ไม่มีที่จอดแล้วห้ามซื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้คนจอดรถกันเกะกะนั่นแหละครับ
เวลาเราไปเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น เขาจะย้ำมากเรื่องจอดรถในที่ห้ามจอด
เพราะนอกจากจะโดนยกรถไปไว้ที่โรงพักแล้ว ยังต้องจ่ายค่าปรับอีกหลายหมื่นเยน
สำหรับเรื่องการนำหลักฐานว่ามีที่จอดรถหรือไม่ ไปแสดงตอนซื้อรถ จะยกเว้นให้สำหรับรถ K-Car ที่ไม่ต้องมีที่จอดมาแสดงก็ได้ หรือถ้าแสดงที่จอดรถ ก็จะได้สติ๊กเกอร์มาแปะท้ายรถครับ
ตอนซื้อรถ หากที่บ้านมีที่จอดรถ ก็ให้นำภาพถ่ายมาแสดงด้วย
เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ก็จะทำการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง ว่า ภาพที่มาแสดงนั้น เป็นที่ของเราจริงๆ รึเปล่า
หากเป็นพวก อพาร์ทเม้น ก็ให้นำหนังสือรับรองของ อพาร์เม้น มาแสดงว่ามีที่จอด หรือ เราได้เช่าที่จอดรถรายเดือนไว้แล้ว
หรือถ้าคนที่บ้านไม่มีพื้นที่จอดรถเลย หรือ ที่อพาร์ตเม้น ไม่มีที่จอดรถให้
ก็สามารถใช้บริการที่จอดรถรายเดือนได้ โดยให้ผู้ให้บริการที่จอดรถรายเดือนออกหนังสือรับรองให้
ปกติแล้ว ที่จอดรถรายเดือนในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในตัวเมืองนี่ ฮ๊อตฮิต มาก
บางที่ต้องจองกันเป็นปีเลยทีเดียว (เป็นเหตุให้ผมไม่สามารถซื้อเจ้า Roadster ได้สักที
เพราะเห็นที่เขาลงชื่อจองคิวไว้ กว่าจะถึงคิวเราก็คงโดนไล่กลับเมืองไทยซะก่อน ฮ่าๆๆ)
ถ้าถามว่าคนญี่ปุ่นซื้อรถกันเยอะไหม
ส่วนมาก ถ้าซื้อได้ ก็จะซื้อกัน
เพราะบางครั้ง ไม่มีรถก็ไม่สะดวก เช่นไปซื้อของเยอะๆ (หรือไปชอปที่ IKEA
)
หรือทำงานเลิกดึกมากๆ บ่อยๆ จะไม่ทันเวลารถไฟ ถ้านั่งแท็กซี่ก็ราคาแสนโหด
อย่างคนที่บริษัทผม ก็มีรถกันเกือบทุกคนครับ แต่ส่วนมากใช้กันเฉพาะ เสาร์ อาทิตย์
บางครั้ง การไปจุดหมายต่างๆ ขับรถเร็วกว่า (รวมถึงในเมืองด้วย)
เพราะบางครั้งต้องต่อรถไฟหลายต่อ ทำไปทำมาขับรถเร็วกว่า
อย่างเช่นที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่ ออฟฟิศ กับ โรงงานอยู่ห่างกันพอสมควร
ถ้าขับรถใช้เวลา 15 นาที แต่ถ้านั่งรถไฟ ใช้เวลา 40 นาที เพราะต้องเปลี่ยนสายรถไฟ
เวลาไปมาระหว่างโรงงานกับออฟฟิศ จึงใช้รถยนต์เอาครับ
รถที่ญี่ปุ่นก็ไม่แพงนัก (เมื่อเทียบกับรายได้)
แถมถ้าซื้อผ่อน โปรแกรมการเงินต่างๆ ก็เข้าท่ามาก
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยไม่แพงนัก ก็มีเยอะ เคยเห็นเยอะสุดผ่อน 8 ปี
แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ แพงมาก
เช่นค่าทางด่วน ขึ้นทีก็เสีย 930 เยน
ค่าจอดรถ ชั่วโมงนึงก็ประมาณ 130 เยน (แล้วแต่ที่)
ถ้ารายเดือน ก็จะอยู่ที่ราวๆ 30,000 เยน
ทุก 2-3 ปีก็จะต้องเอารถไปตรวจสภาพ ค่าตรวจก็ขึ้นอยู่กับอายุรถ ยิ่งเก่ายิ่งแพง (ราคาก็ราวๆ 6-9 หมื่นเยน)
ที่นี่ไม่ได้ตรวจเล่นๆ แต่ตรวจจริงจังมาก เช่น ระบบ ABS ไม่ทำงาน ก็ตรวจไม่ผ่านแล้ว
ต้องกลับไปแก้ไข แล้วมาตรวจใหม่
เรื่องรถติดนั้น ถ้าเมืองใหญ่เวลาเร่งด่วนติดอยู่แล้วครับ
ถ้าบนทางด่วนรถจะติดแบบไหลไปได้เรื่อยๆ
สาเหตุส่วนมากมาจาก ปริมาณรถเยอะ
ผมชอบเวลาฟังข่าวจราจร ทางวิทยุ
เขาจะบอกว่าเส้นไหนรถติดบ้าง
ถ้าเสน้ไหนรถติด ก็จะบอกระยะทาง
เช่นบอกว่า รถติดยาว 3 กิโลเมตร
แต่ถ้าได้ยินว่า รถติดยาว 5 กิโลเมตร คนญี่ปุ่นก็จะเริ่มบ่นว่า
อะไรนะ 5 กิโลเมตร ตายๆ
แต่ที่บอกว่าติด 5 กิโลเมตรหนะ รถมันไหลตามกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้ติดไร้สาระแบบบ้านเรา
ผมเคยรถติดอยู่บนถนนเส้นรอง แบบว่ารอสัญญาณไฟนานมากไม่พ้นแยกสักที
อยู่บนถนนเส้นเดิมมากกว่า 15 นาที พอได้ไปอยู่หัวแถวก็พบว่า
ที่รถติดหางแถวยาวนั้น เพราะเขาปล่อยไฟเขียวให้คนข้ามถนนนานกว่า ไฟเขียวให้รถ
เพราะเป็นช่วงเลิกงาน คนข้ามถนนมากครับ
ส่วนเรื่องการขับรถ ถ้าถามว่าทำไมคนญี่ปุ่นขับรถดีมาก
ถ้าถามคนญี่ปุ่น เขาจะตอบว่า กลัวโดนยึดใบขับขี่ เพราะกว่าจะได้มายากมาก
อีกอย่าง ผมคิดว่า คนญี่ปุ่นเคารพสิทธิ์คนอื่นด้วย
ทุกคนมีสิทธิ์เหมือนกัน ไม่มีใครมีสิทธิ์มากไปกว่ากัน