ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
"ดาวหลอกคุณ" 
ไม่ใช่แค่เซลล์ขายที่บอกปรับขึ้นอย่างต่ำแสนสองแสน
ข่าวโทรทัศน์ก็ช่วยกันประโคมข่าว โดยเฉพาะค่ายน้องดาว สื่อนี่บอกว่า รุ่นล่างๆขึ้นอย่างต่ำสองแสน(ไม่มีบอกแสนด้วยซ้ำ)
รุ่นบนๆอาจขึ้นไปถึงล้าน(ตอนนี้กลายเป็นล้านหงายเงิบไปเลยทีเดียว) สื่อบอกที่อาจมีลุ้นว่าราคาลด คือ Eco Car ในบางรุ่น
แบบนี้เซลล์และสื่อสารมวลชนต่างๆ เข้าข่ายหลอกหลวงผู้บริโภคไหม?เนี่ยทาง น้องดาวไทยแลนด์ จะมีอะไรชดเชยหรือสัพพอทหรือปลอบขวัญ คนที่ซื้อๆจองๆออกรถไปช่วงเดือนสองเดือนที่มา เพราะ สื่อกับเซลล์บอกว่าภาษีจะขึ้นเยอะ ไหม
คือ แบบคนที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหรือจองในช่วงที่ผ่านมา แต่กลายเป็นว่าต้องรีบมาซื้อต้องรีบมาจองเพราะกลัวภาษีขึ้นมาก(แม้จะไม่ขึ้นระห่ำแบบในอดีตก็ตาม)
คิดไว้แล้วว่าตลาดพรีเมี่ยมไม่ขึ้น เลยไม่หลงกลเซลล์งี่เง่า 
ไม่ทราบทันยุคที่ภาษีขึ้นแบบบ้าระห่ำไหม? ขึ้นได้ เกือบเท่าตัว บางรุ่นขึ้นไปเกินกว่าเท่าตัว ขึ้นหมด ตลาดทั่วๆไป ตลาดพรีเมี่ยม รถญี่ปุ่น รถยุโรป
ใครที่ทันยุคนั้น พอเห็นข่าวว่าภาษีรถจะขึ้นอีก ก็น่าจะสยองแล้ว
ขออนุญาตร่ายอะไรนิดหน่อยเท่าที่ตัวเองพอจะสังเกตได้รถญี่ปุ่นสมัยก่อน ที่ 3-4 แสน ปรับไปเป็น 7-9 แสน ส่วนที่ราคา 5-6 แสน ปรับไปเป็น เกือบ 1 ล้าน หรือ 1 ล้านต้นๆ (ชัดๆเลยที่ชื่อรุ่นยังอยู่ Accord)
แต่ยังดีว่ารถญี่ปุ่นก็พยายามพัฒนาวัสดุภายในและเพิ่มความปลอดภัยด้านต่างๆให้ขึ้นมาเกือบทัดเทียมรถยุโรป การเกาะถนนก็ดีขึ้น เผลอๆบางอย่างอาจดีกว่า
ขณะเดียวกัน รถยุโรปสมัยก่อน ที่ 1 ล้านต้นๆ หรือ 1 ล้านกลางๆ ปรับไปเป็น เกือบ 3 ล้าน หรือ 3 ล้านต้นๆ
เพิ่งจะมาปรับลดให้เหลือ 2 ล้านต้นๆ หรือ 2 ล้านกลางๆ ค่อนข้างปลาย ไม่นานนี้ (สังเกตจากพวกค่ายเยอรมันตระกูลเบื้องต้น C Class , 3 Series , A4)
แต่ที่แย่ คือ วัสดุคุณภาพต่างๆ สมัยก่อน ทนถึก ทนมือ ทนเท้า การเกาะถนนที่ขึ้นชื่อ ความปลอดภัยต่างๆ ความสะดวกสบายต่างๆ บางอย่างล้ำยุค จัดเต็ม
คือ คุ้มค่าจริงๆกับจำนวนเงินที่จ่ายไป สิ่งที่ได้แถมมา คือ ภาพลักษณ์ หรู โก้ เก๋
ขณะที่ปัจจุบัน ราคาแพงไปอีกเท่าตัว วัสดุต่างๆ คุณภาพแย่ลง ไม่ทนเหมือนอดีต ความปลอดภัยต่างๆที่ควรจะได้ ตัดทิ้ง แต่จ่ายราคาแพงขึ้น มันควรจะเป็นแบบนี้ไหม?
ใส่ระบบอิเล็กฯมาเพิ่ม(ญี่ปุ่นก็ใส่บางรุ่น) เหมือนจะดี แต่กลับเป็นตัวเพิ่มค่าใช้จ่ายตามมาในภายหลัง
สุดท้ายราคารถที่คนทั่วๆไปพอจะซื้อหามาไว้ใช้ได้หายไป
ค่ายฝั่งญี่ปุ่น ใช้วิธี ออกรถ Eco Car มาแทน แต่ราคาก็ยังไปแตะ 5-6 แสน บางรุ่นไปไกลกว่านี้
ค่ายฝั่งยุโรป(หนักไปทางเยอรมัน)ใช้วิธี ออกรุ่นเล็ก ตัวถังเล็ก เอาเครื่องยนต์ขนาดเล็กๆ มาใส่แทน แต่ราคาไม่เล็กตามเท่าไร
เครื่อง 1.4 Turbo 1.6 Turbo 1ล้านปลายๆ เกือบ 2 ล้าน บางรุ่น ก็ ราคาไปไกลกว่านี้
คิดว่าคนที่ซื้อ
รถยุโรปรุ่นเบื้องต้นสมัยก่อน ในราคานั้น เหตุผล น่าจะประมาณว่า
แข็งแรง ทนทาน เกาะถนน ปลอดภัย ได้ภาพลักษณ์แถมมา
ส่วนคนที่ซื้อ
รถยุโรปปัจจุบัน แบบที่เพิ่งซื้อรถยุโรปคันแรกสมัยนี้ ราคาก็ตามที่เห็นๆ (ความเห็นส่วนตัว) เหตุผลแรกๆ น่าจะเป็น ภาพลักษณ์ในแบบต่างๆ ที่ได้แถมมา คือ การเกาะถนน
ส่วนเรื่องความปลอดภัย แข็งแรง ทนทาน
อาศัยชื่อเสียงเก่าๆที่ทำไว้ เพราะ ปัจจุบัน(ความเห็นส่วนตัว)แทบจะไม่ต่างจากรถญี่ปุ่น
ที่สงสัย? คือ รถเยอรมันขายที่เยอรมันก็ราคาตามที่แต่ละบริษัทตั้ง พอมาอังกฤษราคาเพิ่มอีกนิดหน่อยถือว่าระยะทางไกลขึ้น
แต่พอมาไทย ราคาภาษีบ้าดีเดือด(นึกว่าซื้อรถ2คัน ไม่นับสมัยก่อน ที่ราคาเพิ่มแบบสมเหตุสมผล คือ ไกล+ภาษีพองาม)
แต่ทำไมพอไปอเมริกา ราคากลับ น้อยกว่าเกือบใกล้เคียง หรือ เทียบเท่าราคาที่เยอรมัน หรือ มากกว่าไม่มาก ในรุ่นและการตกแต่งที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งที่ก็ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลไม่น้อยเหมือนกัน ถ้าจะบอกว่าที่อเมริกา มีโรงงานรถเยอรมันที่นั่น นำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบ เลยได้ราคาไม่สูง
ไทยก็มีนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเหมือนกัน แต่ทำไมราคายังต่างกันลิบลับอยู่ดี ไม่เข้าใจ
