ผู้เขียน หัวข้อ: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ  (อ่าน 7189 ครั้ง)

ออฟไลน์ NaNaNa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 506
    • อีเมล์
เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 18:42:16 »
เคยแสบตากับพวกรถที่มี DRL แล้วไม่ยอมเปิดไฟใหญ่ตอนกลางคืนไหมครับ
ตอนเช้ามันก็สวยดีหรอก แต่พอเย็นๆค่ำๆ เท่านั้นแหละ ปัญหามาเลย
บางคนตั้งปุ่มไฟไฟออโต้ ก็ไม่เท่าไหร มันดรอปไฟ DRL ของมันเอง
แต่บางคันมีออโต้ก็ไม่ตั้งไว้ แล้วจะมีไว้ทำไม แล้วบางคันไม่มี กรุณานิดนึงเลื่อนมือไปเปิดได้ไหมครับ
มันแสบตาคนสวนทางมากๆ
รบกวนคนที่มี DRL จากโรงงานตั้งออโต้นิดนึงนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 25, 2015, 19:51:18 โดย Alt+F4 »

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,712
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 18:44:34 »
พอเปิดไฟหน้า DRL มันจะดับ/หรี่ลงรึเปล่าครับ รึมีอ็อพชั่นเปิดไฟหน้า+เปิดDRL 100% พร้อมกันครับ ไม่ทราบเลย
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 18:53:25 »
บางคนแปลงให้มันติดตลอดไม่ว่าเปิดไฟใหญ่หรือไม่ก็ตาม

ออฟไลน์ PAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,933
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 18:56:08 »
บางคันตั้งauto DRL ก็ยังติดนะครับ
และพอติดแล้วก็จะมีแบบหรี่ให้สว่างน้อยลง. กับสว่างจ้าเท่าเดิม
แต่บางคันตั้งauto ตอนกลางคืนDRL ก็จะปิด เช่น รถผมเป็นต้น
แต่อย่างรถผมตอยประมาณ6โมง ตั้งautoมันก็จะไม่เปิดไฟใหญ่ครับ มันจะเปิดเป็นไฟหรี่+DRL

มันขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและแต่ละแบรนด์ด้วยครับ

แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยอะไรกับDRL เท่าไหร่ ที่เกลียดสุดๆก็คือไฟตัดหมอกหลังมากกว่าครับ โคตรเกลียด เกลียดมากๆ ไม่รู้จะเปิดหาพร่อง(มันเนย)อะไร - -" โดยเฉพาะTOYOTA VIOSเจอบ่อยสุดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 25, 2015, 18:58:18 โดย PAN »

ออฟไลน์ Visual

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 19:45:24 »
พอเปิดไฟหน้า DRL มันจะดับ/หรี่ลงรึเปล่าครับ รึมีอ็อพชั่นเปิดไฟหน้า+เปิดDRL 100% พร้อมกันครับ ไม่ทราบเลย

มันมีพวกไม่เปิดไฟไงครับ DRL มันเลยไม่ดับ

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 19:51:50 »
ประจำครับ D-seg ญี่ปุ่น ที่ได้กลิ่นไอการออกแบบของ BMW คันนั่นแหละ เจอบ่อย
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออนไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,151
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 19:52:21 »
ผมใส่แว่นกันแสงสำหรับขับรถกลางคืน ทั้งพวกเปิดไฟสูงหรือติดซีน่อนไม่ใส่ projector หรืออะไรก็แล้วแต่ เล่นงานผมไม่ได้ครับ

แนะนำให้ทุกคนใส่ โดยเฉพาะคนที่ขับรถกลางคืนบ่อยๆ

ออฟไลน์ neutrino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 19:54:40 »

แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยอะไรกับDRL เท่าไหร่ ที่เกลียดสุดๆก็คือไฟตัดหมอกหลังมากกว่าครับ โคตรเกลียด เกลียดมากๆ ไม่รู้จะเปิดหาพร่อง(มันเนย)อะไร - -" โดยเฉพาะTOYOTA VIOSเจอบ่อยสุดๆ

+1

ออฟไลน์ iamitman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
    • อีเมล์
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 20:03:29 »
ผมใส่แว่นกันแสงสำหรับขับรถกลางคืน ทั้งพวกเปิดไฟสูงหรือติดซีน่อนไม่ใส่ projector หรืออะไรก็แล้วแต่ เล่นงานผมไม่ได้ครับ

