านพี่สาว
แถวสะพานใหม่แวะเติมอีก 600 กว่าบาท ให้เต็มถัง จากนั้นช่วงเช้ามืดพ่อกับแม่ขับกลับภูเก็ต พ่อบอกว่ามีแวะเติมที่สุราษฎร์
อีกประมาณ 800 กว่าๆ จากนั้นยิงยาวถึงภูเก็ต แล้วน้ำมันก็ยังเหลืออีกครึ่งถัง โดยประมาณก็จากกรุงเทพถึงภูเก็ตใช้น้ำมัน
ราวๆประมาณ 1,600 แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ประหยัดใช้ได้นะน้องเทาเทาลูกแม่..
มาดูด้านข้างกันค่ะ ด้านข้างก็ออกแบบดูเรียบๆธรรมดาไมได้หวือหวามากมาย มีโค้งเว้าตามหลักอากาศพลศาสตร์(มั้ง)
กรอบประตูประดับด้วยโครเมี่ยมดูหรูดีค่ะ กระจกมองข้างพับอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว ไฟเลี้ยวสวยดีค่ะ มีกล้องฝังอยู่ด้านล่าง
สำหรับฟังก์ชั่น Around View Monitor
มือจับประตูโครเมี่ยม มีปุ่มกดทั้งด้านคนขับและคนนั่งข้างเหมือนกัน กดหนึ่งครั้งสำหรับเปิดประตูแค่บานเดียว กดสองครั้ง
สำหรับปลดล็อคเพื่อเปิดได้ทุกบานค่ะ
ส่วนประตูเวลาเปิดปิดน้ำหนักประตูหนักใช้ได้ค่ะ เทียบกับรถเล็กที่ใช้อยู่รู้สึกว่ามันต่างกัน ให้ความรู้สึกดีกว่า
ต่อไปมาดูบั้นท้ายกับสะโพกของนางกันบ้าง ดูจากรูปนี่ถ้าดูมุมเอียงหรือด้านข้างๆนี่ออยว่ามันสวยเลยแหละ แต่
พอเดินมาดูด้านท้ายแบบตรงๆ ทำไมมันสวยเรียบจัง แบบเรี๊ยบเรียบบบบอ่ะ (ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปท้ายตรง)
รู้สึก CRV จะสวยกว่าในการออกแบบโดยรวมของด้านหลังตัวรถ แต่ยังไงก็แล้วแต่ ต้องพยายามมองให้มันสวย
เพราะเราต้องผ่อนอีก 4 ปี ฮ่าๆ
เสาอากาศ ตามรูปค่ะ ชี้ขึ้นฟ้าท้าแดดท้าลม ส่วนประตูรุ่นนี้เป็นแบบช่วยตัวเองนะคะ คือแบบว่า
กดปุ่มแล้วงัดขึ้นสิค่ะ
รออะไร!!! ส่วนประตูหลังนี่เปิดง่ายเบาดีค่ะ ก็แหงสิ พลาสติกทั้งดุ้น อิอิ
เคาะดูสิค่ะจอร์จ
ปั๊กๆๆๆ!! อุ๊ย พลาสติกนี่นา!...
เอาน่า นางทำสวยเนียนอยู่ละ.. รับได้
ไฟท้ายทรงเรียบๆ แต่ไฟกลางคืนเวลาเปิดสวยนะ ตามรูปนี่ตอนที่ไปส่งพ่อที่พระรามสองตอนเช้ามืด ยิ่งตอนเหยียบเบรกด้วยนี่
แสบตามากกกก
แต่ไฟท้ายถ้ามองใกล้ๆมันไม่ใช่ไฟหลอดยาวแบบ Fortuner นะคะ มันเป็นแบบหลอดๆธรรมดาแต่ด้วย
การออกแบบโคมภายในกับใช้หลักการสะท้อนแสงทำให้ออกมาเป็นแบบนี้ (ดูเป็นหลักการและมีความรู้ใช่มั้ยค่ะ
แต่ดิชั้นเดามั่วค่ะ 555+) จริงๆอยากให้ใช้แบบหลอดยาวๆแบบ fortuner มากกว่า ทำแนวนี้แล้วน่าจะทำให้สุดไปเลย
อันนี้เหมือนทำไม่สุด อารมณ์ค้างนิดๆ..
