ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนคุณแพน จัดอันดับความเงียบห้องโดยสารให้หน่อยได้ไหมครับ  (อ่าน 7275 ครั้ง)

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
เป็นเรื่องที่สงสัยมานานแล้ว และผมคงไม่มีปัญญาได้ไปเทสทุกคัน จึงอยากฟังความเห็นคุณแพนจัดอันดับความเงียบรถทั้ง12คันนี้ เพื่อชี้ทางสว่างให้ทีครับ ขอบคุณมากๆครับ

1. Mazda2 1.5D 
2. CX-3 2.0
3. Fiesta 
4. HR-V 
5. CivicX1.8
6. XV
7. X-Trail HV
8. Accord2.0
9. Altis
10.Fortuner
11.Pajero
12.Mu-X1.9

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
เอิ่ม มันต้องอะไรขนาดนั้นเลยเหรอครับ เป็นผมก็ใช้หูผมฟังนี่แหละตอนลองรถ ว่าเงียบพอมั้ย แล้วก็ต้องแยกเสียงเครื่องกับเสียงลมอีก บางคนชอบฟังเสียงเครื่องแต่ไม่เอาเสียงลม เครื่องวัดเสียงมันจะแยกได้มั้ย ไหนจะขึ้นกับการจราจร เสียงจากสิ่งแวดล้อมอีก... :'(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2016, 16:38:00 โดย Jacob »

ออฟไลน์ ariazero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 621
ผมรอดูด้วยคนนะครับ
ส่วนตัวไม่ชอบแบบรถเสียงดังๆ(โดยเฉพาะ จักรยานยนต์) ที่ท่อดังๆแล้วมาบิดข้างๆ(ความดันต้ำ จะเป้นลมเพราะตกใจ  :'( )
หรือว่าที่ เปิดเพลงดังๆ แล้วให้คนข้างๆได้ยินด้วยครับ รถผมกันอะไรไม่ได้เลยเข้ามาเต็มๆ(จนของที่วางไว้สั่นๆจนเดินได้เลย >:()
เป็นแนวทางที่จะได้ซื้อคันถัดไป (แอบเพิ่ม Camry ด้วยได้ใหมครับ ?)
'8X Familia, '91 TFR ,
'94 Sunny B13, '98 520i (E28), '99 Sunny B14,
'08 Vios, '08 C200, '08 Vitara
'15 Vios, '17Accord G9 MC, '17 X1 18i

ออฟไลน์ blade

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 229


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

ออฟไลน์ Tee+...Lek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
ผมรอดูด้วยคนนะครับ
ส่วนตัวไม่ชอบแบบรถเสียงดังๆ(โดยเฉพาะ จักรยานยนต์) ที่ท่อดังๆแล้วมาบิดข้างๆ(ความดันต้ำ จะเป้นลมเพราะตกใจ  :'( )
หรือว่าที่ เปิดเพลงดังๆ แล้วให้คนข้างๆได้ยินด้วยครับ รถผมกันอะไรไม่ได้เลยเข้ามาเต็มๆ(จนของที่วางไว้สั่นๆจนเดินได้เลย >:()
เป็นแนวทางที่จะได้ซื้อคันถัดไป (แอบเพิ่ม Camry ด้วยได้ใหมครับ ?)

ผมจำได้ว่าในรีวิวCamry จะเบียดAccordอยู่นิดนึงครับ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่าเรื่องจัดอันดับความเงียบในห้องโดยสารมันยากเอาเรื่องนะครับ ส่วนตัวผมแค่ไปลองขับแล้ววัดด้วยหูตัวเองล้วนๆเอาแค่คันไหนโอเคผ่าน คันไหนดังเกินไปไม่ผ่าน แค่นี้อะ เอาแค่พอใจจากความรู้สึกส่วนตัวก็พอละ

เรื่องใช้มิเตอร์วัดความดังของเสียง รีวิวของต่างประเทศค่ายนึงเคยทำครับ แล้วหลังๆก็ไม่เห็นใช้ละแต่ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ผมเกรง ว่า การไปให้ ทีมงาน เปรียบเทียบจากความรู้สึก มันจะยากกว่านะสิครับ
ที่ผมบอกมา คืออ้างอิง เป็นแนว ทาง คือ ทำแบบเดียวกัน เหมือนที่ตอน คุณ จิมมี่ เติมน้ำมันนั่นละครับ
เพราะ ทุกรีวิว ก็ใช้เส้นทางคนละเส้นทาง อยู่แล้ว

ยิ่ง จขกท มาให้เปรียบเทียบ หลายสิย รุ่น แล้ว ทีม งาน HLM จะ เปรียบยังไงละครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเลข

ออฟไลน์ keamgladnan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357
hrv น่าจะอยู่รั้งท้าย 555

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
ขับบนทางด่วน ความเร็วเท่าไหร่ๆ แล้ววัดเอา มันก็มีมาตรฐานดี

ใช้เครื่องวัด เอา 

ดูดีมาตรฐานกว่าการมาบอกว่า คันนี้เงียบกว่าคันนี้ นิดนึง

ออฟไลน์ Tee+...Lek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ผมเกรง ว่า การไปให้ ทีมงาน เปรียบเทียบจากความรู้สึก มันจะยากกว่านะสิครับ
ที่ผมบอกมา คืออ้างอิง เป็นแนว ทาง คือ ทำแบบเดียวกัน เหมือนที่ตอน คุณ จิมมี่ เติมน้ำมันนั่นละครับ
เพราะ ทุกรีวิว ก็ใช้เส้นทางคนละเส้นทาง อยู่แล้ว

