ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ  (อ่าน 24489 ครั้ง)

ออฟไลน์ iplexman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
พอดีช่วงนี้สนใจ remap ecu เห็นบอกว่าเพิ่มแรงม้า แรงบิดให้กับรถ ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น โดยประกันไม่ขาด
แต่แปลกใจตรงที่ รถเติมๆ บางคันเพิ่มมาอีก 30-50 แรงม้า แบบนี้ไม่เป็นการเค้นเครื่องมากเกินไปหรือครับ และจะมีผลต่อเกียร์ไหมครับ
ขอความคิดเห็น กับคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 10:51:33 »
ผมติดใจอย่างเดียว ถ้าเกิดรถมีปัญหาในระยะรับประกันขึ้นมา แล้วศูนย์บอกเราไปรีแมพมา จะมีเจ้าไหนรับผิดชอบให้เรามั่งไหม  8)

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 10:54:28 »
ต้องดูเป็นคันๆไปมั้งครับ..........

รถบางรุ่น Tune down มาจากโรงงานค่อนข้างมากเพื่อให้ผ่านค่าการประหยัดกับมลพิษของบ้านเรา  พอ Remap แล้วก็เหมือนได้ปลดล๊อคมาใช้ค่าตาม Performance จริง

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,478
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 11:00:15 »
  มีผลต่อทุกส่วนนั่นแหละ....

..(เครื่องตัวเดียวกัน)  2.0  ... คันหนึ่ง 150 ม้า  อีกคัน 175 ม้า  อีกคัน 195 ม้า  อีกคัน 220 ม้า.....  ทำมาจากโรงงานทั้งหมด  (ยกตัวอย่าง เบนซ์  หรือบีเอ็ม ฯลฯ  ทุกรุ่นจะทำแบบนี้ )  เขาก็ทำมาให้เพื่อตอบสนองผู้ขับ  ว่าชอบแบบไหน 
   ส่วนการสึกหรอหรือเสียหาย  มันไม่ได้เห็นในระยะเวลาสั้น ๆ    อายุอาจจะสั้นลงแค่ ร้อยละห้า หรือมากกว่า  อยู่ที่การใช้งานอีกนั่นแหละ...

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 11:02:21 »
ก่อนจะรีแมพต้องศึกษาลิมิตของเครื่อง และเกียร์ก่อนครับ รับความเครียด แรงบิดได้ขนาดไหน แล้วจูนไปให้ต่ำกว่าลิมิตนั้นหน่อย ได้รถแรงขึ้นและน่าจะพังช้า

มีรีแมพบางเจ้าเล่นไปลบค่าลิมิตต่างๆ อัดน้ำมันกับอากาศเข้าไป รถแรงจริง แต่พังไว ยังไงก็ศึกษาเยอะๆก่อนทำครับ คนที่ทำก่อน เจ็บก่อน มีเยอะแยะ แต่พวกที่เงินหนา รถคือของเล่นชิ้นนึงก็จัดได้ตามสะบายเลยครับ
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ Ponthakorn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 437
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 11:33:32 »
อย่าไปทำเลยถ้ารถใช้งานทั่วไปใช้ทุกวันเดิมๆดีแล้วครับไปทำมาไม่จบแค่ remap แน่ๆครับ ความหมายผมจะทำเยอะขึ้นเรื่อย หัวฉีด แฮดเดอร์ ต่างๆอีกมากรู้ตัวอีกทีพังครับ เพื่อนผมหลายคันเป็นเช่นนั้น

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,192
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 11:33:38 »
จูนแบบ เครื่องยนต์และเกียร์รองรับไหว และไม่เกินลิมิตตัวเครื่องยนต์และเกียร์ที่รองรับไหว
เกินมากทำให้เกิดสึกหรอสูงและพังในที่สุดครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,187
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 11:54:56 »
ต้องดูว่ารถรุ่นไหนครับ ถ้า remap ผมจะศึกษาว่าทำรถรุ่นเดียวกันมาหลายคันรึยัง ใช้งานไม่มีปัญหาก็โอเคครับ แต่ปกติแรงม้าที่เคลมน้อยคันที่จะถึงครับ มีหลายปัจจัยเช่นอากาศ, ค่าออกเทนน้ำมัน
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 12:01:35 »
ถ้าไม่อยากปวดหัว อย่าไปทำเลยครับ
คนไทยหลอกคนไทยมันเยอะ ลองไปเล่นวงการเครื่องเสียงรถ กับช่วงล่างก็รู้ว่าหลอกเยอะ

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,567
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 12:07:05 »
รถอะไรคับremap เบนซิน10ม้า ดีเซล30-50ม้า