รุ่นนี้ไม่มีเสียงกะระยะนะคะ ถ้าใครอยากมีก็ต้องไปติดเพิ่มเอา เพราะนางมีกล้องมองหลังกับ Around View Monitor อยู่แล้ว
มาต่อกันที่ภายในค่ะ
มาดูประตูทางเข้า ค่อนข้างใหญ่กว้างขวางตามขนาดรถ เข้าออกค่อนข้างสะดวกค่ะ สีภายในเป็นทูโทน สีเบจกับดำ
ส่วนตัวอยากให้พวงมาลัยเป็นสีดำมากกว่า เพราะทำสีนี้แล้วต้องจับมันทุกวัน มันจะสกปรกง่าย....และดูรวมๆภายในก็ดูโปร่งดีค่ะ
ส่วนนี้ก็เป็นคอนโซลหน้า วัสดุโดยรวมโอเคดีใช้ได้ เดี๋ยวนี้เวลานั่งเห็นเค้าชอบเอามือจิ้มคอนโซลดูว่ามันนิ่มมั้ย ก็เลยจิ้มบ้าง
ก็นิ่มดีค่ะ คือวัสดุมันแข็งแต่ที่หุ้มด้านนอกให้สัมผัสนิ่มนิดๆให้ความรู้สึกดี แต่พอจิ้มไปเรื่อยๆจากล่างขึ้นบน พอเลยตรงจุดที่วางพระ
จิ้มไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงกระจกหน้ารถ มันเริ่มไม่นิ่มละ แต่มันยวบแทน 555+ บ๊างบางอ่ะ พ่อคุณทูนหัว..
ต่อไปก็ชุดเครื่องเสียง คุณภาพเสียงดีใช้ได้ ปรับหาคลื่นก็เร็วดี หน้าจอแค่ 5 นิ้วหน้าจออาจจะเล็กและสั้นไปนิดถ้าเทียบกับรถสมัยนี้
แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรใช้งานได้ และตอนใช้ฟังก์ชั้น Around View Monitor ก็ใช้งานได้ดีค่ะ จอชัดดี แต่อาจจะเล็กถ้าเทียบกับ
จอ 7 นิ้วของรุ่น 2.0V, 2.5
แอร์เป็นแอร์อัตโนมัติปรับอุณหภูมิแยกซ๊ายขวา มีแอร์ด้านหลังด้วย แอร์เย็นดีมากค่ะ ส่วนตัวชอบปรับเองมากกว่า
เพราะตั้งอัตโนมัติแล้วนางชอบเอาอากาศด้านนอกเข้ามา เวลาขับผ่านรถขยะหรือรถที่ควันดำๆเหม็นๆ
นางก็พากลิ่นเข้ามาด้วย ขับๆอยู่เกือบเป็นลมหมดสติ
มีช่องเสียบ USB 2 ช่อง ช่องนึงอยู่ด้านล่างใกล้เกียร์ อีกช่องนึงอยู่ในกล่องที่วางแขนคนขับ นอกเหนือจากนี้ก็มี AUX,
ช่องจุดบุหรี่
ต่อไปพวงมาลัย ดูสิ ใช้ไม่เท่าไหร่ดำละ ส่วนหน้าปัดเรือนไมล์ก็เป็นไฟขาวมีรายละเอียดบอกค่อนข้างครบนะคะ
แต่ฟังก์ชั่นเสียดายไม่มีภาษาไทย เพราะพ่อบ่นว่า อ่านไม่ออกเจ็บหัวเหม็ดนิ
ส่วนตรงพวงมาลัยก็มีปุ่มฟังก์ชั้นเปลี่ยนรายละเอียดตรงหน้าจอ เพิ่ม-ลดเสียงลำโพง ฯลฯ ก็ควบคุมทุกอย่างครบถ้วน
แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยได้ใช้นะคะ และพวงมาลัยปรับชักเข้าชักออก เลื่อนขึ้นเลื่อนลงได้ค่ะ
ที่ปัดน้ำฝนคันนี้ไม่แข็งเหมือนที่มีปัญหาในล็อตแรกๆ มีฟังก์ชั่นปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ไฟหน้าอ้ัตโนมัติ ปรับไฟตัดหมอก ฯลฯ
ก็ควบคุมตรงส่วนนี้หมดเหมือนรถทั่วไป
ต่อไปก็คันเกียร์ ต้องเอาปลอกมาใส่ เพราะจำได้ตอนไปดูรถแรกๆคันนี้จอดอยู่บนโชว์รูม หัวเกียร์คันนี้ผ่านมาหลายมือละ
คนโน้นจับมั่งคนนี้จับมั่ง คนซื้อยังไม่ได้ใช้หัวเกียร์ก็ดำซะละ ... การเข้าเกียร์ก็ไม่ยุ่งยาก ดันขึ้นดันลง ตอนแรกไม่แน่ใจว่า