ยิ่ง จขกท มาให้เปรียบเทียบ หลายสิย รุ่น แล้ว ทีม งาน HLM จะ เปรียบยังไงละครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเลข

ปัญหาคือเสียงเป็นอะไรที่วัดไม่ได้เหมือนกับระยะทางแบบที่ผมบอกไว้ไงครับ ด้วยหน่วยที่ท่านเห็นเป็น dB นี่ความต่างเป็นระดับจุดทศนิยมในมาตรตราปรกตินะครับ

คืนนึงวิ่งไปเกิดลมแรงทางตะวันออก วันนึงไปทางตะวันตก แค่นี้ก็ผิดกันเยอะแล้วนะครับ ไม่เหมือนกับการวัดน้ำมันที่ตัวแปรเหล่านี้แทบจะไม่มีผลเลยนะครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ผมเกรง ว่า การไปให้ ทีมงาน เปรียบเทียบจากความรู้สึก มันจะยากกว่านะสิครับ
ที่ผมบอกมา คืออ้างอิง เป็นแนว ทาง คือ ทำแบบเดียวกัน เหมือนที่ตอน คุณ จิมมี่ เติมน้ำมันนั่นละครับ
เพราะ ทุกรีวิว ก็ใช้เส้นทางคนละเส้นทาง อยู่แล้ว

ยิ่ง จขกท มาให้เปรียบเทียบ หลายสิย รุ่น แล้ว ทีม งาน HLM จะ เปรียบยังไงละครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเลข

ปัญหาคือเสียงเป็นอะไรที่วัดไม่ได้เหมือนกับระยะทางแบบที่ผมบอกไว้ไงครับ ด้วยหน่วยที่ท่านเห็นเป็น dB นี่ความต่างเป็นระดับจุดทศนิยมในมาตรตราปรกตินะครับ

คืนนึงวิ่งไปเกิดลมแรงทางตะวันออก วันนึงไปทางตะวันตก แค่นี้ก็ผิดกันเยอะแล้วนะครับ ไม่เหมือนกับการวัดน้ำมันที่ตัวแปรเหล่านี้แทบจะไม่มีผลเลยนะครับ

เคยวัดแล้วยังครับ ผมกำลัง พูดถึงการเปรียบเทียบ
ถ้าเอาแต่ ละรุ่น มาจับ เสียงที่ขับสัก 120 แล้วหาค่า ที่ สภาวะเดียว กัน แล้ว แต่จะเลือก จอดนิ่ง
การวัดเสียงในห้องโดย มันไม่ได้ ดังมากมายอะไรนะครับ

ปกติผมวัดอยู่ ตัด จุดทศนิยมทิ้งครับ ดูเป็น dB(A)
ยกตัวอย่าง ระดับ ความดังเป็นย่าน

ที่ผมกำลังบอกคือ การวัด Loudness คร่าวๆ
คล้ายในโรงงาน วัดความดัง เวลาวัดมาตราฐานสิ่งแวดล้อมนั่นละครับ

ถ้าบอกแรงลมมีผลกับ เสียง งั้น แรงลมก็มีผลกับอัตรการบริโภคน้ำมันไม่ต่างกันครับ ถ้าจะเล่นกันเป็น จุดทศนิยม
เวลา ผมดู รีวิว ผมก็ มอง อัตรการบริโภค แต่ เลขเดียวไม่มองจุดครับ


http://www.astrec.com/environmental-noise-and-vibration.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2016, 21:11:13 โดย mamaman »

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
การทดสอบบางเรื่องอาจจะดูเหมือนง่าย แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด

มีเสียงหลายประเภทที่เข้ามาในห้องโดยสาร

เสียง ลม (ต้าน ทวน ข้าง) ฝน กระแสลมแปรตามความเร็วรถ สภาพถนน เครื่องยนต์ ยางรถยนต์

ลมเริ่มที่ความเร็วเท่าไหร่ ทิศไหน ถนนจะให้ขรุขระขนาดไหน ยางมะตอย คอนกรีต หรือลูกรัง

เครื่องยนต์จะเอารอบไหนยังงัย ยางยี่ห้อ รุ่นอะไร เก่าใหม่ กี่เดือน กี่ปี หรือออกใหม่

หรือถ้าบอกว่าเวลาวิ่ง เสียงทั้งหมดรวมกัน คุณจะให้วิ่งทดสอบยังงัยครับ แนะนำที 

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
การทดสอบบางเรื่องอาจจะดูเหมือนง่าย แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด

มีเสียงหลายประเภทที่เข้ามาในห้องโดยสาร

เสียง ลม (ต้าน ทวน ข้าง) ฝน กระแสลมแปรตามความเร็วรถ สภาพถนน เครื่องยนต์ ยางรถยนต์

ลมเริ่มที่ความเร็วเท่าไหร่ ทิศไหน ถนนจะให้ขรุขระขนาดไหน ยางมะตอย คอนกรีต หรือลูกรัง

เครื่องยนต์จะเอารอบไหนยังงัย ยางยี่ห้อ รุ่นอะไร เก่าใหม่ กี่เดือน กี่ปี หรือออกใหม่

