ผู้เขียน หัวข้อ: ใครเคยให้เซลเอารถมาลองที่บ้านบ้างครับ พอดีไปดู Mazda MX5  (อ่าน 7616 ครั้ง)

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
เชียร์ให้รอตัว hardtop อีกเสียงครับ
ครับผม 


  สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกท่านทุกคำตอบนะครับ และก็ขอบคุณเซล Mazda  ปทุมธานีในวันนั้นด้วยให้การต้อนรับและให้รายละเอียดดูแลลูกค้าอย่างดี   พร้อมข้อเสนอน่าสนใจ  รวมถึงข้อเสนอให้เอารถมาลองขับด้วย 
ก่อนหน้านี้เคยไปดูรถตั้งแต่สมัย 7-8 ปีที่แล้วตอนเป็น MX5  NC  ไม่เคยได้ข้อเสนอดีดีแบบนี้เลย 

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ถ้าผมจำไม่ผิด จอดทะเลสาบแล้วเดินมาได้นะครับ

จอดฟรี เดินไกล แต่เขามีทำงานเดินมาให้แล้ว

ผมไม่เคยไปจอดในร่มอีกเลยคับ

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,248
เรื่องเซลเอารถมาให้ลองที่บ้านนั้น อย่าได้เกรงใจครับ เป็นงานของเขาอยู่แล้ว
แต่เซลเขาก็หวังจะให้เราจองนะครับ
ผมเองก็มักจะโดนเซล คะยั้นคะยอเอารถมาให้ลองถึงออฟฟิศอยู่เสมอ(เป็นรถพรีเมี่ยมทั้งหมดนะครับ)
แล้วก็เคยมีเอารถมาทิ้งไว้ให้ใช้ 1-3 วัน หลายรอบเหมือนกัน
แต่ผมก็ไม่ได้จองนะครับ แล้วผมก็บอกเซลก่อนที่จะมาเลยว่า "ยังไม่จองนะครับ"

ถ้าเอารถมาทิ้งไว้ให้ใช้ ปกติก่อนคืนรถ ผมจะล้างรถ แล้วเติมน้ำมันให้เต็มถัง
ถึงจะไม่ต้องทำก็ตามเถอะ เพราะเขาถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทอยู่แล้ว
ส่วนถ้าเซลเอารถมาให้ลองถึงที่ ส่วนมากผมก็พาไปเลี้ยงข้าว โดยนัดเซลตอนเที่ยง แล้วระหว่างลองรถ ก็พาไปกินข้าวเลย



----------
ส่วน MX-5 ผมเช่าขับหลายรอบที่ญี่ปุ่น แล้ว ชอบมากครับ โดยเฉพาะเกียร์ธรรมดา
อยากซื้อมาก เพราะที่ญี่ปุ่นราคาก็ไม่แพง ราคาอยู่ระหว่าง มาสด้า 3 และ CX-5
(แถมตอนนี้ยังมีโปรโมชั่น ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยไม่แพงมาก อีกต่างหาก)
แต่ซื้อไม่ได้ เพราะอีกไม่นาน ผมจะต้องกลับไปอยู่เมืองไทยเป็นหลักแล้ว
อีกทั้ง อพาร์ตเม้นท์ที่อยู่ ไม่มีที่จอดรถด้วย ทำให้ซื้อรถไว้ใช้เองไม่ได้

ถ้าเป็นผม ผมจะซื้อตัวหลังคาผ้าใบนี่แหละครับ
มันคลาสสิก มากที่สุดแล้ว ถ้าจะเก็บไว้นานๆ หรือเก็บเข้า คอลเลคชั่นสะสม


ผมตั้งใจว่า ถ้ากลับไทย จะซื้อเก็บไว้
เมื่อวันก่อนได้ไปเดินมอเตอร์โชว์ (ช่วงนี้กลับมาทำงานที่เมืองไทย จนถึงสงกรานต์)
ตั้งใจว่า ถ้าต้องรอรถนาน อาจจะยอมควักเงินจองไว้ก่อน (แต่ถ้ามีรถให้เลยยังไม่เอา เพราะไม่รู้เอามาแล้วจะเอาไปจอดไว้ไหน)
แต่ เห็นราคาที่เมืองไทยแล้ว เดินออกจากบูทแทบไม่ทัน
ผมว่าแพงมากครับ ถึงแม้ว่าจะนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคันก็ตามเถอะ ตอนแรกผมคิดว่าสัก 1.99 ล้านบาท