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 12:11:10 »
คุณคิดเหรอครับ แรงม้าเพิ่ม แรงบิดเพิ่ม กินน้ำมันน้อยลง

ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ทำไม ผู้ผลิตจากโรงงาน เขาถึงไม่ทำให้ตั้งแต่แรก

การเค้นแรงออกมาเยอะๆ  การใช้งานจริง  ทุกชิ้นส่วนมันจะรับโหลดมากๆ  อยู่บ่อยๆ  ระยะยาว จึงไม่ทนทานเหมือนของสแตนดาร์ด

ออฟไลน์ PAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 12:47:58 »
อย่างแรกเลยต้องดูลิมิตเกียร์ครับว่ารับทอร์คได้เท่าไหร่ อย่าให้เกินก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
แรงขึ้นจริง แซงง่ายขึ้น เพราะกดนิดเดียวก็ดึงกว่าเดิมพอสมควรแล้ว
ประหยัดจริงไหม คือมันไม่ต้องเค้นมากกว่าเดิมครับ เหยียบน้อยลง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองผมว่าพอๆกับของเดิม แต่วิ่งทางไกลเห็นผลนะครับ ประหยัดกว่ากันนิดนึง(ย้ำนิดเดียว)

ป.ล. ผมจูนของ Rica ครับ แต่ไฟล์ยังไม่สมบูรณ์มากนัก(รอบต้นมาแล้วแต่รอบปลายม้ายังไม่มา) ยังdevelopอยู่ครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,050
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 13:22:53 »
เอาทีละประเด็นนะครับ
-           ประกันไม่ขาด ??? ส่วนตัวผมว่าแล้วแต่ดวง ... ECU สมัยนี้มันเก็บ Metadata ของตัวมันเองไว้ เปิดดูก็เจอว่าเคย flash มา ถึง flash version โรงงานกลับ มันก็ยังมีร่องรอยอยู่ดี .. ถ้าเจอ ศูนย์หาเรื่องให้ประกันขาดแน่นอน ซึ่งก็ถูกของศูนย์ เพราะหลักๆที่มันแรงขึ้นได้เพราะ safety margin มันลดลง ... ประเด็นคือศูนย์จะเปิด file ขึ้นมาดูไหม?? อันนี้ก็แล้วแต่ดวง แล้วแต่อาการที่มีปัญหาว่าศูนย์เค้าจะสงสัยไหม
-           แรงขึ้น 30-50 ม้า ??? ถ้าเป็นรถ NA100 กว่าม้า ได้ 30-50 ม้า ไม่น่าจะได้ เว้นแต่เครื่องเดิมไม่รองรับ E85 แล้ว ไปทำให้รองรับ E85 แล้วจูนใหม่ อันนี้ “อาจ” พอเป็นไปได้ หรือ อีกทีคือเป็นรถพวกที่ถูก “detuned” ลงมาจากโรงงานด้วยเหตุผลด้านมลภาวะหรือภาษีหรือตำแหน่งทางการตลาด ... แต่ถ้ารถเทอร์โบ 2xx ม้าเดิม ทำเพิ่ม 30-50 ม้า สามารถทำได้ไม่ยาก
-           เค้นเครื่องมากไปไหม ??? หลักๆการจูนให้แรง ถ้าเครื่อง NA คือ จูนน้ำมันให้บางลง advance ไฟมากขึ้น เครื่องร้อนขึ้น เสี่ยงเขกมากขึ้นแน่นอน ถ้าเครื่อง Turbo หลักการเหมือนกัน แต่สามารถยุ่งกับปริมาณอากาศได้ด้วยการตั้ง wastegate duty cycle ใหม่ (ปรับ Target boost ในช่วงรอบต่ำ-กลางใหม่ และ/หรือ ปรับบูสสูงสุด) .... ถ้าคนจูนมีความสามารถไม่มักง่าย ไม่เค้นเกินเหตุ ไม่น่ามีปัญหาอย่างมีนัยยะสำคัญ
-           เค้นเกียร์ไหม ??? แล้วแต่เกียร์ลูกนั้นๆว่ารองรับแรงได้ขนาดไหน ถ้าเป็นเกียร์ลูกที่เป็นสหกรณ์ใช้ร่วมกับรุ่นที่แรงๆกว่าคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเกียร์ลูกที่รองรับแรงไว้พอดีๆ ถ้าทำมากไปก็มีแววพังได้ไม่ยาก (เช่น BP5 GT ของผม เดิมๆ 245 ม้า การจูนให้ได้ 300 ม้า + เป็นไปได้ แต่เกียร์รับได้แค่ประมาณ 300 ม้า ... ถ้าทำถึงขนาดนั้น เกียร์น่าจะไปก่อนเพื่อน) ... อีกประเด็นนึงคือ “นิสัย” ของการจูน เช่น รถเทอร์โบจูนให้ target boost ค่อยๆมาก็อาจไม่แย่มาก แต่ถ้าจูนโหดๆ target boost กระโดดพรวดๆ อันนี้เกียร์น่าจะอายุสั้นลง
-           แรงขึ้นประหยัดน้ำมันขึ้น ??? ถ้าแรงขึ้นนิดๆหน่อยๆ “เป็นไปได้” ด้วยการจูนให้ “บาง” ลง คือ จ่ายน้ำมันน้อยลงที่ปริมาณอากาศเท่าเดิม โดยปกติอัตราส่วนระหว่างอากาศ/น้ำมัน ที่เผาไหม้สมบูรณ์สุดคือ 14.7 ... แต่ถ้าน้ำมันนั้นนิดหน่อยเป็นซัก 14.9-15.2 ช่วงนี้จะได้ output มากกว่าที่ 14.7 ... นอกจากนี้ช่วง open loop นั้น ECU โรงงานมักจะ”เผื่อ” น้ำมันให้หนาหน่อยๆ ถ้าลดตรงนี้ได้ก็ประหยัดขึ้นมาได้อีกหน่อย >>> ข้อนี้ผมจำผิดนะครับ most power afr 11.7-12.8 "หนา" กว่าปกติครับ ไม่มีทางประหยัดน้ำมันกว่าเดิม .. ยกเว้นช่วง open loop เดิมๆหนากว่า 11.7 อยู่