หรือถ้าบอกว่าเวลาวิ่ง เสียงทั้งหมดรวมกัน คุณจะให้วิ่งทดสอบยังงัยครับ แนะนำที

แล้ว คุณ จะจัดอันดับ เสียง ในห้องโดยสารยังไงครับ บอกผมที
ไอ้เสียงที่คุณบอกมาทั้งหมด หากมันทะลุเข้ามาในรถ มันก็รวมเป็นเสียงเดียวที่ดังที่สุดนั่นละครับ
เวลา วัด ก็คือวัดเสียงที่ดังที่สุดครับ ไม่มีแยก เสียง หิน ลม ไม่มีใคร ไปนั่งจับเสียง ตลอดเวลาที่ขับหรอกครับ
ถ้าเจอหิน ก็วัดตอนทางเรียบ ถ้าเจอลม มันก็จะดังขึ้นมา ซึ่ง รถจอดเจอลมพัดนี่เสียงมันไม่เข้าห้องโดยสารหรอกครับ เสียงรถวิ่งปปะทะลมยังสู้เสียงเครื่องเวลาเร่งไม่ได้เลย
ซึ่ง รถวิ่ง 120 เสียงลมปะทะ จะดังที่สุดอยู่แล้ว ก็วัดค่า ขณะนั้นมาก็ได้ครับ บางคันรเลวร้ายเก็บเสียงไม่ดี คุณก็จะเห็นเป็นตัวเลขออกมานั่นละ
มันไม่ได้ยากหรอกครับ แค่ Sound Level อันเดียว ปรับ mode dBA

ที่ผมเสนอ มาคือ มัน คือ ทำทำงานด้านนี้อยู่ และทำได้และ ไม่ยากครับ
แต่ไม่ได้บังคับให้ทำ แค่เสนอ แนวทาง

แต่ไม่ใช่ อยู่ๆ คุณไม่รู้อะไรเลย แล้วบอกยากทำไม่ได้

เอ้า ผมเอาคลิป ให้ดู วัดแบบบ้านๆ
จอดติดเครื่อง วิ่ง วัดออกมาเป็นตัวเลขแต่ละสภาวะได้เลย

จะเห็น ว่า รถเบนซืเงียบมาก จอดรถติด ทำได้ 42 dB(A) โครตเงียบครับ ถ้าดูจากรูป ย่านความดัง

เทียบกับ ความดังท่อไอเสีย ที่ตำรวจจับ ที่ดังเกิน 95 dBA

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2016, 21:36:40 โดย mamaman »

ออฟไลน์ mozart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,341
ผมิยากให้มีนะครับ เพราะความเงียบเวลาขับมันเป็นเหตุผลข้อหนึงเลยในการเลือกซื้อรถของผม แต่ติดที่มันจะลำบากที่รถแต่ละคันใช้ยางไม่เหมือนกันนี้ซิครับ 

ออฟไลน์ min217

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
ผมเชื่อว่าระดับหูการฟังของคุณแพนสามารถจัดอันดับ 12 คันนี้ได้ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเสริม
แต่คนอื่นจะเชื่อหรือคล้อยตามไหมนั่นเป็นอีกเรื่องนึง อาจไปสู่ข้อโต้แย้งได้


ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
+1ครับอยากให้มีเหมือนกัน เป็นความสำคัญอย่างนึงในการเลือกซื้อรถเลยครับ บางครั้งไม่มีโอกาศต้องไปลองรถหลายคัน อาจช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นอย่างน้อยชื่อเว็บก็การันตีได้ส่วนนึงผมว่าไม่ยากนะ เพราะเพียงแค่หูฟังของทีมงานก็พอจะฟังออกว่าคันไหนมันเงียบกว่ากัน ให้มาตรฐานเป็น4-5ดาวว่าไป

ออฟไลน์ Tee+...Lek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ผมเกรง ว่า การไปให้ ทีมงาน เปรียบเทียบจากความรู้สึก มันจะยากกว่านะสิครับ
ที่ผมบอกมา คืออ้างอิง เป็นแนว ทาง คือ ทำแบบเดียวกัน เหมือนที่ตอน คุณ จิมมี่ เติมน้ำมันนั่นละครับ
เพราะ ทุกรีวิว ก็ใช้เส้นทางคนละเส้นทาง อยู่แล้ว

ยิ่ง จขกท มาให้เปรียบเทียบ หลายสิย รุ่น แล้ว ทีม งาน HLM จะ เปรียบยังไงละครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเลข

ปัญหาคือเสียงเป็นอะไรที่วัดไม่ได้เหมือนกับระยะทางแบบที่ผมบอกไว้ไงครับ ด้วยหน่วยที่ท่านเห็นเป็น dB นี่ความต่างเป็นระดับจุดทศนิยมในมาตรตราปรกตินะครับ

คืนนึงวิ่งไปเกิดลมแรงทางตะวันออก วันนึงไปทางตะวันตก แค่นี้ก็ผิดกันเยอะแล้วนะครับ ไม่เหมือนกับการวัดน้ำมันที่ตัวแปรเหล่านี้แทบจะไม่มีผลเลยนะครับ