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า
ถ้าต้องรองบประมาณ ผมจะรอดูตัวหลังคาแข็งครับ
ได้เก็บเงินขณะรอด้วย ถ้าตัวหลังคาแข็งออกมาไม่ถูกใจ ก็ซื้อตัวหลังคาผ้าใบ (ถ้ามาสด้าไทย ยังขายอยู่นะครับ)
แต่ถ้า มีงบรออยู่แล้ว แล้วใจไปแล้ว ก็ซื้อเลยไม่ต้องรอครับ


ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,784
เรื่องเซลเอารถมาให้ลองที่บ้านนั้น อย่าได้เกรงใจครับ เป็นงานของเขาอยู่แล้ว
แต่เซลเขาก็หวังจะให้เราจองนะครับ
ผมเองก็มักจะโดนเซล คะยั้นคะยอเอารถมาให้ลองถึงออฟฟิศอยู่เสมอ(เป็นรถพรีเมี่ยมทั้งหมดนะครับ)
แล้วก็เคยมีเอารถมาทิ้งไว้ให้ใช้ 1-3 วัน หลายรอบเหมือนกัน
แต่ผมก็ไม่ได้จองนะครับ แล้วผมก็บอกเซลก่อนที่จะมาเลยว่า "ยังไม่จองนะครับ"

ถ้าเอารถมาทิ้งไว้ให้ใช้ ปกติก่อนคืนรถ ผมจะล้างรถ แล้วเติมน้ำมันให้เต็มถัง
ถึงจะไม่ต้องทำก็ตามเถอะ เพราะเขาถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทอยู่แล้ว
ส่วนถ้าเซลเอารถมาให้ลองถึงที่ ส่วนมากผมก็พาไปเลี้ยงข้าว โดยนัดเซลตอนเที่ยง แล้วระหว่างลองรถ ก็พาไปกินข้าวเลย



----------
ส่วน MX-5 ผมเช่าขับหลายรอบที่ญี่ปุ่น แล้ว ชอบมากครับ โดยเฉพาะเกียร์ธรรมดา
อยากซื้อมาก เพราะที่ญี่ปุ่นราคาก็ไม่แพง ราคาอยู่ระหว่าง มาสด้า 3 และ CX-5
(แถมตอนนี้ยังมีโปรโมชั่น ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยไม่แพงมาก อีกต่างหาก)
แต่ซื้อไม่ได้ เพราะอีกไม่นาน ผมจะต้องกลับไปอยู่เมืองไทยเป็นหลักแล้ว
อีกทั้ง อพาร์ตเม้นท์ที่อยู่ ไม่มีที่จอดรถด้วย ทำให้ซื้อรถไว้ใช้เองไม่ได้

ถ้าเป็นผม ผมจะซื้อตัวหลังคาผ้าใบนี่แหละครับ
มันคลาสสิก มากที่สุดแล้ว ถ้าจะเก็บไว้นานๆ หรือเก็บเข้า คอลเลคชั่นสะสม


ผมตั้งใจว่า ถ้ากลับไทย จะซื้อเก็บไว้
เมื่อวันก่อนได้ไปเดินมอเตอร์โชว์ (ช่วงนี้กลับมาทำงานที่เมืองไทย จนถึงสงกรานต์)
ตั้งใจว่า ถ้าต้องรอรถนาน อาจจะยอมควักเงินจองไว้ก่อน (แต่ถ้ามีรถให้เลยยังไม่เอา เพราะไม่รู้เอามาแล้วจะเอาไปจอดไว้ไหน)
แต่ เห็นราคาที่เมืองไทยแล้ว เดินออกจากบูทแทบไม่ทัน
ผมว่าแพงมากครับ ถึงแม้ว่าจะนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคันก็ตามเถอะ ตอนแรกผมคิดว่าสัก 1.99 ล้านบาท

