ผู้เขียน หัวข้อ: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่  (อ่าน 4598 ครั้ง)

ออฟไลน์ pitydog

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 147
รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« เมื่อ: ตุลาคม 17, 2015, 11:20:19 »
w140 , w220 กับ camry,accord ปี2008-2010 มือสอง ช่วยแนะนำข้อดีข้อเสียหน่อยครับ พอดีสนใจครับ
อยากได้มาใช้ทุกวัน วิ่งวันละ 20-100กม ในเมือง และประหยัดน้ำมันหรือทนแก๊ส แต่เบนซ์กลัวซ่อมบ่อยครับ เคยใช้ clk ปี 05 ก็มีซ่อมบ้าง แต่ก็พอรับได้ครับ แต่ที่บ้านมี camry ปี2000 อีกคันแทบไม่ต้องซ่อมเลยครับแค่ดูแลตามระยะ

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,567
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2015, 11:46:14 »
ญี่ปุ่นใหม่ดีกว่าเยอะ
w140มือสองตอนนี้ขายกันสองแสนกว่าซ่อมอีกสามแสนคับถึงจบ

ออฟไลน์ =TUM=

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 631
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2015, 12:47:51 »
W140 เครื่อง M104 ก็ทนแก๊สดีนะครับ เป็นเบนซ์รุ่นที่เรียกว่าทน ได้มาต้องเผื่องบเก็บงาน 2แสน ก็ไม่น่าจะมีอะไรครับ อัตราเร่งอืดกว่าแต่อย่างอื่นคนละเรื่องกับ camry ถึงมันจะ 20 ปีแล้วก็เถอะ ลงทุนตัวรถกับเก็บงานงบ 600,000 แต่ได้เบนซ์ Lady Diana นั่ง

ถ้าเป็นผม มีรถสำรองอยู่แล้วอาจจะไปเบนซ์ แต่ถ้าเป็นรถคันเดียวใช้งานหลัก ไปญี่ปุ่นแบบไม่ต้องคิดครับ

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,874
  • เส้นขอบฟ้า
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2015, 13:13:02 »
ผมเขาใจอารมณ์ จขกท. นะครับ เหมือนผมเลยครับความเป็นจริงคือรถใช้งานคันแรกเราต้องเลือกรถที่ปัญหาน้อยที่สุดก็เลยต้องเลือกรถญี่ปุ่นก่อน แต่ในใจมันก็ยังมีกิเลส

อยากได้รถยุโรปอยู่ซึ่งตัดไงก็ตัดไม่ขาด แต่ถ้า จขกท. มีรถใช้งานอยู่แล้วแล้วอยากได้ไม่เดือดร้อนก็ซื้อได้ครับถ้าคิดว่าจะรับกับการต้องพามันเขาอู่บ่อยหน่อยกว่ารถญี่ปุ่น

จาก 2 คันที่ จขกท. ว่ามาผมเชียร์ W220 ครับผมว่ามันก็ยังสวยอยู่นะเส้นสายดูดีอยู่ได้อีกนาน

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2015, 14:43:40 »
3 ตัวเลือกนี้ผมตัด W220 ออกก่อนเลยครับ ค่าซ่อมแพง+จุกจิกเกินไป เป็นS-Class ที่คนใช้เบนซ์เลี่ยงกันเยอะที่สุด

ที้นี้เหลือ W140 กับ Camry,Accord วิเคราะห์กรณีที่ต้องใช้ทุกวันวันละ20-100กิโล

W140
- กินน้ำมัน
- ทนแก๊ส(เลือกรถที่เป็นSหน้านะครับ หลังปี94)
- ช่วงล่าง นั่งสบาย เกาะถนนกว่าCamry,Accord
- ระบบไฟฟ้าซับซ้อน จากอายุรถยังไงก็ต้องมีเสียบ้างรับได้หรือเปล่า กรณีแบบเดี๋ยวประตูไม่ดูด เบาะไฟฟ้าปรับไม่ไป ไฟหน้าปัทโชว์ บลาๆๆ ไม่ได้เสียพร้อมกันแต่มาเรื่อยๆ
- อัตราเร่ง ต้นอืด ปลายจัด
- อะไหล่มือหนึ่งแพง มือสองก็พอไหว อะไหล่เยอะแต่ต้องซื้อตามแหล่งถึงจะได้ราคาถูก
- ราคาค่าซ่อมถ้าหารถดีๆได้ตอนเก็บงานครั้งแรกก็ซ่อมไม่เยอะ ยอมเลือกที่จะจ่ายแพงเพื่อรถสวยๆแล้วเอามาทำไม่เยอะดีกว่า เครื่อง เกียร์ไม่พังยังไงก็ไม่ถึงแสน

