ถ้าพูดถึงรถ stock มาเลย แล้วอย่างไหน"ทำง่าย"กว่ากัน ผมถือหางช่วงล่างนะครับ
รถปกตินี่พื้นฐานช่วงล่างก็โอเคอยู่แล้ว หลายๆ คัน เปลี่ยนแค่สปริงชุดเดียว ดีขึ้นแบบรู้สึกได้ ไม่จำเป็นต้องแข็งแต่เกาะ เดี๋ยวนี้ได้ทั้งนุ่มนวลแต่หนึบขึ้นก็มี ราคาก็ไม่แพง (แต่ต้องมีหนูลองยาสักหน่อย)
ส่วนรถ NA ขึ้นไดโน ม้ามากขึ้นจริง แต่เมื่อไม่ได้ปรับปรุงเรื่องระบบส่งกำลังอย่างอัตราทดเกียร์ ก็วัดความแตกต่างได้ไม่มากนัก และมักจะปรับแต่งอะไรไม่ได้มาก ถ้าปรับได้มาก ก็มักได้อย่างเสียอย่าง เช่น
- เล่นกับกล่องแรงขึ้นแต่กินน้ำมันขึ้น
- เล่นกับท่อ เน้นต้น-ปลายหาย, เน้นปลาย-ต้นหาย, เดินท่อทั้งเส้นตั้งแต่เฮดเดอร์ แรงทั้งต้นและปลาย-เสียงดังขึ้น
- เล่นกับระบบส่งกำลัง เกียร์ธรรมดานี่ชัดเจน ว่าส่งกำลังดีขึ้น-ปวดขามากขึ้น-ขับให้นุ่มนวลยากขึ้น ส่วนเกียร์ออโต้แทบทำอะไรไม่ได้นอกจากระบบหล่อลื่นและระบายความร้อน
ส่วนเรื่องงบประมาณ พูดกันยาก เพราะถ้าเล่นกันหนักๆ ให้ผลดีทั้งคู่ กระเป๋าฉีกทั้งคู่ เช่น
- ชุดสตรัทปรับเกลียวดีๆ ก็หลายหมื่น ปรับได้หลายระดับ ทั้งความสูงและความแข็ง
- โมเครื่องเต็มสตรีม เล่นทั้งระบบอากาศ ไฟฟ้า ระบบส่งกำลัง ก็หลายหมื่นเช่นกัน (อย่านับพวกเครื่อง Turbo ที่โดนตอนกำลังมานะครับ พวกนี้ปลดล็อค หรือ tune up นิดเดียวก็พุ่งปรู๊ดแล้ว แต่ถ้าปรับเยอะระวังพังไวเน่อ)
ยิ่งถ้าเปรียบเทียบ Civic 1.8 กับ Mazda 3 1.6 นี่น่าจะชัดเจนอยู่ เพราะคำว่า "รถแรง" มันรวมหัวใจหลักไว้ในตัวมันเยอะแยะเลย ต่างกับ "รถเกาะ"
ทำให้นึกถึงนักวิ่งที่มีพลกำลังดี แต่ใส่รองเท้าแตะวิ่ง กับนักวิ่งที่ใส่รองเท้าดีๆ ขาแข็งแรง แต่ปอด-หัวใจ ไม่แข็งแรง
(ผู้ใช้ Civic & 3 1.6 อย่าเพิ่งโกรธเคืองกัน ยกตัวอย่างตามเจ้าของกระทู้เฉยๆ ทั้งสองรุ่นก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งคู่อยู่แล้ว)