สงสัย กรณีโตโยต้านำเทคโนโลยีทำงานแทนคนในศูนย์บริการ

[TDCI]

รับตัวก่อนได้เปรียบก่อน....

### เกี่ยวกับการที่ "โตโยต้า" กำลังลดขนาดแรงงาน (Downsizing) อยู่นั้น ผมขออธิบายเล็กน้อยว่า มันไม่ใช่เพราะปัญหาเศรษฐกิจโลกเป็นเหตุผลหลัก เพราะถ้าเชื่อกันตามนั้นอย่างเดียว ภาครัฐและเอกชน และคนทั่วไปในประเทศนี้ก็จะ # ปั้นหน้าโลกสวย บอกตัวเองเหมือนทุกครั้งว่า # เดี๋ยวเศรษฐกิจดีขึ้น # ก็จะมีการจ้างงานเหมือนเดิม

ผมใคร่ขออนุญาติบอกว่า .. ครั้งนี้ยุคสมัยและวิวัฒนาการมันเปลี่ยนไปมากแล้ว .. สาเหตุที่โตโยต้าลดขนาดคนงานก็เพราะ เค้ามีนโยบายเตรียมนำเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เข้ามาใช้แทนมนุษย์ ซึ่งเค้าเพิ่งลงทุนวิจัยไป 1,000,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ไปคูณเอาเองนะครับ ผมกลัวพวกท่านโลกสวยจะหัวใจวาย) และที่บอกว่านำเทคโนโลยีมาแทนมนุษย์ ก็ไม่ใช่แค่คนงานในโรงงานนะจ๊ะ แต่นำมาแทนคนที่ศูนย์บริการด้วยจ๊ะที่รัก ทำไมต้องทำอย่างนั้น? ทางด้านโรงงาน เค้ามีแผนลงทุนในประเทศแถบ AEC อย่างในเมียนมาร์ ซึ่งญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเมียนมาร์ คนงานเมียนมาร์ในโรงงานรับอัตราค่าจ้างต่ำกว่าคนงานไทย แต่ทำงานอึดกว่า ไม่เรื่องมาก และรักการเรียนรู้มากกว่า เหมาะกับการเติมความรู้ทางด้านเทคโนโลยีให้ใหม่มากกว่าคนไทย ที่จะปรับเปลี่ยนอะไรที ก็ต้องจ้างวิทยากรหรือที่ปรึกษามาอบรม เอาใจ จุดไฟแรงบันดาลควาย โน่นนี่นั่นนู่น กันทุกระดับตั้งแต่ ผอ.ลงมาถึงแม่บ้านทำความสะอาด คือแต่ละคนแม่มก็มีเงื่อนไขของตัวเองตลอด สอนกันไม่เป็น หรือเจ้านายพัฒนาคนไม่เป็นเพราะตัวเองก็ชอบอยู่ใน comfort zone

.. แต่เดี๋ยวนี้ สำหรับงานแบบ unskilled จนถึง semi-skilled นั้น หุ่นยนต์หรือสมองอัจฉริยะมันทำแทนได้หมดแล้ว

ส่วนทางด้านศูนย์บริการ เค้าก็เตรียมทำ format ให้กับดีลเลอร์ต่างๆ คือมาเป็นแพ็คแบบนวัตกรรมการบริการสมัยใหม่ เจ้าของศูนย์ที่เป็นคน Generation M ก็ยิ่งชอบเพราะ ประหยัดต้นทุน ประหยัดพื้นที่ (อาจจะทำขึ้นเป็นแนวดิ่งแทน) คำนวณเวลาการเปิดปิดจ้อบได้แม่นยำกว่า ไม่ต้องคอยเอาใจคนเก่าคนแก่ที่ทำงานก็งั้นๆ แต่กูว์เกรงใจพ่อถึงต้องเลี้ยงพวกคุณๆไว้แต่แม่มทำงานก็งั้นๆ แถมหลายๆครั้งก็ตั้งกันเป็นขบวนการโกงกินของเล็กของน้อยภายใน โกงข้อมูลการให้บริการที่ส่งให้กับ โตโยต้ามอเตอร์ ไทยแลนด์ เป็นวงจรอุบาทว์ในประเทศไทยที่แก้แล้วก็ย้อนกลับมาใหม่เรื่อยๆ ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา

ถึงเวลาแล้วที่สถาบันการศึกษาทั้งสายอาชีวะ และสายสามัญ (แต่ไร้สามัญสำนึกความเป็นมืออาชีพ) ต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงรับมือกับ Radical Change และ Disruptive Innovation นี้

.. รัฐบาลต่อๆไป กำลังจะประสบปัญหาต้องรับมือกับแรงงานในปัจจุบันที่จะตกงานเป็นแสน และนักศึกษาที่กำลังจะจบมากับความรู้เก่าๆ ที่ผู้จ้างงานกำลังจะโละทิ้ง .. ยุคนี้คือยุคที่วิศวกรจะกลายเป็นแค่ช่างเล็กๆ ถ้าเดินตามไม่ทันอุตสาหกรรมการจัดการจากปีนี้ไปสู่ศตวรรษหน้า

นี่ยังไม่ได้พูดเรื่องรถไฟฟ้า ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่รถน้ำมันเลยนะ
ให้ตายเถอะโรบิ้น!!!
ป.ล. นี่ไม่ใช่หนัง เพราะชีวิตจริงมีแต่วายร้าย ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่

รักนะ พี่น้องอุตสาหกรรมยานยนต์เอ๋ย

ดร.เอ็กซ์ (รศ.ดร.ภคพล อนุฤทธิ์)

--------------
จากเฟสบุ๊คของ รศ.ดร.ภคพล ที่สงสัยนิดนึงคือเทคโนโลยีที่จะมานำใช้แทนคนในศูนย์บริการ  มีใครพอจะทราบมั๊ยครับว่าเอามาแทนงานด้านไหน เพราะเท่าที่ดูงานศูนย์บริการน่าจะยังใช้ช่างเป็นหลัก

[Arado_kung]

พวกงานธุระการทั้งหลายน่ะแหละครับ ที่เทคโนโลยีจะเข้ามาแทน อารมณ์เหมือนตู้เช็คอินอัตโนมัติในสนามบินประมาณนี้น่ะครับ

[MoO Cnoe]

กรณีโตโยต้า ปรับลดคนงานครั้งนี้ ผมว่าไม่ค่อยเกี่ยว
กับประเด็นนี้สักเท่าไหร่เลยครับ

(แต่ในอนาคต สำหรับอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในไทย
ในบางประเภทของงาน มีความเป็นไปได้)

ความเห็นหนึ่งจาก Fanpage

ไม่เสมอไปนะครับ ต้องขึ้นกับการเปรียบเทียบระหว่าง "ค่าแรง"
กับ "ต้นทุนเครื่องจักร" ครับ ถ้าประเทศไหนค่าแรงถูก เช่น
โรงงานฮอนด้ากว่างโจว จีน เน้นใช้คน ถ้าโรงงานแม่ที่ญี่ปุ่น
ค่าแรงแพงก็คงต้องเน้นเครื่องจักร อันนี้ผมเคยอ่านมาจากหนังสือ
ของพวก Honda, Toyota ของพวกเนี้ยแหละครับ เทคโนโลยี
บางครั้งเทียบแล้วไม่คุ้ม ก็ใช้คนครับ

ปี 2012 ขายได้ 500,000 กว่าคัน สมมติจำนวนพนักงาน 100%
ปี 2015 ขาย 260,000 กว่าคัน ถามว่าพนักงานควรมี 100% หรือไม่
ก็ต้องลดเป็นปกติธรรมดาครับ

ความเห็นของผมมองว่า ตอนนี้ ยอดขายลด กำไรลด
แต่ลงทุนเครื่องจักรหลักแสนล้านเพิ่ม ? ผมว่าคงไม่ใช่ตอนนี้ครับ

