ก่อนอื่นบอกก่อนนะครับว่าไม่ได้เป็นเซล เป็นผู้ใช้ธรรมดาเนี่ยแหละ ส่วนตัวเป็นลูกค้า MG6 ครับ วันนี้มีโอกาสไปทดสอบ MG5 ที่สนาม MGD ครับ เป็นสนามของทาง MG หลังซีค่อน ศรีนครินทร์ ซึ่งผมได้ลองทดสอบทั้งตัว 1.5 4AT กับ 1.5T 6AT ครับ ตอนแรกว่าจะถ่ายรูปมาเยอะๆ แต่ว่าอากาศร้อนมาก พอลงไปนั่งในรถปั๊บ ก้นแทบไหม้เลยครับ เลยลืมถ่ายเลย ได้ถ่ายหลังจากขับเสร็จแล้วมารูปเดียว
พอเข้าไปนั่งเห็น Interior ก็แอบเหวอนิดนึงโดยเฉพาะคุณภาพของพลาสติกคือมันทำให้ผมนึกถึงความหลังตอนนั่งใน Proton Savvy แต่ว่าจอ Touch Screen ก็ทำงานได้ดีครับ มี Inkanet ด้วย ซึ่งถามว่าดู Cheap มั้ย ผมว่าข้างในดู Cheap จริงครับ แต่รถมันก็ถูกอะนะ ยังไงเวลาขับรถจริงเราก็มองถนนมากกว่าอยู่แล้ว
กุญแจเป็นแบบดอกครับ ไม่มี Keyless Entry และไม่มี Push Start ไม่มีคันโยกให้เปิดท้ายรถจากผู้ขับยกเว้นกดที่รีโมทที่กำลังเสียบอยู่ เป็นคอนเส็ปที่แปลกๆ รถ MG ทุกรุ่นคนขับไม่สามารถเปิดท้ายรถด้วยตัวเองได้
เบาะหนังโอเคครับ นั่งสบายอยู่ ผมสูง 180 หนัง 80 หัวห่างจากเพดานประมาณ 5 เซน คนที่สูง 185+ อาจจะต้องปรับที่นั่งเยอะหน่อย ซึ่งที่นั่งเนี่ย เป็นแบบปรับโดยหมุนๆ โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบเลย ชอบแบบคันโยกมากกว่า
ทางทีมงานให้ผมทดสอบตัวไม่มีเทอร์โบก่อน ซึ่งตอนแรกก่อนที่จะได้ลอง ดูจากสเป็ค 106 แรงม้ากับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะผมก็นึกถึงวีออสบริทนีย์ สเปียร์ที่สเป็คพอๆ กันและคิดว่าคงอืดน่าดูเพราะหนักกว่าประมาณ 200 กิโลกรัม แต่พอขับจริงๆ ผมนึกถึง Mazda2 ตัวซูมซูมครับ ฟีลทั้งคันเร่งและอัตราเร่งพอๆ กันเลย ถามว่าแรงมั้ยมันก็ไม่แรงหรอก แต่ก็รู้สึกว่าถ้าเป็นผู้หญิงขับ มันก็เหลือแหล่ เพราะผมคุยกับเพื่อนๆ ที่เป็นผู้หญิงหลายคนขับไม่เกิน 100 ก็ไม่รู้จะเอารถแรงมากมายไปทำไม
หลังจากขับวนอยู่สองสามรอบ ได้ทดสอบช่วงล่าง พวงมาลัย เพื่อดู Active Safety ที่เค้าโฆษณาไว้ว่าทำงานยังไง ทั้งระบบควบคุมการทรงตัวและเบรค ก็ถือว่าทำงานได้ดีครับ รู้สึกช่วงล่างอ่อนกว่า MG6 พอสมควร ความรู้สึกหนึบๆ สู้ MG6 ไม่ได้ แต่ก็หนึบพอสมควร จากที่ทดสอบ Slalom กับเปลี่ยนเลนกระทันหัน รถก็ไม่หลุดนะ ถือว่าทำได้ดีมากอยู่ครับ
พวงมาลัยของ MG5 นี่เบามากกกกกกก ไม่เคยขับรถคันไหนพวงมาลัยเบาขนาดนี้มาก่อน ขนาดแต่ก่อนขับ Nissan Almera ว่าเบาแล้ว เจอ MG5 เข้าไปนี่เบาสุดๆ แต่ว่าพอความเร็วเริ่มสูง พวงมาลัยก็หนักขึ้นครับ ผมว่าเซ็ตมาพอดีๆ สำหรับขับความเร็วสูงกว่า 100 คงต้องให้ทีมงาน HLM ทดสอบครับ
