แล้วอ๊อพชั่นฟรุ้งฟริ๊ง แบบกล้องหน้ารถเนี่ย มันก็มีคนชอบเฉพากลุ่มไม่จำเป็นที่ส่วนใหญ่ต้องติด
ถ้าไม่โดนกับตัว ก็ไม่รู้สึกหรอกครับ
ผมถึงสนับสนุนการที่มีกล้องติดหน้ารถ อย่างน้อยเพื่อเอาไว้ปกป้องตัวเอง
ย้อนไปยุคปี 2550 ผมกำลังขับรถกลับจากลำปาง วิ่งซ้ายที่ความเร็ว 90 - 100 กม/ชม มีคุณพ่อแม่ และ พี่สาว กำลังเดินทางกลับจากเชียงใหม่ด้วยความสุข ในรถวีออสรุ่นใหม่ (ณ.ขณะนั้น)
แต่อยู่ๆ มอเตอร์ไซค์วิ่งจากเลนซ้ายสุด ตัดหน้ารถผมเพื่อจะข้ามถนนไปอีกฝั่งแบบกระชั้นชิด ผมเบรคไม่ทันจริงๆ เลยชนเข้าไป
ผลคือคนขับไปเสียชีวิตที่โรพยาบาล ผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาล จ่ายค่าเสียหาย + ค่าเดินทาง ร่วมๆ ห้าแสนบาท
- ถ้าวันนั้นมีออปชั่นฟรุ๊งฟรี้งแบบที่คุณกล่าว วันนี้ผมคงไม่ต้องมีคดีติดตัว ถึงโทษจำคุกจะรอลงอาญา 2 ปี ไม่ติดคุกก็จริง แต่ .... ในวันตัดสิน ต้องถูกใส่กุญแจมือหนักๆ มีโซ่ตรวนข้อเท้า เดินร่วมกับผู้ต้องหาทั้งคดีค้ายา ฆ่าคนตาย
ถึงจะสามารถใช้ชีวิตอิสระ แต่ต้องไปบำเพ็ญประโยชน์ + รายงานตัว แถมออกนอกประเทศไม่ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนอยากไปไหนก็ไป ร่วมๆ 2 ปี Passport ก็ต่ออายุไม่ได้
- ถ้าวันนั้นมีออปชั่นฟรุ๊งฟรี้งแบบที่คุณกล่าว ผมคงไม่ต้องเสียเกือบครึ่งล้าน เพื่อต่อสู้ในชั้นศาลหรอกครับ
ตำรวจยังบอกเลยว่า เสียดายที่ไม่มีกล้อง ไม่ยังงั้นทุกอย่างจะง่ายกว่านี้เยอะมาก
ทุกวันนี้รถที่บ้านสี่คัน มีกล้องหน้ารถซึ่งเป็นออปชั่นฟรุ๊งฟริ๊งทุกคัน เราไม่รู้หรอกครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น