ต้องเลื่อนเกียร์มาทางขวารึเปล่า ปรากฎว่าพอลองแล้วเหมือนมันชิฟเกียร์ให้เป็นเกียร์ต่ำอะไรประมาณนี้ค่ะ ส่วนเกียร์ตอนขับ
ก็สมูทดีนะคะ ไม่มีอาการกระตุกเหมือนที่เคยกลัว เนื่องจากคันนี้เป็นรถคันแรกที่ใช้ที่เป็นเกียร์ CVT
ส่วนนี้ก็เป็นที่ปรับแสงไฟหน้าจอ ทริปรีเซ็ท ด้านล่างก็ปุ่มควบคุม VSC กับ ECO Mode... ให้ช่องมาซะเยอะ
แต่ปุ่มใช่ได้แค่ 2 ปุ่ม ฮ่าๆ เบรกใช้เป็นเบรคเท้าแทนเบรคมือ ส่วนตัวถนัดแบบมือมากกว่า อีกอย่างเบรคเท้ามันเกะกะ
ในบางครั้งเวลาขับขี่ ส่วนเบรคใช้งานได้ดีแต่แรกๆต้องปรับตัวนิดหน่อย คันเร่งอะไรก็ใช้งานได้ดีค่ะ แต่รุ่นนี้เหมือนต้อง
เหยียบลึกนิดนึงถ้าหากต้องการให้เครื่องรีดแรงพุ่งๆหรือช่วงจะแซง ไม่งั้นนางจะไปของนางเรื่อยๆ (เหมือนจะอืดแต่มันไม่อืด)
ส่วนปุ่มเปิดฝาน้ำมันกับกระโปรงหน้าก็ตรงนี้เลยค่ะ
เก้าอี้นั่งปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ 8 ทิศทาง มีดันหลัง สำหรับคนขับ แต่คนนั่งข้างปรับ 4 ทิศทาง (ถ้าจำไม่ผิด) เบาะนั่งสบายดีค่ะ
พนักพิงไม่ดันหัวมาก ถ้าปรับเอนเบาะเยอะก็ไม่ดัน ดันหลังก็ทำได้ค่อนข้างดี โอบกระชับใช้ได้ค่ะ วัสดุหนังของเบาะทำได้ค่อนข้างดี
ตรงนี้บานประตูด้านคนขับ มีปุ่มปรับพับกระจกมองข้าง ปรับกระจก ปลดล็อค ฟังก์ชั่นปกติทั่วไปค่ะ แต่ว่าปลดล็อคประตูมัน
อยู่ในหลืบไปหน่อย เวลาจะปลดล็อคมันจิ้่มลำบากหน่อยค่ะ อยากให้เอามาไว้ด้านบนมากกว่า เพราะว่าต้องใช้ประจำทุกวัน
ส่วนปรับกระจกมองข้างเอามาไว้ในหลืบ เพราะเราคงไม่ได้ปรับมันบ่อย อยากให้สลับตำแหน่งกันนะความเห็นส่วนตัวค่ะ
อันนี้เป็นที่นั่งตอน 2 ด้านหลัง เข้าออกสบายมาก เนื้อที่เหนือศรีษะเหลือบาน วู๊ววว เธอช่างโปร่งดีจัง เบาะนั่งสบายดี
ปรับเอนได้แต่ก็ไม่ถึงกับเยอะอะไรมาก พื้นที่วางขาสบายยยยย นั่งไขว่ห้างสวยๆแบบคุณนายได้ ในกรณีไม่มีคนนั่งแถว 3
ก็ปรับเลื่อนลงไปได้อีก ส่วนตัวชอบมากค่ะ
เบาะนั่งทำมาค่อนข้างนั่งสบายดี ตรงกลางมีที่วางแก้วให้ (แต่ยังพัับที่วางแก้วให้แยกลงมาไม่เป็น 555) ส่วนที่นั่งแถว 3
วันที่ออกรถแล้วไปนครปฐม มีพ่อแม่ น้าสาว ออย พี่สาว พี่เขย หลาน... พี่สาวกับหลานตัวเล็กเลยได้สิทธิ์นั่งหลัง อิอิ
สัมภาษณ์พี่สาวตอนเป็นผู้หญิงแถว 3 ว่าเป็นยังไงบ้าง?... นางบอกว่าโดยรวมนั่งได้ ไม่เวียนหัว แต่พื้นที่ขาจำกัด และ
ทำให้แถวสองต้องขยับปรับขึ้นมาด้านหน้า 1 ระดับ แถวสองก็นั่งได้ปกติแต่อาจจะกินพื้นที่วางขาทำให้ไม่สบายมากนัก
และการเอนเบาะแถวสอง ก็ต้องปรับเอนขึ้นมาระดับนึง ทำให้นั่งชันขึ้น เพื่อให้แถวสามมีพื้นที่มากขึ้น ประมาณว่าหากจะ
นั่งแถวสามในกรณีนั่ง 7 คน แถวสองก็ต้องช่วยแบ่งปันความลำบากกันคนละนิดละหน่อย แบ่งๆกันไป อิอิ... แต่...