เคยวัดแล้วยังครับ ผมกำลัง พูดถึงการเปรียบเทียบ
ถ้าเอาแต่ ละรุ่น มาจับ เสียงที่ขับสัก 120 แล้วหาค่า ที่ สภาวะเดียว กัน แล้ว แต่จะเลือก จอดนิ่ง
การวัดเสียงในห้องโดย มันไม่ได้ ดังมากมายอะไรนะครับ

ปกติผมวัดอยู่ ตัด จุดทศนิยมทิ้งครับ ดูเป็น dB(A)
ยกตัวอย่าง ระดับ ความดังเป็นย่าน

ที่ผมกำลังบอกคือ การวัด Loudness คร่าวๆ
คล้ายในโรงงาน วัดความดัง เวลาวัดมาตราฐานสิ่งแวดล้อมนั่นละครับ

ถ้าบอกแรงลมมีผลกับ เสียง งั้น แรงลมก็มีผลกับอัตรการบริโภคน้ำมันไม่ต่างกันครับ ถ้าจะเล่นกันเป็น จุดทศนิยม
เวลา ผมดู รีวิว ผมก็ มอง อัตรการบริโภค แต่ เลขเดียวไม่มองจุดครับ


http://www.astrec.com/environmental-noise-and-vibration.html

งั้นท่านก็ยกเครื่องมือมาช่วยคุณจิมมี่ และคุณแพนวัดเลยครับ จะได้เป็นประโยชน์กับท่านสมาชิกอื่นด้วย

ผมไม่เคยวัด แต่เคยจำหน่ายเครื่องวัด รู้ว่าการวัดตัวเลขพวกนี้มันไม่ง่ายเลย มันได้แค่คร่าวๆ เท่านั้น และพอวัดมาแล้ว เกิดรถ A กับรถ B เก็บเสียงได้ต่างกัน แต่พอวัดมาแล้วเท่ากัน ท่านจะตัดสินอย่างไรครับ

ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้มันเป็นวิทยาศาสตร์ แต่บางครั้งการใช้งานจริง ตัวแปรทางวิทยาศาสตร์มันเยอะมาก เวลาทำการเปรียบเทียบกับ เค้าจึง "ตัดตัวแปร" ให้มากที่สุดไงครับ

ปล. เพิ่มอีกอย่าง dB ที่ท่านว่ามา ท่านทราบที่มาไหมครับ มันมาจาก 10 log (I/I0) I0 คือ Reference Sound Intensity = 10^-12 = 0 dB อธิบายง่ายๆ ครับ การเปลี่ยนแปลงแค่ 3dB หมายถึงเสียงดังขึ้นเป็นสองเท่า ในขณะที่ -3dB เสียงจะลดลงเป็นครึ่งหนึ่งทันที นี่แหละครับที่เป็นปัญหา เพราะบางครั้งวัดออกมา อาจจะค่าเท่ากันเลย แต่ความรู้สึกจะต่างกันมาก ถ้ายังสงสัยเรื่องนี้ ลองอ่านเว็ปนี้ดูครับ

http://www.sengpielaudio.com/calculator-db.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2016, 07:44:11 โดย Tee+...Lek »

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
หากมีก็ดีครับ ตัวผมเองคงทดสอบไม่ได้ทุกรุ่นที่อยากทราบ แต่ปัจจัยมันเยอะและค่อนข้างจุกจิกนะผมว่า เครื่องมาตรฐานแค่ไหน อากาศเป็นยังไง ยางที่ใช้กับรถอีก ฯลฯ แค่ทดลองใช้ accessories ที่ติดมากับรถให้ครบยังเยอะแล้วเลย
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ผมเกรง ว่า การไปให้ ทีมงาน เปรียบเทียบจากความรู้สึก มันจะยากกว่านะสิครับ
ที่ผมบอกมา คืออ้างอิง เป็นแนว ทาง คือ ทำแบบเดียวกัน เหมือนที่ตอน คุณ จิมมี่ เติมน้ำมันนั่นละครับ
เพราะ ทุกรีวิว ก็ใช้เส้นทางคนละเส้นทาง อยู่แล้ว

ยิ่ง จขกท มาให้เปรียบเทียบ หลายสิย รุ่น แล้ว ทีม งาน HLM จะ เปรียบยังไงละครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเลข

ปัญหาคือเสียงเป็นอะไรที่วัดไม่ได้เหมือนกับระยะทางแบบที่ผมบอกไว้ไงครับ ด้วยหน่วยที่ท่านเห็นเป็น dB นี่ความต่างเป็นระดับจุดทศนิยมในมาตรตราปรกตินะครับ

คืนนึงวิ่งไปเกิดลมแรงทางตะวันออก วันนึงไปทางตะวันตก แค่นี้ก็ผิดกันเยอะแล้วนะครับ ไม่เหมือนกับการวัดน้ำมันที่ตัวแปรเหล่านี้แทบจะไม่มีผลเลยนะครับ

เคยวัดแล้วยังครับ ผมกำลัง พูดถึงการเปรียบเทียบ
ถ้าเอาแต่ ละรุ่น มาจับ เสียงที่ขับสัก 120 แล้วหาค่า ที่ สภาวะเดียว กัน แล้ว แต่จะเลือก จอดนิ่ง
การวัดเสียงในห้องโดย มันไม่ได้ ดังมากมายอะไรนะครับ

ปกติผมวัดอยู่ ตัด จุดทศนิยมทิ้งครับ ดูเป็น dB(A)
ยกตัวอย่าง ระดับ ความดังเป็นย่าน

