ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่างรถ Fuel Cell vs น้ำมันสังเคราะห์ได้เองไม่ต้องขุด ถ้าแรงเท่ากันจะเลือกอะไร  (อ่าน 2759 ครั้ง)

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,339
อนาคต เรื่องน้ำมัน  เชื้อเพลิงในรถยนต์  ผมว่ามันไปได้สองทางนี้ล่ะ

ผมเห็น Toyota ทำรถอย่าง Mirai หรือล่าสุดก็ LEXUS LF-FC ทำให้รู้สึกว่ารถ Fuel Cell มันก็เริ่มเป็นไปได้มากขึ้นๆเหมือนกันละครับ   ยิ่งไอเสียเป็นน้ำ  บอกเลยว่ารักโลกมากๆ Mirai เติมทีวิ่งได้ยาวๆ 400 กม ผมว่ามันเริ่มมีความเป็นไปได้พอสมควรละครับ  :-*

ไฟฟ้าผมว่าไม่เวิร์คเท่าไหร่เพราะชาร์จนาน  ยกเว้นอนาคตทำที่ชาร์จที่ชาร์จได้เร็วพอๆกับน้ำมันได้ถึงจะน่าใช้  ไหนจะการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่อีก

หรือจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์  มีให้ใช้ไม่หมด (ขึ้นชื่อว่ามนุษย์  อะไรก็เป็นไปได้)  แต่อาจจะสร้างมลพิษให้โลกในอนาคตอยู่เหมือนกัน   

ถามกันตอนนี้เลย  ส่วนใหญ่จะเลือกทางไหนกันครับ

ส่วนตัวผม  ... Fuel Cell มันก็ดีนะ  ไอเสียเป็นไอน้ำ  เผื่ออากาศใน กทม มันจะดีขึ้นมากๆ  เบื่อควันรถใน กทม เหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 11, 2015, 00:52:01 โดย Butterzai »

ออฟไลน์ OHMMY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
    • อีเมล์
Re: ระหว่างรถ Fuel Cell vs น้ำมันสังเคราะห์ได้เองไม่ต้องขุด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2015, 01:10:02 »
ถ้าน้ำมันสังเคราะห์ได้จริง ผมว่าสิ่งที่นำมาสังเคราะห์ก็ต้องหมดไป นอกจากนำสิ่งที่มาอยู่อย่างไม่จำกัดมาสกัดเป็นน้ำมันซึ่งก็ไม่น่าจะต่างตากฟูลเซล์
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า ผมว่าต่อไปคงพัฒนาเพื่อขยายระยะทางต่อการชาร์จ1ครั้งได้ไกลขึ้น หรือแม้แต่ จุดชาร์จแบบไร้สายที่เอารถไปจอดไว้เฉยๆ
หรือแม้แต่ศูนย์ให้เปลี่ยนแบตเตอร์รี่ ไม่ต้องรอชาร์จให้เสียเวลา ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,018
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ส่วนตัวอยากให้รถไฟฟ้ามีโซล่าเซลครับ จอดตากแดดก็ชาร์ตไปในตัว ตกเย็นก็ขับกลับบ้านเหมือนขับฟรี
(ปัจจุบันมีแล้ว แต่พลังงานที่ได้น้อยเกินไป)
ถ้าวันไหนไม่มีแดดก็อาจจะใช้ไฟฟ้าจาก Battery สำรองที่ชาร์ตมารอไว้ หรือไม่ก็มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กปั่นไฟขยายระยะทางก็ได้ครับ

แต่คงต้องรอให้โซล่าเซลพัฒนาให้ได้พลังงานไฟฟ้าต่อเซลมากขึ้นกว่านี้ก่อนครับ

 8) 8)
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ pjs6306

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,107
    • อีเมล์
การเดินทางคือสิ่งที่เร่งรีบ เติมปุ้บไปปับลักษณะของ fuel cell ใช่แน่นอน การลงทุนในประเทศคงหาผู้ผลิตไฮโดรเจน เติมได้ที่ ปั้มคล้าย e85 ที่ค่อยๆเพิ่มเรื่อยๆ บริษัทรถกับรัฐ หรืออะไรก็แล้วแต่

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์


อยู่ ที่ นายทุน และ ผู้ ควบคุม เศรษฐกิจโลกครับ

E85 หรือ E100 หากสนับสนุน จริงๆ จังๆ ก็ทำราคาถูกได้จริง ถ้าจะทำ ?
เปลี่ยนพื้นที่ว่าง ทั้งประเทศเป็น พืช พลังงาน ทั้งไบโอ ดิเซล และ เอทานอล ก็ทำได้จริง ถ้า จะทำ ?




