มินิรีวิว Pajero Sport GT ขับ 2
ตามประสาคนเคยขับรถซิ่งโหลดเตี้ย มาเจอคันนี้ ??เกริ่นก่อนว่า รีวิวนี้ทำเองล้วนๆ ไม่มีอามิจสินจ้างหรือเป็นหน้าม้าแต่อย่างใด
เพราะงานที่ทำทุกวัน ต้องรีวิวข้าวของใหม่ๆอยู่ตลอดอยู่แล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อน
เพิ่งไปถอยรถใหม่กับเค้ามาคันนึง ก็เลยอยากมาแชร์ให้คนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ
ได้อ่านเป็นข้อมูล เผื่อจะได้บุญบ้างอะไรบ้าง เพราะตัวเอง ก่อนจะซื้อคันนี้
บอกตรงๆว่า หาข้อมูลอะไรๆที่เป็นข้อมูลผู้ใช้งานจริงๆไม่ค่อยได้เลย คนใช้งานจริง
ที่มาเขียน 2-3 บรรทัดบ้าง ไปลองเทสต์ตัว 4WD ก็ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไร่นะ
เพราะความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน
ก่อนอื่นมาอธิบายพื้นฐานให้เข้าใจก่อนว่า ผมมีพื้นฐานมาจากรถอะไร จะได้เข้าใจ
สภาพว่าผมชอบแบบไหน รู้สึกอย่างไร บางท่านอาจรู้สึกไม่เหมือนผม บางคน
อาจขับกระบะมาก่อน หรือขับรถนุ่มๆ ย้วยๆมาก่อนก็ให้หารความรู้สึกเอาเองนะครับ
ว่าแล้วมาเริ่มกันเลย ก่อนหน้านั้นผมขับ FD MT ตัวซิ่ง ปรับช่วงล่าง เปลี่ยนสปริง
ช่วงล่างแข๊งโป๊กชนิดที่ขึ้นลูกระนาดต้องชะลอจนเกือบจะหยุด ลงหลุมทีน้ำตาแทบไหล
ช่วงล่างรับรู้ทุกสภาพถนนขึ้นมาบนตัวรถ เสียงเครื่องยนต์ กับเสียงยางชัดมาก
โดยเฉพาะเสียงเครื่อง ข้อดีคือมันรู้สึกสปอร์ตมาก (ไปหน่อย)
และข้อดีอย่างมากคือ ต้นแม่มแรงมากครับ คือมันเป็นรถเกียร์ธรรมดาที่แค่เอาเท้าแตะๆ
คันเร่งแบบยังไม่ทันได้กด รถก็พุ่งห้อตะบึง โดยไม่ต้องเมื่อยเท้า เหยียบคันเร่งเลยครับ
เหยียบมาๆ คำว่ารอรอบคือไม่มีในคันนี้ อัตราเร่งมาตั้งกะ 1,500 ลากไปยัน
5,000-7,000 รอบ ยาวๆไป ยิ่งลากรอบมากยิ่งแรง แต่ต้องทนกับเสียงเครื่องยนต์
ที่ดังกระหึ่มในห้องโดยสารเอาหน่อย
ข้อดีอีกอย่างคือ ช่วงล่างหนึบ ไม่มีโยน ไม่มีย้วย โช๊คลงคอสะพานยุบหนึ่งทีแล้วขึ้น
แล้วหยุด นิ่งสนิท พวงมาลัยคมกริบ หนืดไม่ไวกำลังดี เรียกว่าจะเอาช่องไหน กี่ซม.
