ถ้าเป็นรถเครื่องยนต์ไม่เน้นสมรรถนะ ไม่มีเทอร์โบ หมุนรอบไม่เกิน 7,000 จะใช้ PTT ก็ได้
ผมไม่แน่ใจว่าเขาเปลี่ยนสูตรใหม่ในช่วง 10 ปีนี้บ้างหรือเปล่า แต่ปี 2005 ผมเคยใช้
PTT0W-40 Gold ก็ใช้ดีในช่วงแรกๆ แต่หลัง 5,000 โลไป แรงดันน้ำมันเครื่องตกง่าย
ปกติเดินเบาหลังซัดเต็ม น้ำมันอื่นๆจะเหลือ 15PSI อย่างต่ำ แต่ PTT ผมซัดคลองห้า
3 รัน แรงดันเหลือแค่ 10PSI เป็นเจ้าเดียวในบรรดาหนืด 40 ทั้งหมดที่แรงดันเหลือต่ำกว่า 15
ส่วนเรื่องลื่นหรือแรง ผมว่าไม่ต่าง สมัยนั้นเติม Mobil, Castrol RS, PTT ผมก็วิ่งอยู่ 15.7-15.9
ได้ตัวเลขไม่ต่างกันมากไปกว่านี้ และนี่คือ 0-145kmh นะ ยังต่างกันแค่นี้ ถ้าบางคนกด 100-120
แล้วรู้สึกได้เลยว่าต่างกันมาก แปลว่าประสาทสัมผัสสุดยอดมากขอปรบมือให้
น้ำมันเครื่อง มีดี มีไม่ดี แม้แต่ยี่ห้อเดียวกันแท้ๆ สังเคราะห์เหมือนกัน พอความหนืดต่างกันหน่อย
ให้ผลประสิทธิภาพต่างกันก็มีครับ น้ำมันเครื่องฝรั่งบางยี่ห้อเคยดีมาก พอชื่อเสียงอยู่ตัว คุณภาพ
น้ำมันต่ำลงก็มี เหมือนกับสิ่งของต่างๆหลายอย่างที่เกี่ยวกับรถยนต์..ผ้าเบรกอะไรงี้
สำหรับแนวคิดในการเลือกน้ำมันเครื่องของผม ถ้าไม่ไปถามคนที่เคยทำแล็บน้ำมันเครื่อง
(คนอ่านของเรานี่แหละ เดี๋ยวเขาคงมาตอบ) อย่างน้อยก็ถามคนที่ใช้รถที่มีวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง
วัดแรงดันน้ำมันเครื่องด้วยก็ดี ส่วนเรื่องเกรดความหนืด โรงงานกำหนดมาเท่าไหร่ สมมติว่ากำหนด
ให้ใช้ 30 คุณจะใช้ 30 หรือ 40 ก็ได้ แต่อย่าลงไป 20
เครื่องยนต์อายุยังไม่มาก ควันขาวไม่ออก ไม่หลวม ก็ใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดเท่ากับสเป็ค
โรงงานระบุก็ได้ น้ำมันหนืด 30 ที่ใช้ดีก็มีหลายตัวครับ แต่ถ้าเอาน้ำมันสังเคราะห์แบบที่หาได้ง่าย
ตามปั๊มทั่วไป ผมว่าเชลล์สังเคราะห์กระป๋องเทาเวิร์คดี ใช้ 8,000 โลแรงดันน้ำมันรอบสูงรอบต่ำ
หลังซัดรวมถึงการควบคุมอุณหภูมิน้ำมันก็ทำได้ดีกว่าน้ำมันอินดี้ราคาไม่ถูกหลายเจ้า