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า
ถ้าต้องรองบประมาณ ผมจะรอดูตัวหลังคาแข็งครับ
ได้เก็บเงินขณะรอด้วย ถ้าตัวหลังคาแข็งออกมาไม่ถูกใจ ก็ซื้อตัวหลังคาผ้าใบ (ถ้ามาสด้าไทย ยังขายอยู่นะครับ)
แต่ถ้า มีงบรออยู่แล้ว แล้วใจไปแล้ว ก็ซื้อเลยไม่ต้องรอครับ

ราคาโหด จริงๆครับเห็นด้วย
สัก2.1ยังพอฟังได้ ถ้า1.99นี่คงโดดเข้าใส่





ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
 ราคาที่เปิดมานั้น มีดังนี้
1. 2.7 ล้าน สีปกติ
2. 2.71 ล้านสีขาวมุก
3. 2.715 ล้านสำหรับสีแดง

ดาวน์ประมาณ 6 -7 แสน ผ่อน 84 เดือน เดือนละประมาณ 30,000 บาท ดอกเบี้ย 3.4 
เรื่องราคาเห็นด้วยที่ว่าโหดร้ายทำร้ายจิตใจกันพอควร  อิจฉาราคาที่ญี่ปุ่นจังแต่ก็ไม่มีที่จอดได้อย่างเสียอย่าง    ถ้าราคาไม่ห่างมากนักอยู่ที่ 2 ล้าน + - คงตัดสินใจเร็วกว่านี้เยอะครับ      รุ่นก่อน 2.6-2.7 ล้าน แต่เป็นหลังคาแข็ง      ตอนนี้เปิดมาหลังคาผ้าใบก็ไป 2.7 ล้านแล้ว       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2016, 16:23:52 โดย Auto »

ออฟไลน์ Spec C Wannabe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
หากไม่สะดวกใจ ไปลองที่ศูนย์ก็ได้นะครับ ผมไปลองที่ศูนย์เวอร์นมาซด้าวิภาฯ

ลองขับก่อนครับ ถามตัวเองให้ดี ผมลองแล้วไม่ชอบอย่างแรงหลายจุด ตัวรถนั้นขับดีมากทีเดียว แฮนดลิ่งออกแนวสนุก ตัวรถเบา ซึ่งผมชอบรถเบาๆมาก พวงมาลัยคม ไว แต่ตายด้าน

ข้อที่ไม่ชอบหลักๆก็คือเสียงรบกวนดังมาก เสียงอะไรต่ออะไรไม่รู้ดังไปหมด ซึ่งมันคงเป็นปรกติของรถเปิดประทุน ผมเข้าใจ แต่เบนซ์เปิดประทุนที่คยนั่งมันก็เงียบกว่านี้มาก มันดังจนกลบเสียงวิทยุซึ่งมีคุณภาพดีๆได้ แม้จะเร่งวอลลุ่มจนดังมากแล้วก็ตาม  พอเปิดประทุนแล้วทุกอย่างดีขึ้น แต่ครั้นจะเปิดประทุนบนถนนในเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครก็ร้อนเกิน แดดแรง ควันก็เหม็น ต้องเอาไปต่างจังหวัด ปีๆนึงจะได้เปิดกี่วัน?  อย่างที่เมืองนอกโลกสวย อากาศเย็นสะอาด หรือดูใน Youtube เค้าเอารถไปทดสอบกันตามป่าเขา ริมทะเล ในสนาม เห็นแล้วเคลิ้ม แต่ชีวิตจริง มันใช่แบบนั้นรึเปล่า?? (ผมถามตัวเอง)

อีกอย่างก็คือเบาะนั่งไม่สบายเลย คือตำแหน่งนั่งสูงเกินไป แต่ตัวเบาะมันยวบๆจมๆ ไม่มี lower back support ผมนั่งไปซักชั่วโมงก็ปวดหลังและอึดอัด  คอพวงมาลัยก็ไม่สามารถยุบ-ยืดมาหาคนขับได้