Camry,Accord ภาพรวม
-ประหยัดน้ำมันกว่า
-ทนแก๊ส
-ช่วงล่างโอเค แต่ถ้าวัดกับW140คงบอกคนละเรื่องกันเลย
-ต้นมาไวกว่าW140 ปลายสูสี แต่ช่วงล่างที่ความเร็วสูงสู้ไม่ได้ ร่อนกว่า
-อะไหล่หาง่าย ศูนย์เยอะ เข้าได้หมด ราคาสมเหตุสมผล อู่นอกก็เยอะ
-รถยังใหม่ ถ้าได้สภาพดีๆมาใช้ยาวๆไม่ต้องซ่อมเลย



ญี่ปุ่นใหม่ดีกว่าเยอะ
w140มือสองตอนนี้ขายกันสองแสนกว่าซ่อมอีกสามแสนคับถึงจบ

สามแสนนี่ซ่อมอะไรบ้างครับ ช่วยชี้แจงด้วยก็ดีครับ งบนี้นี่เหมือนปั้นจากซากรถเลยนะครับ ผมว่ายังไงก็ไม่ถึง หัวตัดทั้งคันสภาพดีๆประมาณแสนกลางๆเองครับ

ออฟไลน์ J@K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 572
  • ไม่ซิ่ง.....ก็ซี้
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2015, 15:28:13 »
ผมคงเลือก Camry ติดแก๊สมั่นใจในฝีมือช่างมากกว่า + ทำช่วงล่าง
@ngel gunman

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2015, 14:32:03 »
ใช้ทุกวันเลือกรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
โอกาสเสียของเบนซ์ อายุเกิน 10ปี มีสูงมาก
ยกเว้นมีรถสำรอง หรือมีอู่ใกล้บ้าน

ผมใช้เบนซ์อายุเกิน 10ปี ไปส่งลูกและทำงานทุกวัน
เพราะไม่มีตังซื้อรถใหม่ ใช้ไปซ่อมไป เสียเมื่อไรก็ยืมรถภรรยา
คิดเสียว่าประหยัดเงินกว่าซื้อ

ถ้าสนใจซื้อเบนซ์ ไม่ว่าจะ 140 หรือ 220 ให้ซื้อเพราะชอบและรักที่จะขับ
และยินดีที่จะซ่อม ถ้าดูแลดีๆ รับรองว่าขับและนั่งดีกว่าญี่ปุ่นเยอะ
แต่ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ถี่กว่า

เช่น ทำช่วงล่างทีหลักหมื่น จนถึงหลายหมื่น
จาก Camry ไล่ไป 140 จนขึ้นไป 220 ชิ้นต่อชิ้นแพงกว่าเยอะ
ของประหลาดบางอย่าง รถญี่ปุ่นไม่มีให้ซ่อม แต่ 220 มันโผล่มา
ให้ซ่อม แล้วมาทีหลักหมื่น บางทีโผล่มาคูณสี่อีกแหนะ

ใช้ญี่ปุ่นเข้าศูนย์ไม่ถูก แต่ก็ไม่เวอร์
ใช้เบนซ์ที่หมดประกันแล้ว จะไปไหนหละครับ
ต้องมีอู่เฉพาะที่เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้
ไม่งั้นเหนื่อย

อาการเสียบางอันของเบนซ์ เสียทีต้องจอดเลย
ไม่สามารถทนใช้ไปก่อน อันนี่ต้องเผื่อใจ

ที่สำคัญ Camry 2010 ราคาถูกกว่า 220 สภาพดีครับ
จะเล่น 220 ต้องใช้ทุนสูงกว่าเยอะ ได้รถเก่ากว่ากันนเกือบ 10ปี
รับได้ไหมครับ ต้องถามใจตัวเองและครอบครัว

