สวัดดีครับทุกคน
พอดีผมได้มีโอกาสไปร่วม Media Road trip เมื่อวันที่ 18-19 พฤษภาคม กับทาง Subaru ผมไป Trip นี้ ในฐานะเป็นช่างภาพของ สำนักข่าวชื่อดังแห่งหนึ่งครับผม
เลยจะมาเล่าให้เพื่อนๆ สมาชิกฟัง ถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้อยู่ร่วมทุกข์ สุข กันเป็นเวลา 2 วัน โดยเดินทางในเส้นทาง กรุงเทพ กาญจนบุรี นะครับ
ก่อนอื่น ขอออกตัวก่อนนิดนึงว่า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว และผมจะไม่ได้เจาะลึกเรื่อง SPEC เช็คราคา หรือ Option ต่างๆนะครับ
จะเน้นแค่ความรู้สึกเรื่องการเป็นผู้ขับรถ และ ผู้โดยสารเป็นหลัก
ตัวที่ผมได้ขับ เป็นรุ่นเครื่อง 2000 ตัว TOP อุปกรณ์ต่างๆครบครัน
มาเริ่มกันเลยครับ
1.) First impression
หลังจากขึ้นรถ ก็เตรียมพร้อมออกเดินทาง จาก ศุนย์ที่ เสรีไท เพื่อที่จะเดินทางไปกาญจนบุรี ครับ ปรับเบาะ กระจก พวงมาลัยอะไรให้เข้าที่ ความรู้สึกแรกเลยคือห้องโดยสารดูเป็นมิตรกับผู้ขับมาก ไม่ได้หวือหวาเส้นสายเย้อะแย๊ะ แต่ทุกอย่างออกแบบมาให้ดูง่าย เรียนรู้ที่จะใช้งานง่ายและ Stright forward. เบาะรองนั่งแข็งเอาเรื่อง และสั้นไปหน่อยในความรู้สึกผม (สูง 185) เนื้อที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังยังเหลือแม้ผมจะปรับเบาะให้ผมนั่งในตำแหน่งที่ผมถนัด พวงมาลัย ปรับขึ้นลงได้ แต่ปรับเข้าออกหาตัวไม่ได้ ( หรือผมกาก หาไม่เจอก็ไม่รู้) ซึ่งจะเป็นปัญหาสำหรับคนตัวสูงที่จะต้องถอยเบาะออกจากพวงมาลัยเย้อะ ตำแหน่งนั่งขับถือว่าดีเลย ผมปรับเบาะต่ำสุดไม่รู้สึกต่างจากรถเก๋งมากครับ ทัศนวิสัย โปรงสบายรอบคัน วัสดุภายใน ส่วนใหญ่จะแข็ง ยกเว้น console หน้าที่จะออกนิ่มนิดนึง เกรด Plastic สมราคา ที่เก็บของด้านหลังเล็ก แต่น่าจะใหญ่กว่า XV
2.) จากรถเก๋งกระโดดขึ้น SUV
ส่วนตัวผมขับรถ Compact ขนาดเล็ก Lexus IS250 การที่ต้องมาขับรถที่สูงขึ้นใหญ่ขึ้น ยาวขึ้น แน่นอนต้องกังวลเรื่อง ความคล่องตัวในการขับในเมือง การตอบสนองของช่วงล่าง และ พวงมาลัย แต่เหลือเชื่อครับ พอมาขับจริงๆ มันไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น เผลอๆ Forester จะกะระยะอะไรได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ทัศนวิสัย โปรงรอบคัน และยังได้กระจกมองข้างใบใหญ่ไม่หลอกตา
3.) ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว
