คุณเคยสงสัยไหม...ว่าที่เมืองไทยมีอุบัติเหตุสูงที่สุดในโลก มันมีสาเหตุมาจากอะไรกันบ้าง
ผมเองเกิดความสงสัยว่ามันมาจากอะไรบ้าง ก็เลยลองค้นๆดูข้อมูลสถิติที่เก็บรวบรวมกันมาดู แล้วไปเจอข้อมูลชุดหนึ่งที่พอน่าเชื่อถือได้และน่าสนใจ เลยจะนำมาบอกเล่ากันฟัง
ผมจะไม่ออกความเห็น หรือแสดงความเห็นใดๆเกี่ยวกับชุดข้อมูลที่ได้มานี้มากนัก เพื่อไม่เป็นการชี้นำ
และความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของข้อมูล ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านครับ
ข้อมูลนี้ขออ้างอิงจากแหล่งที่มาของเวปไซด์สำนักงานสถิติแห่งชาติ ตาม Link นี้ครับ
http://service.nso.go.th/nso/web/statseries/statseries21.htmlพอกดเข้าไป จะมีข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุจำแนกตามประเภทต่างๆ และจำแนกตามภูมิภาคให้ดาวโหลดได้เป็นไฟล์ตาราง Excel
ผมได้นำข้อมูลภาพรวมบางส่วนมานำเสนอให้ดูเพื่อให้เห็นสถิติของภาพรวมทั้งประเทศ แต่ทั้งนี้ตารางที่ผมนำมาลงได้มีการ Edit รูปแบบโดยเพิ่มช่องรวม กับช่อง % เพิ่มมาอีกสองช่อง เพื่อใช้ในการเป็นข้อมูลเปรียบเทียบเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น หากท่านใดไม่แน่ใจในความเที่ยงตรงของข้อมูลสามารถดาวโหลดไฟล์ต้นฉบับตามเวปข้างบนเพื่อนำมาตรวจสอบเพิ่มเติมได้
1.สถิติการรับแจ้งคดีอุบัติเหตุการจราจรทางบก จำแนกตามประเภทรถ ความเสียหาย และผู้ต้องหา ทั่วราชอาณาจักร ปีงบประมาณ 2550 - 2557
และเมื่อนำมาทำเป็นแผนภูมิแบบสัดส่วน
จะเห็นว่ารถจักรยานยนต์มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด แต่ถ้านับรวมรถยนต์นั่งส่วนบุคคล,รถตู้โดยสาร,รถแท๊กซี่ และรถปิกอัพที่เป็นรถประเภท 4 ล้อเหมือนกัน จะมียอดรวมสถิติอุบัติเหตุสูงสุด
สังเกตุว่าในตารางจะมีประเภทของรถอีแต๋นเข้ามาด้วย ซึ่งไม่เคยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเลย
ตัวเลขในบรรทัดที่ (7) รับแจ้งอุบัติเหตุ จะไม่สัมพันธ์กับผลรวมของจำนวนรถนะครับ เพราะช่องนั้นมันนับรวมกรณีอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับประเภทรถเข้ามาด้วย แต่ผมตัดเฉพาะในส่วนของประเภทรถมาให้ดู
2.สถิติคดีอุบัติเหตุการจราจรทางบก จำแนกตามสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากบุคคล สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม และ สาเหตุจากอุปกรณ์ที่ใช้ขับขี่ ทั่วราชอาณาจักร พ.ศ. 2549 - 2557
2.1 จำแนกตามสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากบุคคล
และนำข้อมูลที่ได้มาทำเป็นแผนภูมิแท่งแบบคร่าวๆ
ถ้าไม่นับรวมช่องอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุสาเหตุของอุบัติเหตุไว้... 3 อันดับหลักของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจะเรียงลำดับตามนี้
- ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
- เมาสุรา
- ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด
ทั้งนี้ ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆที่เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ แม้จะมีไม่มากเช่น
- ไม่ขับรถในช่องทางซ้ายสุด (ขับแช่เลนขวานั่นเอง)
- ขับรถคร่อมเส้นแบ่งทาง (น่าจะรวมถึงคนที่เลี้ยวโค้งตัดเลนคนอื่นด้วย)
- รถเสียไม่แสดงเครื่องหมาย/สัญญาณ
- ไม่ยอมรถที่มีสิทธิไปก่อน (แย่งกันไปนั่นแล)
- ขับรถไม่ชำนาญ
และเมื่อนำสถิติต่างๆมีเขียนเป็นกราฟเพื่อดูแนวโน้ม
จะเห็นว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาสุรามีแนวโน้มลดลงอย่างมาก (ดีใจด้วย)
แต่สาเหตุหลักอื่นๆเช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นทีละเล็กน้อยๆทุกปี
กราฟนี้ผมลองยกเอาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่น่าสนใจมาเขียนเพิ่มเติม ดังนี้
จะเห็นว่าสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถไม่ชำนาญมีสูงขึ้นอย่างมาก (ผมตั้งข้อสังเกตุเล็กๆว่าเพราะเรื่องบางอย่างมีผลกับข้อนี้ แต่ผมไม่ขอพูดถึงเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง)
และการไม่ยอมให้รถที่มีสิทธิ์ไปก่อน ก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
ในขณะที่สาเหตุอื่นๆอย่างขับรถแช่ขวา ไม่เปิดไฟเลี้ยว หรือไม่ยอมหยุดรถเมื่อถึงทางแยก มีแนวโน้มคงที่ ไม่เพิ่มไม่ลด
2.2 จำแนกตามสิ่งแวดล้อม
นำมาทำเป็นแผนภูมิแท่งเพื่อเปรียบเทียบ
จะเห็นว่าสาเหตุหลักๆจะมาจากสภาพถนน เช่น ถนนที่แคบทำให้รถสวนกันหรือขับหลบกันลำบาก ทางไม่มีไฟส่องสว่าง
ส่วนเรื่องรองลงมาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาพอากาศ เช่น ฝนตกถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี เป็นต้น
ในหัวข้ออื่นๆ คงจะเป็นสาเหตุที่ระบุไม่ได้ (อาจจะเป็นเรื่องของพลังงานอะไรบางอย่าง)
2.3 จำแนกสาเหตุตามอุปกรณ์ที่ใช้ขับขี่
ผมพอจะสรุปอันดับของสาเหตุหลักๆตามตาราง แบบคร่าวๆได้แก่
1.ระบบห้ามล้อขัดข้อง นำโด่ง
2.สาเหตุที่มาจากสภาพยางเสื่อม
3.เหตุขัดข้องที่เกียวกับระบบไฟฟ้าและระบบบังคับเลี้ยวขัดข้อง
ข้อมูลตรงนี้ทั้งหมดได้มาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งวิธีการเก็บรวบรวมและให้ได้มาซึ่งข้อมูลนี้ผมยังหาอ่านไม่เจอ เพราะฉะนั้นของให้เลือกเชื่อถือตามวิจารณญาณ (ในไฟล์ Excel ระบุว่าได้มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
ทั้งนี้ผมยังไม่ได้ลองเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่นจากกลุ่มประกันภัย ซึ่งอาจจะได้ข้อมูลที่ต่างออกไปจากนี้ก็เป็นได้ครับ