140 ต้องเป็นรถรู้ประวัติที่ดูแลดี ไม่เช่นนั้นรับรถ 20ปีมาซ่อมครับ
เหนื่อยใจเปล่าๆ

สรุป หารถใช้งานเชียร์ญี่ปุ่นปี 2010 ครับ
หารถขับโดยมีรถอื่นสำรอง ลองเบนซ์คันโตก็ฟินดีครับ
แต่ถ้ามีอยู่ในมือ ดูแลให้ดีแล้วใช้ต่อครับ
อยากได้รถเบนซ์ใช้ทุกวัน แนะนำ e class แทนครับ
ไม่ค่อยจุกจิก ราคาค่าดูแลไม่จุกอก น่าจะประมาณ clk แบบที่เคยเจอ

ปล. ผมเองก็เฝ้ารอ 220 สภาพดี รู้ประวัตติ
ตัดสินใจแบบนี้โดยทำใจว่าได้รถมา ต้องเผื่อเงินทำโช๊คไฟฟ้าแสนอัพ
กลอนประตูข้างละหมื่นกว่า แล้วคุณหละทำใจรับเงื่อนไขนี้ได้ไหม

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,874
  • เส้นขอบฟ้า
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2015, 20:14:17 »
ใช้ทุกวันเลือกรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
โอกาสเสียของเบนซ์ อายุเกิน 10ปี มีสูงมาก
ยกเว้นมีรถสำรอง หรือมีอู่ใกล้บ้าน

ผมใช้เบนซ์อายุเกิน 10ปี ไปส่งลูกและทำงานทุกวัน
เพราะไม่มีตังซื้อรถใหม่ ใช้ไปซ่อมไป เสียเมื่อไรก็ยืมรถภรรยา
คิดเสียว่าประหยัดเงินกว่าซื้อ

ถ้าสนใจซื้อเบนซ์ ไม่ว่าจะ 140 หรือ 220 ให้ซื้อเพราะชอบและรักที่จะขับ
และยินดีที่จะซ่อม ถ้าดูแลดีๆ รับรองว่าขับและนั่งดีกว่าญี่ปุ่นเยอะ
แต่ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ถี่กว่า

เช่น ทำช่วงล่างทีหลักหมื่น จนถึงหลายหมื่น
จาก Camry ไล่ไป 140 จนขึ้นไป 220 ชิ้นต่อชิ้นแพงกว่าเยอะ
ของประหลาดบางอย่าง รถญี่ปุ่นไม่มีให้ซ่อม แต่ 220 มันโผล่มา
ให้ซ่อม แล้วมาทีหลักหมื่น บางทีโผล่มาคูณสี่อีกแหนะ

ใช้ญี่ปุ่นเข้าศูนย์ไม่ถูก แต่ก็ไม่เวอร์
ใช้เบนซ์ที่หมดประกันแล้ว จะไปไหนหละครับ
ต้องมีอู่เฉพาะที่เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้
ไม่งั้นเหนื่อย

อาการเสียบางอันของเบนซ์ เสียทีต้องจอดเลย
ไม่สามารถทนใช้ไปก่อน อันนี่ต้องเผื่อใจ

ที่สำคัญ Camry 2010 ราคาถูกกว่า 220 สภาพดีครับ
จะเล่น 220 ต้องใช้ทุนสูงกว่าเยอะ ได้รถเก่ากว่ากันนเกือบ 10ปี
รับได้ไหมครับ ต้องถามใจตัวเองและครอบครัว

140 ต้องเป็นรถรู้ประวัติที่ดูแลดี ไม่เช่นนั้นรับรถ 20ปีมาซ่อมครับ
เหนื่อยใจเปล่าๆ

