ผมยกตัวอย่างที่นักกีฑรา โอลิมปิกวิ่ง 4*100 เมตรแล้วกันครับ โดยปกติคนที่อยู่ลู่วิ่งด้านนอก จะต้องวิ่งระยะทางที่ไกลกว่าคนที่อยู่ลูวิ่งด้านในใช่ไหมครับ แต่ถ้าหากวิ่งเร็วเท่ากัน คนที่อยู่ลู่วิ่งด้านในจะวิ่งไปได้เร็วกว่า
ระบบ vscหรือควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง
ล้อรถก็เช่นกันครับ ล้อที่อยู่ด้านในโค้ง จะไปได้เร็วกว่าล้อที่อยู่ด้านนอกโค้ง เพราะฉะนั้นระบบ vsc จะทำการเบรคล้อด้านในโค้ง ให้มีความเร็วที่วิ่งคู่ขนานกับล้อด้านนอกโค้ง เวลาเราเข้าโค้งเร็วๆ ครับ ซึ่งมันจะทำให้เกาะถนนมากขึ้น
ในส่วนของ TRC นี่รู้สึกจะเป็นระบบป้องกันการหมุนฟรีของล้อ ตามชื่อเลยครับ ไม่ว่าล้อจะเกิดการหมุนฟรีเนื่องด้วยสาเหตุใด ระบบก็จะเบรคให้กับล้อที่เกิดการหมุนฟรีทันทีครับ
อันนี้คือตามที่ผมเข้าใจน่ะครับ ถูกผิดยังไงรบกวนด้วยครับ
เข้าใจผิดละครับ จริงๆมันคนละแบบเลย
ถ้าเคยขับพวกเกม Drive Simulation อย่าง GT5 GT6 จะพอเข้าใจครับ ว่าระบบมันคืออะไร
-----------------------
จริงๆ VSC (หรือ ESP) ที่ชื่อเต็มมันคือ Vehicle stability control หรือ Electronic stability program
มันคือระบบรักษา สเถียรภาพของรถ (Stability) คือถ้ามาเร็วไป (แต่ก็ต้องไม่มากเกินไป) แล้วเข้าโค้งแรงๆ หรือหักหลบกระทันหัน ไอ้ระบบนี้จะป้องกันรถเสียหลัก รถปัด หมุน ท้ายออก (Oversteer) โดยพยายามแก้อาการของรถ อาจจะโดยการเบรคแต่ละล้อ หรือตัดกำลังเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่จะตัดกำลัง และช่วยเบรค เพื่อให้รถยังเกาะต่อไปได้ ส่วนมากก็ทำงานร่วมกับ TRC
-----------------------------
Traction Control (TRC) คือการควมคุมล้อ ให้หมุนไปได้โดยมีการยึดเกาะ (Traction) ที่ดีที่สุด ที่จะทำให้รถอยู่ในการควบคุมได้ (เช่นเวลาฝนตก ถนนลื่น) จะค่อยจำกัด ควบคุม การส่งกำลังไปยังหน้ายางไม่ให้มากจนเกินไป จนทำให้เกิดการฟรีทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ รวมถึงจัดการส่งกำลังลงพื้นให้ได้ดีที่สุด (ไม่ให้มันฟรี เอี้ยดๆๆๆๆๆๆๆ โดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะพวกรถที่แรงม้าเยอะๆ จะช่วยให้ออกตัวง่ายขึ้น)
อย่างเฟอรรารี่ พี่แกชอบโฆษณาเรื่องระบบ 5 Way TRC นี่ผมก็ไม่แน่ใจ มันพิเศษกว่าชาวบ้านแค่ไหนยังไงน่ะ
----------------
ถ้าเล่นเกม ผมปิดมันทั้งคู่แหละ ถ้าใช้รถขับหลัง มันหงุดหงิด ชอบปราบพยศรถด้วยตัวเองมากกว่า แล้วก็ เท่าที่ใช้ในเกม (ไม่อยากลองในชีวิตจริง) ถ้ามาเร็วมากๆ ต่อให้มีระบบ ก็ฟาดกำแพงได้เหมือนกัน มันก็มีลิมิตของมันอยู่ (เลยปิดมันนั่นละ เพราะถ้าขับมาถึงจุดนึง ย่อมรู้ Braking Point ดีอยู่แล้ว เลยไม่ชอบให้รถมันมาคิดแทน)