ที่ผมกำลังบอกคือ การวัด Loudness คร่าวๆ
คล้ายในโรงงาน วัดความดัง เวลาวัดมาตราฐานสิ่งแวดล้อมนั่นละครับ

ถ้าบอกแรงลมมีผลกับ เสียง งั้น แรงลมก็มีผลกับอัตรการบริโภคน้ำมันไม่ต่างกันครับ ถ้าจะเล่นกันเป็น จุดทศนิยม
เวลา ผมดู รีวิว ผมก็ มอง อัตรการบริโภค แต่ เลขเดียวไม่มองจุดครับ


http://www.astrec.com/environmental-noise-and-vibration.html

งั้นท่านก็ยกเครื่องมือมาช่วยคุณจิมมี่ และคุณแพนวัดเลยครับ จะได้เป็นประโยชน์กับท่านสมาชิกอื่นด้วย

ผมไม่เคยวัด แต่เคยจำหน่ายเครื่องวัด รู้ว่าการวัดตัวเลขพวกนี้มันไม่ง่ายเลย มันได้แค่คร่าวๆ เท่านั้น และพอวัดมาแล้ว เกิดรถ A กับรถ B เก็บเสียงได้ต่างกัน แต่พอวัดมาแล้วเท่ากัน ท่านจะตัดสินอย่างไรครับ

ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้มันเป็นวิทยาศาสตร์ แต่บางครั้งการใช้งานจริง ตัวแปรทางวิทยาศาสตร์มันเยอะมาก เวลาทำการเปรียบเทียบกับ เค้าจึง "ตัดตัวแปร" ให้มากที่สุดไงครับ

ปล. เพิ่มอีกอย่าง dB ที่ท่านว่ามา ท่านทราบที่มาไหมครับ มันมาจาก 10 log (I/I0) I0 คือ Reference Sound Intensity = 10^-12 = 0 dB อธิบายง่ายๆ ครับ การเปลี่ยนแปลงแค่ 3dB หมายถึงเสียงดังขึ้นเป็นสองเท่า ในขณะที่ -3dB เสียงจะลดลงเป็นครึ่งหนึ่งทันที นี่แหละครับที่เป็นปัญหา เพราะบางครั้งวัดออกมา อาจจะค่าเท่ากันเลย แต่ความรู้สึกจะต่างกันมาก ถ้ายังสงสัยเรื่องนี้ ลองอ่านเว็ปนี้ดูครับ

http://www.sengpielaudio.com/calculator-db.htm

ผมก็บอกให้วัดคร่าวๆ เพื่อ ประกอบการ รีวิวไม่ใช่ เหรอครับ ไม่ได้ วัดประกวดครับ หรือ สร้าง มาตราฐาน
อีกอย่าง มาตราฐาน รถยนต์ เค้าก็ วัดกันเป็น dB(A) นี่ละครับ
ผมพร้อมครับ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย ขนาดทำไม่ได้
ซึ่ง ผมว่า ทีม งาน หากเค้าจะทำจริง ก็คงทำได้ แต่อาจมีเหตุผลอื่นครับ
ผมรู็ หมดละครับ เสียงมาจากความถี่ ไม่ต้องมาอวดภูมิความรู้ แต่จับต้องไม่ได้ ใช้ประโยชน์อะรไม่ได้ และไม่ก่อประโยชน์
ผมกำลังแนะนำ วิธี การทดลอง วิธีปฏิบัติ ไม่ได้มาเรียน ทฤษฎี ต้นกำเนิด เสียง

ถ้าทีมงาน ต้องการความ ช่วยเหลือ ติดต่อมาครับ เครื่องมือผมก็มี ผมให้ยืมครับ ผมซื้อมา 2,000 กว่าบาท calibrate เรียบร้อยครับ

มาตราฐาน รถยนต์ เค้าก็รายงานเป็น ตัวเลข ไม่ได้ มาราย เป็น ดัง กว่าสองเท่า สามเท่าแบบที่คุณว่ามา ครับ

ขายเครื่องวัดแต่ดัน ไม่รู้ วัดยังไง อยู่แต่กับทฤษฤี ไปต่อเถอะครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2016, 09:09:01 โดย mamaman »

ออฟไลน์ blade

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 229
ผมว่ามันทดลองง่ายนะ ลองทำดู ถนนเส้นเดียวกัน ถนนช่วงเดียวกัน ลักษณะถนนแบบเดียวกัน ค่ามันต่าง กันไม่เกิน 1-2 หรอก
มันง่ายกว่าทดลองน้ำมันเยอะ เพราะมันเป็นแบบ realtime ขับไปสัก 100 ระยะทาง 500 ม. มันก็หาค่าเฉลียได้ละ   
รถทุกคันสมัยนี้มันก็มีที่วัดความประหยัดน้ำมันแบบ realtime กันหมดละ แต่เป็นของคันไครคันมันไง ถ้ามันเป็นมาตราฐานเดียว ตัวแบบเดียวกัน ก็ไม่ต้องมาวิ่งเป็น ร้อยๆโลหรอก วิ่งแค่ 100 ม.ก็รุู้แล้ว

ออฟไลน์ Tee+...Lek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
    • อีเมล์