แนะนำให้ทุกคนใส่ โดยเฉพาะคนที่ขับรถกลางคืนบ่อยๆ

หน้าตาเป็นแบบไหนครับ หาซื้อที่ไหน จะไปซื้อมาใช้บ้างครับ เจอเหล่าบรรดาซีน่อนสีฟ้าสวนมาที ตาแทบบอด


บางคันตั้งauto DRL ก็ยังติดนะครับ
และพอติดแล้วก็จะมีแบบหรี่ให้สว่างน้อยลง. กับสว่างจ้าเท่าเดิม
แต่บางคันตั้งauto ตอนกลางคืนDRL ก็จะปิด เช่น รถผมเป็นต้น
แต่อย่างรถผมตอยประมาณ6โมง ตั้งautoมันก็จะไม่เปิดไฟใหญ่ครับ มันจะเปิดเป็นไฟหรี่+DRL

มันขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและแต่ละแบรนด์ด้วยครับ

แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยอะไรกับDRL เท่าไหร่ ที่เกลียดสุดๆก็คือไฟตัดหมอกหลังมากกว่าครับ โคตรเกลียด เกลียดมากๆ ไม่รู้จะเปิดหาพร่อง(มันเนย)อะไร - -" โดยเฉพาะTOYOTA VIOSเจอบ่อยสุดๆ

ผมขับ vios เองยังสงสัย ว่าเค้าจะเปิดกันทำพระแสงเลเซอร์อะไร สวิทที่ใช้เปิดไฟตัดหมอกหลัง มันไม่ได้ใกล้เคียงกับการเปิดไฟหน้ารถเลย แต่เคยเห็นว่ามีบางคัน ไม่ใส่สวิทตัวนี้ คือเปิดไฟหน้าแล้วพ่วงไปเลย หรือบางคันน่ารำคาญกว่านั้น คือพ่วงไว้กับไฟเบรค กรณีหลังนี่สุดๆ

ออฟไลน์ veturilo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 20:29:46 »
ระดับไฟหน้ามันมี 3 ระดับ (ไม่นับ DRL) คือ ไฟหรี่ (Clearance Lamp), ไฟต่ำ (Low Lamp) และไฟสูง (High Lamp)
ในรถรุ่นเก่าๆ พวกส่งออกไปยุโรป ไฟ DRL มันจะใช้ไฟดวงเดียวกับไฟต่ำ เวลาสตาร์ทรถแล้วไฟต่ำมันจะติดอัตโนมัติ
ในรถรุ่นใหม่ๆ ไฟ DRL กับ Clearance Lamp มันจะเป็นไฟหลอดเดียวกัน/ชุดเดียวกัน <-- แบบมาจากโรงงานนะครับ
ไฟ DRL จะมีความสว่างมากกว่า Clearance Lamp เพราะจุดประสงค์เพื่อให้มันมองเห็นในเวลากลางวัน
ดังนั้น เวลาเราเปิดไฟหรี่หรือไฟต่ำ ไฟชุดที่เป็น DRL (ซึ่งเป็นชุดเดียวกับ Clearance Lamp) มันจะสว่างน้อยลง

การตั้งสวิทช์ไฟหน้าไปที่ตำแหน่ง Auto เป็นการแก้ปัญหาลืมเปิดไฟหน้าได้ส่วนหนึ่งครับ
แต่หลายครั้งมันก็ไม่ทำงานตามที่มันควรจะทำ เนื่องด้วยมุมแสงที่ส่องเข้าหน้ารถ ฟิล์มรถยนต์ที่ติด ความแม่น/ไวของเซนเซอร์ ฯลฯ
ดังนั้น เพื่อให้ง่าย ถ้าแสงนอกรถประมาณผีตากผ้าอ้อมก็เริ่มเปิดไฟหรี่ ถ้าไฟข้างถนนเริ่มเปิดก็เปิดไฟต่ำ ประมาณนี้ครับ

ไฟสูงถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้ มันแยงตาชาวบ้าน อาจถูกตามยิงได้ ไว้ใช้เวลาไม่มีใครถึงจะดี

ส่วนเรื่องไฟตัดหมอก ไฟตัดหมอกหน้าใช้เพื่อส่องสว่างพื้นถนนในเวลาหมอกลงจัดหรือฝนตกหนักมากไม่เห็นพื้นถนนเท่านั้น
ไฟตัดหมอกหน้าถ้าเปิดนอกเหนือจากเวลาจำเป็นมันไม่ค่อยมีปัญหา เพราะมันไม่ได้สว่างกว่าไฟต่ำและมันก็ชี้ลงพื้นถ้าติดจากโรงงาน
เปิดไปก็กินไฟรถ+เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะไดชาร์จมันต้องปั่นไฟมามากขึ้น