สรุป หารถใช้งานเชียร์ญี่ปุ่นปี 2010 ครับ
หารถขับโดยมีรถอื่นสำรอง ลองเบนซ์คันโตก็ฟินดีครับ
แต่ถ้ามีอยู่ในมือ ดูแลให้ดีแล้วใช้ต่อครับ
อยากได้รถเบนซ์ใช้ทุกวัน แนะนำ e class แทนครับ
ไม่ค่อยจุกจิก ราคาค่าดูแลไม่จุกอก น่าจะประมาณ clk แบบที่เคยเจอ

ปล. ผมเองก็เฝ้ารอ 220 สภาพดี รู้ประวัตติ
ตัดสินใจแบบนี้โดยทำใจว่าได้รถมา ต้องเผื่อเงินทำโช๊คไฟฟ้าแสนอัพ
กลอนประตูข้างละหมื่นกว่า แล้วคุณหละทำใจรับเงื่อนไขนี้ได้ไหม

Like Like

ออฟไลน์ regal

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
  • E90 320ise & E90 320dse
    • อีเมล์
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2015, 13:49:58 »
ถ้าไม่อยากยุ่งกับระบบที่ใกล้จะเสียตามเวลาเยอะเกินไปอย่ามอง S-Class กับ 7 Series เลยครับ

ลงมาดู E-Class กับ 5 Seiries จะสบายใจกว่าเยอะครับ
มีเท่าไหร่ ใส่ไม่ยั้ง เอาให้มันส์ น้ำมันฮวบ!!!

ออฟไลน์ PM_SW

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 289
  • Audi A4 B5
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2015, 20:09:23 »
ใช้ทุกวันเลือกรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
โอกาสเสียของเบนซ์ อายุเกิน 10ปี มีสูงมาก
ยกเว้นมีรถสำรอง หรือมีอู่ใกล้บ้าน

ผมใช้เบนซ์อายุเกิน 10ปี ไปส่งลูกและทำงานทุกวัน
เพราะไม่มีตังซื้อรถใหม่ ใช้ไปซ่อมไป เสียเมื่อไรก็ยืมรถภรรยา
คิดเสียว่าประหยัดเงินกว่าซื้อ

ถ้าสนใจซื้อเบนซ์ ไม่ว่าจะ 140 หรือ 220 ให้ซื้อเพราะชอบและรักที่จะขับ
และยินดีที่จะซ่อม ถ้าดูแลดีๆ รับรองว่าขับและนั่งดีกว่าญี่ปุ่นเยอะ
แต่ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ถี่กว่า

เช่น ทำช่วงล่างทีหลักหมื่น จนถึงหลายหมื่น
จาก Camry ไล่ไป 140 จนขึ้นไป 220 ชิ้นต่อชิ้นแพงกว่าเยอะ
ของประหลาดบางอย่าง รถญี่ปุ่นไม่มีให้ซ่อม แต่ 220 มันโผล่มา
ให้ซ่อม แล้วมาทีหลักหมื่น บางทีโผล่มาคูณสี่อีกแหนะ

ใช้ญี่ปุ่นเข้าศูนย์ไม่ถูก แต่ก็ไม่เวอร์
ใช้เบนซ์ที่หมดประกันแล้ว จะไปไหนหละครับ
ต้องมีอู่เฉพาะที่เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้
ไม่งั้นเหนื่อย

อาการเสียบางอันของเบนซ์ เสียทีต้องจอดเลย
ไม่สามารถทนใช้ไปก่อน อันนี่ต้องเผื่อใจ

ที่สำคัญ Camry 2010 ราคาถูกกว่า 220 สภาพดีครับ
จะเล่น 220 ต้องใช้ทุนสูงกว่าเยอะ ได้รถเก่ากว่ากันนเกือบ 10ปี
รับได้ไหมครับ ต้องถามใจตัวเองและครอบครัว

140 ต้องเป็นรถรู้ประวัติที่ดูแลดี ไม่เช่นนั้นรับรถ 20ปีมาซ่อมครับ
เหนื่อยใจเปล่าๆ