ยังไงเดี๋ยวรอฟังจาก คุณ J!MMY ในรายการบ่าย 4 โมงเย็นนี้
ครับ จะพูดถึงประเด็นโตโยต้าในครั้งนี้เช่นกันครับผม

[dht_tubes]

ความเห็นผมสถาณการณ์นี้ เป็นสัญญาณในหลายเรื่อง หลายมุมมอง

แต่ละองค์กร หรือบุคคล คงมีมุมมองต่างกัน แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่า สามารถนำมาปรับใช้กับตัวเราได้ชัดเจนในหลักการที่เป็นหัวข้อหลักๆครับ

นักลงทุน ชื่อบอกอยู่แล้ว เราให้สถานที่เค้าลงทุน เราได้อะไร ระยะสั้นหรือยาวคุ้มมั๊ย ผมเชื่อว่าคิดทบทวนดู เราจะได้คำตอบ

ทีนี้ขึ้นอยู่ภาครัฐ ในภาพใหญ่
ต่อมาก็ SME ต่างๆ ที่เกี่ยวพันต่อเนื่องกันมา
สุดท้ายก็คนไทย ทั้งในภาคส่วนแรงงาน และแรงสมองหล่ะครับว่า จะปรับตัว ปรับความคิดตัวเองอย่างไร เพื่อให้อยู่รอดได้

เหมือนให้เค้าเช่าที่ทำนา เจ้าของที่ทำไม่เป็น เค้าเลิกเช่าก็จบครับ
ให้เค้าเช่าทำอู่รถ เค้าเลิกทำ ขยะที่ทิ้งไว้ต้องเก็บกวาด เจ้าของที่จะทำไง

ดูกันต่อไปครับ

[ps000000]

ซัพพลายเออร์ นี่ ผมว่า น่าจะ กระทบมากๆ 

[fuhrer]

ความคิดผม
สุดท้ายแล้วเราอาจจะไม่ได้อะไรที่อุตส่าตั้งกำแพงภาษีรถนำเข้าต่างๆ
ต่อไปเค้าก้ใช้เครื่องจักรผลิตแทน มาเปิดโรงงานใช้เครื่องจักรใช้พื้นที่เราทำส่งออกขายเงินกลับเข้าญี่ปุ่นทิ้งมลพิษมลภาวะขยะอุตสาหกรรมไว้ที่ประเทศเรา แถมได้กำไรมหาศาลจากการขายในประเทศเรา ทั้งตั้งราคาสูงคุณภาพรถด้อยกั้กออฟชั้นกว่าประเทศส่งออกแต่ขายแพงกว่าประเทศอื่น โดยที่เราแทบไม่ได้อะไรเลย(คิดดูถ้ามีการเลิกจ้างแบบมโหฬารกว่านี้)
เมื่อก่อนที่เราตั้งกำแพงภาษีไว้เพื่อให้บริษัทรถพวกนี้ เข้ามาตั้งบริษัทเข้ามาจ้างงานคนในประเทศเราถ้าต่อไป
ใช้เครื่องจักรใช้หุ่นดรอยแทนหมดแลัวจะทำไปเพื่ออะไร วันนี้ใช่อาจจะยังไม่มาถึงแต่วันที่เทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าในไม่กี่ปีผมรับรองได้ว่าการจ้างงานคนในประเทศน่าจะถดถอยลงไปอีกแน่นอน ทุกๆบริษัทรถเลยล่ะ

ถึงวันนั้นคงต้องหนามยอกเอาหนามบ่ง(อยู่ที่รัฐบาลนั้นจะแก้ยังไง) ยกเลิกภาษีนำเข้ารถแพงๆไปเลย ให้รถคุณภาพจากนอกจัดเต็มออฟชั่น
คุณภาพความปลอดภัยอื่นๆจัดเต็มในราคาที่ขายเท่ารถที่ผลิตในประเทศตอนนี้
คิดถึงรถเบนส์c class bmwserie 3ราคาเท่าcivic ปัจจุบัน ford mustang ราคาไม่ถึง2ล้าน ในลาวหรืออินเดียนี่ได้ใช้ในราคานี้จริงๆ แต่ไทยโดนภาษีไป300%