ส่วนไฟตัดหมอกหลังใช้เพื่อส่องสว่างให้รถที่ตามหลังมามองเห็นรถเราในกรณีหมอกลงจัดหรือฝนตกหนักมากเท่านั้น
เราจะรู้ว่าเราเริ่มจำเป็นต้องเปิดไฟตัดหมอกหลังเมื่อเราเริ่มมองไม่ค่อยจะเห็นไฟท้ายรถคันหน้าครับ
ไฟตัดหมอกหลังมีความสว่างเท่าๆกับไฟเบรค ดังนั้นถ้ามันเปิดไม่ถูกกาลเทศะมันก็เหมือนกับเอาไฟเบรคส่องหน้าคันหลังตลอดเวลา

รถรุ่นใหม่ๆสวิทช์ไฟตัดหมอกหน้ากับหลังไม่ได้แยกออกจากกัน หลายครั้งบิดสวิทช์เปิดไฟตัดหมอกหน้า
แต่ดันหมุนเลยไปอีกล๊อกนึง ไฟตัดหมอกหลังมันก็เลยติดตามไปด้วย ดังนั้นต้องระวังกันด้วย
ดูในมิเตอร์ก็ได้นะครับ ถ้ามีสัญลักษณ์ไฟตัดหมอกหลังสีส้มติดขึ้นมาก็ให้เปิดปิดไฟตัดหมอกใหม่

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,712
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 22:37:21 »
เมื่อก่อนจะได้ยินแต่ไฟตัดหมอก ใช้ตอนหมอกจัดหรือมีควันมาบังวิสัยทัศน์ ไฟตัดหมอกจะมีสีเหลืองเข้มๆออกสีขุ่นๆ สามารถตัดแสงผ่านหมอกควันได้ดี แสงไฟไม่เป็นลำ จะออกฟุ้งหน่อยๆด้วยซ้ำไป ประโยชน์เพื่อให้รถคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนมาเห็นชัดขึ้น แสงจึงไม่เป็นลำพุ่งออกไปเหมือนไฟหน้าปกติ เดี๋ยวนี้หาดูยากในรถ passenger car จะเห็นแต่ในรถบรรทุกที่ใช้งานอยู่ ส่วนใน passenger car ผมว่ามันดูว่ามันเป็นไฟ sport light ไปแล้ว เพราะแสงมันพุ่งเป็นลำ ส่องแทนไฟหน้าได้เลย โดยเฉพาะรถกระบะ ส่วนไฟตัดหมอกหลังนั้น บางรุ่นอยู่ที่ก้านเดียวกับไฟตัดหมอกหน้า จึงทำให้เปิดผิดได้ บางคนใช้แล้วไม่ปิด พอติดเครื่องเปิดไฟมันก็จ้าทันที ผมว่านอกจากตัดหมอกหน้า-หลังแล้ว เดี๋ยวนี้มีวิวัฒนาการต่อมาให้ตาบอดกันอีก ทั้งไฟ xenon แท้เทียมว่ากันไฟ แต่ใส่โคมแบบจานฉายธรรมดานี่ โอ้..มายก้อด ไฟถนนมันสว่างไม่พอรึไง อีกอันก็ไฟไอติม เบรคที มึนไปเลย ตอนนี้เห็นไฟหรี่ led มาอีกแต่ใช้กะโคมเดิม ฟรุ้งฟริ้ง จ้าบรม สรุปรถทั้งคันสว่างมากมาย แต่ติดฟิล์มดำปี๋แทบมองไม่เห็น
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,210
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 22:56:14 »
ผมสังเกตเอาเองว่ารถที่มี DRL จะเจอไม่เปิดไฟหน้าเวลาค่ำเยอะกว่ารถที่ไม่มี DRL
Accord, D-Max, MU-X, HR-V, Altis, Camry, BMW ก็มี
ให้เดาเหตุผลคนขับที่ไม่ยอมเปิดไฟหน้าคงเพราะว่า
- มี DRL แล้วเท่รีบเปิดไฟหน้าให้มันดับไปทำไม
- แสงจาก DRL พอส่องไปเห็นข้างหน้าได้บ้างเลยเข้าใจว่าเปิดไฟหน้าแล้ว
- มี DRL คนก็เห็นอยู่แล้ว ใช้ทดแทนไฟหน้าได้