สรุป หารถใช้งานเชียร์ญี่ปุ่นปี 2010 ครับ
หารถขับโดยมีรถอื่นสำรอง ลองเบนซ์คันโตก็ฟินดีครับ
แต่ถ้ามีอยู่ในมือ ดูแลให้ดีแล้วใช้ต่อครับ
อยากได้รถเบนซ์ใช้ทุกวัน แนะนำ e class แทนครับ
ไม่ค่อยจุกจิก ราคาค่าดูแลไม่จุกอก น่าจะประมาณ clk แบบที่เคยเจอ

ปล. ผมเองก็เฝ้ารอ 220 สภาพดี รู้ประวัตติ
ตัดสินใจแบบนี้โดยทำใจว่าได้รถมา ต้องเผื่อเงินทำโช๊คไฟฟ้าแสนอัพ
กลอนประตูข้างละหมื่นกว่า แล้วคุณหละทำใจรับเงื่อนไขนี้ได้ไหม

สุดยอดเลยครับ

เป็นการอธิบาย ชี้แนะได้ครบ โดยไม่อิงฝ่ายใด จากผู้ใช้งานจริงๆครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2015, 11:09:06 »
รถยุ่นเถอะคร๊าบ

ออฟไลน์ jojow

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2015, 17:27:10 »
ใช้ทุกวันเลือกรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
โอกาสเสียของเบนซ์ อายุเกิน 10ปี มีสูงมาก
ยกเว้นมีรถสำรอง หรือมีอู่ใกล้บ้าน

ผมใช้เบนซ์อายุเกิน 10ปี ไปส่งลูกและทำงานทุกวัน
เพราะไม่มีตังซื้อรถใหม่ ใช้ไปซ่อมไป เสียเมื่อไรก็ยืมรถภรรยา
คิดเสียว่าประหยัดเงินกว่าซื้อ

ถ้าสนใจซื้อเบนซ์ ไม่ว่าจะ 140 หรือ 220 ให้ซื้อเพราะชอบและรักที่จะขับ
และยินดีที่จะซ่อม ถ้าดูแลดีๆ รับรองว่าขับและนั่งดีกว่าญี่ปุ่นเยอะ
แต่ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ถี่กว่า

เช่น ทำช่วงล่างทีหลักหมื่น จนถึงหลายหมื่น
จาก Camry ไล่ไป 140 จนขึ้นไป 220 ชิ้นต่อชิ้นแพงกว่าเยอะ
ของประหลาดบางอย่าง รถญี่ปุ่นไม่มีให้ซ่อม แต่ 220 มันโผล่มา
ให้ซ่อม แล้วมาทีหลักหมื่น บางทีโผล่มาคูณสี่อีกแหนะ

ใช้ญี่ปุ่นเข้าศูนย์ไม่ถูก แต่ก็ไม่เวอร์
ใช้เบนซ์ที่หมดประกันแล้ว จะไปไหนหละครับ
ต้องมีอู่เฉพาะที่เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้
ไม่งั้นเหนื่อย

อาการเสียบางอันของเบนซ์ เสียทีต้องจอดเลย
ไม่สามารถทนใช้ไปก่อน อันนี่ต้องเผื่อใจ

ที่สำคัญ Camry 2010 ราคาถูกกว่า 220 สภาพดีครับ
จะเล่น 220 ต้องใช้ทุนสูงกว่าเยอะ ได้รถเก่ากว่ากันนเกือบ 10ปี
รับได้ไหมครับ ต้องถามใจตัวเองและครอบครัว

140 ต้องเป็นรถรู้ประวัติที่ดูแลดี ไม่เช่นนั้นรับรถ 20ปีมาซ่อมครับ
เหนื่อยใจเปล่าๆ

สรุป หารถใช้งานเชียร์ญี่ปุ่นปี 2010 ครับ
หารถขับโดยมีรถอื่นสำรอง ลองเบนซ์คันโตก็ฟินดีครับ
แต่ถ้ามีอยู่ในมือ ดูแลให้ดีแล้วใช้ต่อครับ
อยากได้รถเบนซ์ใช้ทุกวัน แนะนำ e class แทนครับ
ไม่ค่อยจุกจิก ราคาค่าดูแลไม่จุกอก น่าจะประมาณ clk แบบที่เคยเจอ