ว่าแต่วันนั้นมันคงไม่มาถึงง่ายๆ

[Ex_machina]

ผมยังไม่เชื่ออะไรนอกจากจะมีหลักฐานก่อน
ขอแหล่งข่าวหน่อยครับ
ที่ว่าลงทุน 1 พันล้านดอลล่า
กลัวจะเป็นเรื่องนั่งเทียนเขียนข่าวเอาเอง 

[tnp_super]

อย่าว่าแตยานยนต์เลยครับ เพื่อนผมทำงานอยู่บริษัทเชฟร่อนซึ่งทำเกี่ยวกับพลังงาน ยังต้องนั่งลุ้นอยู่หลายวันว่าเขาจะปลดออกไหมสุดท้ายได้ทำต่อ แต่อีกหลายร้อยคนก็ให้ออกเพราะผลประกอบการและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ความต้องการพลังงานลดลงอย่างมาก

[Ponthakorn]

รับตัวก่อนได้เปรียบก่อน ใช่ครับมันเป็นอย่างนั้นจริงทุกอย่างที่ผ่านมา ลองนึกถึงอดีดสิบปีที่ผ่านมาใครจะเชื่อว่าเราจะเห็นรถบ้านๆมีรุ่น turbo มาเป็นตัวเลือกมากขึ้นเรื่อยๆไม่ได้มาตูมเดียวทั้งหมด เหมือนกัน AI ทีคุณพูดถึงถ้ามันอยู่ในโชว์รูมจริงๆคงค่อยๆเปลี่ยนไปที่ละนึดทีละศูนย์ก่อนแล้วดูผลว่ามันโอมั้ยแล้วค่อยๆปรับ พอถึงทุกๆศูนย์เป็น AI หมด น่าจะไม่ต่ำกว่าสามปีแน่นอน ซึ่งผมก็ว่าพนักงานก็ทยอยออกไปทำงานอย่างอื่นแล้ว(งานในประเทศมีเยอะถ้าไม่เลือกมากนะ) ลองดูครับ

[mamaman]

นี่ละครับ ปัญหา ของบ้านเรา
ที่ มอง ว่า วิศวกร นั้นยิ่งใหญ่ เก่งกว่าใคร
ทั้งที่ จริง รากศัพย์ มาจาก Engineer มาจาก Engin-ner
แปลว่า ผู้ทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์
แต่ไทย ตั้ง สวยหรูอลังการ เหลือเกิน
อีกทั้ง ความห่าง ระหว่าง สถาบันการศึกษา และ หน่วยงานเอกชน ที่ไม่ได้เป็นผู้สร้างเทคโนโลยีสักเท่าไหร่

ผมก็จบด้าน Enginer ครับ
แต่เรียน ตั้งแต่ ปวช ถึง ป ตรี
แต่ผม เกลียดคำนี้ครับ ผมจะไม่บอกใคร ว่า จบ อะไรมา ไม่เคยถามใครว่าจบที่ไหนมา
ผมสนใจแค่ คุณทำอะไรเป็นบ้าง

โลกทุกวันนี้หมุนไปตามเทคโนโลยี
แต่ไทย ยังค้าง คงที่ หลักสูตร เดิมๆ มา
พอจะเปิด สาขา ที่ทันสมัย ก็ ขัดแข้ง ขัดขา กันภายใน มหาลัยอีก
เครื่อง มือ เครื่องใช้ อุปกรร์ เค้าไปไหนต่อไหนแล้วครับ ตามไม่ทันแล้วจริงๆ

ผมละอยากให้ บัญญัติ คำ ศัพย์ วิศวกร นี่ออกไปจาก พจนานุกรม แล้วหาความหมาย ที่มันใกล้เคียงกับ อาชีพที่จะทำหน่อย