ก่อนจะทำผมเห็นว่าควรศึกษาเกี่ยวกับรถตัวเอง เบสิคการจูน และประวัติผู้จูนสักหน่อย
-           รถผมที่เคยจูนมี 2 คัน .. คันนึงจูนกับช่างคนหนึ่งที่รับจูนแต่ Subaru เท่านั้น ... คันนี้ค่อนข้าง happy แม้ครั้งหลังไปเก็บงานหลังจากเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียแล้วรถแรงน้อยลง (ช่างเค้าจูนให้เซฟขึ้นกว่าเดิม + ลดบูสลง) ... นี่ก็ว่าว่างๆจะไปให้เค้าดันขึ้นมาเหมือนเดิมใหม่ .... อีกคันนึง ทำกับช่างที่รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาตั้งแต่คุยกันตั้งแต่แรก คนนี้รับจูนทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่ค่อยอธิบายวิธีการทำงานของตัวเองเท่าไหร่ แต่เป็นคนเดียวที่บอกว่าสามารถทำ function ที่ต้องการได้ เลยลองทำดู .... เพิ่งทำมาได้ไม่กี่วัน ก็ถือว่าดีขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น (แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาจากเครื่อง na อยู่แล้ว) แถม function บางอย่างที่ต้องการให้ทำก็ทำไม่ได้ตามที่โม้เอาไว้ทีแรก .. จะให้ flash กลับเป็นเดิมๆก็ยึกยัก  (อันนี้เคือง .. แต่จะทุบโต๊ะกับแกก็เสียดายเวลา + 10 กว่าม้าที่ได้มา เลยไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับแก) .... สำหรับผมคนเบอร์สองไม่ค่อยโอครับ (ผมว่าถ้าเป็นรถรุ่นปกติที่เค้าเคยทำมาบ่อยๆน่าจะโอเค แต่ข้อเสียเค้าคือถ้ารถแปลกๆ ไม่คุ้น เค้าไม่ค่อยยอมรับว่าเค้าไม่ถนัด)
-           การจูนมันมีวิชามารอยู่ 3 อย่างที่ควรระวัง ... คือ 1) ไม่ได้จูนตารางไฟ/น้ำมัน/อากาศจริง .. แต่ไปจูนตารางคันเร่งแทน อันนี้เท่ากับหลอกให้เราคิดว่ารถแรงขึ้นด้วยการตั้งค่าให้กดคันเร่งเท่าเดิมแต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดเยอะขึ้น ไม่ต่างกับกล่องคันเร่ง ... อันนี้ถ้าขึ้น dyno ก็เห็นชัด .... 2) แอบปิดไฟ check engine อาจจะเนื่องจากจูนแล้วไปทำให้ไฟขึ้นเลยต้องแอบปิด เพื่อซุกปัญหา .... อันนี้ดูยาก ถ้าจะดูคงต้องหาทางเปิดดูค่าในกล่องด้วยตัวเอง ...... 3) แอบ Calibrate dyno การวัดแรงม้าที่ล้อมันต้องตั้งค่าหลายอย่างเพื่อให้ dyno “คำนวณ”แรงม้า ซึ่งถ้าตั้งค่าไม่เหมือนกันค่าที่”คำนวณ”ได้ก็ไม่เท่ากัน ... อันนี้ก็ดูยากเช่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2016, 17:52:23 โดย Turin »