ปล. ผมเองก็เฝ้ารอ 220 สภาพดี รู้ประวัตติ
ตัดสินใจแบบนี้โดยทำใจว่าได้รถมา ต้องเผื่อเงินทำโช๊คไฟฟ้าแสนอัพ
กลอนประตูข้างละหมื่นกว่า แล้วคุณหละทำใจรับเงื่อนไขนี้ได้ไหม

ขอตอบจากที่ดูแล W220 ตั้งแต่ป้ายแดงนะคับ(ของผมเป็นนำเข้านะคับ)
กลอนประตู ไม่ถึงหมื่นคับ จิงๆ ยังไม่ถึง 5พันด้วยซ้ำ ถ้าแตกเปลี่ยนครั้งเดียว กลึงเป็นโลหะ แค่นั้นคับ จบเลย
โช๊คที่บอกแสนอัพ คือ 4 ต้นหรือเปล่า เพราะถ้าต้นเดียว ไม่ถึง2หมื่นด้วยซ้ำคับ ถ้ารวมค่าแรงเปลี่ยน ก็2หมื่นนิดๆคับ(ค่าแรงเปลี่ยน ไม่เกิน 2พันคับ)
รถผมตั้งแต่ป้ายแดง 7.5ล้าน เมื่อปี2003 จนถึงทุกวันนี้ ค่าซ่อมบำรุงถึงปัจจุบัน ยังไม่ถึง 5แสนด้วยซ้ำครับ (ผมเปลี่ยนแต่อะไหล่แท้ แต่เปลี่ยนอู่นะคับ)
E รุ่นใหม่ ผมไม่เคยใช้ เคยใช้แต่ 230E เกียร์ธรรมดา และข้ามเป็น W220 เลย
แต่ถ้าโจทย์ เน้นการใช้งาน และมีรถคันเดียว
ผมก็เชียร์ ญี่ปุ่นปีใหม่ๆดีกว่าคับ
W220 เป็นรถที่ดีมาก(ยิ่งถ้าเจอเป็นนำเข้า วัสดุจะดีกว่ารถไทยเยอะ) วิ่ง200กม./ชม. ตัวรถยังนิ่งมากกกก
ช่วงล่างถุงลม ส่วนตัวนะคับ เป็นช่วงล่างที่ดีที่สุด ตั้งแต่ผมขับมาเลย ทั้งนุ่ม ทั้งนึบ ทั้งกระชับ

ขอให้โชคดีกับรถใหม่นะคับ
 :D :D :D
2002 BENZ W220 S280 ,2002 PEUGEOT 406 D9
2004 BMW E60 525ISE ,2011 NISSAN 370Z
2011 BMW F10 525d ,2012 BMW F10 520i
2012 MAZDA BT-50PRO DBL 2.2 ,2015 TOYOTA ALPHARD SC PACKAGE
2015 PORSCHE CAYENNE S E-HYBRID ,2017 PORSCHE 718 CAYMAN S
2017 VOLVO S90D4 POLESTAR
2020 TOYOTA CROSS
2021 TESLA MODEL3

ออฟไลน์ jojow

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2015, 17:32:41 »
3 ตัวเลือกนี้ผมตัด W220 ออกก่อนเลยครับ ค่าซ่อมแพง+จุกจิกเกินไป เป็นS-Class ที่คนใช้เบนซ์เลี่ยงกันเยอะที่สุด


ขออภัยนะคับ

S-Class W220 ตอนนี้มีแต่หาเก็บนะคับ ยิ่งถ้าเป็นรถนำเข้าแท้ ตัวออฟชั่น S500 มีแต่คนซื้อเก็บนะคับ
ขนาดของผม S280 W220 ออฟชั่นS500 ทุกวันนี้ มีคนขอซื้อต่อทั้งนั้น ทั้งคนรู้จัก อู่ หรือเพื่อน ก็ขอซื้อถ้าเบื่อ ไม่ใช่คนเลี่ยงนะคับ
2002 BENZ W220 S280 ,2002 PEUGEOT 406 D9
2004 BMW E60 525ISE ,2011 NISSAN 370Z
2011 BMW F10 525d ,2012 BMW F10 520i
2012 MAZDA BT-50PRO DBL 2.2 ,2015 TOYOTA ALPHARD SC PACKAGE
2015 PORSCHE CAYENNE S E-HYBRID ,2017 PORSCHE 718 CAYMAN S
2017 VOLVO S90D4 POLESTAR
2020 TOYOTA CROSS
2021 TESLA MODEL3

