ผู้เขียน หัวข้อ: มีใครเคยคิดว่าออกรถมาแล้ว รายจ่ายอย่างอื่น ไปหาข้างหน้าเอาบ้างไหมครับ  (อ่าน 5701 ครั้ง)

ออฟไลน์ sengausa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
นอกจากเงินดาวว์ที่แทบจะหมดบัญชี ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ค่าดูแลอื่นๆ ที่มีรายจ่ายไม่มาก  แล้วเหลือไว้ใช้อีกนิดหน่อย ที่ผมออยากถาม คือ

ค่าประกัน ( ปีแรกยังไม่ต้องจ่าย หาเอาข้างหน้า )
ค่าเปลี่ยนยาง ( 2 - 3 ปี ค่อยคิด หาเอาข้างหน้า )
ค่าอื่นๆ ( หาเอาข้างหน้า )

พี่ๆ คิดว่า มีคนที่มีความคิดแบบนี้ มากไหมครับ แล้วผ่อนรถ ได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่าครับ

 สำหรับมนุษย์เงินเดือน โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า มีเยอะ แน่นอนครับ คนใกล้ๆ ตัวผมนี่ก็หลายคน

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,683
เดี๋ยวนี้เปลี่ยนยางก็ผ่อนได้นะครับ ไม่น่าจะเดือดร้อนมากครับ :)
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
มีสิครับ ตอนอยากได้อะไรก็มองข้ามไปหมด ไปตายเอาดาบหน้า แต่ก็รอดมาได้หลายปี

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,177
ของผมเฉยๆนะ สำรองเงินไว้แล้ว

แค่ช๊อคกับราคายางนิดหน่อย
ปกติใช้เก๋ง ยางอย่างดีก็ไม่เกิน 5 พัน
พอขับ PPV ยางธรรมดาๆ เส้นละ 6 พันกว่าบาท
ยางดีๆเส้นละเกือบหมื่น

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
ของผม เก็บค่าบำรุงรักษา+ประกันภัย อย่างน้อยเดือนละ 2000 คับ

ย้อนไปตอนคีนภาษีรถคันแรก โดนเครดิตบูโร ไปหลายรายคับ เห็นแก่เงินคืน ไม่คำนึงถึงค่าบำรุงรักษา
ผ่อนต่อไม่ไหว โดนยึด

ซื้อรถต้องเก็บค่าบำรุงรักษาด้วยคับ เผื่อฉุกเฉินจะได้ไม่กระทบค่อ ค่าอุปโภค บริโภค หลัก

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
ตัวผมเองคิดว่าค่าบำรุงพวกนี้มันไม่ได้มากมาย เตรียมให้มันไว้ในระยะสั้น ๆ แต่ก็เห็นคนรอบตัวเหมือนกันที่  ประกันปีที่ 2 ไม่ต่อหรือไม่ก็ลดระดับลง
บางคน ถึงเวลาก็ไม่เปลี่ยนยาง  ไม่เข้าศูนย์แล้วไปเข้าร้านนอกแทน 

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
ถ้ามีบัตรเครดิตก็สบายรอดตัวไปได้เป็นอย่าง ๆ ไปครับ

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,433
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
ของผม เก็บค่าบำรุงรักษา+ประกันภัย อย่างน้อยเดือนละ 2000 คับ

ย้อนไปตอนคีนภาษีรถคันแรก โดนเครดิตบูโร ไปหลายรายคับ เห็นแก่เงินคืน ไม่คำนึงถึงค่าบำรุงรักษา
ผ่อนต่อไม่ไหว โดนยึด

ซื้อรถต้องเก็บค่าบำรุงรักษาด้วยคับ เผื่อฉุกเฉินจะได้ไม่กระทบค่อ ค่าอุปโภค บริโภค หลัก

เป็นวิธีการที่ค่อนข้างเป็นไปได้ครับ +ค่าผ่อนหยอดกระปุกเดือนละ 1,500 ค่าประกัน(ต่อปี) + 500 ค่ายาง (3ปี)

