ตกลงใจจะซื้อcx-5แน่แล้ว แต่จะเลือกขับ2หรือขับ4ออโต รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ

starlight

ในโจทย์ที่ว่า ไม่ได้คิดจะเอารถไปลุยทางลูกรัง แต่มีบ้างที่จะเข้า ออกโค้งอย่างเร็ว หรือบางทีขับในขณะฝนตกพรำๆมีน้ำขังบนผิวถนน  หากเป็นดังนี้ ระบบขับ4ออโต้ในตัวท็อป หรือว่า ตัวรองท็อปก็พอแล้ว   ส่วนเรื่องอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ไม่ค่อยได้สนใจกับมันมากนัก

ราคาต่างกันแสนหก เอาอย่างไรดี คิดไม่ตก (งบตั้งไว้ไม่เกินตัวท็อป แต่หากเซฟได้ก็จะดี เอาไว้เผื่อทำช่วงล่างและเปลี่ยนกระทะล้อใหม่)

ขอบคุณครับ



Alcatraz

มีคำตอบในใจแล้วนี่ครับ



Tui_PSG




starlight

มีคำตอบในใจแล้วนี่ครับ

ผมไม่ทราบว่า ตัวขับ4 ออโต้ มันทำงานได้ดีขนาดไหนน่ะครับ (ในสถานการณ์แบบที่กล่าวไว้ในคำถาม) น่ะครับ  หากเป็นแบบนั้นผมจะได้เลือกเอาตัว ขับ4ออโต้ไปเลย เพราะชอบขับแบบมั่นใจในการยึดเกาะมากกว่า

ขอบคุณครับ



pladaek

อ่านย่อหน้าแรก แนะนำขับ4
พออ่านย่อหน้า2 แนะนำขับ2 น่าจะดีกว่าครับ..

ถ้าเรื่องงบมันบีบเรา ผมว่าส่วนต่างแสนหกน่าจะเก็บไว้ทำสวยกับรถดีกว่าครับ
เลือกขับ 2
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



bahamu

เปลี่ยนล้อ เซ็นเซอร์ระบบกันส่ายจะคำนวนค่าวงล้อไม่ตรงกับที่ตั้งไว้
จะทำให้รถวิ่งแย่ลง และระบบขับสี่คงทำงานแบบพิการ

ถ้าเล่นเดิมๆขับสี่
ถ้าจะยำรถขับสอง และทำใจที่ต้องเสียประกันและสมรรถนะรถไปด้วย

สมัยฟอร์ฟูลไทม์ออกใหม่ๆมีคนอุตริไปเปลี่ยนล้อ โดยไม่ดูค่าออฟเซ็ต
ผลคือระบบทำงานผิดพลาด คนขับก็ประมาทเลยไปลงข้างทางแทน



Mike

ลองหา Youtube ดูครับ มีฝรั่งเอาตัว ขับสี่ ไปลุยแอ่งโคลน
ถ้าจะซื้อตัวขับ 4 และคาดหวังให้เกาะถนนในโค้ง บนถนนแห้ง มันก็เกาะตามความสามารถของ CX-5 ในโหมดขับ 2 (แต่ตัวขับ 4  ในขณะโหมดขับ 2 คงมีน้ำหนักกดทับที่ช่วงล่างด้านหลังเยอะกว่าตัว ขับ 2 เบนซิน)
ขับ 4 CX-5 มันไม่ Full time 4 ล้อตลอดเวลาเหมือน XV ถึงแม้ที่ฝาท้าย CX-5 จะแปะ AWD เหมือน XV ก็ตาม

ต้องลองถามคนที่ใช้ CX-5 AWD ว่าตอนระบบขับ 4 จับล้อหลัง บนถนนเปียกลื่น และรถเริ่มเสียอาการ ระบบตรวจจับ มันเร็ว-ช้าแค่ไหน ต้องรออาการลื่นออกมากน้อยแค่ไหนก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 18, 2016, 21:19:41 โดย Mike »
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS
SUBARU XV 2.0i-P
FORD Ranger
-WT 2.2 TDCi
-Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi
-Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi
Mitsubishi Triton Single
TOYOTA Hilux Mighty X
Discon.HONDA City SV,ISUZU Dragon Eye SLX 2.8,MITSUBISHI Cyclone,TOYOTA Hilux Super Star



