ผมว่าทรมานจะตายนะเกียร์ธรรมดา ยิ่งบางยี่ห้อคลัทช์แข็งอีก ปวดเข่ากันเลย แทบไม่อยากขับอีกเลย นี่ยังไม่รวมเผลอเข้าผิด เปลี่ยนเกียร์ช้า มือก็ไปยุ่งกะเกียร์แทนที่จะได้จับพวงมาลัยสองมือโดยเฉพาะช่วงเลี้ยว ... คือไม่เห็นมันจะน่าถวิลหาได้เลยนะ ถ้าสมัยก่อนว่าไปอย่างเพราะเกียร์ออโต้ยังไม่พัฒนาแบบในปัจจุบัน
ก็ในเมื่อเกียร์ออโต้เดี๋ยวนี้มีเปลี่ยนเกียร์บวกลบได้ มีทั้ง paddle shift มันก็แสนจะสุขสบาย ปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์เพียงแค่โยกหรือกดปุ่ม ทำไมจะต้องไปเรียกหาเกียร์ธรรมดากันอีก งง แม้แต่เบรคเค้ายังทำเป็นปุ่ม brake pause เลย จะได้สบายไม่ต้องเหยียบเบรคเวลารถติดๆ
ผมขออธิบายแบบนี้นะครับ
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=39032.0เรื่องเปลี่ยนเกียร์ช้า ลองดูตามลิงค์นะครับ รถรุ่นเดียวกัน เครื่องเดียวกัน เกียร์ธรรมดาให้อัตราเร่งดีกว่าเกียร์ออโต้
ทั้งๆ ที่เกียร์ออโต้ไม่ต้องคอยสับเกียร์ เหยียบพรวดเดียว แต่กลับช้ากว่า เพราะอะไร?
เพราะเกียร์ออโต้ปกติ มี ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ มาเป็นตัวถ่วงน่ะครับ การตอบสนองช้าทั้งจากสมองกลและตัวทอร์คฯ แถมประสิทธิภาพต่ำมาก
ในขณะที่เกียร์ธรรมดาไม่มีตัวนี้ มันใช้คลัทช์ แถมคนขับยังสั่งการได้เอง
เพราะนั้น ไม่ว่ามันจะมี Paddle Shift หรือโหมดบวกลบ อะไรก็ตามแต่ มันไม่ได้ทำให้เทียบชั้นประสิทธิภาพเกียร์ธรรมดาได้เลยครับ
ช่วงโค้ง คนขับสามารถเตรียมตัวก่อนเข้าโค้งได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเอามือไปจับเกียร์ตอนเข้าโค้งเลย
ถ้าวันใดวันหนึ่ง มีเทคโนโลยีเกียร์ออโต้ที่ใช้คลัทช์แล้วไม่มีปัญหาเรื่องความทนทานเมื่อไหร่ ประโยคของท่านจะจริงทันทีครับ
แต่นั่นยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะนั้น ถึงแม้เกียร์ออโต้ จะเหมาะสมกับการใช้ในเมือง แต่เกียร์ธรรมดา คือเกียร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
สามารถขายคนที่รักในการขับขี่ได้ครับ
ปล. พี่ผมทำงานอู่ไดโน่จูนรถ เคยวัดกำลังลงพื้น วีออส NZ เดิม 109 PS ที่เครื่อง แต่ถึงพื้นแค่ 92 สำหรับออโต้ และ 102 สำหรับเกียร์ธรรมดา
ปล2. แต่เกียร์ออโต้ในไทย ก็มีปัญหาการใช้งานบ่อย เช่น Ford Powershift เป็นต้น เกียร์แบบนี้ ถ้าไม่นับว่าพังไว ผมชอบมันนะ
ปล3. อีกค่ายคือ MG 3 MG6 อันนี้ผมรับไม่ได้เรื่องการสั่งการของสมองกลครับ สั่งเหมือนมือใหม่หัดขับเกียร์ธรรมดา
ปล4. ผมขับ All New D-Max 3.0 Z-Perstige ตัวท็อป เกียร์ธรรมดาครับ