แต่ สิ่งที่อยากจะบอกคือ
เมื่อใช้เทคโนโลยี มา
วิศกร ต่างหากที่จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพราะต้องเอาไป ดูแลเทคโนโลยีแทนคนงานครับ

เช่น Robot ต้องการ วิศกร และ ช่างเทคนิคระดับสูง ทำงานกับ ช่างผู้ชำนาณการ
ในการ PM ดปรแกรมการทำงาน เช็ค วิเคราะห์อาการเสีย มือเปื้นบ้างไรบ้าง
ต่างประเทศ เค้าก็ ใช้ วิศกร ทำงาน ในรูปแบบ ช่างเทคนิคระดับสูงครับ

อย่า ลืม วิศกร มาจาก Engineer แปลว่า ช่างนั่นละ แต่ เป็น ช่างที่ สร้าง ได้ ซ่อมได้ นั่นเอง

ทุกวันนี้ วิศกรกร ไทย ชอบ Excel

ถ้า วิศกร ไทย จบมา ซ่อมรถได้ นี่ น้อยมากๆ นะครับ
เรียน เวอร์วัง อลังการ แต่หาสกิล ใช้งาน ด้านอาชีพแทบไม่ได้เลย ...... ไปละ ฟิ้วๆๆๆ

[masuoka]

เอามาแทนคนในศูนย์บริการยังไงครับ งง ? ถ้าในไลน์ผลิตพอจะเข้าใจอยู่ครับ ศูนย์บริการมันเรื่่องการขายรถไม่ใช่เหรอครับทำไมต้องใช้เทคโนสูงๆด้วยครับ

[Smith686]

จากแหล่งข่าว หลายค่ายก็มีการปรับลดจำนวนพนักงานไปแล้วก่อนหน้านี้
รวมถึงลดขนาดองค์กร ไม่ว่าจะเป็นค่ายญี่ปุ่น หรือ ค่ายอเมริกันก็ตามที และ หลังจากนี้
ยังมีอีกหลายค่าย เตรียมที่จะปรับลดจำนวนพนักงานฝ่ายการผลิตด้วยเช่นเดียวกัน

ิอ่านข้อมูล " TOYOTA ปรับลดพนักงาน โดยให้สมัครใจลาออก " เพิ่มเติมได้ที่
http://www.headlightmag.com/toyota-resign-from-production-plant/

ยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2012 – 2015

ปี 2012 / 2555  ยอดรวม 1,436,335 คัน
ปี 2013 / 2556  ยอดรวม 1,330,668 คัน (ลดลง 105,667 คัน – 7.3 %)
ปี 2014 / 2557  ยอดรวม 881,832 คัน (ลดลง 448,836 คัน – 33.7 %)
ปี 2015 / 2558  ยอดรวม 799,594 คัน (ลดลง 82,238 คัน – 9.3 %)

ปี 2016 / 2559  เดือนมกราคม – พฤษภาคม  ยอดรวม  302,581 คัน

------------------------------------------------------------------------

ยอดขาย TOYOTA ในประเทศ ปี 2012 – 2015

ปี 2012 / 2555  ยอดรวม TOYOTA  516,086 คัน
ปี 2013 / 2556  ยอดรวม TOYOTA  445,464 คัน (ลดลง 70,622 คัน – 13.6 %)
ปี 2014 / 2557  ยอดรวม TOYOTA  327,027 คัน (ลดลง 118,437 คัน – 26.5 %)
ปี 2015 / 2558  ยอดรวม TOYOTA  265,171 คัน (ลดลง 61,856 คัน – 18.9 %)

ปี 2016 / 2559  เดือนมกราคม – พฤษภาคม  ยอดรวม  TOYOTA  87,368 คัน
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลง 13,697 คัน – 13.5 %
( ปี 2015 / 2558 มกราคม – พฤษภาคม ยอดรวม TOYOTA  101,065 คัน ) http://community.headlightmag.com/index.php?topic=51794.0

[bahamu]