รถหลายรุ่นมีสวิทช์ไฟหน้า Auto แต่คนขับก็ไม่ตั้งไว้ Auto กันครับ
บางทีมันเปิดเร็วไป sensitive ไป ลอดใต้สะพานก็เปิด ผมเข้าใจ เพราะของเทียน่าผมก็เปิดเอาเองไม่ตั้งออโต้
ถ้าผู้ผลิตอยากแก้ปัญหา ก็ควรตัดสวิทช์ Off ออกไปมีแต่ Auto เหมือนเบนซ์สมัยนี้ หรือ Revo หรือ Fortuner ใหม่ ก็ดี
ลองสังเกตดู Revo/Fortuner พวกติดฟิล์มมืดๆ นี่กลางวันแสกๆ เปิดไฟหรี่วิ่งกันพรึ่บ
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออนไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,151
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2015, 23:39:04 »
ผมใส่แว่นกันแสงสำหรับขับรถกลางคืน ทั้งพวกเปิดไฟสูงหรือติดซีน่อนไม่ใส่ projector หรืออะไรก็แล้วแต่ เล่นงานผมไม่ได้ครับ

แนะนำให้ทุกคนใส่ โดยเฉพาะคนที่ขับรถกลางคืนบ่อยๆ

หน้าตาเป็นแบบไหนครับ หาซื้อที่ไหน จะไปซื้อมาใช้บ้างครับ เจอเหล่าบรรดาซีน่อนสีฟ้าสวนมาที ตาแทบบอด


บางคันตั้งauto DRL ก็ยังติดนะครับ
และพอติดแล้วก็จะมีแบบหรี่ให้สว่างน้อยลง. กับสว่างจ้าเท่าเดิม
แต่บางคันตั้งauto ตอนกลางคืนDRL ก็จะปิด เช่น รถผมเป็นต้น
แต่อย่างรถผมตอยประมาณ6โมง ตั้งautoมันก็จะไม่เปิดไฟใหญ่ครับ มันจะเปิดเป็นไฟหรี่+DRL

มันขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและแต่ละแบรนด์ด้วยครับ

แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยอะไรกับDRL เท่าไหร่ ที่เกลียดสุดๆก็คือไฟตัดหมอกหลังมากกว่าครับ โคตรเกลียด เกลียดมากๆ ไม่รู้จะเปิดหาพร่อง(มันเนย)อะไร - -" โดยเฉพาะTOYOTA VIOSเจอบ่อยสุดๆ

ผมขับ vios เองยังสงสัย ว่าเค้าจะเปิดกันทำพระแสงเลเซอร์อะไร สวิทที่ใช้เปิดไฟตัดหมอกหลัง มันไม่ได้ใกล้เคียงกับการเปิดไฟหน้ารถเลย แต่เคยเห็นว่ามีบางคัน ไม่ใส่สวิทตัวนี้ คือเปิดไฟหน้าแล้วพ่วงไปเลย หรือบางคันน่ารำคาญกว่านั้น คือพ่วงไว้กับไฟเบรค กรณีหลังนี่สุดๆ

เซิร์ชใน Aliexpress ว่า Driving glasses ครับ สีเหลืองๆ ราคามีตั้งแต่อันละ 60 ยันอันละเป็นพัน คุณภาพก็ตามราคาครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,632
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 01:45:53 »
ไม่มีปัญหากับ DRL ครับ แต่มีปัญหากับ ตัดหมอกหลังตอนอากาศแจ่มใสมากกว่า
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Tiger3539

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 08:34:06 »
ไฟ DRL มันไม่ได้แสบขนาดนั้นหรอก
ถ้าเทียบกับพวกติดไฟ จากร้าน พวกนี้นะ แสบมากกว่าอีก

รถสวนกันใช้เวลาเสี้ยวนาที
TOYOTA TIGER 4WD D4D
TOYOTA VIGO  DUOBLE CAB 4WD 3.0G
TOYOTA VIOS 1.5S---ขาย
HONDA CIVIC 1.8S FB---ขาย
TOYOTA FORTUNER TRDIII---ขาย
FORD RANGER WILDTRACK 3.2
BMW 520D E60
TOYOTA YARIS 1.2G
TOYOTA ALTIS 1.8V
MAZDA 3 SKYACTIVE S
SUBARU XV
TOYOTA FORTUNER TRD 2016

