ผู้เขียน หัวข้อ: อยากรบกวนสักคำถามนึง ระหว่าง forester 2.0il กับ new fortuner 4wd 2.8 หากเป็นคุณ?  (อ่าน 11102 ครั้ง)

ออฟไลน์ Devill_PRO

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 66
ถ้าขับรถเร็ว ไม่มุด ตรงๆยาวๆ ผมว่า FTN เพราะตัวใหม่ไม่ใช่ Fulltime 4WD
ถ้าชอบโค้ง มุดๆ วิ่งนิ่มๆ เงียบๆ Forester ดีกว่า แต่ต้องเปลี่ยนยางใหม่ เพราะนิ่มไปหน่อย
ความปลอดภัยอุปกรณ์ให้มาเหมือนๆกัน แต่พื้นฐานของรถต่างกัน กดมาเร็วๆเกิดเหตุการณ์ขับขัน SUV ได้เปรียบกว่า
ซื้อรถขับแล้วสบายใจดีที่สุดครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
คุณขับรถเร็วประมาณไหนครับ
ผมไปลองขับฟอร์มาแล้ว ช่วงล่างตัวขับสี่พาร์ทไทม์มันดีกว่าขับสองตัวเก่าเยอะ อารมณ์ก็พอๆกับ 4WD FT ตัวเก่านั่นแหละ
แต่ที่ดีขึ้นมาพอสมควรเลยคือ การเก็บเสียง ความนิ่มนวล การซับแรงสะเทือน ความเป็นกระบะจากตัวเก่าหายไปเยอะเหมือนกัน
ถ้าขับเร็ว แต่ก็แค่ทรงตรงๆ ไม่ได้บู๊โหดกระจาย ผมว่าฟอร์เปลี่ยนช่วงล่างจบเลย ได้บอดี้ใหม่ แรงบิดดีเซล ตกรุ่นอีกสิบปี

ออฟไลน์ PunTam

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
    • อีเมล์
ถ้าไม่ได้เอาไปลุยอะไรมาก อาจมีเลอะๆบ้าง ไม่ลองดู CX-5 ดีเซลหละครับ แต่ถ้าเน้นความสบาย ขับเร็ว แล้วไม่ได้ลุยหนักๆอะไร Forester ก็น่าใช้ครับ ตัว 2.0 ไม่ได้อืดในความรู้สึกผม แต่สำหรับตัวนี้ เห็นตามทุกท่านครับ Turbo ขับสนุกกว่า และกินน้ำมันต่างกันไม่มาก แต่ถ้าต้องใช้อยู่ในป่าเขาบ่อยๆ Fortuner เลยครับ ยังไงอะไหล่และความทนทานในการตะลุยป่า รวมทั้งของแต่งสำหรับ 4*4 โตโยต้ามีเพียบครับ
ปล.อย่าเพิ่งเชื่อผมจนกว่าจะลองขับทั้ง 2 คัน แล้วค่อยเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดครับคุณครับ 

ออฟไลน์ JF2KPNSX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 407
เป็นผมเลือกที่รูปโฉมครับ เวลามอง คันไหนสวยในสายตาผม เวลาอยู่ในรถเรารู้สึกดีทุกอย่าง เวลาอยู่นอกรถ เรามองมาที่รถเรา เรารู้สึกดีทุกอย่าง
การขับขี่ ความแรง สามารถอัพเกรดเพิ่มได้ อุปกรณ์อะไรบางอย่างสามารถอัพเพิ่มภายหลังได้ แต่การออกแบบมันเปลี่ยนแปลงได้ยาก

สำหรับความคิดเกี่ยวกับการขับขี่ ในความเห็นของผมนะครับ ยสตน (ย้ำ! ส่วนตัวนะ)
ในการขับขี่แต่ละครั้ง เราได้ใช้รถขนาดที่ว่า ถึงลิมิตทุกครั้งรึเปล่า? ท็อปสปีด ตะบี้ตะบันเหยียบ มุดปาดไปมา เข้าโค้งไหน คันเร่งไม่ยก เติมไปไม่ยั้ง
ถ้าไม่ ก็เลือกรถที่สมรรถนะเป็นรองหน่อยแต่สวยกว่า ฟิลลิ่งจริงคงไม่ขี้เหร้ถึงขั้นรับไม่ได้หรอกครับ
เวลาขับรถต้องรู้ลิมิตตัวเอง รวมถึงลิมิตของรถ เมื่อรถถึงลิมิตเราก็แค่ทำให้มันอยู่ในระดับที่เราคุมอยู่ ไม่พอใจก็ไปแต่งเพิ่ม เพิ่มลิมิตรถเข้าไปอีก
สำหรับรถที่สมรรถนะที่เกินไปมาก แต่เราไม่ได้ใช้ถึงขนาดนั้น มันก็สูญเปล่าอยู่ดีครับ (แต่ก็นะ เหลือดีกว่าขาดอีกนั่นแหละ)

คู่นี้ ผมเลือกฟอร์ครับ ดูดีและชอบมากกว่า

ปล.ยสตน ครับ!!!

ออนไลน์ starlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
เป็นผมเลือกที่รูปโฉมครับ เวลามอง คันไหนสวยในสายตาผม เวลาอยู่ในรถเรารู้สึกดีทุกอย่าง เวลาอยู่นอกรถ เรามองมาที่รถเรา เรารู้สึกดีทุกอย่าง
การขับขี่ ความแรง สามารถอัพเกรดเพิ่มได้ อุปกรณ์อะไรบางอย่างสามารถอัพเพิ่มภายหลังได้ แต่การออกแบบมันเปลี่ยนแปลงได้ยาก

สำหรับความคิดเกี่ยวกับการขับขี่ ในความเห็นของผมนะครับ ยสตน (ย้ำ! ส่วนตัวนะ)
ในการขับขี่แต่ละครั้ง เราได้ใช้รถขนาดที่ว่า ถึงลิมิตทุกครั้งรึเปล่า? ท็อปสปีด ตะบี้ตะบันเหยียบ มุดปาดไปมา เข้าโค้งไหน คันเร่งไม่ยก เติมไปไม่ยั้ง
ถ้าไม่ ก็เลือกรถที่สมรรถนะเป็นรองหน่อยแต่สวยกว่า ฟิลลิ่งจริงคงไม่ขี้เหร้ถึงขั้นรับไม่ได้หรอกครับ
เวลาขับรถต้องรู้ลิมิตตัวเอง รวมถึงลิมิตของรถ เมื่อรถถึงลิมิตเราก็แค่ทำให้มันอยู่ในระดับที่เราคุมอยู่ ไม่พอใจก็ไปแต่งเพิ่ม เพิ่มลิมิตรถเข้าไปอีก
สำหรับรถที่สมรรถนะที่เกินไปมาก แต่เราไม่ได้ใช้ถึงขนาดนั้น มันก็สูญเปล่าอยู่ดีครับ (แต่ก็นะ เหลือดีกว่าขาดอีกนั่นแหละ)

คู่นี้ ผมเลือกฟอร์ครับ ดูดีและชอบมากกว่า

ปล.ยสตน ครับ!!!


ผมชอบความเห็นนี้นะ  อ่านดูแล้วได้ ฟิลลิ่งในการขี่ขับ   แต่ยุคสมัยนี้ มันควรมีถุง ลมหลายๆใบ  อะไรๆมันไม่แน่นอน ป้องกันไว้ก่อน  ;)