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 13:37:22 »
พวกกระบะเทอร์โบ คอมมอนเรล อะไรนั่นทำแล้วได้ม้าเยอะครับ 30 ม้าแบบไม่ต้องทำท่อทำกรองอะไรเลยครับ

ส่วนเรื่องจะพังหรือเปล่ามันอยู่ที่เท้าเราครับ

ไม่ว่าจะรีแมพ หรือไม่รีแมพ หากบี้คันเร่งบ่อย ๆ มันก็ต้องพังไวเป็นธรรมดาครับ

ถ้าเงินหมื่นกว่าบาทไม่ใช่ปัญหาก็รีเลยครับ

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 14:19:17 »
ขอบคุณข้อมูลแน่นๆครับ

ออฟไลน์ Tapanan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 518
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 15:41:17 »
ผม Remap มาแต่รุ่นแรกๆ ทำมาตอนไมล์ 40000 ตอนนี้ 140000 เข้าไปแล้ว รถยังปกติ...
ไม่มีปัญหาอะไร หลัง Remap ประหยัดน้ำมันขึ้นครับนิดๆๆ วิ่งทางไกลเห็นได้ชัด...

คงอยู่ที่รถด้วย....อีกที

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 17:40:10 »
ไม่เคยรีแมพ แต่ประหยัดน้ำมันขึ้นนี่ผมไม่เชื่ออ่ะ
ส่วนประกันที่ไม่ขาดเพราะเค้าไม่รู้ ถ้ารู้ก็ขาด
เพิ่ม30-50ผมว่าไม่เค้นเกินไปหรอก แต่เกียร์สำคัญเลยว่ารับแรงบิดได้มากน้อยแค่ไหน เกียร์ลูกนั้นทำมาทนแรงบิดขนาดไหน ตรงนี้สำคัญนะครับ
ไหนจะการขับขี่อีก ถ้าเกียร์รับแรงบิดได้ต่ำหรือใกล้เคียงของเดิมจากโรงงานแล้วเราไปรีแมพ+ขับดุมาก เล่นบทโหดตลอด แบบนี้เตรียมตัวเลยบินไวแน่นอน

ออฟไลน์ as909za

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 70
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 18:04:22 »

คันนี้อุปกรณ์เดิมทุกชิ้นหลังทำ เพิ่ม 66.025 แรงม้า กับ TQ เพิ่มอีก 14.081Kgm หรือ 137.99 Nm


Before: 211.277 แรงม้า TQ: 48.914 Kgm
After: 277.302 แรงม้า TQ: 62.995 Kgm


Spec : เกียร ZF8HP45 (สเปคบอกเครื่องดีเซลรับได้ 500nm Flashแล้ว 620nm)

ตัวอย่าง 525D F10 Reflash ครับ (ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนะครับแค่ถามเพื่อเก็บความรู้เฉยๆขอบคุณครับ)

คำถามที่ผมถามไปยัง Tuner :  Reflash แล้ว ทอคเพิ่มขึ้นเยอะมาก เครื่องและเกียร์จะรับไหวไหมครับผม อายุการใช้งานเกียร์จะสั้นลงไหมครับ ขอบคุณครับ

คำตอบ

1. เรื่องเกียร์ ตามสเป็คที่บริษัทเกียร์อย่าง ZF, Jatco เขามักพิมพ์ออกมา มันระบุค่าแรงบิดสูงสุดโดยหมายถึง แรงบิดสูงสุดที่เกียร์ลูกนั้นสามารถรับได้โดยที่ยังได้อายุการใช้งานของเกียร์นานเท่าที่บริษัทรถยนต์กำหนด ไม่ได้หมายความว่าสเป็คบอก Max Torque= 550Nm (ษริษัท แนะนำ 500Nm) แล้วพอเจอ 600Nm ปุ๊บ จะพังในสองสามเดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ขับขีและการใช้งานของแต่ละคนด้วยครับ

2. ส่วนเรื่องอายุการใช้งาน ธรรมดาของรถครับ เราเร่งพลังมันเพิ่มขึ้น อายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติก็สั้นลงตามความแรงที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่กับเฉพาะ BMW แต่ใครก็ตามใช้เกียร์อัตโนมัติแล้วเพิ่มพลังของรถจากเดิมมากๆเข้า อายุสั้นลงทั้งนั้นครับ โลกนี้ไม่มีของฟรี