แค่บอกว่ารถไฟฟ้ามาแทนน้ำมันก็ไร้ค่าแล้ว
แสดงว่าคนพูดขาดการค้นคว้า ถ้าดีขนาดนั้นจะไปอยู่พม่าทำไม
กลับไปที่คุรามะส่งมาทางเรือเลย ขนาดจะไขวาล์วน้ำอะซิโม่ยังทำได้ยากเลย

ถ้าอยากหลอกตัวเองต่อไปก็ทำไปคนเดียว ไม่ต้องมายัดเยียดสิ่งลวงๆ
คนส่วนใหญ่แยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร ฝืดขนาดนี้เพราะอะไร
ยังจะแถให้ได้ แล้วสามห่วงทำไมไม่เน้นใส่ถ่านล่ะ รึคนพูดไม่รู้จักชนิดของรถไฟฟ้า

ตอนที่เมก้าครุยเซอร์เลิกทำ ยังว่าสามห่วงหมดท่าแต่ยังประจำการอยู่
แค่ไม่ขายคนนอกแค่นั้น ลำพังกะบะติดอาวุธหนักก็ชี้ผลหลายสมรภูมิแล้ว
ยี่ห้ออื่นๆที่ว่าสูงส่ง ไม่ยักมีดีในเรื่องแบบนี้เลย เป็นได้แค่ของเล่นคนรวยก็เท่านั้น

วงการศึกษาไม่ก้าวหน้าเพราะมีแต่พวกมือไม่พายเอาเท้าลาน้ำ
พูดไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด แล้วการนำเสนอทางวิชาการหายไปไหน
เป็นนักวิชาการ ควรนำเสนออย่างวิชาการมีการอ้างอิง ไม่ใช่พูดลอยๆ
แบบนั่งเทียนเขียน ขนาดเทสล่าซ่ามากๆพอมีคนตาย เงียบเป็นเป่าสาก
แต่ก่อนโทษแต่คนขับ พอมาเกิดที่รถ ชาวบ้านที่ทำๆก็พลอยซวยไปด้วย

แล้วเลิกจ้างคนค่าซ่อมถูกลงรึเปล่า รถรุ่นใหม่ซ่อมไม่ได้ เปลี่ยนลูกเดียว
ยกชุดทีไม่ถูก หมดประกันคนก็ออกไปอู่กัน การผูกขาดทุกสิ่งอย่างคงไปลงเหว
มากกว่าจะร่ำรวย แค่ช่วงนี้ที่เดินตลาด ราคาผิดพลาด จนลดราคาฮวบฮาบ
ทำให้คนซื้อก่อนแค้นใจ ตั้งราคารถรุ่นใหม่แพงเวอร์จนเปลี่ยนใจไปซื้อยี่ห้ออื่น
ระบบกันส่ายหวงมากใส่แต่รุ่นย่อยแพงสุด แต่ยี่ห้ออื่นใส่ทุกรุ่นย่อย
จากความห่วยแตกที่ทำตัวเอง จะมาโทษคนไทยอีกไม่เกินไปหน่อยเหรอ

[Sympho]

นี่ละครับ ปัญหา ของบ้านเรา
ที่ มอง ว่า วิศวกร นั้นยิ่งใหญ่ เก่งกว่าใคร
ทั้งที่ จริง รากศัพย์ มาจาก Engineer มาจาก Engin-ner
แปลว่า ผู้ทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์
แต่ไทย ตั้ง สวยหรูอลังการ เหลือเกิน
อีกทั้ง ความห่าง ระหว่าง สถาบันการศึกษา และ หน่วยงานเอกชน ที่ไม่ได้เป็นผู้สร้างเทคโนโลยีสักเท่าไหร่

ผมก็จบด้าน Enginer ครับ
แต่เรียน ตั้งแต่ ปวช ถึง ป ตรี
แต่ผม เกลียดคำนี้ครับ ผมจะไม่บอกใคร ว่า จบ อะไรมา ไม่เคยถามใครว่าจบที่ไหนมา
ผมสนใจแค่ คุณทำอะไรเป็นบ้าง