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2015, 17:48:31 »

ขออภัยนะคับ

S-Class W220 ตอนนี้มีแต่หาเก็บนะคับ ยิ่งถ้าเป็นรถนำเข้าแท้ ตัวออฟชั่น S500 มีแต่คนซื้อเก็บนะคับ
ขนาดของผม S280 W220 ออฟชั่นS500 ทุกวันนี้ มีคนขอซื้อต่อทั้งนั้น ทั้งคนรู้จัก อู่ หรือเพื่อน ก็ขอซื้อถ้าเบื่อ ไม่ใช่คนเลี่ยงนะคับ
อันนี้ผมฟังมาความเห็นมาจากกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ใช้S-Class ตั้งแต่W140ยันรุ่นW222 ส่วนใหญ่บอกปากต่อปากกันว่าถ้าไม่เลือกW140 ก็ให้ข้ามไปW221เลย และจากรูปทรงW220 เป็นS-Classที่เล็กกว่ารุ่นทั่วๆไปครับ วัดจากฐานล้อและความยาวของตัวรถ ทำให้มันดูไม่ยิ่งใหญ่สมชื่อ ส่วนหนึ่งอาจมาจากW140ที่ทำมาค่อนข้างใหญ่จนได้ชื่อว่าปลาวาฬ พอรุ่นนี้ออกมาดันคันเล็กลง และระบบไฟฟ้าที่จุกจิกกว่ารุ่นอื่นๆของS-Class แต่ยังไงก็ตามมีคนปล่อยก็ต้องมีคนหาครับ คนรู้จักผมส่วนใหญ่อาจจะแค่ไม่ชอบรุ่นนี้ก็ได้ครับ ถือซะว่าเป็นความเห็นต่างจากของคุณละกันครับ

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
Re: รถยุโรปปีเก่ากับรถญี่ปุ่นปีใหม่
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2015, 18:49:10 »
ใช้ทุกวันเลือกรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
โอกาสเสียของเบนซ์ อายุเกิน 10ปี มีสูงมาก
ยกเว้นมีรถสำรอง หรือมีอู่ใกล้บ้าน

ผมใช้เบนซ์อายุเกิน 10ปี ไปส่งลูกและทำงานทุกวัน
เพราะไม่มีตังซื้อรถใหม่ ใช้ไปซ่อมไป เสียเมื่อไรก็ยืมรถภรรยา
คิดเสียว่าประหยัดเงินกว่าซื้อ

ถ้าสนใจซื้อเบนซ์ ไม่ว่าจะ 140 หรือ 220 ให้ซื้อเพราะชอบและรักที่จะขับ
และยินดีที่จะซ่อม ถ้าดูแลดีๆ รับรองว่าขับและนั่งดีกว่าญี่ปุ่นเยอะ
แต่ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ถี่กว่า

เช่น ทำช่วงล่างทีหลักหมื่น จนถึงหลายหมื่น
จาก Camry ไล่ไป 140 จนขึ้นไป 220 ชิ้นต่อชิ้นแพงกว่าเยอะ
ของประหลาดบางอย่าง รถญี่ปุ่นไม่มีให้ซ่อม แต่ 220 มันโผล่มา
ให้ซ่อม แล้วมาทีหลักหมื่น บางทีโผล่มาคูณสี่อีกแหนะ

ใช้ญี่ปุ่นเข้าศูนย์ไม่ถูก แต่ก็ไม่เวอร์
ใช้เบนซ์ที่หมดประกันแล้ว จะไปไหนหละครับ
ต้องมีอู่เฉพาะที่เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้
ไม่งั้นเหนื่อย