ไทบ้าน

ยินดีด้วยครับที่จะได้ใช้รถดีๆ  สำหรับผมแล้วขับ 2 ก็พอครับ



voyager

เปลี่ยนล้อ เซ็นเซอร์ระบบกันส่ายจะคำนวนค่าวงล้อไม่ตรงกับที่ตั้งไว้
จะทำให้รถวิ่งแย่ลง และระบบขับสี่คงทำงานแบบพิการ

ถ้าเล่นเดิมๆขับสี่
ถ้าจะยำรถขับสอง และทำใจที่ต้องเสียประกันและสมรรถนะรถไปด้วย

สมัยฟอร์ฟูลไทม์ออกใหม่ๆมีคนอุตริไปเปลี่ยนล้อ โดยไม่ดูค่าออฟเซ็ต
ผลคือระบบทำงานผิดพลาด คนขับก็ประมาทเลยไปลงข้างทางแทน

สมัยนั้น Fortuner ยังไม่มี VSC ด้วยซ้ำเลยมั้ง และระบบ Fulltime ของ Torsen ในFT เป็นแบบกลไกล้วนๆ
มันเกี่ยวกับค่า offset ของล้อยังไง ขอความกรุณาอธิบายโดยละเอียดได้ไหมครับ



ps000000

ถ้ามีตังก์เราก็คงเลือก 4WD



tsubasa

แนะนำให้ต้องทดลองขับเองครับ เทียบทั้ง 2 รุ่น ขอเซลล์ขับระยะยาวๆ จะได้รู้ว่าตัวเองชอบแบบไหนมากกว่ากัน ถ้ายิ่งได้ทดสอบถนนที่คุณวิ่งประจำจะดีมาก ลองทั้งทางเรียบ ทางขรุขระ นะครับ เลือกเอง จะได้ในสิ่งที่ถูกในเรามากกว่าครับ


สำหรับผม ไม่เอาแล้วรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะผมไม่ได้เอาไปลุยโหดๆที่ไหนเลย ปกติขับในเมืองหรือเที่ยวต่างจังหวัด ขึ้นเขาสูงเช่นภูชี้ฟ้า บางอุ๋ง ดอยอ่างขาง รถขับเคลื่อน 2 ล้อไปได้สบายๆ ครับ ราคาต่างกันแสนหก เก็บไว้เติมน้ำมันดีกว่า



pladaek

เปลี่ยนล้อ เซ็นเซอร์ระบบกันส่ายจะคำนวนค่าวงล้อไม่ตรงกับที่ตั้งไว้
จะทำให้รถวิ่งแย่ลง และระบบขับสี่คงทำงานแบบพิการ

ถ้าเล่นเดิมๆขับสี่
ถ้าจะยำรถขับสอง และทำใจที่ต้องเสียประกันและสมรรถนะรถไปด้วย

สมัยฟอร์ฟูลไทม์ออกใหม่ๆมีคนอุตริไปเปลี่ยนล้อ โดยไม่ดูค่าออฟเซ็ต
ผลคือระบบทำงานผิดพลาด คนขับก็ประมาทเลยไปลงข้างทางแทน
ค่าอ๊อฟเซทมีผลต่อการทำงานยังไงครับ
อธิบายหลักการให้ผมข้าใจหน่อย ขอเหตุและผลประกอบด้วย
ผมว่าข้อมูลที่คุณนำเสนอมีความคลาดเคลื่อนอยู่ อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด..
ผมใช้ฟอร์ฟูลไทม์อยู่

อธิบายเรื่องเซนเซอร์ VSC และระบบขับสี่ทำงานพิการด้วยก็ดีนะครับ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



kimmeng21

เปลี่ยนล้อ เซ็นเซอร์ระบบกันส่ายจะคำนวนค่าวงล้อไม่ตรงกับที่ตั้งไว้
จะทำให้รถวิ่งแย่ลง และระบบขับสี่คงทำงานแบบพิการ