ออฟไลน์ sk-non

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 503
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 08:38:40 »
ผมเจอแต่ขับสวนกันแวบๆ
ไม่ค่อยเป็นปัญหาคับ

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 08:45:25 »
พูดตรงๆว่าผมไม่เคยแสบเลย รถผมก็ไม่มีนะ รอบตัวผมก็ไม่มีใครบ่นว่าแสบด้วยแม้จะกลางคืน

ยกเว้นขับสวนกับรถที่ยกสูง ไม่มี DRL ก็แสบ เพราะผมขับรถเตี้ยๆอย่างรถเก๋ง

ผมไม่แสบครับ ^^

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,523
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 09:36:21 »
สงสัยต้องไปหาแว่นมาใส่กันแสงไฟแบบนี้บ้างแล้ว

ออฟไลน์ yoyoyo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
    • อีเมล์
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 09:47:20 »
รถเดี๋ยวนี้หน้าปัดมีไฟส่องสว่างตลอดเวลา พอมืดแล้วคงลืมเปิดไฟหน้าแหละครับ DRL ถึงไม่ดับ

ออฟไลน์ B@S!C

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 244
  • สมาชิกใหม่ครับ
    • อีเมล์
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 10:47:09 »
เคยเจอ accord g9 เปิดเดไลท์ แต่ไฟหน้าไม่เปิด วิ่งถนนตอนกลางคืน แสบตามาก คิดในใจ เอ็งขับมาได้ยังไง

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,362
    • อีเมล์
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 11:38:32 »
บางคันตั้งauto DRL ก็ยังติดนะครับ
และพอติดแล้วก็จะมีแบบหรี่ให้สว่างน้อยลง. กับสว่างจ้าเท่าเดิม
แต่บางคันตั้งauto ตอนกลางคืนDRL ก็จะปิด เช่น รถผมเป็นต้น
แต่อย่างรถผมตอยประมาณ6โมง ตั้งautoมันก็จะไม่เปิดไฟใหญ่ครับ มันจะเปิดเป็นไฟหรี่+DRL

มันขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและแต่ละแบรนด์ด้วยครับ

แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยอะไรกับDRL เท่าไหร่ ที่เกลียดสุดๆก็คือไฟตัดหมอกหลังมากกว่าครับ โคตรเกลียด เกลียดมากๆ ไม่รู้จะเปิดหาพร่อง(มันเนย)อะไร - -" โดยเฉพาะTOYOTA VIOSเจอบ่อยสุดๆ

เหมือนกันเลยครับ พักหลังๆ น้องอ๊อสเริ่มน้อยลง(อาจจะเพราะรถเริ่มหายไปจากท้องถนน) แต่จะเจอ MB, BMW มากขึ้น  :)

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,248
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 11:54:45 »
เจอประจำ หนักสุดผมว่าเป็นnavara ตอนหัวค่ำแล้วไม่ยอมเปิดไฟหน้าDLRแยงตามากๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 12:24:28 »
รำคาญไฟตัดหมอกหลังมากกว่า 
แต่อย่างไรก็ตามควรใช้ให้ถูกวิธีทุกอย่างครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 14:04:01 »
DRL เฉยๆนะครับ ไม่ค่อยแสบตาเท่าไหร่
แต่ตัดหมอกหลัง แม่งของจริง 55+

ออฟไลน์ g_abac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2015, 21:59:04 »
DRL โรงงานผมเฉยๆนะ แต่พวกใส่ของแต่ แล้วเปลี่ยนหลอดนี่สิแสบตามาก
2008  Lexus IS250 Premium
2014  E300 Bluetec Hybrid AMG (W212)
2015  ActiveHybrid 5 M Sport (F10 LCI)
2020  E220d Sport (W213)
2020  X5 xDrive 30d M Sport (G05)

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,841
  • Let the SKYFALL
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2015, 21:01:46 »
จากนี้ไปจะเป็นยุคตัดหมอกหลังของฟอจูนเนอร์ครับ
เพิ่งโดนมา 5555
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ prayalone

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
Re: เคยแสบตากันบ้างไหมครับ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2015, 01:00:00 »
DRL ตอนกลางคืนไม่ยอมเปิดไฟหน้า นี่มันแสบตาจริงๆครับ เห็นด้วยกับคนตั้งกระทู้เลย
แต่ทำไงได้ ขนาดหลอดHIDใส่โคมmulti reflector ไฟสว่างยันยอดเจดีย์ ยังวิ่งกันเกลื่อน นรกมากพวกนี้