ขอบคุณ จขกท มากๆ เลยครับ
ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย แต่ก่อนก็เล็งรถมือสองเหมือนกันครับ หาข้อมูลมากมายเลย และที่สำคัญผมดูไมล์ด้วยอ่ะครับ
พอดีพ่อมีเพื่อเป็นเจ้าของเต็นท์ เหมือนกัน ก็เลยห้ามผมว่าอย่าซื้อเด็ดขาด ประมาณว่า ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพลง ครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง ไม่พอหรอกครับ บางที่บางแห่งมันเป็นหนองด้วย
ผมเองก็มีประสบการณ์รถมือสอง มาสองคันแล้ว แม้จะไม่มาก แต่มันช่างเป็นความแตกต่างที่หาที่เปรียบไม่ได้เหลือเกิน
ขอแชร์นะครับ
รถเป็น impreza wagon ปี 92 ซื้อมาในราคา 430,000 บาทไทย ในปี 2550 ซื้อจากเต้นท์ชื่อดังแห่งหนึ่งใกล้สี่แยกท่าพระ
และขายต่อในปี 2551 ให้กับคนใช้รถด้วยกัน ที่ราคาแสนจะต่ำ 360,000 บาทไทย
สภาพแรกมา ลองขับก็เทอร์โบก็ควันไหล ขับรถเหมือนปิ้งไก่ย่างข้างทางจำนวนห้าสิบไม้พร้อมกันเห็นจะได้ และกลิ่นไอเสียก็วนเข้ารถ เหม็นกันสะดุ้งปอด
คนขายบอกว่า รถไม่ได้วิ่งนาน คงมีน้ำมันเครื่องค้าง ควันเลยไหล
คนขายบอกว่า ยางรอบประตูหลังมันเก่าแล้ว ฉีกขาด อากาศก็เลยไหลเข้ามา
... แต่ความรู้ในวันนั้นมันไม่มาก กอปรกับต้องขาย Chrysler Voyager ที่เกียร์มันออกอาการคลัชลื่น เนื่องจากขาดการดูแลระบบน้ำมันเกียร์ที่ดี และ ความคะนอง
... มันทำให้ผมซื้อมาอย่างแอบดีใจ (ไปเอง)
มาเช็คกันทีหลัง เจ็บใจครับ รถมันเป็นรถชนหนักมาแล้ว ทั้งหน้า และหลัง ที่สำคัญด้านหลังเนี่ย ไม่ซ่อมแซมให้ดี ทำให้อากาศด้านหลังสามารถไหลย้อนกลับ เหมือนโกเตกซ์ไม่มีคุณภาพ
แล้วระหว่างนั้นหล่ะ? ผมทั้งเปลี่ยนสายพาน ของเหลว ทุกอย่าง สั่งเทอร์โบใหม่ จูนเครื่องใหม่ เบรคปั๊มใหม่ ยางรถยนต์ใหม่ ตีท่อไอเสียใหม่ทั้งเส้น พยายามงมกันแทบตายว่ากลิ่นมาจากไหน
ค่าซ่อม ค่าเสียเวลา รวมกันไปได้เป็นแสน
สิ่งเดียวที่ทำให้ผมยิ้มไปกับมันคืออัตราเร่งที่กินใจ และควอเตอร์ไมล์เบาๆที่ 14.1 วินาที
นอกนั้น... ผมน้ำตาตกในกับมันครับ ขายไปได้ก็ได้เจ้าของใหม่ที่ดี เอาไปทำซะงามเชียวครับ (เห็นครั้งสุดท้ายเป็นสีส้มไปแล้ว)