หลบอะไรบนถนน ใส่เข้าไปมันได้ดั่งใจ พวงมาลัยเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของคนขับ
อยากไปเลนไหน ช่องไหนโยกไปเถอะ อาการโยนซ้ายขวาไม่มี โยกเร็วๆ ซ้ายสุด
ไปขวาสุดได้สบาย
ทีนี้ความรู้สึกที่มาลองขับ PJS ตัวใหม่ ผมจะแบ่งเป็นข้อๆ ตาม priority ที่ผมให้
ความสำคัญจากมากไปน้อยสุดดังนี้ ปล. คันนี้ผมโชคดีไม่เจอดีเฟ็คอะไรเลย
ไม่ว่าจะพวงมาลัย หรืออาการอะไรอย่างอื่น ส่วนหลังคาที่บอกมีไอน้ำนี่
ผมบอกตรงๆนะ คือความสูงรถมันท่วมหัวเราแล้ว ไม่รู้จะปีนขึ้นไปดูหลังคา
มันทำไมอะครับ ไม่มีผลต่อการใช้งานผม ดังนั้นข้อนี้ขอผ่าน
1. เครื่องยนต์ + เกียร์อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น รถคันเก่าผมนี้มันแค่แตะๆคันเร่งก็ห้อตะบึง ยังกะหมาบ้า
แต่คันนี้ ความรู้สึกผมคือ เฮ้ย มรึงตื่นยังว่ะ วิ่งสิวิ่ง รถเป็นไรเปล่าว่ะ ไหนลองเหยียบ
คันเร่งลึกลงไปสิ เออเฮ้ย คันเร่งคันนี้ไม่เหมือนคันเก่าผมคือ มันลึกมาก เหยียบได้ลึก
ระยะเหยียบมากกว่าจมเลย ถ้าเหยียบๆแตะๆเบาๆแบบเดิมนี้ความเร็วแทบไม่ขึ้นเลยครับ
ส่วนเกียร์ ตัวนี้ถูกเซ็ทมาให้เกียร์เยอะ และขยันใช้เกียร์สูงมันเน้นประหยัด ดังนั้นอันนี้
ต้องปรับตัวฮะ เรียกมาปรับทัศนคติกันพักใหญ่ก็เรียนรู้ว่า รถมันเรี่ยวแรงดี แต่ต้องเหยียบ
ลึกหน่อย ถ้าเหยียบสุดแล้วก็พุ่งดีครับ พอรู้แบบนี้ ปรับกันนิดหน่อย ผมก็ปรับตัวให้เข้ากับรถ
(รถมันคงปรับตัวให้เข้ากับผมไม่ได้) และเรียนรู้ที่จะเหยียบคันเร่งลึกขึ้น และทนกับช่วงออกตัว
ที่อืดหน่อยในช่วง 1,000-1,900 รอบ พอความเร็วหลังจากนี้ รอบแตะ 2,000 กำลังก็มา
แบบพอเพียงครับ ขับในเมืองก็สบายดี อืดหน่อยนะคนดี ไปช้าๆใจเย็นๆ ทิ้งอารมณ์ขาซิ่งไป
ท่องไว้ว่า เราแก่แล้ว จะไปซิ่งอะไรละ ไปเรื่อยๆ ถึงแน่นอนแต่ปลอดภัยนะจ๊ะ
2. ช่วงล่าง อันนี้ละครับคือไฮไลท์ เพราะผมเคยขับรถที่จัดอันดับก็อยู่คนละขั้ว ตรงกันข้ามกับคันนี้มาก่อน
พูดง่ายๆว่าถ้าจัดเรท คันเดิมผมจะอยู่ฝั่งซ้ายสุดคือช่วงล่างมันแข๊ง นั่งตึงตังๆ แต่เฟิร์ม รถไม่มี
โยกซ้ายโยกขวา ส่วนคันนี้ให้อยู่ขวาสุด นุ่มมาก นี่ขับรถหรือขับเรือ หรือนั่งอยู่บนมาร์ชเมลโล
หรือเปล่า
ความรู้สึกแรกที่ขับกลับมาจากโชว์รูมและลงมาเข้าบ้านคือ เวียนหัวว่ะ
เวียนหัว มึนๆ
ใครนึกไม่ออกให้นึกถึงนั่งเรือข้ามฝาก หรือเรือเฟอร์รี่ไปเกาะตามภาคใต้ มันจะลอยๆ
เด้งขึ้นหน้าถอยหลัง มีซ้ายขวาบ้าง อาการเนี่ยถ้าคนขับมีน้ำหนัก (ตัว) เยอะ หรือบรรทุก
