เอาทีละประเด็นนะครับ
- ประกันไม่ขาด
ส่วนตัวผมว่าแล้วแต่ดวง ... ECU สมัยนี้มันเก็บ Metadata ของตัวมันเองไว้ เปิดดูก็เจอว่าเคย flash มา ถึง flash version โรงงานกลับ มันก็ยังมีร่องรอยอยู่ดี .. ถ้าเจอ ศูนย์หาเรื่องให้ประกันขาดแน่นอน ซึ่งก็ถูกของศูนย์ เพราะหลักๆที่มันแรงขึ้นได้เพราะ safety margin มันลดลง ... ประเด็นคือศูนย์จะเปิด file ขึ้นมาดูไหม?? อันนี้ก็แล้วแต่ดวง แล้วแต่อาการที่มีปัญหาว่าศูนย์เค้าจะสงสัยไหม
- แรงขึ้น 30-50 ม้า
ถ้าเป็นรถ NA100 กว่าม้า ได้ 30-50 ม้า ไม่น่าจะได้ เว้นแต่เครื่องเดิมไม่รองรับ E85 แล้ว ไปทำให้รองรับ E85 แล้วจูนใหม่ อันนี้ อาจ พอเป็นไปได้ หรือ อีกทีคือเป็นรถพวกที่ถูก detuned ลงมาจากโรงงานด้วยเหตุผลด้านมลภาวะหรือภาษีหรือตำแหน่งทางการตลาด ... แต่ถ้ารถเทอร์โบ 2xx ม้าเดิม ทำเพิ่ม 30-50 ม้า สามารถทำได้ไม่ยาก
- เค้นเครื่องมากไปไหม
หลักๆการจูนให้แรง ถ้าเครื่อง NA คือ จูนน้ำมันให้บางลง advance ไฟมากขึ้น เครื่องร้อนขึ้น เสี่ยงเขกมากขึ้นแน่นอน ถ้าเครื่อง Turbo หลักการเหมือนกัน แต่สามารถยุ่งกับปริมาณอากาศได้ด้วยการตั้ง wastegate duty cycle ใหม่ (ปรับ Target boost ในช่วงรอบต่ำ-กลางใหม่ และ/หรือ ปรับบูสสูงสุด) .... ถ้าคนจูนมีความสามารถไม่มักง่าย ไม่เค้นเกินเหตุ ไม่น่ามีปัญหาอย่างมีนัยยะสำคัญ
- เค้นเกียร์ไหม
แล้วแต่เกียร์ลูกนั้นๆว่ารองรับแรงได้ขนาดไหน ถ้าเป็นเกียร์ลูกที่เป็นสหกรณ์ใช้ร่วมกับรุ่นที่แรงๆกว่าคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเกียร์ลูกที่รองรับแรงไว้พอดีๆ ถ้าทำมากไปก็มีแววพังได้ไม่ยาก (เช่น BP5 GT ของผม เดิมๆ 245 ม้า การจูนให้ได้ 300 ม้า + เป็นไปได้ แต่เกียร์รับได้แค่ประมาณ 300 ม้า ... ถ้าทำถึงขนาดนั้น เกียร์น่าจะไปก่อนเพื่อน) ... อีกประเด็นนึงคือ นิสัย ของการจูน เช่น รถเทอร์โบจูนให้ target boost ค่อยๆมาก็อาจไม่แย่มาก แต่ถ้าจูนโหดๆ target boost กระโดดพรวดๆ อันนี้เกียร์น่าจะอายุสั้นลง
- แรงขึ้นประหยัดน้ำมันขึ้น
ถ้าแรงขึ้นนิดๆหน่อยๆ เป็นไปได้ ด้วยการจูนให้ บาง ลง คือ จ่ายน้ำมันน้อยลงที่ปริมาณอากาศเท่าเดิม โดยปกติอัตราส่วนระหว่างอากาศ/น้ำมัน ที่เผาไหม้สมบูรณ์สุดคือ 14.7 ... แต่ถ้าน้ำมันนั้นนิดหน่อยเป็นซัก 14.9-15.2 ช่วงนี้จะได้ output มากกว่าที่ 14.7 ... นอกจากนี้ช่วง open loop นั้น ECU โรงงานมักจะเผื่อ น้ำมันให้หนาหน่อยๆ ถ้าลดตรงนี้ได้ก็ประหยัดขึ้นมาได้อีกหน่อย >>> ข้อนี้ผมจำผิดนะครับ most power afr 11.7-12.8 "หนา" กว่าปกติครับ ไม่มีทางประหยัดน้ำมันกว่าเดิม .. ยกเว้นช่วง open loop เดิมๆหนากว่า 11.7 อยู่