คนนั่งเบาะ 2 ห้ามตดนะเพราะคนนั่งเบาะ 3 อาจตายได้...
อันนี้พื้นที่ด้านหลัง หลานสาวชอบให้เปิดท้ายขึ้นไปนั่ง นางบอกกว้างดี และหลังจากพับเก็บเบาะสาม ปกติพ่อแม่ก็มี
ขนของไปร้านทุกเช้า ไม่ได้ขนมาก ก็มีผักโน่นนี่นั่น กับกะละมังใบเขียวคู่ใจของนาง.. โดยรวมพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเพียงพอ
อเนกประสงค์ดีใช้ได้ค่ะ ด้านล่างก็มีล้ออะไหล่กับอุปกรณ์ติดรถทั่วไป ท้ายรถเปิดได้สูงมากกก สูงจนแม่เอื้อมไม่ถึง
(นางแอบบ่นเล็กน้อยแต่บ่นแบบฮาๆ) ...
*****สรุป*****-ช่วงล่างนุ่มสบายค่ะ ไม่แข็งกระด้าง และยึดเกาะถนนดีแม้กระทั่งทางโค้ง ยังเกาะถนนได้ดี (ถ้าเทียบกับรถที่ใช้มา)
แต่ส่วนตัวอาจจะไม่ชินกับการขับรถยกสูงแบบนี้ ทำให้ตอนขับชอบนึกว่าตัวเองกำลังขับรถสิบล้อ นี่ถ้าได้ขับฟอร์จูนเนอร์
ที่ยกสูงกว่าน่าจะเกร็งกว่านี้ 555
-การเก็บเสียงภายในทำได้ดีค่ะ เสียงเครื่องยนต์กับเสียงรบกวนภายนอกถือว่าเก็บได้ดีทีเดียว
-การประกอบภายนอกภายใน / ภายนอกทำได้ดีค่ะ ส่วนตัวมองทุกซอกทุกมุมตอนล้างรถ ประกอบได้แนบสนิทกันดี
ไม่มีส่วนไหนแง้มหรือมีตำหนิ รวมถึงก้มดูใต้ท้องรถด้วย ยังไม่มีสนิมนะ / ส่วนภายในก็ยังมีที่น่าติบ้างเช่นแถวบานประตู
วัสดุบางชิ้นดูบางและประกอบยังไม่แน่นดี คอนโซลหน้าด้านบนที่มันบางจัง รวมถึงช่องแอร์ที่หลายคันมีเสียงดัง คันนีั้ก็มีบ้าง
แต่ไม่ตลอดเวลา เฉพาะเวลาขับบนถนนที่ทางขรุขระ จะได้ยินเสียงแอ๊ดๆๆๆๆๆ เบาๆตรงช่องแอร์ฝั่งคนนั่งข้าง นอกนั้นผ่านค่ะ
-สมรรถนะเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ไม่ถึงกับแรงพรุ่งปรู๊ดปร๊าด แต่ใช้งานเพียงพอกับชีวิตประจำวัน แต่ถ้าจะเรียกกำลังเครื่อง
ต้องกดคันเร่งให้ลึกนิดนึง ถ้าเหยียบเบาๆนางจะมาแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ... ถ้าเหยียบลึกๆหน่อยก็...เค้ามาแล้ว...จุ๊กกรู๊!