สำหรับหัวข้อนี้ จะได้คะแนนเท่าไหร่ ผมคิดว่าน่าจะต่างกันในกรรมการแต่ละคน ถ้าคุณเป็นคนชอบอาการของช่วงล่างที่จะมอบความมั่นใจให้คุณเวลาขับรถในย่านความเร็วสูง ระยะ Travel ของช่วงล่างไม่เย้อะ เวลา หล่นหลุม หรือจั้ม สะพาน แล้วตัวรถไม่ดีดกลับแรง เด้งเป็นกบ และยอมแลกด้วยความกระด้าง แน่นๆ ใน style รถยุโรป คุณน่าจะตกหลุมรักกับช่วงล่างรถคันนี้ ในส่วนของพวกมาลัย ผมไม่ได้ดู Spec sheet แต่ถ้าให้เดาอาการ น่าจะเป็นพวงมาลัยไฟฟ้า น้ำหนักเบากำลังดีในความเร็วต่ำ อัตราทดกำลังดีเวลาขับในเมือง แต่ความเร็วสูง ผมคิดว่ายังเบาไปนิด ผมเป็นคนชอบ Feeling ของพวงมาลัยแบบผ่อนแรง Hydroic แบบเก่า หนักๆ แบบ E90 ยิ่งดี มันให้ความรู้สึกต่อกับล้อมากกว่า อันนี้เหมือน Drive by Wire ถ้าให้เทียบความรู้สึกกับ CX5 ที่เคยทดลองขับมา ผมยังรู้สึกว่าคันนี้ ตึงตังน้อยกว่า แต่ในทางกลับกันก็ไม่วัยรุ่น แล้วพวงมาลัยไม่กระชากต่อมอยากให้ซิ่งเหมือน CX5
ใน Trip นี้ได้มีช่วงขับ Off road ด้วย แต่เป็นทางที่ไม่โหดมาก หินดินทราย จุ่มน้ำเล็กน้อย คล้ายๆ Rally ทางฝุ่น ขอบอกเลยว่ามันส์มาก แรงบิดของเครื่องดีมากในรอบต่ำ ระยะ Ground clearlance เหลือๆ ระบบขับ 4 เจ๋งมากทำงานสอดประสานอย่างดี ผลคือ เหยียบคันเร่งอย่างเดียวครับ สนุกมากครับ Xmode ที่มีให้ใช้ผมไม่ได้ลองเลย ถ้าจะติคงเป็นเรื่องเดียว ยางครับ Continental รุ่นเดียวกับ XV ลุยไม่ได้เท่าไหร่ ลื่นมากกกก แต่ระบบขับ 4 ก็จัดการกับอาการต่างๆเหล่านั้น ECU หรี่ปีกผีเสื้อ กระจายกำลังได้อย่างดี
4.) การทรงตัวในย่านความเร็วสูง
ในทริ๊ปนี้ ทาง Subaru ให้เราขับตามกันเป็นขบวน ฉะนั้น เมื่อออกจากโซนรถหนาแน่นแล้วความเร็วส่วนใหญ่ที่เราจะใช้คือ 110-130 ไม่เกินนี้ แต่ จะมีบางช่วงที่ต้องใช้ความเร็วเร่งแซงจะมีเกินจากนี้ไปบ้าง ในวันที่เราเดินทาง ท้องฟ้าแจ่มใส แดดจ้าตลอดทั้งทริ๊ป ไม่มีฝนตกเลย เราเลยไม่ได้ทดสอบระบบการทรงตัวในยามที่ถนนเปียก ที่พอจะมาเล่าให้ฟังได้ก็จะมีแค่ในยามถนนแห้งเท่านั้น ส่วนตัวผมเองผมไม่ทราบและไม่มีข้อมูลเรื่องระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ subaru เท่าไหร่นัก ไม่ทราบว่า Algoritum ของตัวระบบว่ากระจายกำลังอย่างไร แต่จากความรู้สึกแล้ว ในสถานการณ์ใช้ความเร็วปรกติที่ล้อมีความยึดเกาะดี ไม่ได้ลื่นไถล ตัวรถให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกถ่ายทอดไปยังล้อหลังมากกว่า