ก่อนจะทำผมเห็นว่าควรศึกษาเกี่ยวกับรถตัวเอง เบสิคการจูน และประวัติผู้จูนสักหน่อย
- รถผมที่เคยจูนมี 2 คัน .. คันนึงจูนกับช่างคนหนึ่งที่รับจูนแต่ Subaru เท่านั้น ... คันนี้ค่อนข้าง happy แม้ครั้งหลังไปเก็บงานหลังจากเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียแล้วรถแรงน้อยลง (ช่างเค้าจูนให้เซฟขึ้นกว่าเดิม + ลดบูสลง) ... นี่ก็ว่าว่างๆจะไปให้เค้าดันขึ้นมาเหมือนเดิมใหม่ .... อีกคันนึง ทำกับช่างที่รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาตั้งแต่คุยกันตั้งแต่แรก คนนี้รับจูนทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่ค่อยอธิบายวิธีการทำงานของตัวเองเท่าไหร่ แต่เป็นคนเดียวที่บอกว่าสามารถทำ function ที่ต้องการได้ เลยลองทำดู .... เพิ่งทำมาได้ไม่กี่วัน ก็ถือว่าดีขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น (แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาจากเครื่อง na อยู่แล้ว) แถม function บางอย่างที่ต้องการให้ทำก็ทำไม่ได้ตามที่โม้เอาไว้ทีแรก .. จะให้ flash กลับเป็นเดิมๆก็ยึกยัก (อันนี้เคือง .. แต่จะทุบโต๊ะกับแกก็เสียดายเวลา + 10 กว่าม้าที่ได้มา เลยไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับแก) .... สำหรับผมคนเบอร์สองไม่ค่อยโอครับ (ผมว่าถ้าเป็นรถรุ่นปกติที่เค้าเคยทำมาบ่อยๆน่าจะโอเค แต่ข้อเสียเค้าคือถ้ารถแปลกๆ ไม่คุ้น เค้าไม่ค่อยยอมรับว่าเค้าไม่ถนัด)
- การจูนมันมีวิชามารอยู่ 3 อย่างที่ควรระวัง ... คือ 1) ไม่ได้จูนตารางไฟ/น้ำมัน/อากาศจริง .. แต่ไปจูนตารางคันเร่งแทน อันนี้เท่ากับหลอกให้เราคิดว่ารถแรงขึ้นด้วยการตั้งค่าให้กดคันเร่งเท่าเดิมแต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดเยอะขึ้น ไม่ต่างกับกล่องคันเร่ง ... อันนี้ถ้าขึ้น dyno ก็เห็นชัด .... 2) แอบปิดไฟ check engine อาจจะเนื่องจากจูนแล้วไปทำให้ไฟขึ้นเลยต้องแอบปิด เพื่อซุกปัญหา .... อันนี้ดูยาก ถ้าจะดูคงต้องหาทางเปิดดูค่าในกล่องด้วยตัวเอง ...... 3) แอบ Calibrate dyno การวัดแรงม้าที่ล้อมันต้องตั้งค่าหลายอย่างเพื่อให้ dyno คำนวณแรงม้า ซึ่งถ้าตั้งค่าไม่เหมือนกันค่าที่คำนวณได้ก็ไม่เท่ากัน ... อันนี้ก็ดูยากเช่นกัน