-ขับทางไกลรู้สึกเมื่อยเวลาควบคุมพวงมาลัย เหมือนจะเบาไปนิดหรือยังไงนี่แหละทำให้ต้องจับมันแน่นๆตลอดเวลา
อันนี้ข้อเสียค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่มากมาย ก็ยังรับได้อยู่ ^0^
-ฟังก์ชั่นและระบบความปลอดภัย ส่วนตัวมองว่าเพียงพอแล้ว เพราะเอาเข้าจริงๆฟังก์ชั่นที่อัดแน่นเข้ามามากมาย
เวลาใช้รถจริงอาจจะใช้มันได้ไม่หมด ยกเว้นกรณีระบบความปลอดภัย อันนี้คิดว่าจำเป็นค่ะ ซึ่งคันนี้ก็ให้มาค่อนข้างครบถ้วน
ผ่าน /... ยกเว้นถุงลมมีแค่ 2 ใบเอง -_-
-การบริการของศูนย์ ดีค่ะ พนักงานใส่ใจดีมาก เจ้าของก็ใส่ใจลูกค้าดีค่ะ แต่หลังจากนี้ต้องดูต่อไปว่าศูนย์ที่ภูเก็ต
เวลาเอาเข้าไปเช็คระยะการบริการจะดีหรือเปล่า..?
ส่วนตัวคิดว่าพอใจกับคันนี้ รู้สึกไม่เสียดายหรือผิดหวังที่จะต้องผ่อนอีก 4 ปี 555+ เหมาะค่ะสำหรับครอบครัวที่
ต้องการรถ SUV ที่ยกสูงแต่ยังได้บรรยากาศการขับขี่แบบเก๋ง และอเนกประสงค์ดีค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มี
ไม่เกิน 5 คน แต่ถ้า 7 คนรวมเด็กกับคนตัวเล็กๆก็สามารถใช้งานได้ (แต่อาจจะไม่ได้สบายมากมายนักถ้าเทียบกับ
ใช้งานไม่เกิน 5 คนเพราะเบาะแถวสองสามารถเลื่อนมาจนสุด) และช่วงล่างทำมาได้ค่อนข้างดี นุ่มแต่เกาะถนนดี
ค่อนข้างมั่นใจในการขับขี่ มุมมองการขับทำได้ดี ฟังก์ชั่นทั่วไปที่ให้มามีพอสมควรไม่ด้อยกว่าคู่แข่งในตลาด
ถือว่าคันนี้ทำมาได้ดีมากคันนึงเลย
รวมๆส่วนตัวคิดว่ามันโอเคกว่า CRV แต่ถ้าเทียบเรื่องสมรรถนะความแรงของรถหรือช่วงล่างที่เก๋กว่าอาจจะต้องยอม
CX-5 ไปตามที่เห็นคุณจิมรีวิว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รสนิยมความชอบของแต่ละคนย่อมต่างกันและรถยนต์แต่ละคันต่างมี
จุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป อยู่ที่ว่าเรารับได้หรือรับไม่ได้แบบไหน
แต่.... ถ้าให้ซื้อใช้ส่วนตัวซื้อมั้ย?... ตอบเลยว่าไม่ 555+ เพราะส่วนตัวยังคิดว่าตัวเองเหมาะและชอบรถประเภท
เก๋งมากกว่า ชอบขับรถเบาะต่ำๆให้ความมั่นใจและเหมือนไม่ต้องระวังอะไรมากเหมือนรถยกสูง และคิดว่าส่วนตัวรถไซส์
C Segment เช่นพวก Mazda 3, Altis, Civic เพียงพอแล้วสำหรับการใช้รถของตัวเองในปัจจุบัน โดยเฉพาะ
ในกรุงเทพที่ต้องการความคล่องตัวในการขับเยี่ยงนักแข่งรถมืออาชีพ ต้องระวังรถรอบข้างว่าใครจะเบียดชั้นมั้ย
ใครจะจี้ตูดชั้นมั้ย ใครจะปาดหน้า และยังต้องระวังมอเตอร์ไซค์อยู่ตลอดเวลา ฮ่าๆ...
สำหรับคนที่ต้องการมองหารถสำหรับครอบครัวที่ไม่เกิน 5 คน ลองไปขับดูนะคะ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆ
ของ SUV ในรูปแบบเก๋งยกสูงค่ะ
ขอบคุณค่ะ