ถ้าเล่นเดิมๆขับสี่
ถ้าจะยำรถขับสอง และทำใจที่ต้องเสียประกันและสมรรถนะรถไปด้วย

สมัยฟอร์ฟูลไทม์ออกใหม่ๆมีคนอุตริไปเปลี่ยนล้อ โดยไม่ดูค่าออฟเซ็ต
ผลคือระบบทำงานผิดพลาด คนขับก็ประมาทเลยไปลงข้างทางแทน
ค่าอ๊อฟเซทมีผลต่อการทำงานยังไงครับ
อธิบายหลักการให้ผมข้าใจหน่อย ขอเหตุและผลประกอบด้วย
ผมว่าข้อมูลที่คุณนำเสนอมีความคลาดเคลื่อนอยู่ อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด..
ผมใช้ฟอร์ฟูลไทม์อยู่

อธิบายเรื่องเซนเซอร์ VSC และระบบขับสี่ทำงานพิการด้วยก็ดีนะครับ

ตามมาฟังคับเกี่ยวกันยังไง
"โอกาส มันก็เหมือนสายน้ำ ที่ไหลผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ถ้าคุณไม่ตักตวงมันไว้ สายน้ำมันก็จะไม่ไหลย้อนกลับ"



InBkk

ถ้าขับ 4 ยังอยู่ในงบ ผมเอาขับ 4 ครับ ของแบบนี้มันมาติดเพิ่มทีหลังไม่ได้นะครับ



PREM

รถแรงบิด 420 Nm ขับหน้า ออกตัวแรงๆ จะ torque steer เยอะรึเปล่า อยากให้ไปลองประเด็นนี้ก่อนครับ เพราะถ้าสะบัดเกินงาน ผมจะยอมเพิ่มเงินไปออก AWD เลย
ขนาดคันผม 2.5 ขับหน้า แรงบิด 256 Nm ออกตัวแรงๆ ยังมี torque steer เลย
2013 Mercedes E 63 AMG (W212)
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP



Impulse

CX5 ถ้าขับไม่โหดจริง หรือทางไม่แย่จริง แค่ตัวขับ 2 ก็พอแล้วครับ ต่อให้ขับ 4 มันก็ไม่ได้เลิศแบบ Subaru แค่พอสัมผัสได้ว่า มันช่วยนิดๆ
ขับ 2 ได้อัตราเร่งกับอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า 4 ด้วย



Auto

ขับไม่เร็ว เข้าโค้งไม่เร็ว ใช้ในเมืองเป็นหลัก  2wd ก็เพียงพอครับ 
แต่ถ้าเน้นใช้งานท่องเที่ยวออก ตจว มีฝนตก เข้าโค้งเร็ว  ๆ   4wd ดีกว่า



pakorn

ถ้าจากลักษณะการใช้งานตามโจทย์ข้างต้น 2WDก็เพียงพอแล้วครับ จะจ่ายแพงกว่าไปเพื่ออะไร ในเมื่อไม่ได้ใช้อย่างคุ้มค่า
ปัจจุบันยังขับ
honda jazz gd 06 LPG
honda civic fc  16
toyota velfire 13
nissan almera n17 12



sith(สิทธิ์)

พอได้กลับมาใช้รถที่มี AWD หรือ 4wd บอกเลย ไม่อยากกลับไปใช้แบบอื่นจริงๆ
พอใช้จนชิน กลับไปใช้ปกติ มันขาดความมั่นใจนะ ถ้าขับแต่2wdก็จงขับแต่2wdไปเรื่อยๆจะดีสุด
พอเปลี่ยนความมั่นใจมันเปลี่ยนตาม  :D



Pon76

ผมจะเลือกขับ 4 ครับ ออกแบบจากโรงงานจะคำนึงทั้งความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนนมาดีที่สุดแล้ว.       ผมชอบความนุ่มนวลในการขับ แต่งช่วงล่างแล้วแข็งขึ้นแน่นอน. เกาะแบบขับ4. มั่นใจมากกว่านะครับ



5thAvenue

เปลี่ยนล้อ เซ็นเซอร์ระบบกันส่ายจะคำนวนค่าวงล้อไม่ตรงกับที่ตั้งไว้
จะทำให้รถวิ่งแย่ลง และระบบขับสี่คงทำงานแบบพิการ