3. ผมเลือกจูนให้ได้พละกำลังแบบดังกล่าว ก็ทำตามความพอใจของลูกค้าที่อยากได้ ลูกค้า BMW หลายคนที่ผมทำให้ทราบอยู่แล้วว่าแรงขึ้น ก็ต้องโทรมเร็วขึ้นบ้าง ผมทำตามความต้องการของลูกค้าครับ ถ้าลูกค้าบอกว่าอยากเร็วขึ้นแต่ไม่อยากให้เกียร์พังเร็ว ผมก็สามารถจูนเฉพาะช่วงรอบกลางปลายเพื่อไว้ใช้ตอนเร่งแซง แล้วหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งกับช่วงรอบต้นๆให้tqเกินก็ได้ แบบนี้เวลาออกตัวรถดึงไม่หนักห้ามว่ากัน แต่ตอนแซงรอบสูงลื่นขึ้นมาก ผมทำให้ได้แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าครับ คนจูนอยู่เมืองไทย เปลี่ยนนู่นแปลงนี่ให้ตรงความต้องการของลูกค้า พวกเราทำได้อยู่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2016, 18:27:02 โดย as909za »

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,050
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 18:16:23 »

คันนี้อุปกรณ์เดิมทุกชิ้นหลังทำ เพิ่ม 66.025 แรงม้า กับ TQ เพิ่มอีก 14.081Kgm หรือ 137.99 Nm


Before: 211.277 แรงม้า TQ: 48.914 Kgm
After: 277.302 แรงม้า TQ: 62.995 Kgm


Spec : เกียร ZF8HP45 (สเปคบอกเครื่องดีเซลรับได้ 500nm Flashแล้ว 620nm)

ตัวอย่าง 525D F10 Reflash ครับ (ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนะครับแค่ถามเพื่อเก็บความรู้เฉยๆขอบคุณครับ)

คำถามที่ผมถามไปยัง Tuner :  Reflash แล้ว ทอคเพิ่มขึ้นเยอะมาก เครื่องและเกียร์จะรับไหวไหมครับผม อายุการใช้งานเกียร์จะสั้นลงไหมครับ ขอบคุณครับ

คำตอบ

1. เรื่องเกียร์ ตามสเป็คที่บริษัทเกียร์อย่าง ZF, Jatco เขามักพิมพ์ออกมา มันระบุค่าแรงบิดสูงสุดโดยหมายถึง แรงบิดสูงสุดที่เกียร์ลูกนั้นสามารถรับได้โดยที่ยังได้อายุการใช้งานของเกียร์นานเท่าที่บริษัทรถยนต์กำหนด ไม่ได้หมายความว่าสเป็คบอก Max Torque= 550Nm (ษริษัท แนะนำ 500Nm) แล้วพอเจอ 600Nm ปุ๊บ จะพังในสองสามเดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ขับขีและการใช้งานของแต่ละคนด้วยครับ

2. ส่วนเรื่องอายุการใช้งาน ธรรมดาของรถครับ เราเร่งพลังมันเพิ่มขึ้น อายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติก็สั้นลงตามความแรงที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่กับเฉพาะ BMW แต่ใครก็ตามใช้เกียร์อัตโนมัติแล้วเพิ่มพลังของรถจากเดิมมากๆเข้า อายุสั้นลงทั้งนั้นครับ โลกนี้ไม่มีของฟรี

3. ผมเลือกจูนให้ได้พละกำลังแบบดังกล่าว ก็ทำตามความพอใจของลูกค้าที่อยากได้ ลูกค้า BMW หลายคนที่ผมทำให้ทราบอยู่แล้วว่าแรงขึ้น ก็ต้องโทรมเร็วขึ้นบ้าง ผมทำตามความต้องการของลูกค้าครับ ถ้าลูกค้าบอกว่าอยากเร็วขึ้นแต่ไม่อยากให้เกียร์พังเร็ว ผมก็สามารถจูนเฉพาะช่วงรอบกลางปลายเพื่อไว้ใช้ตอนเร่งแซง แล้วหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งกับช่วงรอบต้นๆให้tqเกินก็ได้ แบบนี้เวลาออกตัวรถดึงไม่หนักห้ามว่ากัน แต่ตอนแซงรอบสูงลื่นขึ้นมาก ผมทำให้ได้แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าครับ คนจูนอยู่เมืองไทย เปลี่ยนนู่นแปลงนี่ให้ตรงความต้องการของลูกค้า พวกเราทำได้อยู่แล้ว
ชอบจูนเนอร์ที่ตอบแบบนี้จัง .. อีกหน่อยถ้าขยับไปใช้กล่อง link อาจได้ใช้บริการ (เดาว่าน่าจะเป็นหนึ่งเจ้าที่ผมเคยคุยด้วย)

ออฟไลน์ kitto26

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 270
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 18:52:02 »