เวลากดเต็ม ออกจากเส้นจะเห็นได้ชัดว่า หน้าเชิด ชัดเจน แต่ไม่มี touque steer ความเร็วเดินทาง 120 ถือว่าผ่อนคลายและสบายมาก ตัวรถมีสมดุลที่ดีประคองพวงมาลัยด้วยมือเดียวสบายๆ ความสูงของรถไม่ได้ทำให้รู้สึกมั่นใจในการขับขี่น้อยลงเมื่อใช้ความเร็วสูง ตัวรถอาจจะเอียงมากกว่ารถเก๋งถ้าหักพวงมาลัยเร็วๆ แต่สามารถรู้สึกได้ว่าตัวรถนิ่งและไม่ได้มีอาการท้ายออก แต่อย่างใด ด้วยความเร็วประมาณนี้ผมรู้สึกว่ามันให้ความมันใจได้เทียบเท่ารถเก๋งที่มีช่วงล่างดีๆเลยครับ ( Lancer EX )
5.) ระบบเบรค
สำผัสแรก จะรู้สึกได้เลยว่าแป้นเบรคนิ่มนวลมาก ตัวเบรคเองก็จับนิ่มนวลมาก ระยะ Travel ของ break ลึกพอสมควร ขับในเมืองควบคุมเบรคได้ง่ายมาก แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น จะรู้สึกได้ว่า ผ้าเบรคนั้นอาจจะนิ่มไป เวลาต้องการหน่วงความเร็วจาก 120 ลงมาแบบทันท่วงที อาจมีเหวอได้ ตัวรถยังไหลๆอยู่ แต่ตัวแป้นเบรคยังมีน้ำหนักสู้เท้าที่ดี ต้องพิ่มน้ำหนักกดลงไป ความเร็วก็จะค่อยๆลดลงตามลำดับ ใน Trip นี้ไม่ได้มีโอกาสทดสอบคุณภาพของผ้าเบรค ไม่ได้มีการหน่วงความเร็วแบบ ฉุกเฉิน หลายครั้ง เลยตอบไม่ได้ว่าผ้าจะเฝดหรือไม่
6.)เครื่องยนตร์ และเกียร์
นอกจากแรงบิดในรอบต่ำที่ดี ที่เหลือสำหรับผมไม่ผ่านทุกอย่าง ผมเป็นคนที่ชอบรถยนตร์ที่มีการตอบสนองดี อัตราเร่งที่โอเค และไม่ชอบ เกียร์ CVT เป็นทุนเดิม เกียร์CVT ในรถคันนี้ มีอาการอม มาก เวลาตอกคันเร่งลงไปแล้ว ตัวรถยังไม่เคลื่อนที่ไปทันที ต้องรอซัก 2 วินาที ถึงจะค่อยๆ ทะยานออกไป คันเร่งในโหมดปรกติไม่ช้าจนเกินไป ในโหมด SI-drive ตอบสนองเร็วดี อัตราเร่งยืดหยุ่น เร่งแซง ผมรู้สึกว่าควรต้องปรับปรุง นั่ง 3 คน + สำพาระ สำหรับนอน 1 คืน + อุปกรณ์กล้อง +Drone รวมๆแล้วทั้งคนทั้ง ของ นำ้หนักบรรทุกไม่น่าจะเกิน 220 KG ขับอยู่ประมาณ 80-90 เร่งแซง ถนน 2 เลน สวนกัน ลำบากครับ ต้องมีระยะเผื่ออยู่มากเพื่อให้แซงได้อย่างปลอดภัย แต่เหนือสิ่งอื่นได้ เสียงเครื่องยนตร์ เร้าใจดีมาก ชอบครับชอบ ลอดเข้ามากระตุ้นให้กระสันได้อย่างดี เสียงดุดี ไม่โวยวายจนเกินไป ในช่วงที่ขับในเมือง ไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ แรงบิดดี ไม่รุ้สึกว่าเครื่องขาดพละกำลังแต่อย่างใด คันเร่งเกียร์พวงมาลัย เซ็ทมาได้ดีมากในการซอกแซกในเมือง
7.) การเก็บเสียง
