ผมไปเที่ยวยุโรปบ่อยครับ
สิ่งที่ผมเห็นส่วนมากคือ ฝรั่งแถบยุโรปชอบใช้รถคันเล็กๆครับ เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น
นั่นเพราะมันมาจากการหาที่จอดยากครับ รถเล็กหาที่จอดได้ง่ายกว่า
ในขณะที่ฝั่งอเมริกา พื้นที่ถือว่ามีเยอะกว่า รถคันใหญ่จึงมีมากกว่า
ส่วนเมืองไทย รถคือหน้าตาของสังคม รถมีไว้บอกฐานะ ถ้างบถึง ก็จะซื้อคันใหญ่ที่สุดที่ซื้อได้ไว้ก่อน
ผมเข้าใจคำถามของเจ้าของกระทู้นะ เช่นรถ C-Class หรือ โฟกัส เนี่ย ฝรั่งยุโรปมันมองว่าแคบ หรือ กว้าง
สิ่งที่จะตอบคำถามนี้ได้ก็คือ นิตยสารรีวิวรถของพวกฝรั่ง อย่าง CAR หรือ Autobild ซึ่งผมอ่านเป็นประจำ
ถ้าอ่านมาเยอะๆจะพบว่า วัฒนธรรมการเลือกซื้อรถของฝั่งยุโรป จะให้ความสำคัญกับการขับขี่มากที่สุด ส่วนความกว้าง-แคบ เป็นหัวข้อท้ายๆที่ฝรั่งยุโรปสนใจ
ในขณะที่เมืองไทย การซื้อรถจะให้ความสำคัญเรื่องความกว้าง-แคบมากที่สุด รถขับเทพแค่ไหน ถ้านั่งไม่สบาย ไม่มีทางขายดีในไทย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โฟกัส ก็ยังถูกตัดคะแนนเรื่อง space ภายในอย่างหนัก ถูกวิจารณ์ว่าแคบ
ในขณะที่ C-class ก็ได้คะแนนความกว้างสบายน้อยกว่า Serie3
แต่สุดท้าย มันก็ไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญพอสำหรับการเลือกซื้อ
serie3 ชนะ เพราะฝรั่งมันบอกว่าขับดีกว่า ไม่ได้ชนะเพราะมันกว้างกว่า
พอจะเข้าใจคำอธิบายของผมไหมครับ
ความกว้าง-แคบ ของรถ ฝรั่งฝั่งยุโรปสัมผัสได้ ว่ามันแคบ หรือ กว้าง แต่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเท่ากับการขับขี่ รวมทั้งนิยมรถเล็กเพราะมันจอดง่าย ไม่ใช่เพราะชอบรถแคบๆ
ในขณะที่อเมริกา เน้นรถขนาดใหญ๋ไว้ก่อน เพราะขับทางไกลระหว่างรัฐ รวมทั้งพื้นที่ตามรัฐต่างๆมีขนาดกว้างกว่า รถใหญ่จึงไม่ใช่ปัญหา
ส่วนเมืองไทย รถไว้บอกฐานะ เน้นคันใหญ่ไว้ก่อน และเดินทางกันเป็นครอบครัว ความกว้างถือเป็นสิ่งที่พิจาณนาเป็นอันดับแรก อัลมีร่าถึงขายดี เป็นอับดับต้นๆของอีโค่คาร์
ผมเข้าใจวัฒนธรรมการใช้และการเลือกซื้อของแต่ละภูมิภาค เนื่องจากชอบอ่านนิตยสารของฝั่งยุโรปและอเมริกาด้วย
และประกอบกับผมชอบไปเที่ยว และชอบสังเกตรถของประเทศที่ไป
พูดถึงการสังเกตุวัฒนธรรมการเลือกรถของคนยุโรปก็น่าสนใจครับ ยกตัวอย่างประเทศหนึ่ง จากที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนเยอรมันได้ไปทำงานกับบริษัทเครื่องมืออุตสาหกรรมหนึ่งและไปมาตั้งแต่เด็กเห็นว่า
คนที่นั่นใช้รถขนาดเท่าที่จำเป็นกับความต้องการเท่านั้นจริงๆและใช้มันเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่ง แทบจะไม่ได้สนใจความสดวกสบายจากมันด้วยซำ้ ถ้ามีครอบครัวก็อาจจะใช้รถที่เพียงพอจะขับไปส่งลูกเรียนเท่านั้น วันหยุดก็อาจเช่ารถที่เหมาะกับความต้องการอื่น
ถ้ามีกิจการส่วนตัวหรืออยู่ในตำแหน่งที่ต้องการความน่าเชื่อถืออย่างนายผมที่นั่นก็ถึงจะมีรถ กลุ่ม big 3 เพื่อใช่ในบริษัทพบปะลูกค้าซึ่งก็นิยมทำกันตามสากล