ผมเคย เสนอให้ทีมงาน HLM หา Sound Level METER ของ จีน แต่ก็ยัง Calibrate มาแล้ว มาวัดเลยอะครับ
ราคาหลัก 2000 - 3000 บาท
+1 เลย
น่าจะเอาลง review ด้วย
เคยโหลด แอปของ แอนดอย มาทดลองดู วางมือถือไว้ที่วางแขนตรงเกียร์
Camry ดังประมาณ 60 ส่วน Vios ดัง 80 วิ่ง100 ถนนเส้นเดียวกัน

การวัดเสียงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ ท่านคิดนะครับ เพราะตัวแปรมันมีมากกว่าที่ท่านเห็น ทั้งสภาพอากาศ ความเร็วลม สภาพถนน และอื่นๆ ในต่างประเทศเค้าต้องวัดในบริเวณที่สามารถควบคุมตัวแปรได้เกือบทุกอย่างอ่ะครับ เช่นในห้องทดลอง ถึงจะได้ค่าตามที่ควรจะเป็น

ผมเกรงว่า การทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้ความยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ คุณแพน และทีมงานนะสิครับ อย่าลืมนะครับ แค่เขียน Review หรือ First Impression รถหนึ่งคัน ยังใช้เวลามากเลย เอาเป็นความรู้สึกที่ทีมงานจับได้น่าจะดีกว่าครับ

ผมเกรง ว่า การไปให้ ทีมงาน เปรียบเทียบจากความรู้สึก มันจะยากกว่านะสิครับ
ที่ผมบอกมา คืออ้างอิง เป็นแนว ทาง คือ ทำแบบเดียวกัน เหมือนที่ตอน คุณ จิมมี่ เติมน้ำมันนั่นละครับ
เพราะ ทุกรีวิว ก็ใช้เส้นทางคนละเส้นทาง อยู่แล้ว

ยิ่ง จขกท มาให้เปรียบเทียบ หลายสิย รุ่น แล้ว ทีม งาน HLM จะ เปรียบยังไงละครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นตัวเลข

ปัญหาคือเสียงเป็นอะไรที่วัดไม่ได้เหมือนกับระยะทางแบบที่ผมบอกไว้ไงครับ ด้วยหน่วยที่ท่านเห็นเป็น dB นี่ความต่างเป็นระดับจุดทศนิยมในมาตรตราปรกตินะครับ

คืนนึงวิ่งไปเกิดลมแรงทางตะวันออก วันนึงไปทางตะวันตก แค่นี้ก็ผิดกันเยอะแล้วนะครับ ไม่เหมือนกับการวัดน้ำมันที่ตัวแปรเหล่านี้แทบจะไม่มีผลเลยนะครับ

เคยวัดแล้วยังครับ ผมกำลัง พูดถึงการเปรียบเทียบ
ถ้าเอาแต่ ละรุ่น มาจับ เสียงที่ขับสัก 120 แล้วหาค่า ที่ สภาวะเดียว กัน แล้ว แต่จะเลือก จอดนิ่ง
การวัดเสียงในห้องโดย มันไม่ได้ ดังมากมายอะไรนะครับ

ปกติผมวัดอยู่ ตัด จุดทศนิยมทิ้งครับ ดูเป็น dB(A)
ยกตัวอย่าง ระดับ ความดังเป็นย่าน

ที่ผมกำลังบอกคือ การวัด Loudness คร่าวๆ
คล้ายในโรงงาน วัดความดัง เวลาวัดมาตราฐานสิ่งแวดล้อมนั่นละครับ

ถ้าบอกแรงลมมีผลกับ เสียง งั้น แรงลมก็มีผลกับอัตรการบริโภคน้ำมันไม่ต่างกันครับ ถ้าจะเล่นกันเป็น จุดทศนิยม
เวลา ผมดู รีวิว ผมก็ มอง อัตรการบริโภค แต่ เลขเดียวไม่มองจุดครับ


http://www.astrec.com/environmental-noise-and-vibration.html

งั้นท่านก็ยกเครื่องมือมาช่วยคุณจิมมี่ และคุณแพนวัดเลยครับ จะได้เป็นประโยชน์กับท่านสมาชิกอื่นด้วย

ผมไม่เคยวัด แต่เคยจำหน่ายเครื่องวัด รู้ว่าการวัดตัวเลขพวกนี้มันไม่ง่ายเลย มันได้แค่คร่าวๆ เท่านั้น และพอวัดมาแล้ว เกิดรถ A กับรถ B เก็บเสียงได้ต่างกัน แต่พอวัดมาแล้วเท่ากัน ท่านจะตัดสินอย่างไรครับ

ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้มันเป็นวิทยาศาสตร์ แต่บางครั้งการใช้งานจริง ตัวแปรทางวิทยาศาสตร์มันเยอะมาก เวลาทำการเปรียบเทียบกับ เค้าจึง "ตัดตัวแปร" ให้มากที่สุดไงครับ