คันนี้อุปกรณ์เดิมทุกชิ้นหลังทำ เพิ่ม 66.025 แรงม้า กับ TQ เพิ่มอีก 14.081Kgm หรือ 137.99 Nm


Before: 211.277 แรงม้า TQ: 48.914 Kgm
After: 277.302 แรงม้า TQ: 62.995 Kgm


Spec : เกียร ZF8HP45 (สเปคบอกเครื่องดีเซลรับได้ 500nm Flashแล้ว 620nm)

ตัวอย่าง 525D F10 Reflash ครับ (ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนะครับแค่ถามเพื่อเก็บความรู้เฉยๆขอบคุณครับ)

คำถามที่ผมถามไปยัง Tuner :  Reflash แล้ว ทอคเพิ่มขึ้นเยอะมาก เครื่องและเกียร์จะรับไหวไหมครับผม อายุการใช้งานเกียร์จะสั้นลงไหมครับ ขอบคุณครับ

คำตอบ

1. เรื่องเกียร์ ตามสเป็คที่บริษัทเกียร์อย่าง ZF, Jatco เขามักพิมพ์ออกมา มันระบุค่าแรงบิดสูงสุดโดยหมายถึง แรงบิดสูงสุดที่เกียร์ลูกนั้นสามารถรับได้โดยที่ยังได้อายุการใช้งานของเกียร์นานเท่าที่บริษัทรถยนต์กำหนด ไม่ได้หมายความว่าสเป็คบอก Max Torque= 550Nm (ษริษัท แนะนำ 500Nm) แล้วพอเจอ 600Nm ปุ๊บ จะพังในสองสามเดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ขับขีและการใช้งานของแต่ละคนด้วยครับ

2. ส่วนเรื่องอายุการใช้งาน ธรรมดาของรถครับ เราเร่งพลังมันเพิ่มขึ้น อายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติก็สั้นลงตามความแรงที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่กับเฉพาะ BMW แต่ใครก็ตามใช้เกียร์อัตโนมัติแล้วเพิ่มพลังของรถจากเดิมมากๆเข้า อายุสั้นลงทั้งนั้นครับ โลกนี้ไม่มีของฟรี

3. ผมเลือกจูนให้ได้พละกำลังแบบดังกล่าว ก็ทำตามความพอใจของลูกค้าที่อยากได้ ลูกค้า BMW หลายคนที่ผมทำให้ทราบอยู่แล้วว่าแรงขึ้น ก็ต้องโทรมเร็วขึ้นบ้าง ผมทำตามความต้องการของลูกค้าครับ ถ้าลูกค้าบอกว่าอยากเร็วขึ้นแต่ไม่อยากให้เกียร์พังเร็ว ผมก็สามารถจูนเฉพาะช่วงรอบกลางปลายเพื่อไว้ใช้ตอนเร่งแซง แล้วหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งกับช่วงรอบต้นๆให้tqเกินก็ได้ แบบนี้เวลาออกตัวรถดึงไม่หนักห้ามว่ากัน แต่ตอนแซงรอบสูงลื่นขึ้นมาก ผมทำให้ได้แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าครับ คนจูนอยู่เมืองไทย เปลี่ยนนู่นแปลงนี่ให้ตรงความต้องการของลูกค้า พวกเราทำได้อยู่แล้ว




สนใจเลยอะ


ขอโทษนะครับ  ผมใช้ x5 30d อยู่  ไม่ทราบว่า เกียร์ตัวเดียวกันกับ 525d ไหม?

แล้วอย่างงี้ รถผม มาจากโรงงาน แรงบิด 580นิวตัน   รถผมก็โอเวอร์ สเปค หรือเปล่าครับ 

x5  เกียร์ตัวนี้ รองรับ ทอร์ค ได้เท่าไหร่ครับ

ออฟไลน์ as909za

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 70
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 19:14:07 »

สนใจเลยอะ


ขอโทษนะครับ  ผมใช้ x5 30d อยู่  ไม่ทราบว่า เกียร์ตัวเดียวกันกับ 525d ไหม?