ปัญหาที่ผมเจอตอนขับ MG6 มากที่สุดก็คือรัศมีวงเลี้ยวที่กว้างแบบไม่แน่ใจว่าขับรถเก๋งหรือขับกระบะอยู่ ผมเลยทดสอบการยูเทิร์นด้วย พบว่ารัศมีวงเลี้ยวของ MG5 ทำได้ดีครับ เหมือนรถญี่ปุ่น ไม่กว้างผิดมนุษย์เหมือน MG6 คือความคล่องตัวของ MG5 สูงกว่า MG6 มากกกกกก ผมรู้สึกถูกใจเลย
คันเกียร์ของ MG5 ค่อนข้างแข็งครับ ปรับโหมดสปอร์ตได้เหมือน MG6 คือตบเกียร์มาทางขวาของเกียร์ D แล้วก็สามารถเล่นโหมด Manual ได้ ซึ่งผมไม่ได้เล่น แต่ผมได้ทดสอบโหมดสปอร์ต พบว่ามันตอบสนองได้ทันใจดีครับ
คันเร่งมีการหน่วงประมาณ 2 วิครับ ฟีลการหน่วงนี้คล้ายๆ Mazda 2D คือถ้าเหยียบคันเร่งเยอะๆ มันจะไหลแล้วนับ 1 2 พุ่ง เป็นทั้งรุ่นไม่โบและรุ่นโบซึ่งผมว่าลดไปซักวิน่าจะดีมากครับ ผมคุยกับทางอาจารย์สอนขับ(ในสนามนี้จะมีอาจารย์สอนขับนั่งไปกับเราเสมอ) อาจารย์บอกว่าได้แจ้งทางฝ่ายโรงงานแล้วว่าให้ลดเวลาหน่วงตรงนี้ เพราะมันไม่จำเป็นและทำให้เวลาเร่งแซงบางครั้งไม่ทันใจได้ ซึ่งอาจารย์บอกว่า ทางโรงงานก็รับฟังนะ แต่จะเอาไปแก้มั้ยไม่รู้ อ้าว 555
ทีนี้มาพูดถึงตัวเทอร์โบกันบ้าง เห็นหลายคนถาม 129 แรงม้าจะขับมันส์มั้ย โดยส่วนตัวผมว่าขับมันส์ดีใช้ได้เลยนะครับ โหมด D เนี่ยแรงดึงก็พอประมาณ แต่โหมดสปอร์ตนี่หน้าหงายอยู่เหมือนกัน ผมถ่ายคลิปมาให้ดูสั้นๆ เหยียบได้ถึงแค่ 80 ครับ แล้วก็จะสุดสนามแล้ว ตอนทดสอบนั่ง 2 คน เปิดแอร์เย็นสุดในสภาวะอากาศร้อนจัด
ผมใส่วีดิโอไม่เป็นครับขอให้เป็นลิงค์ละกัน
ถ้าดูในวีดิโอจะเห็นว่าช่วงความเร็ว 0-เกือบๆ 20 ความเร็วจะไหลช้ากว่าช่วงหลัง 20 นั่นคืออาการคันเร่งหน่วงที่ผมบอกครับ แก้ได้ก็จะดีมากๆ
เคยเห็นคนถามว่าเทียบกับ Mazda 2 Diesel อันไหนขับมันส์กว่า ผมว่าพอๆ กันครับ แต่จริงๆ ถ้า MG5 แก้อาการหน่วงนี่ได้ ก็จะขับมันส์กว่า Mazda 2 ทันที ความเห็นส่วนตัวนะ คือเวลาผมขับ Mazda 2 มันจะมีจังหวะที่ผมจะแซง แบบกดแล้ว แต่ต้องมารอ 1 2 เฮ้ย คือบางทีมันไม่ทัน มันจะชนชาวบ้านเอา
เรื่องสุดท้ายที่จะพูดถึงคืออัตราการกินน้ำมัน อันนี้ขอไม่พูดมากครับ Eco Sticker เขียนว่า 6.3 L/100KM ก็เอาเป็นว่ากินพอๆ กับ C-Segment คันอื่นน่ะแหละ
สรุป
อัตราเร่ง: ดี
ช่วงล่าง: ดีมาก (เทียบ B-Segment)
การควบคุม: ดี
ความสวยงาม: ภายนอกสำหรับผมดีมาก ภายในสำหรับผมว่าไม่ดี รวมกันเป็นปานกลางละกัน
พื้นที่: ดี คือพื้นที่เยอะ แต่ด้านหลังลู่มาก ผู้ชายตัวสูงๆ นั่งไม่สบาย
ราคา: ดีมาก
ความเห็นส่วนตัว: รถ MG5 ถือว่าเป็นรถที่ขับดีคันหนึ่งเลยครับ อัตราเร่งถือว่าทำได้ดี มีดีที่พื้นที่และช่วงล่างที่โดดเด่นครับ เสียดายที่ Interior ดูลดรายจ่ายไปหน่อย
สุดท้ายขอบอกว่ารีวิวนี้เป็นของคนขับรถบ้านๆ นะครับ ความเห็นก็เป็นความเห็นส่วนตัว รีวิวแม่นๆ คงต้องให้ทีมงานเป็นคนทำครับ ผมแค่อยากแชร์เฉยๆ ขอบคุณครับ