ปล. เพิ่มอีกอย่าง dB ที่ท่านว่ามา ท่านทราบที่มาไหมครับ มันมาจาก 10 log (I/I0) I0 คือ Reference Sound Intensity = 10^-12 = 0 dB อธิบายง่ายๆ ครับ การเปลี่ยนแปลงแค่ 3dB หมายถึงเสียงดังขึ้นเป็นสองเท่า ในขณะที่ -3dB เสียงจะลดลงเป็นครึ่งหนึ่งทันที นี่แหละครับที่เป็นปัญหา เพราะบางครั้งวัดออกมา อาจจะค่าเท่ากันเลย แต่ความรู้สึกจะต่างกันมาก ถ้ายังสงสัยเรื่องนี้ ลองอ่านเว็ปนี้ดูครับ

http://www.sengpielaudio.com/calculator-db.htm

ผมก็บอกให้วัดคร่าวๆ เพื่อ ประกอบการ รีวิวไม่ใช่ เหรอครับ ไม่ได้ วัดประกวดครับ หรือ สร้าง มาตราฐาน
อีกอย่าง มาตราฐาน รถยนต์ เค้าก็ วัดกันเป็น dB(A) นี่ละครับ
ผมพร้อมครับ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย ขนาดทำไม่ได้
ซึ่ง ผมว่า ทีม งาน หากเค้าจะทำจริง ก็คงทำได้ แต่อาจมีเหตุผลอื่นครับ
ผมรู็ หมดละครับ เสียงมาจากความถี่ ไม่ต้องมาอวดภูมิมาก
ถ้าทีมงาน ต้องการความ ช่วยเหลือ ติดต่อมาครับ เครื่องมือผมก็มี ผมให้ยืมครับ ผมซื้อมา 2,000 กว่าบาท calibrate เรียบร้อยครับ

มาตราฐาน รถยนต์ เค้าก็รายงานเป็น ตัวเลข ไม่ได้ มาราย เป็น ดัง กว่าสองเท่า สามเท่าแบบที่คุณว่ามา ครับ

ขายเครื่องวัดแต่ดัน ไม่รู้ วัดยังไง อยู่แต่กับทฤษฤี ไปต่อเถอะครับ

ผมไม่ได้โจมตีอะไรท่านนะครับ แต่บอกตั้งแต่ต้นว่าทำแล้วมันจะยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ และทีมงานหรือเปล่า

ผมไม่ได้พูดเรื่องความถี่อะไรเลย ผมพูดถึงหน่วย dB เวลาวัดมันต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ การวิ่งบนถนนตัวแปรมันเยอะก็เท่านั้น และที่ผมพูดถึงเรื่องดังเป็นสองเท่าที่ท่านว่าผมนั้น ผมจะบอกว่านั้นคือการแปลผลของการอ่านเป็น dB ครับ เพราะการต่าง 1-2 dB ไม่ใช่ว่าจะต่างกันเล็กน้อย แต่มันต่างกันมากเท่านั้นแหละ นั่นคือความหมายที่จะสื่อ

ถ้าท่านยินดีช่วยทีมงาน ผมก็ยินดีครับ เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่แค่ทำได้หรือไม่ได้ แต่มันอยู่ที่ว่ามันยุ่งยากกับกระบวกการทำงานเค้ามากกว่า

ผมไม่ได้คิดอวดภูมิอย่างทีท่านเข้าใจ แต่ถ้าท่านคิดเช่นนั้นก็ขออภัยด้วย ผมแค่อยากจะให้เข้าใจถึงเรื่องการอ่านค่า มันมีความหมายแฝงมากกว่าแค่ 1-2 ครับ ยังไงก็ขอโทษด้วยละกัน

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,145
เรื่องเก็บเสียง นี่ทำให้เห็นถึงมาตราฐานรถด้วยนะ อย่างHonda นี่ Accord ยังเงียบสู้ Fiesta ไม่ได้เลย แต่ตัวที่ขายที่ญี่ปุ่นดันเงียบสะงั้น มันหมายถึงอะไร.... :-X

ส่วนตัวสนับสนุนให้มีการทดสอบ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป เพราะผู้บริโภคหลายๆคนเลยใส่ใจกับการเก็บเสียงมากขึ้น ครอบครัวที่มีลูกเล็ก หรือคนแก่ก็คงอยากให้พ่อแม่นั่งสบายๆ เงียบๆ

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ผมว่าดี กันลูกเกรงใจค่ายรถ หรือลูกลืมของทีมงาน
เช่นบางคันรีวิวดีโคตร เรื่องเก็บเสียงไม่พูดถึง จนซื้อไปแล้วเจอกับตัว
บางครั้งเว็บนี้มาตรฐานดีมาก บางครั้งก็ตามอารมณ์มากเช่นกัน แต่ก็ถือว่าน่า
เชื่อถือว่าสื่อรถไทยๆ ทั่วไป กับอีกเรื่อง ด้านเทคนิคจะไม่ได้เก่ง เพราะไม่ใช่
พวกเรียนเฉพาะทางเกี่ยวกับรถยนต์ กับคนที่ผ่านงานด้านอุตสาหกรรมรถจริงๆ มาทำ