ถ้าเล่นเดิมๆขับสี่
ถ้าจะยำรถขับสอง และทำใจที่ต้องเสียประกันและสมรรถนะรถไปด้วย

สมัยฟอร์ฟูลไทม์ออกใหม่ๆมีคนอุตริไปเปลี่ยนล้อ โดยไม่ดูค่าออฟเซ็ต
ผลคือระบบทำงานผิดพลาด คนขับก็ประมาทเลยไปลงข้างทางแทน
ค่าอ๊อฟเซทมีผลต่อการทำงานยังไงครับ
อธิบายหลักการให้ผมข้าใจหน่อย ขอเหตุและผลประกอบด้วย
ผมว่าข้อมูลที่คุณนำเสนอมีความคลาดเคลื่อนอยู่ อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด..
ผมใช้ฟอร์ฟูลไทม์อยู่

อธิบายเรื่องเซนเซอร์ VSC และระบบขับสี่ทำงานพิการด้วยก็ดีนะครับ

เกือบตรง แต่ไม่ทั้งหมดนะครับ

การเปลี่ยนล้อ เปลี่ยนยาง มันมีผลต่อน้ำหนัก รอบวงการหมุน มันมีผลต่อเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับการหมุนของล้อแน่นอน

จะทำงานช้าลง หรือเร็วขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าเปลี่ยนยังไง

เซ็นเซอร์พวกนี้ ระบบใดเอาข้อมูลไปใช้งานบ้างก็ลองเชื่อมๆ กันดูครับ

แต่ระบบขับ 4 แบบ Fulltime ไม่น่าจะใช่ครับ มันล็อคซะขนาดนั้น

ถ้าเป็นแบบ Realtime / Automatic นั่นน่าจะเกี่ยวกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 18, 2016, 17:21:00 โดย 5thAvenue »



J@K

ขับ 2 น่าจะพอ ดูจากบรรทัดสุดท้ายเรื่องเงินน่าจะมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจ

แต่สำหรับผมถ้าไม่ได้ขับ ลุยหรือสักครึ่งนึงของโฆษณา Subaru Forester ขับสี่ก็ไม่มีความจำเป็นเลย
ถึงแม้จะมีคนบอกว่าขับสี่ไว้สำหรับขับช่วงฝนตกถนนลื่นสามารถช่วยประคองรถไว้ได้ แต่ผมก็คิดว่าถ้าฝนตก
ถนนลื่นสิ่งแรกที่ปลอดภัยที่สุดคือขับช้าลง เพราะสามารถช่วยประคองและหยุดรถได้เนื่องจากอุบัติเหตุไม่จำเป็น
ว่าจะต้องเกิดจากเรา อาจจะเกิดจากคันอื่นก็ได้ และบางครั้งฝนตกลมแรงก็ส่งผลให้เรามองทางได้ไม่ชัดเจนยิ่งกว่า
กลัวถนนลื่นซะอีก
@ngel gunman



secrecyguy

ผมใช้ตัวก่อน MC

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เลือกawd เลยครับ ฝนตกนี้เห็นความต่างชัดเจน ถ้าเอาว่าว่าเพียงพอ รถอะไรก็ได้รับ



TABO9

ผมก็กำลังมองไว้อยู่เหมือนกันครับ แต่เล็ง 2.0S  ไว้ออกในปีนี้  แต่ส่วนลดช่วงนี้เห็นใน CLUB CX-5 ลดกันหนักเลยทีเดียวครับลด 70,000 แถมประกัน ฟิล์ม  พรมกระดุม อื่นๆ  ครบเลยครับ  เพิ่งออกแถมลดกันขนาดนี้  ได้ใจคนออกรถช่วงนี้จริงๆ



RockTheMonk

2.2 AWD CX-5 ผมใช้ตัวเก่าอยู่..รับรองไม่ผิดหวัง

..AWD มีดีกว่าไม่มีครับ..สภาพถนนบ้านเราและการขับรถไทยสไตล์..สมัยนี้มันช่างน่าเกรงกลัวอยู่เรื่อยๆ



biozebastian

คำถามเดียวกับผมเลยครับ กำลังชั่งใจอยู่เพราะต่างกันแสนหก
ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มมา ผมเฉยๆครับ พรุ่งนี้ว่าจะไปลองซักหน่อย ส่วนลดของศูยน์ที่เชียงใหม่
เบนซิลแถมป.1ไม่เอาของแถมลด50,000
ดีเซลแถมป.1ไม่เอาของแถมลด45,000
ได้อยู่แค่นี้เองครับ ถ้าทั้งสองไม่เอาป.1ลดเพิ่มอีก18,000