สำหรับผม มอง ว่า น้ำมัน บนดิน ยังมีภาษีดีกว่า เพราะไม่ต้องใช้เทคโนโลยี สูงมาก
ในขณะ Fuel Cell ต้องเติม พลังงานที่ แรงอัดสูงกว่า CNG ซะอีก

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
น้ำมันสังเคราะห์อาจจะไม่ได้เริ่มต้นเลยเพราะประเทศผู้ค้าน้ำมันไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน รายได้หลักของพวกนี้ค่อน้ำมันมานานลายชั่วคนแล้ว เรื่องประเด็นทางการเมืองซาอุยังอุตส่าแทรกซึมสนับสนุนisisเลย เร่่องกระทบรายได้หลักมีหรือจะยอมให้เกิด
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Whatman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225
Fuel cell = H2 + O2 = e + H2O
gasoline = hydrocarbon + O2 = H2O + CO2 +E

โลกเรามีปัญหาในการจัดการ CO2   เมื่อนำ H2O ใส่กระแสไฟฟ้าเข้าไปก็จะได้ H2 สามารถเวียนกลับมาใช้ได้ใหม่ในวังวนของ Fuel cell  มนุษย์ต้องปลูกพืชมากเท่าไรและใช้เวลาเท่าใดจึงจะลดคาร์บอนที่อยู่ในอากาศเมื่อต้องการอยู่ใน mode ของ gasoline combustion  และปัจจุบันการผลิต H2 ทำง่ายกว่าและถูกกว่าการสังเคราะห์ hydrocarbon สรุป  fuel cell น่าจะเป็นคำตอบในอนาคตครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
Fuel call เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ เช่นเดียวกับ ไฟฟ้า แต่คงต้องพัฒนาอีกมาก

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,584
ผมเห็นด้วยเรื่องของเสียที่ปล่อยออกมาหลังเผาไหม้ครับ อีกหน่อยคงจะมีกฎหมายมาควบคุมพวกเชื้อเพลิงทางเลือกครับ

ออฟไลน์ deathsheep

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
    • อีเมล์
ยังไงน้ำมันดิบใต้โลกก็ต้องหมด(จริงๆเรียกว่าหมดไม่ได้  เรียกว่าสุกไม่ทันใช้แล้วกัน)   พลังงานทางเลือกจำเป็นต้องมีมาทดแทนละครับ

http://www.autodeft.com/deftfocus/report-audi-e-benzine

จากข่าวนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจากกรณีที่กลุ่มvolkswagenโดนค่าปรับโกงมลพิษไปแล้ว  จะยุบโครงการนี้ทิ้งไปไหม

ส่วนพลังงานhydrogen ก็ยังต้องใช้ไฟฟ้าในการผลิตhydrogenเป็นหลักอยู่

เพราะงั้นในอนาคตอันใกล้นี้  EVดูจะมีภาษีดีสุดสำหรับผมครับ

แต่เอาตามจริง  หมดช่วงชีวิตเราน้ำมันก็ยังไม่หมดหรอกผมว่า   เพราะมันก็ยังเจอแหล่งใหม่ไปเรื่อย

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
ไม่แน่ใจครับว่าแบบไหนจะแจ่ม

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
ถ้าให้เลือกคงสนับสนุนรถ Fuel cell มากกว่า เพราะได้เรื่องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม...ต่อให้ต้นทุ่นและเทคโนโลยีสูงกว่าก็เถอะ


MacH1

  • บุคคลทั่วไป
รถ Fuel cell ต้องเติม hydrogen ทั้งถัง hydrogen ในรถและสถานีจ่ายต้องใช้วัสดุอย่างดีเช่น carbon fiber ราคาสูง และต้องมีความปลอดภัยสูง 

คำถามคือ ประเทศโลกที่สามแบบไทยมีความพร้อมจะรองรับ เทคโนโลยีแบบนั้นได้ไหมครับ ผมนึกภาพความมักง่าย ชุ่ยๆ กับการต้องดูแลเชื้อเพลิงที่ไวไฟแบบนั้นไม่ออกจริงๆ

ปล. ค่ายรถที่ทำ รถ Fuel cell นี่ออกแบบรถไม่เป็นหรอครับ ทำไมทำออกมาได้ crap มากๆ หรือคิดว่า น่าเกลียด คือ new cool?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 11, 2015, 11:17:20 โดย Ivy Modernist »