โลกทุกวันนี้หมุนไปตามเทคโนโลยี
แต่ไทย ยังค้าง คงที่ หลักสูตร เดิมๆ มา
พอจะเปิด สาขา ที่ทันสมัย ก็ ขัดแข้ง ขัดขา กันภายใน มหาลัยอีก
เครื่อง มือ เครื่องใช้ อุปกรร์ เค้าไปไหนต่อไหนแล้วครับ ตามไม่ทันแล้วจริงๆ

ผมละอยากให้ บัญญัติ คำ ศัพย์ วิศวกร นี่ออกไปจาก พจนานุกรม แล้วหาความหมาย ที่มันใกล้เคียงกับ อาชีพที่จะทำหน่อย

แต่ สิ่งที่อยากจะบอกคือ
เมื่อใช้เทคโนโลยี มา
วิศกร ต่างหากที่จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น เพราะต้องเอาไป ดูแลเทคโนโลยีแทนคนงานครับ

เช่น Robot ต้องการ วิศกร และ ช่างเทคนิคระดับสูง ทำงานกับ ช่างผู้ชำนาณการ
ในการ PM ดปรแกรมการทำงาน เช็ค วิเคราะห์อาการเสีย มือเปื้นบ้างไรบ้าง
ต่างประเทศ เค้าก็ ใช้ วิศกร ทำงาน ในรูปแบบ ช่างเทคนิคระดับสูงครับ

อย่า ลืม วิศกร มาจาก Engineer แปลว่า ช่างนั่นละ แต่ เป็น ช่างที่ สร้าง ได้ ซ่อมได้ นั่นเอง

ทุกวันนี้ วิศกรกร ไทย ชอบ Excel

ถ้า วิศกร ไทย จบมา ซ่อมรถได้ นี่ น้อยมากๆ นะครับ
เรียน เวอร์วัง อลังการ แต่หาสกิล ใช้งาน ด้านอาชีพแทบไม่ได้เลย ...... ไปละ ฟิ้วๆๆๆ

เห็นด้วยนะครับ โดยส่วนตัวผม เวลางานอยู่ในฐานะนายช่าง มันก็คือช่างนี่แหละ ตีตนเสมอโฟร์แมน ทำงานร่วมกัน

ระดับหัวหน้างาน ระดับ Technician ผมว่าไม่กระทบนะ แต่ต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยการผลิตใหม่ๆ ตามโลกให้ทัน ซึ่งมันก็ต้องใส่กันตั้งแต่ตอนเรียน

ที่จะลำบากคือ Unskill ที่เป็นแรงงานส่วนใหญ่นี่แหละ เมื่อเครื่องจักรเข้ามาแทนที่ คนในส่วนนี้ก็ลดลง ถึงอัพตัวเองมาเป็น Skill ก็ต้องมาวัดกันอีกว่า Skill ใครเหมาะสมกับงานมากกว่ากัน 

ปล.ผมซ่อมรถพอได้นะ เรียนจบเพราะทำรถนี่แหละ 

ปล 2. ตอนนี้ตั้งช่วยตัวเองแล้วหละครับ อย่ามีหนี้เยอะ มีทุนสำรองบ้าง มองหาลู่ทางอื่นๆไปด้วย ปรับตัว ปรับตัว และปรับตัว

[lacked]

ศูนย์บริการถ้าพวกงานเช็คระยะก็ไม่แน่นะครับ ค่าแรงที่เราเข้าไปใช้บริการศูนย์ก็ไม่น้อยนะ
แล้วคนมันมีวันหยุดเยอะ ขาดลามาสาย ทุจริต ซักวันงานซ่อมพื้นฐานอาจจะใช้ robot ก็เป็นได้

ส่วนงานธุรการ บัญชี ลูกค้าสัมพันธ์ ของดีลเลอร์ก็อาจจะรวมศูนย์กันมากขึ้น เหลือก็งานบริการ งานขายก็เป็นได้นะครับ

[wip]

