อ่านบทความของดร.ศุภวุฒิ หรือยังครับ?
ผมอ่านแล้ว
ในระยะใกล้ เค้าก็สรุปว่า ราคารถ EV เองก้ยังยากที่จะทำราคา ต่ำ กว่า รถน้ำมัน กรณี Segment เดียวกัน
แบตโครตจะหนัก หนักกว่าเครื่องยนต์อีก ใครบอกรถไฟฟ้า เบาไม่ใช่แระ
ตลาดรถ ใน เอเชีย ยังตามหลัง อเมริกา หลายสิบ ปี เพราะ เรา ตาม JAPAN
เช่น อเมริกา มี รถ EV และ Hybrid มาหลายสิบปี แต่ บ้านเรา ต้อง รอนโยบาย JAPAN ทำรถมาขายไม่กี่ปีนี้เอง
ถ้าอยากได้รถราคา 600-700K ในบ้านเรา
ก็ต้องรอ รถ อเมริกา ราคา 300-400K ก่อน เพราะ มาบ้านเรา ราคากระโดดไปอีก 30 % อย่างต่ำ ซึ่งอเมริกาเอง ยังหารถไฟฟ้า ใช้งานจริง ราคา 300-400 K บาทไม่ได้เลย
1. เรื่องราคารถใน segment เดียวกัน tesla model S อยู่ segment เดียวกับ MB S-Class ราคาก็อยู่ในช่วงเดียวกัน
โอเค ราคามันยังลงมาไม่ถึงระดับล่าง แต่... 1/3 ของราคารถไฟฟ้าคือแบตเตอรี่้
อันนี้เราคาแบตเตอรี่ ราคาไหลลงอย่างรวดเร็ว
อันนี้คาดการณ์ราคารถไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ 200ไมล์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ก็ใกล้เคียงนะ อย่าง tesla model3 ก็ราคาเป็นไปตามที่ forecast
โอเค ราคารถไฟฟ้าอาจจะลงมาระดับ low end ต้องใช้เวลาซักหน่อย แทนที่จะบอกว่าอยู่เซคเมนท์นี้ต้องราคาเท่านี้ ลองมองอีกแบบบเอารถไฟฟ้าเป็นตัวตั้ง รถไฟฟ้าราคาเท่านี้ถ้าต้องการให้รถยนต์ได้เท่าๆรถไฟฟ้าต้องใช้งบเท่าไหร่ เอาตัวเลขง่ายๆชัดๆ คุณคิดว่าจะหารถวิ่ง 0-100 ในระดับ 4-5วิ ต้องใช้งบเท่าไหร่?
2. ในเอเซีย คนที่จะดันรถไฟฟ้าจริงๆ คือ จีน!! ญี่ปุ่นมีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่มาก จะให้มาดันรถไฟฟ้าเต็มตัวคงยาก เพราะมันจะ disrupt อุตสาหกรรมข้างหลังไปหมด แต่จีนไม่ใช่
3. ภาษี อันนี้่พูดยาก เรื่องนโยบายรัฐ ทิศทางเทคโนโลยี ทั่วโลก มุ่งไปที่ EV Car กันหมด ยังไงประเทศไทยก็ต้องเดินไปจุดนั้น สมมติรัฐต้องการผลักดันจริงๆ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากๆ รถไฟฟ้าบ้านเราอาจถูกกว่า US ก็ได้