มองจากภายนอก..มันก็คือรถเดิมๆ แต่พอลองขับ จะรู้สึกได้ถึงความต่าง
Vios 2013 ที่เราเคยขับมีช่วงล่างที่แข็งแต่ขับไม่มั่นใจ พวงมาลัยหลอนๆต้องคัดซ้ายคัดขวาตลอด การออกแบบภายในก็งั้นๆ ได้ดีตรงที่เครื่องทนซนด้วยได้ง่ายและไม่ค่อยมีปัญหาหลังซื้อมากนักเมื่อเทียบอัตราส่วนรถมีปัญหากับจำนวนรถที่ขายออกไป ดังนั้นมันจึงเป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนทั่วไปและวัยรุ่นซิ่ง (ถ้าผมเป็นวัยรุ่นซิ่งผมก็สน Vios เป็นอันดับต้นๆเหมือนกัน)
ในVios 2016 คันใหม่ เราได้รุ่น 1.5S มาทดลองขับกัน ผมพบว่าช่วงออกตัวต้นๆ มันมีอาการหน่วงเวลากดเต็ม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของรถเกียร์ CVT แต่พอเริ่มลอยลำแล้วจะเริ่มไว อัตราเร่ง 0-100, 80-120 ไวกว่ารุ่นเครื่อง 1NZ ออโต้ 4 สปีด เวลาขับปกติไม่กดเต็ม เกียร์ตัวนี้ทำงานได้น่าพอใจ ไม่ได้มีการไล่รอบเวลากดหนักๆที่พยายามจะให้เหมือนรถเกียร์ออโต้ปกติ แต่จะกด 25,50, 70% รถจะเลือกอัตราทดพูลเลย์ได้ตามที่ผมต้องการ ส่งผลให้สามารถควบคุมความเร็วในการเร่งได้ง่าย
สิ่งที่ต้องขอชมคือช่วงล่างรุ่น S ได้รับการปรับจนมีความหนึบหนืดกำลังดี ไม่กระด้างกว่าเดิมแต่วิ่งเร็วๆแล้วกลับให้ความมั่นใจมากขึ้น มีบุคลิกที่สปอร์ตกว่า Honda City ไปแล้วในวันนี้ ส่วนพวงมาลัยก็ปรับจนไม่ต้องคัดซ้ายคัดขวาเวลาวิ่งทางตรงแล้ว แต่อัตราทดพวงมาลัยยังปรับมาเอาใจคนทั่วไปที่ไม่เน้นความคล่องหรือไวเวลามุดไปมุดมาในเมืองเท่าไหร่
ส่วนจุดอื่นไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสาร การจัดวางตำแหน่งเบาะ พวงมาลัย และคันเร่ง วัสดุที่ใช้ ยังเหมือนเดิม ผมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก ให้คุณผู้อ่านพูดแทนบ้างก็ได้เพราะเดี๋ยวจะมีคนหาว่าผมมโนหรืออคติกับแบรนด์ Toyota ให้คนอื่นพูดบ้างแล้วกัน
สำหรับผม วันนี้ เครื่องกับเกียร์ พร้อมกับการเซ็ตช่วงล่างและพวงมาลัยใหม่ ทำให้ Vios เป็นรถที่ขับแล้วรู้สึกมีความสุขขึ้น..แล้วมันดีขึ้นขนาดไหน? เอาเป็นว่า ถ้าให้เลือกระหว่างรุ่น 2016 จ่ายราคาเต็ม กับรุ่น 2013 แล้วได้ส่วนลดพิเศษ 80,000 บาท ผมจะยังยินดีเลือกรถปี 2016 อยู่ดี เพราะการขับขี่นี่ล่ะครับ แต่ถ้าตัวเก่าลด 120,000 (ไม่รู้ใครจะบ้าให้เยอะขนาดนั้น) ผมอาจจะเอาตัวเก่าแล้วยอมทนเรื่องแร็คพวงมาลัยมัน เอาเงินส่วนต่างไปแต่งช่วงล่างตามใจชอบ นี่เทียบให้ฟังเฉยๆนะครับ