ชายโอ๊ต

เมื่อบ่ายเพิ่งไปรับตัว 2.0S มาครับ
สำหรับผมแล้ว ด้วยงบที่จำกัด แค่ตัวนี้ก็คุ้มค่าสุดแล้วครับ
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"



Slipknot`

ช่วงล่างอย่าง CX-5 ขับสองเหลือๆครับ
แต่ถ้าเพิ่มแล้วไม่เดือดร้อน ขับสี่แบบไม่ลังเล



kan.kom

ขับสี่มีประโยชน์ตอนเจอน้ำขังตามไหล่ทางมากๆ
ตอนกลางคืน ฝนตก ขับบนทางด่วน เจอนำ้ขัง ช่วยได้เยอะ
เพราะงั้นรถสูงทรง suv ppv ผมจะเลือกตัวขับสี่ไว้ก่อนตลอดครับ
เวลาเกิดเหตุทีนึงผมว่า มันคุ้มสำหรับเงินหลักแสนครับ เอามาหาร 5 ปี ตกปีละไม่กี่หมื่นครับ
ถ้างบถึงแบบสบายๆ ก็น่าจะเพิ่มครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 18, 2016, 20:31:59 โดย kan.kom »



bahamu

ระบบขับสี่บนทางเรียบ จะแบ่งกำลังที่ล้อหน้ากับล้อหลังไม่เท่ากัน
ซึ่งรถไม่แพงมากมักจะแบ่งแบบตายตัว เช่น

รถขับหน้า
หน้า70 หลัง30

รถขับหลัง
หน้า30 หลัง70

แต่ซูบารุบางรุ่น หรือยี่ห้ออื่นๆสามารถเลือกแบ่งกำลัง
ระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังได้ ทำให้ควบคุมการขับขี่ได้เหมาะกับเส้นทาง

ส่วนขับสี่กระเทย จะสั่งให้ล้อหลังทำงานเมื่อล้อหน้าเสียการยึดเกาะ
โดยเซ็นเซอร์ที่ล้อ abs แร็ค คันเร่ง ลิ้นปีกผีเสื้อ เกียร์ ผ่านกล่อง

โดยทำงานสัมพันธ์กับระบบกันส่าย ที่สั่งการระบบเบรค
ซึ่งสั่งให้เบรคทีละล้อได้ จนกว่าตัวรถจะไม่ส่ายเกินกว่าที่ตั้งค่าไว้
ขณะเหยียบเบรค โดยไม่มีการยกแป้นเบรคขณะควบคุมรถ

ถ้าล้อไม่ได้น้ำหนัก การเยื้องดุม เส้นผ่าศูนย์กลางที่ใกล้เคียงกัน
การประมวลผล และควบคุมในเสี้ยววินาทีย่อมมีความคลาดเคลื่อน
การไปเสริมจานรอง แก้ดุม เพื่อให้ใส่ล้อที่สวยถูกใจเป็นเรื่องไม่ควรทำ

เพราะทำให้หมดประกันในส่วนช่วงล่างแน่นอน กรณีเกิดเหตุขึ้นศาล
ผู้ขับจะไปฟ้องร้องเอาผิดผู้ผลิตไม่ได้ทั้งหมด เพราะล้อไม่ใช้ของติดรถ
หรือซื้อจากศูนย์ที่มีประกันควบรวม

ล้อเอ็นไกที่ติดรถ ลองไปชั่งกิโลเทียบกับล้อแต่งโตกว่าดู
นน.ไม่ได้เบากว่าล้อติดรถ บางวงหนักเกินสามกิโลไม่รวมยาง
เมื่อใช้เกิดแรงเบี่ยงหนีศูนย์ แรงฉื่อยจะมากเป็นทวีคูณ
ตามความเร็วรถ ระบบต่างๆจะให้ทำงานเท่าเดิมคงยาก
ยิ่งรถหนักเกิน1.5-2.5ตัน จะเห็นผลเรื่องนี้มากกว่ารถเบา

ในรถแข่ง หรือรถสปอร์ตแพงๆ จะตั้งความไวของระบบกันส่าย
absได้ ว่าจะให้ทำงานเร็วหรือช้า แบบเปิดพัดลม
จะได้เหมาะกับล้อยางที่เปลี่ยนไป และยังต้องไปวิ่งทดสอบ
ในสนามอีกเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 18, 2016, 20:38:06 โดย bahamu »