อาการเสียบางอันของเบนซ์ เสียทีต้องจอดเลย
ไม่สามารถทนใช้ไปก่อน อันนี่ต้องเผื่อใจ

ที่สำคัญ Camry 2010 ราคาถูกกว่า 220 สภาพดีครับ
จะเล่น 220 ต้องใช้ทุนสูงกว่าเยอะ ได้รถเก่ากว่ากันนเกือบ 10ปี
รับได้ไหมครับ ต้องถามใจตัวเองและครอบครัว

140 ต้องเป็นรถรู้ประวัติที่ดูแลดี ไม่เช่นนั้นรับรถ 20ปีมาซ่อมครับ
เหนื่อยใจเปล่าๆ

สรุป หารถใช้งานเชียร์ญี่ปุ่นปี 2010 ครับ
หารถขับโดยมีรถอื่นสำรอง ลองเบนซ์คันโตก็ฟินดีครับ
แต่ถ้ามีอยู่ในมือ ดูแลให้ดีแล้วใช้ต่อครับ
อยากได้รถเบนซ์ใช้ทุกวัน แนะนำ e class แทนครับ
ไม่ค่อยจุกจิก ราคาค่าดูแลไม่จุกอก น่าจะประมาณ clk แบบที่เคยเจอ

ปล. ผมเองก็เฝ้ารอ 220 สภาพดี รู้ประวัตติ
ตัดสินใจแบบนี้โดยทำใจว่าได้รถมา ต้องเผื่อเงินทำโช๊คไฟฟ้าแสนอัพ
กลอนประตูข้างละหมื่นกว่า แล้วคุณหละทำใจรับเงื่อนไขนี้ได้ไหม

ขอตอบจากที่ดูแล W220 ตั้งแต่ป้ายแดงนะคับ(ของผมเป็นนำเข้านะคับ)
กลอนประตู ไม่ถึงหมื่นคับ จิงๆ ยังไม่ถึง 5พันด้วยซ้ำ ถ้าแตกเปลี่ยนครั้งเดียว กลึงเป็นโลหะ แค่นั้นคับ จบเลย
โช๊คที่บอกแสนอัพ คือ 4 ต้นหรือเปล่า เพราะถ้าต้นเดียว ไม่ถึง2หมื่นด้วยซ้ำคับ ถ้ารวมค่าแรงเปลี่ยน ก็2หมื่นนิดๆคับ(ค่าแรงเปลี่ยน ไม่เกิน 2พันคับ)
รถผมตั้งแต่ป้ายแดง 7.5ล้าน เมื่อปี2003 จนถึงทุกวันนี้ ค่าซ่อมบำรุงถึงปัจจุบัน ยังไม่ถึง 5แสนด้วยซ้ำครับ (ผมเปลี่ยนแต่อะไหล่แท้ แต่เปลี่ยนอู่นะคับ)
E รุ่นใหม่ ผมไม่เคยใช้ เคยใช้แต่ 230E เกียร์ธรรมดา และข้ามเป็น W220 เลย
แต่ถ้าโจทย์ เน้นการใช้งาน และมีรถคันเดียว
ผมก็เชียร์ ญี่ปุ่นปีใหม่ๆดีกว่าคับ
W220 เป็นรถที่ดีมาก(ยิ่งถ้าเจอเป็นนำเข้า วัสดุจะดีกว่ารถไทยเยอะ) วิ่ง200กม./ชม. ตัวรถยังนิ่งมากกกก
ช่วงล่างถุงลม ส่วนตัวนะคับ เป็นช่วงล่างที่ดีที่สุด ตั้งแต่ผมขับมาเลย ทั้งนุ่ม ทั้งนึบ ทั้งกระชับ

ขอให้โชคดีกับรถใหม่นะคับ
 :D :D :D

โช๊คที่ว่าแสนคือสี่ตัว เข้าใจตรงกันแล้วครับ
ทำใจเผื่อมันลาโลกตามๆกัน
ค่ากลอนนี่ได้ยินมาตั้งแต่หลักพันยันหมื่น
เข้าใจว่าถ้าชำนาญจะซ่อมได้ หรือโมได้
แต่จะซื้อมือสอง ขอตีราคาแพงไว้ก่อน
จ่ายจริงแล้วเงินเหลือจะได้ถือว่ากำไร
เป็นความสุขเล็กๆตอนซ่อมรถ