แต่กลุ่มคนที่เหลือที่ซื้อรถด้วยความชอบ สำคัญเลือกรถให้เข้ากับบุคลิกด้วย ทั้งฐานะทางสังคม อายุ ผมว่าเขามีความระมัดระวังที่จะเลือกการแสดงออกมากและเป็นเหตุผลต้นๆในการเลือก คนเยอรมันห่วง image ของตัวเองไม่น้อยไปกว่าคนไทย แต่ image ที่ว่าไม่ใช่การเป็นคนมีฐานะดี แต่การเป็นคนมีความ educated และการเป็นที่รักของสังคมคือ image ที่ต้องมีและรักษาไว้
ยกตัวอย่างการจะซื้อรถ big 3 ไม่ถือว่าแพงครับสำหรับคนที่นั่น ไอ้คำว่าแพงในหนังสือรีวิวก็แค่สื่อว่าแพงกว่าเท่านั้นเอง การซ่อมบำรุงหรือค่าประกันมันก็ไม่ได้โหดหรอกครับ แต่ถ้ามันไม่เหมาะสมกับสถานภาพ เค้าจะไม่ซื้อเพราะมันทำให้เสียบุคลิก ไม่ใช้ว่าขับรถแพงดูดีเสมอไป ไม่เลย มันต้องเข้ากันกับตัวตนแบบที่สังคมนิยมด้วย
Audi ดูจะเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะไม่แสดงออกอย่างมากจนเกินไป คนมีครอบครัวขับก็ดูเป็น Family man ดูฉลาดเลือกเพราะราคาสมเหตุสมผลและดูทันสมัยมีเทคโนโลยีเยอะ ส่วน ส่วนอีก 2 เจ้าก็ดูจะ show off กว่าและ mercedes ขายให้กับคนทั่วไประดับ consumer น้อยมาก ความที่มัน show off เกินไป MB เลยพยายามทำให้ตัวเองดู สปอร์ตมากขึ้นหวังให้เข้าถึงคนที่ไม่ได้เคยขายมาก่อน
อีกวัฒนธรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือ รถหลายคันมากๆพบเห็นได้ทั่วไปเอาป้ายรุ่นเครื่องยนต์บนฝากระโปรงท้ายออก E200 , E300 , S500, bmw 550d เป็นต้น ไม่ใช่เพื่อความสวยงามหรือกลัวป้ายหายทีหลัง มันเป็นออพชั่นที่เลือกเอาออกได้ตั้งแต่สั่งรถจากโรงงาน ผมถามนายของผมว่าทำไม 350 cdi เค้าหายไปคำตอบคือ
1.เป็นการไม่ show off ลูกค้าถ้าเป็นรถเครื่องแรง
2.ถ้าเครื่องเล็ก ลูกค้าก็อาจจะมองว่าเป็นคนตระหนี่
จาก 1 และ 2 มีไปก็มีแต่ความไม่เหมาะสมต่อ ความคาดหวังของลูกค้าได้ก็เอาออกมันเลยดีกว่า
3.เหตุผลเรื่องการโจรกรรม รถเครื่องแรงเป็นเป้าสมอ แต่ถ้าเป็นรุ่นพิแศษล้ออุปกรณ์แต่งแล้วก็ช่วยไม่ได้
เมืองนอกมีพวก joy ride เยอะคือเอาไปขับเอามันส์จนรถพังก็ทิ้ง
การที่ออกแบบรถภายในเล็ก เรียกว่าคนออกแบบชอบให้มันเล็ก เพราะรู้ว่าเล็กไม่เป็นปัญหากับคนที่จะซื้อถ้ามันไม่ติดจนลำบาก แล้วไปสนใจจุดอื่นแทนเท่านั้นเอง
ส่วนทางฝั่งอเมริกา ต่างกันอย่างมาก รายนั้นมัน mix culture ครับ มีหลายรูปแบบแต่โดยรวมผมว่าคล้ายคนไทยเลยหละ หรือเราคล้ายเค้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เสริมหนังสือรีวิวของเยอรมันเช่น Autobild ก็หนังสือพิมรถ ที่นั่น รีวิวตรงไปตรงมาดีครับแต่อยู่เฉพาะในกรอบครับ คนเยอรมันถนัดนักหละเรื่องFact กับกราฟเยอะๆสวยๆไม่ต้องกลัวโดนฟ้องด้วย สิ่งที่ไม่ได้บอกคือemotional มันจับต้องไม่ได้แต่ละคนมีperception ไม่เหมือนกันไม่ได้เอามาคิดรวมด้วย การจะซื้อรถมาซักคันมันมากกว่าการขับขี่ ที่ดีเข้าโค้งคมดังนั้นอย่าไปใส่ใจมันมากครับอ่านของพี่jimmy ดีกว่าดิบๆสมจริง