ของด้านหลัง หรือมีคนนั่งเกินกว่าหนึ่งคนอาการจะไม่ค่อยเกิดครับ เพราะรถมันมีน้ำหนักบรรทุก
แต่ผมผู้ชายตัวนิดเดียวน้ำหนักไม่ถึง 60 ด้านหลังโล่ง ไม่มีคนนั่งข้าง นั่งแล้วช่วงล่างแทบจะ
ไม่ยุบ มันเลยมีระยะโช้คยืดยุบตัวเยอะเป็นธรรมดา
อันนี้ผมต้องปรับตัวเยอะสุด คือต้องทำใจจากขับรถช่วงล่างสไตล์เกวียน เป็นรถที่ช่วงล่าง
สไตล์เรือ โยกๆนิ่มๆ ผมแก้ปัญหาเบื้องต้นโดนเอาไปเติมลม 38 หน้าหลัง
ถามว่าดีมั๊ยช่วงล่างแบบนี้ สำหรับผมนะ ผมว่ามันสบายสำหรับคนนั่งข้างๆ และคนขับที่
ไปเรื่อยๆใจเย็นๆ แบบลุงแก่แล้ว ใครจะแซงเชิญเลย แต่สำหรับใครที่อยากซิ่ง โยกหลบ
ซิกแซก หรือรีบจะไปทำธุระให้ทัน หรือขับออกต่างจังหวัด โยกรถเร็วๆหลบนู้นหลบนี้
ผมว่าไม่ใช่อะกิ๊ฟ มันไม่ใช่ ช่วงล่างแบบนี้มันไม่ใช่
ล่าสุดได้ขับไปพัทยา ความรู้สึกคือ รถใหญ่แบบนี้ มันสบาย ไม่ค่อยเหนื่อยเหมือนเดิม
รถไม่สะเทือนมาก ไปเรื่อยๆนุ่มๆเหมือนเรือ ไม่เร่งไม่รีบ แป๊ปเดียว เฮ้ยถึงแล้ว นี่คือข้อดี
คือไม่ต้องทนกับช่วงล่างแข็งๆ เสียงลมเสียงเครื่องยนต์ พอรถมันนุ่ม เราก็ใจเย็น
ไม่เหนื่อยเมื่อถึงจุดหมายปลายทางครับ แต่ถ้ารีบอยากถึงเร็วๆ หรืออยากขับสนุกๆ
ผมว่าเปลี่ยนรถเอาคันอื่นไปเถอะครับ
3. มิติรถ ใหญ่จริงๆอะไรจริงครับ ขึ้นไปขับ ทัศนวิสัยนี่ยังกับขึ้นไปขี่บนหัวชาวบ้านเค้า รถใหญ่ ล้อสูง
ความคล่องตัวก็ลดลงไปบ้าง ตรงนี้ผมต้องปรับตัว ก็พอรับได้ครับ
แลกกับพื้นที่ด้านหลัง ที่ผมเผื่อไว้ขนของสำหรับในงานของผมในบางครั้ง (ตอนแรกเลือกเทียบ
กับ HRV) เอาตลับเมตรไปวัดพื้นที่หลังกันเลย แบบไม่อายเซลล์ บอกตรงๆว่า พื้นที่ความสูงของ
HRV สูงกับกว้างกว่าอีก เฮ้ย ทำไมอะ (เพราะวัดพื้นที่ที่แคบที่สุดไง ไม่ได้วัดพื้นที่ที่กว้างที่สุด
แบบพวกนิตยสารเค้า เพราะผมขนของที่ใช้ความยาว ไอ้ระยะที่กว้างที่สุดของรถนี่ไม่ได้ช่วย
อะไรผมเลย)
แต่ด้านลึกนี่ PJS ยาวกว่าเยอะ ประมาณ 15 ซม.มั้ง ก็โอเคครับ
4. ภายใน โอเคนะครับ แต่ถ้าเทียบกับคันเดิม พื้นที่หน้ารถคันเดิมผมเยอะกว่า โดยเฉพาะพื้นที่
ด้านคนขับและคนนั่ง ผมเทียบจากปกติจะขนกล่องซับวูฟเฟอร์ 12 นิ้ว โดยวางที่
เบาะคนข้างๆได้ แต่รถคันนี้ ไม่ได้ครับ มันติดแท่นกลาง ยัดแล้วปิดประตูไม่ได้
ส่วนบรรยากาศในห้องโดยสารสำหรับผม โอเคให้ผ่าน ไม่ได้ถึงกับอวกาศแบบ HRV
และไม่ถึงกับย้อนยุค เรโทรไปแบบ Subaru XV ที่เดินขึ้นรถแล้วรู้สึกเหมือนตัวเอง
ใส่เชิ๊ตตัวโคร่งๆ กางเกงแสล๊กตัวใหญ่ๆ ทำผมรากไทร เหมือนคนยุค 20-30 ปีก่อน