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,552
มี ผมเอง 

เมื่อ4ปีก่อน ออกรถดาวน์แค่ 15% (จริงๆวางแผนจะดาว10%ด้วยซ้ำแต่ไฟแนนส์ไม่ยอม) เงินเก็บไม่พอ ขายทองที่พี่สาวให้จากงานแต่งมาสมทบ ครบ180,000บาท จ่ายวันออกรถพอดี

ที่ทำไปด้วยความอยากได้มากไม่ได้คิดอย่างอื่น(เป็นคนนิสัยแบบนี้ประจำ) เงินเดือนก็น้อย 38,000 ผ่อนรถเดือนละ 20,400 บาท

พอได้มาใช้  ก็ดิ้นรนอัตโนมัติพยามมองหารายได้ด้านอื่นไปด้วย ฟ้าก็เข้าข้างเหลือเชื่อ อยู่ๆก็มีธุรกิจให้ทำควบคู่ได้เงินเดือนละ20,000
เท่านั้นไม่พอคนมันจะเฮง ไม่กี่เดือนต่อมา เจ้านายเลื่อนตำแหน่งให้ เพิ่มเงินเดือนให้กลางปีคนเดียวโดดๆ กลายเป็น54,000

 ปีนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ ธุรกิจผมก็ทรุดลงฮวบ เหลือกำไรเดือน ละไม่ถึง10,000  บริษัทที่ผมทำอยู่ก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน เงินเดือนแทบไม่ขยับ โบนัสก็ไม่มี

โชคดีที่4ปี ผมกอบโกยได้เป็นเงินออม ล้านกว่าบาท รถผมเหลืออีกแค่11เดือน 190,000 ก็จะหมดแล้ว

แม้รถคันนี้ของผมออกจะเหมือนรถนำโชค แต่ผมคงไม่ทำนิสัยซื้อรถเกินตัว เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ต่อจากนี้จะพยามรัดเข็มขัด

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,924
    • อีเมล์
ตอนออกคันแรกผมก็เป็นแบบนี้เลยครับมันอยากได้อะไรก็ไม่มีปัญหา 555

ออฟไลน์ หนึ่ง บ้ารถ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 268
ผมนี่ล่ะครับคนนึง ตัดสินใจซื้อรถไม่มีเงินซักบาท

มิตซูนิวแลนเซอร์ผมซื้อมือ2 ราคา 260,000 จัดไฟแนนซ์ได้ 330,000  ส่วนที่เกินมา 70,000 เอาไปเสียค่าโอน ค่าประกัน ติดแก๊ส LPG  เปลี่ยนยาง และก็เหลือไว้บำรุงรักษาทีหลัง  หนักๆ เลยก็โอเวอร์ฮอลล์เกียร์ CVT

นอกนั้นหากมีอะไรเสียต้องจ่ายเพิ่ม เช่นเปลี่ยนยาง ต่อประกัน เปลี่ยนแบต หาเอาดาบหน้าหมดเลยครับ ทั้งที่เคยคิดว่าต้องเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถให้ได้เดือนละ 3000 ยังไม่เคยทำได้เลยซักที

ออฟไลน์ thaixxx

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
    • อีเมล์
มี ผมเอง 

เมื่อ4ปีก่อน ออกรถดาวน์แค่ 15% (จริงๆวางแผนจะดาว10%ด้วยซ้ำแต่ไฟแนนส์ไม่ยอม) เงินเก็บไม่พอ ขายทองที่พี่สาวให้จากงานแต่งมาสมทบ ครบ180,000บาท จ่ายวันออกรถพอดี

ที่ทำไปด้วยความอยากได้มากไม่ได้คิดอย่างอื่น(เป็นคนนิสัยแบบนี้ประจำ) เงินเดือนก็น้อย 38,000 ผ่อนรถเดือนละ 20,400 บาท

พอได้มาใช้  ก็ดิ้นรนอัตโนมัติพยามมองหารายได้ด้านอื่นไปด้วย ฟ้าก็เข้าข้างเหลือเชื่อ อยู่ๆก็มีธุรกิจให้ทำควบคู่ได้เงินเดือนละ20,000
เท่านั้นไม่พอคนมันจะเฮง ไม่กี่เดือนต่อมา เจ้านายเลื่อนตำแหน่งให้ เพิ่มเงินเดือนให้กลางปีคนเดียวโดดๆ กลายเป็น54,000

 ปีนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ ธุรกิจผมก็ทรุดลงฮวบ เหลือกำไรเดือน ละไม่ถึง10,000  บริษัทที่ผมทำอยู่ก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน เงินเดือนแทบไม่ขยับ โบนัสก็ไม่มี

โชคดีที่4ปี ผมกอบโกยได้เป็นเงินออม ล้านกว่าบาท รถผมเหลืออีกแค่11เดือน 190,000 ก็จะหมดแล้ว

แม้รถคันนี้ของผมออกจะเหมือนรถนำโชค แต่ผมคงไม่ทำนิสัยซื้อรถเกินตัว เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ต่อจากนี้จะพยามรัดเข็มขัด

เหมือนผมเลยคับ เก็บเงินเกือบ 10 ปี กว่าจะมีเงินพอดาวน์ Jazz แสนกว่าบาท และเหลือเงินสำรองไว้ผ่อนได้แค่ 2-3 เดือน

แต่หลังจากออกรถมาได้แล้วหยิบจับอะไรก้อเป็นเงินเป็นทองได้หมด ( รถให้คุณแท้ๆ )

จนทุกวันนี้ผ่านมา 5 ปี จนมีเงินเก็บพอออกรถพรีเมี่ยมยุโรปป้ายแดงเงินสดได้ 2-3 คัน แต่ไม่ซื้อเพราะยังรัก Jazz คันนี้มากๆๆๆ


ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,151
เดี๋ยวนี้ผมซื้อรถเงินสดตลอดเลยครับ แต่ก่อนซื้อแบบผ่อน ผ่อนไปได้ซักพักขี้เกียจผ่อนแล้วสุดท้ายก็ไปปิดบุ๊คเสียดอกเบี้ยฟรั ก็เลยว่าถ้าซื้อแล้วเงินในบัญชีเหลือน้อยจะทำใจซื้อไม่ลง เลยกำหนดว่าถ้าซื้อรถต้องไม่เกินล้าน แล้วก็ต้องเหลือเงินใช้แบบไม่ลำบากครับ

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,815
ผมใช้มา 3 คัน แล้ว เป็นแบบเจ้าของกระทู้ว่ามาเลยครับ อิอิ

เงินที่เราคิดว่ามีและเก็บไว้นั้น   วันเวลาผ่านไป มันมีทางไปของมันเสมอ  ไม่รู้ใครลิขิต
สรุปลำบากลำบน ตลอดระยะเวลาที่ใช้รถก็แล้วกัน 

- ค่าน้ำมัน
- ค่าเครื่องโทรศัพท์ที่เปลี่ยน ไม่ตามแผนที่กำหนด
- ค่าประกันรถ
- ค่าประกันชีวิต(ออม)ทั้งครอบครัว
- ค่าประกันอุบัติเหตุ(กลัวไปแบบฉุกเฉินและทิ้งภาระไว้ข้างหลัง)
- ค่ากิน ค่าเที่ยว
- ค่าทำบุญตามโอกาส

ค่าเหล่านี้มันมากกว่าค่าผ่อนรถครับ
รายได้ต่อปีส่วนตัวล้วนๆ  ไม่รวมเมีย ห้าแสนกว่า ไม่เหลือให้เก็บสักบาท  เป็นเรื่องจริงสำหรับผม

***เป็นเหตุผลที่ไม่กล้าเถียงเมีย กลัวเมียไล่ออกจากบ้านแล้ว มันยาจกดีดีนี่เอง   5555***

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมเองก็ไม่เคยคิดแบบนั้นนะ รถยนต์คันนึงซื้อราคาไม่เกินรายได้ ต้องมีเหลือเยอะๆค่อยซื้อ เงินเก็บสัก 3 เท่าของราคารถ และรายได้ต่อเดือนหักค่าใช้จ่ายรวมค่าผ่อนต้องเหลือเก็บ ..... แต่ปกติจะซื้อสด