แล้วอย่างงี้ รถผม มาจากโรงงาน แรงบิด 580นิวตัน   รถผมก็โอเวอร์ สเปค หรือเปล่าครับ 

x5  เกียร์ตัวนี้ รองรับ ทอร์ค ได้เท่าไหร่ครับ

x5 (F15) ปะครับ เกียร์น่าจะรุ่นนี้นะครับ (ผิดถูกขออภัยลองสอบถาม Tuner ก่อนก็ได้ครับ หรือลอง serach เวปนอกดูอีกทีนะครับ)

https://en.wikipedia.org/wiki/ZF_8HP_transmission


ออฟไลน์ iplexman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2016, 19:46:40 »
ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ แค่อยากให้รถตอบสนองดีขึ้นบ้างคับ เลยมาขอสอบถามข้อมูล
ศึกษาแล้วคงต้องไปไล่คุยกับจูนเนอร์อีกที บางคนบอกจูนไม่มีไดโน บางที่ตอบปัญหาไม่เคลีย
มีแนวทางไปคุยแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
ปล. รถ xv เดิมๆครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 00:47:09 »
ข้อดี ข้อเสีย มันมีอยู่แล้วครับ
เพียงแต่เรารับมันได้หรือเข้าใจหรือไม่ว่าอะไรที่จะเกิดตามมา
สำคัญคือ รถเดิมๆจากโรงงาน เขาใช้เวลาการศึกษา วิศวกรคำนวณ มาเท่าไหร่ หาจุดสมดุลไม่ใช่แค่วันสองวัน
การ remap reflash หรือ อะไรที่เขาเรียกกัน บางที่ทำแต่ยี้ห้อเดียว อันนี้ยังพอมีข้อมูลประสบการณ์ หรือcase ที่ทำเครื่องตัวเดิมๆเยอะ แต่ บางที่ทำทุกยี้ห้อ ทุกรุ่น แล้วถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เรารับได้ไหม ถ้าได้ก็ทำได้ครับไม่เสียหาย

Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 07:29:47 »
ผมก็กำลังเล็งๆจะ reflash XV เหมือนกันครับ เห็นบอกว่าทำแล้ว 0-100 เหลือ 9วิ ปลายทะลุ200 แต่มานั่งคิดๆดู มันต้องมีเหตุผลอะไรสิ เค้าถึง Tuned Down ไว้ขนาดนั้น เลยยังไม่ได้ทำเลยครับ

ออฟไลน์ NavaneS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 649
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 09:42:35 »
ข้อดี ข้อเสีย มันมีอยู่แล้วครับ
เพียงแต่เรารับมันได้หรือเข้าใจหรือไม่ว่าอะไรที่จะเกิดตามมา
สำคัญคือ รถเดิมๆจากโรงงาน เขาใช้เวลาการศึกษา วิศวกรคำนวณ มาเท่าไหร่ หาจุดสมดุลไม่ใช่แค่วันสองวัน
การ remap reflash หรือ อะไรที่เขาเรียกกัน บางที่ทำแต่ยี้ห้อเดียว อันนี้ยังพอมีข้อมูลประสบการณ์ หรือcase ที่ทำเครื่องตัวเดิมๆเยอะ แต่ บางที่ทำทุกยี้ห้อ ทุกรุ่น แล้วถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เรารับได้ไหม ถ้าได้ก็ทำได้ครับไม่เสียหาย

อันนี้เห็นด้วยปนสงสัยครับ

วิศวกรจากโรงงาน เงินเดือนหลายๆแสน เรียนสารพัด จบมาแบบผู้ชำนาญ มีเครื่อง มีอุปกรณ์ มีการทดสอบ
แต่จูนเนอร์ในเมืองไทย.. เอาอะไรมาจูนเหรอครับ แล้วจูนโดยใช้หลักอะไรบ้าง  เราถึงบอกกันว่ามันดีขึ้นกว่าเดิม
Peugeot505
BMW 318i
Honda Accord G6
Toyota Wish
Honda City
Honda Accord G9
BMW 528i M Sport
KIA Grand Carnival

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,050
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 11:25:28 »
ข้อดี ข้อเสีย มันมีอยู่แล้วครับ
เพียงแต่เรารับมันได้หรือเข้าใจหรือไม่ว่าอะไรที่จะเกิดตามมา
สำคัญคือ รถเดิมๆจากโรงงาน เขาใช้เวลาการศึกษา วิศวกรคำนวณ มาเท่าไหร่ หาจุดสมดุลไม่ใช่แค่วันสองวัน
การ remap reflash หรือ อะไรที่เขาเรียกกัน บางที่ทำแต่ยี้ห้อเดียว อันนี้ยังพอมีข้อมูลประสบการณ์ หรือcase ที่ทำเครื่องตัวเดิมๆเยอะ แต่ บางที่ทำทุกยี้ห้อ ทุกรุ่น แล้วถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เรารับได้ไหม ถ้าได้ก็ทำได้ครับไม่เสียหาย

อันนี้เห็นด้วยปนสงสัยครับ

วิศวกรจากโรงงาน เงินเดือนหลายๆแสน เรียนสารพัด จบมาแบบผู้ชำนาญ มีเครื่อง มีอุปกรณ์ มีการทดสอบ
แต่จูนเนอร์ในเมืองไทย.. เอาอะไรมาจูนเหรอครับ แล้วจูนโดยใช้หลักอะไรบ้าง  เราถึงบอกกันว่ามันดีขึ้นกว่าเดิม
ตอบแบบเข้าข้างจูนเนอร์นะครับ