ตัว PJS แผงคอนโซลอยู่กลางๆแบบคนยุคนี้ครับ ผมรับได้
5. เบาะนั่ง ส่วนตัวผมนั่งอ่านรีวิวมา 100 กว่ารีวิว (เว่อร์) เค้าบอกเบาะนั่ง PJS นั่งสบายมาก
คือไม่รู้นะ สำรับผม มันไม่สบายอะ มันเมื่อย ปวดหลังโคตร ผมสั่งเกตว่าคนที่ชมว่า
เบาะนั่งสบายส่วนใหญ่จะตัวใหญ่ แต่ผมตัวเล็ก นั่งแล้วไม่รู้สึกว่าสบาย ปรับเบาะ
ทุกอย่างแล้วก็ไม่ได้ สรุปไม่ผ่านครับสำหรับผม
ุ6. ฟังก์ชั่นส่วนตัวผมชอบฟังก์ชั่น Cruise control คันเก่าไม่มี คันนี้ใช้ขับทางไกลแล้ว อ้าาาา
มันสบาย ฟินไม่เมื่อยเท้า ปรับความเร็วขึ้นลงทีละนิดได้ด้วย ชอบๆๆ ส่วนฟังก์ชั่น
กันชนคันหน้าร้องเตือน เบรกช่วย หรือพวกลูกเล่นอะไรพวกนี้บอกตรงๆ ไม่ได้ใช้หรอกครับ
มันมาร์เก็ตติ้ง ส่วนเบรกมือไฟฟ้า ก็สบายดี แต่ลำบากชีวิตตรงตอนจะปลดเบรก ทำไมต้อง
เหยียบเบรกก่อน คือรถติดๆแทนที่จะปลดเบรกแล้วไปได้เลย นี่ต้องเหยียบเบรก มันเหนื่อยน้า
7. วิทยุ ใช้งานยากจังๆๆๆๆๆๆ ผมจะหาคลื่นวิทยุที่ผมชอบ แล้วล๊อคยังไงใครบอกผมที ยอมรับว่า
ยังไม่มีเวลาอ่านคู่มือ จูนหาคลื่นเลื่อนทีละนิดๆๆ ลำบากมาก เครื่องเสียง เสียงก็พอใช้
เทียบกับคันเดิมแล้วแย่กว่า เอาว่าพอฟังได้ ไม่ได้ดีเด่อะไร ฟังเอาเพลินไปฟังข่าว จส.100
หรือหาเพลงมาฟังในรถฆ่าเวลา
ส่วนช่อง USB นี่เสียบยากจริงๆอะไรจริง จะเอาไปซ่อนไว้ทำไมในช่องเก็บของข้าง
เวลาเสียบต้องจอดรถ หรือเอามือคลำๆหารูเอา
8. หน้าตา ภาพลักษณ์ มองข้างนอกนี่อย่างหล่อเลย หน้าตาคนตาเป็นต้อ เป็นฝ้า มองไกลๆนึกว่า Range rover
สวยดี ผมชอบ ฮาๆ ส่วนตัวผมชอบสีเงินนะ คือถ้าเป็นสีดำโครมเมียมข้างหน้าสีเงินมันจะ
ตัดกันชัด ความเห็นส่วนตัวผมว่ารถที่โครมเมียมเยอะๆมันดูเหมือนกระบะ ขาดองค์ประกอบศิลป์
ไม่ค่อยพรีเมียม และค่ายที่ชอบเอาโครมเมียมใหญ่ๆมาแปะหน้ารถก็รู้ๆกันอยู่ว่าค่ายไหน
จุ๊ๆ อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ ใครชอบก็ชอบ ใครไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องปัจเจก
9. อัตราการกินน้ำมัน น้ำมันเต็มถัง 65 ลิตร มั้งถ้าจำไม่ผิด ขับไปแล้ว 500 โล เหลือครึ่งถัง หน้าจอแจ้งว่า
จะขับได้อีก ประมาณ 300 โล ดูหน้าจออัตราสิ้นเปลืองก็มีขึ้นมีลง ผมสังเกตว่ารถจะ
ประหยัดมากเมื่อขับลอยตัวในช่วงความเร็ว 40-80 และแตะคันเร่งนิดๆในสภาพจราจร
ที่ไม่ถึงกับจอดหยุดนิ่ง คือไปได้ลอยๆ ช่วงไหนรถเยอะก็ปล่อยคันเร่งมันไหล พอใกล้ถึง
คันหน้าค่อยเบรก ถ้าคันหน้าไม่จอดก็แตะคันเร่งไปต่อ จะได้ถึง 7ลิตร/100km.