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
อยาก ไห้มีการวัดเช่นกัน

ส่วน ทำอย่างไร ขอให้เป๋นไปตามglobal standard ครับ

หากคนส่วนใหญ่ในhlm มีความต้องการ. ทางพี่แพนพี่จิมก็น่าจะตามใจอยุ่แล้ว

บางทีsponsor ส่องอยุ่อาจจะสนับสนุน
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ผมไม่ได้โจมตีอะไรท่านนะครับ แต่บอกตั้งแต่ต้นว่าทำแล้วมันจะยุ่งยากให้กับคุณจิมมี่ และทีมงานหรือเปล่า
ผมไม่ได้พูดเรื่องความถี่อะไรเลย ผมพูดถึงหน่วย dB เวลาวัดมันต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ การวิ่งบนถนนตัวแปรมันเยอะก็เท่านั้น และที่ผมพูดถึงเรื่องดังเป็นสองเท่าที่ท่านว่าผมนั้น ผมจะบอกว่านั้นคือการแปลผลของการอ่านเป็น dB ครับ เพราะการต่าง 1-2 dB ไม่ใช่ว่าจะต่างกันเล็กน้อย แต่มันต่างกันมากเท่านั้นแหละ นั่นคือความหมายที่จะสื่อ

ถ้าท่านยินดีช่วยทีมงาน ผมก็ยินดีครับ เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่แค่ทำได้หรือไม่ได้ แต่มันอยู่ที่ว่ามันยุ่งยากกับกระบวกการทำงานเค้ามากกว่า

ผมไม่ได้คิดอวดภูมิอย่างทีท่านเข้าใจ แต่ถ้าท่านคิดเช่นนั้นก็ขออภัยด้วย ผมแค่อยากจะให้เข้าใจถึงเรื่องการอ่านค่า มันมีความหมายแฝงมากกว่าแค่ 1-2 ครับ ยังไงก็ขอโทษด้วยละกัน

นั่นละครับ หากกลัวว่าทีมงาน จะยุ่งยาก แต่สิ่งที่ผมเห็นมาตลอด
พวก กระทู้ คำถาม เกี่ยวกับ ความดัง ที่ถาม กันมาตลอด  ถามแล้วถามอีก ไหนจะเปรียบเทียบอีก ไม่จบไม่สิ้น
เราจะตอบ คำถามเหล่านี้ยังไง ยกตัวอย่าง กระทู้นี้

เว็บ นี้ รีวิว รถ จากผู้ ใช้ รถ ทีมงานก็ทำไปในแนวทาง ของผู้ใช้
ไม่ต้อง ไปอ้างอิง มาตราฐาน อะไรให้วุ่นวาย
เช่น ทีม วาน HLM การวัดอัตราการบริโภค น้ำมันก็ทำแบบ บ้านๆ ในเว็บ ไม่ได้ไปคำนวณ สภาพถนน ว่า ลูกรัง ขรุขระแค่ไหน เนินเท่าไหร่  มีความเร็วลมเท่าไหร่ แต่ทำ เหมือนๆ กัน ในรถทุกคันก็ ก็ได้เป็นตัวเลข คร่าวๆ ประกอบการรีวิวให้ผู้อ่าน พอเทียบกันได้
เราคนอ่าน ไม่ได้ คาดหวังว่า ทีมงาน ต้องมานั่ง ตาม มาตราฐาน ถูกต้อง 100 % หรอกครับ

เอาง่ายๆ เลย
ก็ตอน จอดติดเครื่อง ก็ สามารถ วัดเสียงในห้องโดยสารได้แล้ว แต่ละคันไม่เท่ากันแน่นอน ยิ่งรถที่ การป้องกันเสียงจากภายนกห่วยๆ จะเห็นภาพเลย
จากที่ผม วัดมา ต่างกัน 1-2 db(A) ก็ถือว่าต่างกันมาก อย่างที่คุณบอกนั่นละ แต่ อย่างน้อยมันก็ต่างกัน แบบรับรู้ได้จริง หูคนก็รับรู้ได้ว่ามันต่าง




ออฟไลน์ bluefox

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 57
เห็นด้วยครับ อยากให้วัด และ อยากให้เพิ่มเป็นอีก เรื่องหนึ่งในการรีวิวรถแต่ละคัน ที่จะทำต่อๆไปด้วยเลยครับ ว่ารถที่รีวิวนั้น วัดค่าเสียงได้เท่าไร เห็นเป็นตัวเลขไปเลย

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
camry เงียบกว่า accord นะ

เงียบกว่าเท่าไหร่  = นิดนึงอะ

เงียบกว่าเท่าไหร่ = ประมาณ 8-9 DB

นิดนึงอะ

ผมว่าทีมงาน hlm ยินดีรับฟังอยุ่แล้ว การแนะนำให้ให้มาตรฐานการทดสอบของ web สูงขึ้น
ในต่างประเทศ ไม่แน่ใจว่ามีการทดสอบแบบนี้จริงจรังไหม ถ้ามีน่าจะเอาเป็นแบบอย่างได้

http://elevatingsound.com/the-top-30-quietest-cars-a-cabin-noise-test-by-auto-bild/

ออฟไลน์ BenzParagon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 671
  • . . .
ถ้าจะทำการทดสอบกันจริงๆ

ถ้าเป็นไปได้ฝากลองใช้เครื่องมือวัดไว้แถวพนักพิงศีรษะครับ ทั้งเบาะหน้าและหลัง เพราะ หูคนเราอยู่แถวนั้น การได้ยินน่าจะเกิดบริเวณนั้นครับ

ถ้าสะดวกฝาก MB C-Class W205 อีกรุ่นครับ ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 11, 2016, 22:47:26 โดย BenzParagon »

Hybrid Battery Of Mercedes-Benz Thailand https://goo.gl/3nn9sk

มาตรา 157 https://goo.gl/lIGkMt

lim n = 0 , n -> ...

0 = 1

?