 ... วิศวกรโรงงานต้องทำงานโดยต้องรักษาสมดุลระหว่าง
- ความแรง
- ความประหยัด
- มลภาวะ
- safety factor เครื่องและระบบขับเคลื่อน

 ... จูนเนอร์ สนใจแค่ความแรง ... อย่างอื่น compromise ได้หมด แค่นี้เค้าก็ทำให้แรงกว่าได้แล้วครับ

ออฟไลน์ champyadme

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 214
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 11:25:53 »
ข้อดี ข้อเสีย มันมีอยู่แล้วครับ
เพียงแต่เรารับมันได้หรือเข้าใจหรือไม่ว่าอะไรที่จะเกิดตามมา
สำคัญคือ รถเดิมๆจากโรงงาน เขาใช้เวลาการศึกษา วิศวกรคำนวณ มาเท่าไหร่ หาจุดสมดุลไม่ใช่แค่วันสองวัน
การ remap reflash หรือ อะไรที่เขาเรียกกัน บางที่ทำแต่ยี้ห้อเดียว อันนี้ยังพอมีข้อมูลประสบการณ์ หรือcase ที่ทำเครื่องตัวเดิมๆเยอะ แต่ บางที่ทำทุกยี้ห้อ ทุกรุ่น แล้วถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เรารับได้ไหม ถ้าได้ก็ทำได้ครับไม่เสียหาย

อันนี้เห็นด้วยปนสงสัยครับ

วิศวกรจากโรงงาน เงินเดือนหลายๆแสน เรียนสารพัด จบมาแบบผู้ชำนาญ มีเครื่อง มีอุปกรณ์ มีการทดสอบ
แต่จูนเนอร์ในเมืองไทย.. เอาอะไรมาจูนเหรอครับ แล้วจูนโดยใช้หลักอะไรบ้าง  เราถึงบอกกันว่ามันดีขึ้นกว่าเดิม

คำว่าดีขึ้นคือแรงม้า+แรงบิดมากขึ้น(มั้ง)ครับ
ส่วนหลักการ รถทุกคันเป็นเครื่องยนต์สันดาบภายใน หลักพื้นฐานสุดๆมันก้มีแค่จูนองศาไฟจุดระเบิด กับปริมาณน้ำมัน
.
.
.
ส่วนคนที่บอกโรงงานจูนมาไม่ดียังงั้นยังงี้
ตามความเข้าใจผมนะครับ รถโรงงานไม่ได้แค่จูนให้มันแรง แต่ต้องผ่านมาตรฐานไอเสียด้วย

จูนเนอร์ปกติ สามารถจูนให้แรงขึ้น ประหยัดขึ้น โดยที่ไม่พัง
...แต่มีใครเคยวัดไอเสียมั้ยล่ะครับ...คงไม่มี


ออฟไลน์ เซลล์ขายรถ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 704
  • เซลล์ขายรถจริงๆนะครับ
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 12:13:47 »

ตอบแบบเข้าข้างจูนเนอร์นะครับ

... วิศวกรโรงงานต้องทำงานโดยต้องรักษาสมดุลระหว่าง
- ความแรง
- ความประหยัด
- มลภาวะ
- safety factor เครื่องและระบบขับเคลื่อน


 ... จูนเนอร์ สนใจแค่ความแรง ... อย่างอื่น compromise ได้หมด แค่นี้เค้าก็ทำให้แรงกว่าได้แล้วครับ
ตามนั้นหละครับ หลักๆรถขายในบ้านเราเจอทั้งเรื่อง ความประหยัด มลภาวะ ความต่างของเชื้อเพลิงอีก

ลองดูง่ายๆรถบางรุ่น ที่ขายในยุโรป  เครื่องเดียวกันแท้ๆ ออฟชั่นเท่ากัน แต่มีแรงม้าไม่เท่ากัน ราคาก็ขายไม่เท่ากัน
ต้องดันยอดเดี๋ยวเจอโกฮังจัดการ :(

ออฟไลน์ NavaneS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 649
    • อีเมล์
Re: ขอความคิดเห็นเรื่องการ remap ecu หน่อยครับ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2016, 12:56:20 »
งั้นถ้าจะเอาแรง คงต้องยอมเสียอย่างอื่นด้วยละ
ใครจะทำก้อต้องชั่งใจกัน ว่าพร้อมจะลุยไหม....
Peugeot505
BMW 318i
Honda Accord G6
Toyota Wish
Honda City
Honda Accord G9
BMW 528i M Sport
KIA Grand Carnival