งานบริการเป็นไปได้ยากครับ คุณจะไปบอกหุ่นยังไงว่ารถเวลาขับมีเสียงตรงนั่นนี่  คนไทยชอบสบายไม่ชอบทำเองเอารถไปซ่อมยังไม่ค่อยพูดเลย  แต่ในส่วนการผลิตนั้นมีการแทนที่แน่นอน

[kiwiwi]

คนไทยหนีไปทำงานเถื่อนที่เกาหลีแบบแอบๆซ่อนๆ
คนฟิลิปปินส์ไปทำงานที่ฮ่องกงอย่างสง่าผ่าเผย

เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาผมนั่งเครื่องจากญี่ปุ่นมาต่อเครื่องที่เวียดนาม ต้องพบว่าผมและคนญี่ปุ่นเป็นชนส่วนน้อย(มาก) ที่เหลือหญิงชาวเวียดนามเต็ม a330
ซึ่งก็คือแรงงานแบบสุจริต

อีกหน่อยคงมีเซลล์หุ่นยนต์แหละ

[Arte三六九]

ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับการปรับลดพนง.จริง แต่ผมก็เห็นด้วยกับเรื่องวงจรอุบาทว์ในอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเรานะครับ ทุกค่ายหละ หรืออาจทุกองค์กรทุกธุรกิจเลย การโกงกิน

[ChiLun]

ระบบอัตโนมัติเท่าที่เคยคุยกับพี่ใน สมอ ไปตรวจโรงงานรถมาก็คงเยอรมัน อิตาลี เป็นระบบเน้นเครื่องจักรทันสมัยสุดๆ(แอบสงสัยว่าเครื่องเก่าไปไหน เห็นมาใหม่แทบทุกปี) คิดว่าในอนาคตคงทยอยปรับเป็นเครื่องแทนคนไปเรื่อยๆ

อนาคตอีกอย่าคือน่าจะส่งผ่านจากเครื่องยนต์>hybrid>ไฟฟ้า เพราะไฟฟ้าดีทุกอย่างติดแต่ตอนนี้ต้นทุนต่อหน่วยแพง บริษัทรถก็คงเบื่อปัญหาน้ำมันแพงบ้างถูกบ้าง จนตอนนี้ไม่รู้จะทำให้มันประหยัดยังไงแล้ว

งานซ่อมน่าจะใช้คอมจิ้มแล้วคนเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียว พวกปัญหาเสียงดังจากการประกอบ เค้าคงคิดว่ามันจะลดลงเพราะใช้หุ่นแทนที่คน ลดความผิดพลาดไปได้เยอะ

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบhybridแต่จะรอให้ไฟฟ้าไปเลยน่าจะดี

[mamaman]

ผมยังไม่เชื่ออะไรนอกจากจะมีหลักฐานก่อน
ขอแหล่งข่าวหน่อยครับ
ที่ว่าลงทุน 1 พันล้านดอลล่า
กลัวจะเป็นเรื่องนั่งเทียนเขียนข่าวเอาเอง 

ผมก้ไม่เชื่อ อ. มหาลัย กรือ ดร ไทย
ที่นั่งอยู่แต่ใน ห้องวิจัย ...ไม่เคยทำงานจริง

[Pan Paitoonpong]

ลองไปที่เพจของคนที่เขียนย่อหน้าเหล่านั้น
แล้วลองไปดู Comment ล่างๆที่เขาเขียนนะครับ เห็นอันที่เขาเขียนมั้ยว่า รถเก๋งของ Toyota ยอดขายก็โดน Honda แซง รถกระบะก็โดน Isuzu แซง ผมอ่านแล้วงงนิดๆ แต่มันทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเลขมาจากการวิจัยหรือจากความรู้สึก

[SM.]

สำหรับโรงงานการผลิตต่างๆ การลดคน ไม่น่าแปลกนะครับ ขายไม่ดี ก็ลดคนลง พอขายดี คนไม่พอ ค่อยรับเข้ามาเพิ่มใหม่