ออฟไลน์ เซลล์ขายรถ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 704
  • เซลล์ขายรถจริงๆนะครับ
สมัยจบใหม่ๆนั้นหละ แต่ดีว่าตอนนั้นไม่ได้ซื้อ

พอทำงานได้ปีกว่าๆตกงานเพราะน้ำท่วมใหญ่ โล่งใจเลยว่าดีที่ไม่ซื้อ

ตอนนี้คิดแล้วคิดอีกคิดจนปวดหัว ว่าถ้าซื้อใหม่จะหาเงินจากไหนมาผ่อนว้า ไอ้ที่พอผ่อนได้มันก็เล็กไป ไอ้ที่ขนาดพอๆกับคันที่ขับๆอยู่มันก็ส่งเยอะจัง
ต้องดันยอดเดี๋ยวเจอโกฮังจัดการ :(

ออฟไลน์ hummerhead

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
ผมนี่แหละหนึ่งในคนกลุ่มนั้น
ตอนนั้นอยากได้ จนบังตาไปหมด คิดว่าเดี๋ยวก็หาได้....พอโดนค่าแต่ง ค่าซ่อมไป คราวนี้มันพันไปหมด ทั้งบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต สินเชื่อ ผมผ่านมาหมดแล้ว คิดถึงตอนนั้นเล่นเอาประสาทเสียเลยครับ

ตอนนี้ตั้งหลักได้แล้วครับ คันที่ใช้อยู่ปัจจุบันซื้อสด ไม่ต้องผ่อนอะไรแล้ว เก็บเงินแต่งรถอย่างเดียว สบายๆ(มีซ่อมบ้างจุกจิก)
Cefiro a32 2005-2009
Mitsubichi cedia 2009-2012
Subaru legacy bd ej 20 twinturbo 2012-2015
Toyota yaris 2014-.......
Subaru legacy bg7 ej22 na 2015-2016
Subaru legacy bg7 ej25 na  2016........

ออฟไลน์ chinjung

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 353
Oh พระเจ้า มีคนจำพวกนี้เยอะขนาดนี้เลยหรอเนี่ยแม่เจ้าเว้ย 

ตอบ ไม่เคยเลย ก่อนจะซื้อรถต้องมีเงินสดมากกว่ารถคันนั้นๆ และมีเงินผ่อนมากกว่า4เท่าของค่างวดเสมอ

เช่นคันล่าสุด แคมรี่1.6ล้าน ก็ต้องมีเงินสดมากกว่า 2ล้าน  ผ่อนเดือนละ2หมื่น ก็ต้องมีรายได้ มากกว่า1แสนบาทต่อเดือน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
ถ้าเงินตึง จะเครียดมากๆ ถ้ารอดมาได้ก็ดีไปครับ แต่ถ้าไม่รอด จะช้ำมากๆ

ออฟไลน์ sengausa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ

ผมว่าทฤษฏี ผ่อนไม่เกิน 30% ของรายได้ มันดีมากนะครับ
แต่ มนุษย์เงินเดือนทั่วไป ที่เป็นคนส่วนใหญ่ ( ไม่ถึง 1.5 หมื่น )
จะรอทำให้ได้ตามทฤษฏี ก็คงต้องมีเงินดาวว์เกิน 50% ซึ่งในความเป็นจริง คงมีเงินขนาดนั้นได้ยาก

ถ้ามันต้องมีรถจริงๆ ก็คงต้องแลกกับหลายๆ อย่างที่จะตามมาครับ

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
จขกท ลองหางานพิเศษ หรือลงทุนทำอะไรสักอย่างเลยครับ
ถ้ามันมีรายได้งอกมานิดนึง ให้นิ่งๆสักปลายปี ผมว่าปีหน้าก็ออกรถได้แล้วครับ
หมู่นี้ขายของในเนต แบบรับมาขายเอง ผมว่าไม่ได้ยากมากนะครับ
เอาใจช่วยครับ
: )

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,815
Oh พระเจ้า มีคนจำพวกนี้เยอะขนาดนี้เลยหรอเนี่ยแม่เจ้าเว้ย 

