จูนรถโดยไม่ใช้ AFR WIDE Band ที่ปลายท่อ แต่ใช้ O2 ติดรถ

mamaman

คือพอดี
เห็น จูนเนอร์สมัย ใหม่ๆเค้าบอกว่า

การจูนรถโดยใช้  AFR WIDE Band  เสียบปลายท่อ นั่นมัน ล้าสมัย และค่าเพี้ยน
สมัยนี้เค้า จูนไดยใช้ โปรแกรมอ่านค่าจาก O2 ของรถเลย

โดยส่วนตัวผม เห็นด้วยครึ่งเดียวที่ว่า  AFR WIDE Band เสียบปลายท่อมันอยู่หลังแคทและมันเพี้ยน

แต่ ไม่เชื่อว่า O2  เดิมติดรถมันแม่นยำเพราะมันเป็น  Narrow Band  ซึ่งค่าแคบ มาก
มีช่วงทำงานสั้น แค่ ส่งค่าว่า สูง ต่ำ หรือเหมาะสม

แต่ O2 AFR WIDE Band  มันเป็น Linear และละเอียดดูได้ทกค่า เพียงแต่ควรจะ ต่อก่อน แคท

เลยอยากรู็ว่า การจูนรถ โดยที่ใช้ O2 ติดรถอ่านค่านี่มัน OK ไหม
เพราะ รถเดิมก็เช้คแค่ O2  ติดรถ



veturilo

Re: จูนรถโดยไม่ใช้ AFR WIDE Band ที่ปลายท่อ แต่ใช้ O2 ติดรถ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2015, 21:45:26 »
ขึ้นกับการจูนมากกว่าครับว่าเราอยากให้สัดส่วนน้ำมันต่ออากาศเป็นอย่างไร
O2 SSR แบบ Narrow Band มันให้ค่า linear เหมือนกัน แต่มันแค่ช่วงแคบๆ เช่น 14.5:1 ถึง 15.5:1
เพราะในรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน EFI ECU มันจะจูนน้ำมันกับอากาศให้อยู่ในค่า optimal
ดังนั้นมันอาจจะใช้แค่แคบๆก็พอ ไม่ต้องกว้างให้เปลืองค่าชิ้นส่วน

แต่ O2 SSR แบบ Wide Band มันจะวัดค่าได้ช่วงกว้างกว่า เช่น 5:1 ยัน 22:1
นั่นคือวัดได้ละเอียดกว่า ช่วงใช้งานกว้างกว่า เหมาะกับการจูนมากกว่าครับ

O2 SSR ที่ติดรถพอมั้ยมันขึ้นกับว่าช่วงของค่าใช้งานเราอยู่เท่าไหร่มากกว่าครับ
ถ้ามันอยู่ในช่วงที่เราใช้งาน ก็ไม่ต้องไปขวนขวายหา Wide Band มาติดให้เปลืองตังครับ



mamaman

Re: จูนรถโดยไม่ใช้ AFR WIDE Band ที่ปลายท่อ แต่ใช้ O2 ติดรถ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2015, 23:02:49 »
ขึ้นกับการจูนมากกว่าครับว่าเราอยากให้สัดส่วนน้ำมันต่ออากาศเป็นอย่างไร
O2 SSR แบบ Narrow Band มันให้ค่า linear เหมือนกัน แต่มันแค่ช่วงแคบๆ เช่น 14.5:1 ถึง 15.5:1
เพราะในรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน EFI ECU มันจะจูนน้ำมันกับอากาศให้อยู่ในค่า optimal
ดังนั้นมันอาจจะใช้แค่แคบๆก็พอ ไม่ต้องกว้างให้เปลืองค่าชิ้นส่วน

แต่ O2 SSR แบบ Wide Band มันจะวัดค่าได้ช่วงกว้างกว่า เช่น 5:1 ยัน 22:1
นั่นคือวัดได้ละเอียดกว่า ช่วงใช้งานกว้างกว่า เหมาะกับการจูนมากกว่าครับ

O2 SSR ที่ติดรถพอมั้ยมันขึ้นกับว่าช่วงของค่าใช้งานเราอยู่เท่าไหร่มากกว่าครับ
ถ้ามันอยู่ในช่วงที่เราใช้งาน ก็ไม่ต้องไปขวนขวายหา Wide Band มาติดให้เปลืองตังครับ

แล้วถ้าเป็นรถ FFV เติม E85 ละครับ
ค่า AFR มันไม่ใช่ 14.5:1 ถึง 15.5:1 แล้ว O2 ECU รถวัดได้ไงหว่า

สงสัยจะโดน จูนเนอร์หลอกแล้วซะละมั้งผม



Turin

Re: จูนรถโดยไม่ใช้ AFR WIDE Band ที่ปลายท่อ แต่ใช้ O2 ติดรถ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2015, 07:20:49 »
ตามความเข้าใจของผม O2 sensor มันวัดปริมาณ O2 ที่เหลือจากการเผาไหม้ และส่งสัญญาณออกมาเป็น volt คนอ่านค่า volt ที่ได้และแปลงมาเป็น 14.5-15.5 เอง ดังนั้นรถ FFV ไม่น่ามีปัญหานะครับ ...