-------
ส่วน การกระจายแรงขับเคลื่อนแต่ละล้อ ตอน "เหยียบคันเร่ง" ทำให้รถเข้าโค้งได้ดี .... ว่าล้อไหนมาก น้อยยังไง ในแต่ละสถานการณ์
"ส่ง" คือหน้าที่ของ Differential หรือ Torque Vectoring แล้วแต่ว่าค่ายรถจะใส่อันไหนมา หรือใส่มาทั้งคู่ (แบบ NSX) และการเซตติ้งในการกระจายแรงขับเคลื่อนของรถเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเซตต่างกัน หมายถึงคาแร๊คเตอร์ของรถก็จะต่างกันไปด้วย
Differential จะใช้วิธีส่งกำลังล้อนอกโค้งมากกว่าล้อในโค้ง ทำให้รถเข้าโค้งได้ดีขึ้น หัวรถเบนเข้าด้านในมากขึ้น ช่วยได้ดีมาก ในการเข้าโค้งความเร็วสูง แต่ไม่แคบมาก หรือการตั้งหลักหลังพ้นโค้ง มีหลายแบบ ทั้งแบบกลไก หรือแบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ (แบบใน AMG GT S หรือพวก M5 M6)
Torque Vectoring นี่จะแอบเบรคล้อใน เพื่อให้รถเปลี่ยนทิศทาง (Vectoring) โดยช่วยทำให้หัวรถเบนเข้าด้านในโค้งมากขึ้น ช่วยในตอนเข้าโค้งความเร็วต่ำ พวกมุดๆ จิมคาน่า ผมว่าน่าจะช่วยได้เยอะ
ส่วนไอ้เจ้า NSX หรือ TVD ใน Lexus RC-F , GS-F , LC500 ที่มันระบบ "พิเศษ" คือมันใช้มอเตอร์ส่งกำลังล้อเพิ่มในวงนอก (แทนที่จะใช้ DIFF) รวมถึงใช้มอเตอร์หน่วงกำลังล้อด้านใน (แทนที่จะใช้ Torque Vectoring ช่วยเบรค) มอเตอร์ทำหน้าที่แทน ทำสองหน้าที่ในตัวเดียว ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
กรณี Lexus
การเซตติ้งโปรแกรมของ Diff หรือ TVD นี่มีผลในการขับเยอะอยู่ อย่าง Lexus RC-F เซตมาให้ขับง่าย มันเลยไม่โลดโผนเท่าที่ควร และค่อนข้าง understeer แต่พอเป็น GS-F นี่กลับเซตมาได้บาลานซ์ จนหลายสื่อชม รวมถึงตา Clarkson ที่ด่า RC-F ซะยับ แต่กลับบอกว่า GS-F เป็นรถที่ตัวเองชอบมากที่สุดของ Lexus รองจาก LFA และชอบมากกว่า M5 หรือ M3
(เอาจริงๆ RC-F มันไวในโค้งน่ะ ถึงรถจะหนัก แต่ทำเวลาในสนามแบบไล่กวด M4 หนีชนะไปแบบหืดจับ แถมคนขับ RC-F ยังทำตัวชิลๆ สบายๆ ไม่เหนื่อยเท่าด้วย ถ้า Lexus ลดน้ำหนักตัวถังได้เท่า M4 ผมกล้าพูดเลย มันทำเวลาได้ดีกว่าเป็นวินาทีแน่ๆ)
หรือกรณี NSX
ในโหมด Sport อาจจะมี Understeer แต่พอเป็น Track Mode อาจจะ Oversteer แทน ก็สามารถทำได้หมด เพราะอยู่ที่การเซตติ้งในส่วนนี้ มันสามารถทำตัวเป็น Accord ฟีลลิ่งคล้ายๆรถขับหน้าเชื่องๆเพื่อความปลอดภัย ให้แฟนขับไปทำงานสบายๆก็ได้ แต่ก็เป็นรถที่พยศจนน่ากลัวได้เหมือนกัน เพียงแค่กดปุ่ม