ส่วนภายใน ออกแบบดี สวยงาม วัสดุดีพอควร ลูกเล่นเยอะแยะแพรวพราว แต่มันแทบไม่มีที่เก็บของเลย ไม่มีเก้ะหน้าคนนั่ง ที่วางแก้วก็ใช้งานจริงแทบไม่ได้ เพราะมันติดข้อศอก  ผมลองขับอยู่ซักชั่วโมงนึงก๋พบว่ามันเป็นรถที่ทำให้เราเหนื่อยล้าได้เร็วมาก ชั่วโมงเดียวก็รู้สึกพอละ มึนหัว

ที่สำคัญสำหรับผม(อาจจะคนเดียว) คือมาซด้าไม่นำเข้าตัวเกียร์แมนน่วล รถแบบนี้ ใหนๆจะยอมลำบากละ ผมว่ามันต้องเกียร์มือ ใหนๆจะยอมลำบากแล้วก็เอาให้มันเต็มที่ไปเลย :P

หากท่านตัดสินรถด้วยเหตุผล ก็คิดว่าอาจจะยากครับที่จะซื้อ แต่หากใช้อารมณ์ล้วนๆ ก็คงจะได้มาอยู่ด้วยกัน แม้นจะเป็นความสัมพันธ์ที่ทรมาณหน่อยก็ตาม

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
ขอบคุณ Spec C Wannabe  มากครับสำหรับประสบการณ์ที่มาบอกเล่า

ตอบคุณ 
 ความเป็นจริงลองไปนั่งก็อึดอัดตามนั้นล่ะครับ  และก็เมื่อยด้วยขับนาน ๆ คงไม่ไหวท่านั่งดูเหมือนนอนเปลตอนผมเอนลงไป      ที่เก็บของไม่มี หรือมีน้อย ถ้าคิดเอาเป็นรถใช้งานนะไม่ใช่แน่นอน เพราะตอบโจทย์ไม่ไ่ด้   
ถ้าแก่ตัวไปมาก ๆ คงขับไม่ไหวแล้วกับรถแบบนี้    ยามมีโอกาสหรือกำลังเลยต้องไขว่คว้ามาไว้ก่อน กอดจูบลูบคลำก่อนหย่อนยานไป      ผมเข้าใจว่าคนซื้อรถแบบนี้รุ่นนี้เน้นขับสนุก เป็นของเล่นสวนสนุกสำหรับผู้ใหญ่ ภาษาตามคลับ Miata   มีเป็นคอลเลกชั่นสะสมนาน ๆ มาขับทีหรือมิตตี้งกันที สำหรับคนรัก Mazda MX5     ซึ่งรถแบบนี้ใช้อารมณ์ล้วน  ๆ  ในการตัดสินใจไม่มีเหตุผลมาเกี่ยวข้อง        เรื่องการเก็บเสียงผมไม่เคยนั่ง SLK Z4  ก็เลยตอบไมไ่ด้เหมือนกันว่ารับสภาพกับ MX5  ได้หรือเปล่าแต่เข้าใจอยู่ว่ารถอาจคนล่ะเกรดกันเพราะ MX5  ที่จริงไม่ได้เป็นรถราคาแพงกว่า Mazda 3  เท่าไหร่เลยราคาในญี่ปุ่นก็ 7 แสนกว่าบาทเท่านั้นคุณภาพการเก็บเสียง + หนำซ้ำเป็นรถแบบโรดเสตอร์ 2 ที่นั่งด้วยแล้วคงต้องทำใจ     ผมเคยโทรไปถาม อ.พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจที่เขามีรถสปอร์ต Audi TT  เขาก็มีและซื้อตามความฝันล่ะครับ แต่ปัจจุบันไม่ได้ขับยกให้ลูกชายคุณบอมไปแทนเพราะขับไม่ไหว   ส่วนคุณบอมก็ไม่ได้ขับเช่นกันส่วนใหญ่ขับคันอื่นเพราะมันขับลำบากสำหรับรถแบบนี้          ผมก็คงต้องมีให้ได้ก่อนแก่ละครับหลังจากนั้นไปจะยิ่งมีโอกาสได้ขับน้อย  ยังไงก็คงต้องซื้อสักวันนึงละวันไหนไม่รู้     เรื่องลองรถอาจไปที่โชว์รูมก็ได้ครับตามนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2016, 14:52:04 โดย Auto »