ผมไม่เคยลอง Xtrail เลยพูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่ถ้าต้องเทียบกับ CX5 CRV คันนี้เก็บเสียงดีกว่ามากครับ กระจกหน้าใช้แบบหนาพิเศษ ผมไม่ได้ยินเสียงลมลอดเข้ามาจากกระจกหน้าเลย แม้ว่าความเร็วจะล่วงเลย จาก 120 ไปถึง 140 150 เสียงลมที่เข้าจากทางกระจกข้าง ยังมีอยู่บ้าง ในช่วงความเร็วเกิน 120 เป็นต้นไป การเก็บเสียงจากช่วงล่างผมยังจับอาการได้ไม่ชัดเจนไม่กล้าฟันธงว่า เงียบหรือไม่ เนื่องจากยางยังใหม่มากด้วยรถวิ่งไปแค่ 1xxx กิโลเมตร แต่ไม่ได้รู้สึกลำคาร หรือ ได้ยินเสียงอะไรชัดเจน เวลาวิ่งผ่านถนนที่ไม่เรียบเนียนคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ ความเห็นข้างต้นมาจากการเป็น คนขับ และผู้โดยสารด้านหน้าเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้นั่งด้านหลัง แต่คนด้านหลังไม่ได้บนเรื่องเสียง แค่บ่นเรื่องไม่มีแอร์ด้านหลังเท่านั้น
สรุป
เป็นรถที่ไม่แรง แต่ขับสนุก อเนกประสงค์ และยิ้มกับมันได้ทุกวัน คนเท้าหนักและรักในแบรนด์และจุดเด่นต่างๆ อาจจะต้องมองเป็นรุ่น XT เพราะเครื่องยนตร์รุ่นนี้ตอบสนองไม่ได้ดั่งใจสั่งจริงๆ แต่ถ้าคุณกำลังคิดที่จะซื้อ CRV 2.0 Cx5 2.0 X-trail 2.0 ต้องมาลองครับตัวนี้ อาจจะเหมาะกับศรีภรรยา เอาไว้รับส่งลูกไปโรงเรียนในวันธรรมดา แล้วตัวคุณเอาไปซ่าถนนโคลนวันเสาร์อาทิตย์ก็ได้ครับผม
<iframe src="
https://www.facebook.com/plugins/video.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fautofocustudio%2Fvideos%2Fvb.368234426594630%2F1010749155676484%2F%3Ftype%3D3&show_text=0&width=560" width="560" height="315" style="border:none;overflow:hidden" scrolling="no" frameborder="0" allowTransparency="true" allowFullScreen="true"></iframe>
ปล. ผิดพลาดอันได้ได้โปรดให้อภัย ปกติผมจะไม่ค่อยโพสอะไรพวกนี้ แต่รู้สึกได้ว่ามีสมาชิกหลายท่านสนใจเลยอยากมาแชร์
ปล2. ตอนได้รับหมายว่าทาง subaru เชิญให้ไป test drive คิดไว้ในใจว่าจะได้เจอ พี่แพน ไม่ก็พี่จิมมี่ ตัวจริง แน่ๆ แต่ไปถึงต้องผิดหวังเพราะนี่เป็น Trip ที่ 3 แล้ว พี่ๆคงมาเทสกันตั้งแต่ tripก่อนหน้า
ปล3. ไม่รู้ Videoจะขึ้นไหม ถ้าขึ้นลองดูได้ครับเป็น Footage ที่ผมถ่ายระหว่าง Trip จะเห็นได้ว่าตัวรถมันเหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบนั้นจริงๆ