ตอบ ไม่เคยเลย ก่อนจะซื้อรถต้องมีเงินสดมากกว่ารถคันนั้นๆ และมีเงินผ่อนมากกว่า4เท่าของค่างวดเสมอ

เช่นคันล่าสุด แคมรี่1.6ล้าน ก็ต้องมีเงินสดมากกว่า 2ล้าน  ผ่อนเดือนละ2หมื่น ก็ต้องมีรายได้ มากกว่า1แสนบาทต่อเดือน

อยากมีแบบคุณมั่งจัง   ผมมี 2 ล้าน  ผมหยิบสด 1.6 ล้านแล้วครับ ไม่ยอมผ่อน เดือนละ 2 หมื่นให้เสียดอกแน่ๆ    แถมเก็บ 2 หมื่นนั้นเข้าแบงค์ได้ดอกอีกต่างหาก

promt

  • บุคคลทั่วไป
เยอะครับ มนุษย์เงินเดือน พนักงานทั่วไป ข้าราชการ เพียบเลย

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
เมื่อก่อนผมเป็นครับ และเป็นช่วงชีวิตที่ผมคิดว่าผิดพลาดที่สุดแล้ว
ดันเป็นช่วงที่ผมป่วยหนัก รถไม่มีขับ ก็ไม่ตาย แต่ไม่มีเงินรักษาตัวเองนี่สิ รพ.รัฐ รอเป็นวันยังไม่ได้ตรวจเลย นอนปวดตัวไข้ขึ้นอยู่เป็นวัน การรักษาก็แพงมากนะครับ ขนาดเป็น รพ.รัฐ ยาเม็ดละร้อยกว่าบาท ทานวัน 2 เม็ด ทานทุกวันหลายเดือน แถมต้องมาโหลดยาเข้าเส้นเลือด วันเว้นวัน ราคาไม่ต้องพูถึง ตอนนั้นผมหนักแค่ 47 kg เพราะทั้งป่วย และไม่มีเงินจะกินจะใช้ สุดท้ายก็ต้องขอจากคุณพ่อให้ช่วยเหลือ คนอื่นคิดยังไงผมไม่รู้แต่สำหรับผม มันเป็นการตัดสินใจที่โง่มาก ถ้าผมไม่ซื้อรถตอนนั้นผมจะไม่ลำบากขนาดนั้น และไม่เป็นภาระของคนรอบข้าง ปัจจุบันถ้าผมจะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่นรถยนต์ต้องเงินสดเท่านั้น ถ้าจะผ่อนค่างวดต้องไม่เกิน 8% ของรายรับของผมคนเดียว
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
เมื่อก่อนไม่คิดอะไรมาก ออก ออก  อย่างเดียว (แต่ก็ผ่อนหมด มา 3 คันนะ)

แต่เดี๋ยวนี้คิด รอบครอบขึ้น เผื่ออะไรไว้บ้างสบายใจ นอนหลับปุ๋ย
One Day.

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 795
นอกจากเงินดาวว์ที่แทบจะหมดบัญชี ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ค่าดูแลอื่นๆ ที่มีรายจ่ายไม่มาก  แล้วเหลือไว้ใช้อีกนิดหน่อย ที่ผมออยากถาม คือ

ค่าประกัน ( ปีแรกยังไม่ต้องจ่าย หาเอาข้างหน้า )
ค่าเปลี่ยนยาง ( 2 - 3 ปี ค่อยคิด หาเอาข้างหน้า )
ค่าอื่นๆ ( หาเอาข้างหน้า )

พี่ๆ คิดว่า มีคนที่มีความคิดแบบนี้ มากไหมครับ แล้วผ่อนรถ ได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่าครับ

 สำหรับมนุษย์เงินเดือน โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า มีเยอะ แน่นอนครับ คนใกล้ๆ ตัวผมนี่ก็หลายคน

รู้สึกว่า ถ้าจะผ่อนรถเนี่ย ไฟแนนซ์เค้าจะบังคับให้เราซื้อประกันชั้น1 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่อนอยู่เลยนะครับ ( ถ้าจำไม่ผิด )  :) :) :)