(14 โลลิตร) การจราจรแบบนี้หาได้ตามชานเมืองครับ
ส่วนในเมืองรถติดๆ มันทำได้ 10 โลลิตร ไปจน 8-9 โลลิตร
ส่วนตจว ไม่ประหยัดเท่าชานเมือง คือเหยียบความเร็ว 100-130 จะได้ราวๆ 12-13 โลลิตร
หรือ 7.6ลิตร/100km
ข้อมูลด้านบนนี้ไม่ได้มโนเองนะ ลองเองขับเอง ทั้งกทม ชานเมือง ต่างจังหวัด
ช่วงที่ประหยัดดีที่สุด คือ ชานเมือง ไม่ใช่ต่างจังหวัดความเร็วเดินทางแน่นวลลล #:34
10. Navi บอกตรงๆนะครับ เอาออกไปเถอะ ใช้งานยาก ใช้งานจริงไม่ค่อยได้ ใช้ใน google map
ดีกว่าเยอะ เป็นฟังชั่นที่เสียพื้นที่และไม่สมเหตุสมผลในยุคนี้
11. DVD ด้านหลัง มันหมดยุค DVD แล้วจริงๆครับ เชื่อผมเถอะมิตซู DVD มันตายไปนานแล้ว จะทำทั้งที
เอา Bluray หรือ Android box ที่ต่อเน็ต เซิรฟ์เน็ต เข้า youtube เล่นเว็บหาข้อมูล
เข้ากูเกิ้ล มี Internet radio, เล่น Facebook แบบนี้มันใ้ช้งานจริงได้มากกว่า สมัยนี้
ไม่มีใครเค้าเอาแผ่น DVD มาดูกันแล้วครับ เชื่อผมเหอะ ถึงยังมีคนที่ใช้อยู่ คุณก็เชื่อเถอะ
มันจะตายไปอีกไม่นานพร้อมกับคน gen เก่าๆพวกนี้ครับ เด็กรุ่นใหม่ต้องออนไลน์ ดูยูทูป
หรือ Bluray ครับ
12. พื้นที่ใส่ของด้านหลัง ดูจากรูป ใส่ซับ 15 นิ้ว ใส่กล่องใส่ลังใหญ่ๆได้ น่าจะพอกับ Fortuner นะ ซึ่งจริงๆ
มันก็ได้เท่านี้แหละ เยอะกว่านี้ก็กระบะแล้วครับ ถ้าจะขนของเล็กๆพวกเสื้อผ้า ช้อปปิ้ง
ขนของไปขายนี่เกินพอ
13. ความพอใจถามว่าพอใจมั๊ย คือมันต้องปรับตัวอะ เหมือนคนย้ายจากบ้านเดี่ยวแต่งหลุยส์ทั้งหลัง
ไปอยู่คอนโดแต่งโมเดิร์น มีทั้งพอใจ และไม่พอใจ
ที่ไม่พอใจคือ อัตราเร่ง ความคล่องตัว แต่ต้องยอมรับ เพราะเราเลือกรถแบบนี้เอง ถ้ามีโอกาสเลือกใหม่ได้
จะเลือกรถเล็กลง คล่องตัวขึ้น ขับสนุกกว่านี้ และแลกกับพื้นที่ขนของที่น้อยลง
ที่หงุดหงิดใจ คือช่วงล่าง ผมว่ามันรับไม่ได้สำหรับวัยรุ่น (ตอนปลาย) แบบผม
ที่ใจมันยังรักการซิ่ง และหงุดหงิดพวกขับช้าเป็นเต่า บางทีอยากซอกแซกก็ทำไม่ค่อยได้นะ
ต้องทำใจสบายๆ บนรถไปเรื่อย ถือซะว่าเรามันเจ้าคนนายคนแล้ว นั่งเฉยๆ สบายๆแบบนี้แหละ
ไปกวดไปอะไรมันหมดวัย อิอิ
สิ่งที่ชอบคือ ความนุ่ม (ทั้งรักทั้งเกลียด) เวลาขึ้นลูกระนาด แต่ก่อนนี่ตึง ตึง แข็งจนรถสะเทือน มา PJS
นี่เหยียบไปเลย ไม่ต้องชะลอ นุ่ม ไม่รู้สึก แลกกับความย้วยตอนขับเร็ว และความสบาย
ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อยล้า ตอนเดินทางไกล ยิ่งมีคนขับให้นี่โคตะระสบายครับ ขับเองก็มีเมื่อยบ้าง
(จากเบาะ) ส่วนการเดินทาง ความนุ่ม มันทำให้ร่างกายไม่ล้าเหมือนใช้รถซิ่งๆ หรือรถโหลดแน่นอน
อีกอย่างที่ชอบคือ แอร์เย็นมว๊ากกก และมีช่องวางแก้วสองช่องด้านหน้า สบายๆๆๆๆ เอาอะไร
มากินวางได้เลย หรือจะวางของ วางกุญแจก็สะดวก
จบครับ ใครมีคำถามอะไรถามมาได้ ยินดีตอบและแบ่งปันแชร์ประสบการณ์กัน ผมเห็นใจ
คนกำลังจะซื้อรถ แต่ไม่มีข้อมูลจริง มีแต่ข้อมูลผู้ผลิต และยูสเซอร์ที่รีวิว 2 บรรทัด
จบครับ บายๆ