ส่วนการใช้ O2 ติดรถจูน ผมว่าถ้าค่อยๆขยับ น่าจะใช้การได้เหมือนกันครับ คือ ค่อยๆ trial and error ไปทีละนิด เพราะ narrow band มันบอกได้แค่บาง/หนา แต่บอกไม่ได้ว่าแค่ไหน ทำให้ต้องค่อยๆขยับ



veturilo

Re: จูนรถโดยไม่ใช้ AFR WIDE Band ที่ปลายท่อ แต่ใช้ O2 ติดรถ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2015, 20:12:12 »
ขึ้นกับการจูนมากกว่าครับว่าเราอยากให้สัดส่วนน้ำมันต่ออากาศเป็นอย่างไร
O2 SSR แบบ Narrow Band มันให้ค่า linear เหมือนกัน แต่มันแค่ช่วงแคบๆ เช่น 14.5:1 ถึง 15.5:1
เพราะในรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน EFI ECU มันจะจูนน้ำมันกับอากาศให้อยู่ในค่า optimal
ดังนั้นมันอาจจะใช้แค่แคบๆก็พอ ไม่ต้องกว้างให้เปลืองค่าชิ้นส่วน

แต่ O2 SSR แบบ Wide Band มันจะวัดค่าได้ช่วงกว้างกว่า เช่น 5:1 ยัน 22:1
นั่นคือวัดได้ละเอียดกว่า ช่วงใช้งานกว้างกว่า เหมาะกับการจูนมากกว่าครับ

O2 SSR ที่ติดรถพอมั้ยมันขึ้นกับว่าช่วงของค่าใช้งานเราอยู่เท่าไหร่มากกว่าครับ
ถ้ามันอยู่ในช่วงที่เราใช้งาน ก็ไม่ต้องไปขวนขวายหา Wide Band มาติดให้เปลืองตังครับ

แล้วถ้าเป็นรถ FFV เติม E85 ละครับ
ค่า AFR มันไม่ใช่ 14.5:1 ถึง 15.5:1 แล้ว O2 ECU รถวัดได้ไงหว่า

สงสัยจะโดน จูนเนอร์หลอกแล้วซะละมั้งผม

คือ Wide Band มันไม่ได้แปลว่าดีกว่าเสมอไปนะครับ
รถที่รองรับ Flex-fuel (Lกฮ 0 ยัน 100% วิ่งได้ทั้งนั้น)
ช่วงทำงานของ O2 SSR มันจะกว้างกว่าปกติ
เพื่อรองรับน้ำมันหลายๆสัดส่วนครับ
แต่อย่างที่ตอบตอนต้นครับ ขึ้นกับค่าที่ใช้งานครับ



mamaman

Re: จูนรถโดยไม่ใช้ AFR WIDE Band ที่ปลายท่อ แต่ใช้ O2 ติดรถ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2015, 22:00:52 »
ขึ้นกับการจูนมากกว่าครับว่าเราอยากให้สัดส่วนน้ำมันต่ออากาศเป็นอย่างไร
O2 SSR แบบ Narrow Band มันให้ค่า linear เหมือนกัน แต่มันแค่ช่วงแคบๆ เช่น 14.5:1 ถึง 15.5:1
เพราะในรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน EFI ECU มันจะจูนน้ำมันกับอากาศให้อยู่ในค่า optimal
ดังนั้นมันอาจจะใช้แค่แคบๆก็พอ ไม่ต้องกว้างให้เปลืองค่าชิ้นส่วน

แต่ O2 SSR แบบ Wide Band มันจะวัดค่าได้ช่วงกว้างกว่า เช่น 5:1 ยัน 22:1
นั่นคือวัดได้ละเอียดกว่า ช่วงใช้งานกว้างกว่า เหมาะกับการจูนมากกว่าครับ

O2 SSR ที่ติดรถพอมั้ยมันขึ้นกับว่าช่วงของค่าใช้งานเราอยู่เท่าไหร่มากกว่าครับ
ถ้ามันอยู่ในช่วงที่เราใช้งาน ก็ไม่ต้องไปขวนขวายหา Wide Band มาติดให้เปลืองตังครับ

แล้วถ้าเป็นรถ FFV เติม E85 ละครับ
ค่า AFR มันไม่ใช่ 14.5:1 ถึง 15.5:1 แล้ว O2 ECU รถวัดได้ไงหว่า

สงสัยจะโดน จูนเนอร์หลอกแล้วซะละมั้งผม

คือ Wide Band มันไม่ได้แปลว่าดีกว่าเสมอไปนะครับ
รถที่รองรับ Flex-fuel (Lกฮ 0 ยัน 100% วิ่งได้ทั้งนั้น)
ช่วงทำงานของ O2 SSR มันจะกว้างกว่าปกติ
เพื่อรองรับน้ำมันหลายๆสัดส่วนครับ
แต่อย่างที่ตอบตอนต้นครับ ขึ้นกับค่าที่ใช้งานครับ

หมายความว่า O2 ของ FFV มัน อาจอ่านค่าได้มากกว่า O2 ทั่วไป ใช่ไหมครับ
ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นครับ