ออฟไลน์ Ex_machina

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
แล้วน้ำมันสังเคราะห์ เผาไหม้เสร็จ ยังมีก๊าซพิษเหมือนน้ำมันทั่วไปไหมครับ
ถ้ายังมีอยู่ ก็คงไม่มีอนาคตสำหรับน้ำมันสังเคราะห์
เพราะแนวโน้มมันจะเป็นพลังงานสะอาดขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ KarnP_Photo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 200
ยังไงการสันดาบภายในก็ยังให้อารมณ์การขับที่ดีกว่าครับ

ออฟไลน์ HME

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 718
ถ้าแค่สองอย่างนี้ Fuel Cell ดูจะจับต้องได้มากกว่าอ่ะครับ แต่คิดว่ายังไม่ใช่คำตอบอยู่ดี
คิดว่าพวกแบตเตอร์รี่น่าจะยังพัฒนาได้อีกไกล หรือถ้ารีบมากก็ก็อัดไฟใส่Capacitorเข้าไปเลยไม่ต้องรอ อย่างปอร์เช่ตัวแข่งเลอมังก็คล้ายๆแบบนี้
ผมเชื่อว่าถ้ามีการแข่งขันจริงมันจะดีขึ้นและถูกลง


(ส่วนเรื่องสันดาปภายใน กับ มอเตอร์ อันนี้ไม่รู้ ไม่เคยขับรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน)

ออฟไลน์ Nismo De Alpina

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
  • Whatever brews your coffee.
เลือกอะไรก็ได้ที่ทำร้ายโลกให้น้อยที่สุด หรือเป็นไปได้
ก็ไม่ให้กระทบเลย ผมว่ารุ่นลูก หรือหลานเราท่าทางจะลำบาก
ในการใช้ชีวิตมากขึ้นครับ โลกร้อนขึ้น อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปใน
ทางแย่มากขึ้น ทั้งหมดเพราะมนุษย์เรานี่แหละครับที่ทำลายธรรมชาติ
น่าเป็นห่วงจริงๆ  :(
Eventually i've made my home country,Thailand.

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
ถ้าจะเอาเรื่อง CO2 เป็นหลัก

แล้วมั่นใจอย่างไรว่ากระบงนารผลิต H2 ไม่ก่อให้เกิด CO2

แล้วเรื่อง การใช้งานจริง ที่ H2 มันไม่ใช่ H2 ธรรมดาแต่ แรงอัดสูงมหาศาล
ขนาด CNG เทคโนโลยี พื้นบ้านเรายังไปไม่ถึงไหนเลย

อ้อ เราพูดถึงแต่น้ำมัน
อย่าลืมคำถามคือ
น้ำมันสังเคราะห์ ที่ไม่ใช่ฟอสซิล

เช่น เอทานอล ถึงมี Co2 ในส่วนผสม
แต่กระบวนการปลูกพืช ก็ลด Co2 ได้เช่นกัน

ดังนั้น เชื่อเพลิงจากพืช จะเป็นการหมุนเวียน Co2 ได้เช่นกัน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 11, 2015, 19:55:09 โดย mamaman »

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 937
ผมกลับมองว่า ไฟฟ้า จะมาก่อนทั้ง FCV และ น้ำมันสังเคราะห์

ออฟไลน์ Chris Evn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,154
Fuel ดีกว่าเพราะไม่ทิ้งของเสีย

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
ผมกลับมองว่า ไฟฟ้า จะมาก่อนทั้ง FCV และ น้ำมันสังเคราะห์

อันนี้เห็นด้วยครับ

ว่าแต่เราจะใช้พลังงานอะไรผลิตไฟฟ้า
ถ้าเราทำ โซลาร์เซลขนาดยักษร์เป็นหลังคาบ้านทุกหลัง

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 937
ผมกลับมองว่า ไฟฟ้า จะมาก่อนทั้ง FCV และ น้ำมันสังเคราะห์

อันนี้เห็นด้วยครับ

ว่าแต่เราจะใช้พลังงานอะไรผลิตไฟฟ้า
ถ้าเราทำ โซลาร์เซลขนาดยักษร์เป็นหลังคาบ้านทุกหลัง
ความเห็นใกล้เคียงกันครับ ReNewable ในบ้านเราไม่มีอะไรทำได้ดีในภาพรวมได้เลย นอกจาก Solar energy