ผู้เขียน หัวข้อ: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน  (อ่าน 8971 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yamaha

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 209
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมและเพื่อนขับรถไปเที่ยวอ่าวมะนาว ประจวบ
ออกกันแต่เช้า ขับไปเรื่อยๆความเร็วปลอดภัย100-130มีเกินบ้างตามจังหวะ

ผมและเพื่อนต่างใช้นิวปาเจโร่ ขับตามๆ

มีช่วงที่ทางโล่งถนนดีมาก ช่วงไกล้ถึงตัวเมือง

มีกะบะซิ่งแรง3คัน เป็นมิสซุสตราด้า2คันกับดีแมกเรียกว่าบินกันมา. เราเองก้อจะซ้ายให้

แต่ดันมีเฟีสต้ามาดันๆผมทั้งที่จะให้ทาง. ดุทรงคงใล่กันมา
จนจะภึงโค้งเฟีสต้าไม่ชลอแซงทั่ง3คันและทำให้กะบะคันท้ายเสียหลัก. รถเพื่อนผมอัดกลางลำ

ไม่มีใครสาหัสณวันนั้น แต่เพื่อนผมต้องขายรถทิ้งเพราะปัญหา.ซ่อมไม่จบขอไม่ลงรายละเอียดปัญหา ไม่อยากให้มีดราม่า. และผมเองก้ขายไปแล้ว

ฝากไว้กับการซิ่งแล้วเดือดร้อนคนอื่น. นะพวกกะบะซิ่งไร้สำนึก

ออฟไลน์ Sammy_

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,437
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 09:23:07 »
ตัวเองเจ็บคนเดียวไม่ว่า แต่ทำให้คนไม่รู้เรื่องเดดือดร้อนด้วยเห้อ ผมก็ไม่ค่อยชอบกระบะซิ่งเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 10:24:42 »
มีคลิปมั้ยครับ  อยากเห็นตอนชน
ผมซาดิส ..


แต่กะบะซิ่ง  ผมว่าเขามีปมด้อย. ให้เขาแซงๆไปเถอะครับ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ lek12

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 10:41:44 »
อ้างถึง
บินกันมา. เราเองก้อจะซ้ายให้

แต่ดันมีเฟีสต้ามาดันๆผมทั้งที่จะให้ทาง.

แสดงว่ายังไม่ได้เปลี่ยนเข้าเลนซ้ายให้ทาง ยังขับอยู่ในเลนเดิม ใช่มั๊ยครับ

ออฟไลน์ starlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 10:51:38 »
อ่านแล้วนึกภาพตามไม่ออก 

แต่สงสัยนึิดนึงว่า ทำไม จขกท. ต้องขายรถตัวเองออกไปด้วยล่ะ หรือว่า รถได้รับอุบัติเหตุเหมือนกัน

ออฟไลน์ Yamaha

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 209
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 10:56:54 »
อ้างถึง
บินกันมา. เราเองก้อจะซ้ายให้

แต่ดันมีเฟีสต้ามาดันๆผมทั้งที่จะให้ทาง.

แสดงว่ายังไม่ได้เปลี่ยนเข้าเลนซ้ายให้ทาง ยังขับอยู่ในเลนเดิม ใช่มั๊ยครับ
ยังไม่ทันเปลี่ยนเฟียสต้ามันแซงซ้ายไปไล่กะบะจนอุบัตเหต

ส่วนรภขายไปแล้วไม่เกี่ยวอุบัตเหต

ออฟไลน์ mairuna

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 143
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 11:05:52 »
ครึกคนองกันเยอะจริงๆ เดี๋ยว
ไม่รู้เพราะรถมันขับง่ายขึ้น หรือค่านิยมอะไรผิดๆก็ไม่รู้ :(
ดริฟทุกโค้ง กระจายทุกชิ้น = . ='

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 12:00:51 »
อยากจะบอกว่า ในไทย มีพวกนี้ ไม่น้อย  :( :( :( :(

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 12:27:30 »
ผมเป็นคนขับรถเร็ว (รถติดกล่องดัน+ยก+คันเร่งไฟฟ้า) แต่ไม่ชอบแข่งกับใคร

เวลาขับไป ตจว. หลายๆ ครั้งผมจะเจอรถกระบะ แต่งซิ่ง ล้อล้น ชอบมาดัน มายั่วชวนแข่ง

พวกนี้เหมือนกับว่า พร้อมจะแข่งกับทุกคัน ทุกรุ่น ที่ขับมาเร็วๆ ถ้าเขาชนะ ก็จะไปโพสท์โชว์ในเฟสในคลับของเขา

เช่น เขาขับอยู่ 120-130 พอเราแซงปุ๊บ ก็จะไล่มาดันตูดเราเลยครับ

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 12:50:30 »
ถ้ามองในอีกมุม ถ้าไม่มีใครแช่ขวา ก็จะไม่มีการขับจี้ตูด
บางคนคิดว่าเขาจี้ตูด แต่จริงๆ ท่านขวางทางเขาต่างหา เพราะเขาแซงไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ขับด้วความปลอดภัยครับและมีน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนนครับ

ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,668
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 14:02:55 »
แย่จริงๆ ครับ
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,478
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 16:13:48 »
ถ้ามองในอีกมุม ถ้าไม่มีใครแช่ขวา ก็จะไม่มีการขับจี้ตูด
บางคนคิดว่าเขาจี้ตูด แต่จริงๆ ท่านขวางทางเขาต่างหา เพราะเขาแซงไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ขับด้วความปลอดภัยครับและมีน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนนครับ

ถ้าเขาจะเล่นด้วย  อยู่กลาง  หรือซ้าย  มันก็ดัน.....ไปไหนก็ไม่ไป  วิ่งจี้เข้ามาใกล้ ๆ  แล้วก็ผ่อน..อยู่อย่างนั้นสองสามโล  เห็นว่าเราไม่เล่นแน่ ๆ เขาก็ไปเอง...

ออฟไลน์ eaton fuller

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 904
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 16:22:14 »
ถ้ามองในอีกมุม ถ้าไม่มีใครแช่ขวา ก็จะไม่มีการขับจี้ตูด
บางคนคิดว่าเขาจี้ตูด แต่จริงๆ ท่านขวางทางเขาต่างหา เพราะเขาแซงไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ขับด้วความปลอดภัยครับและมีน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนนครับ

ก็เป็นไปได้ 

บางรายขับชิวๆ ไม่สนกฏรถช้ากว่าคันอื่นให้ชิดซ้าย

ออฟไลน์ Sagittarius Toshi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 456
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 17:19:39 »
ถ้ามองในอีกมุม ถ้าไม่มีใครแช่ขวา ก็จะไม่มีการขับจี้ตูด
บางคนคิดว่าเขาจี้ตูด แต่จริงๆ ท่านขวางทางเขาต่างหา เพราะเขาแซงไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ขับด้วความปลอดภัยครับและมีน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนนครับ

+1

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 19:02:16 »
ถ้ามองในอีกมุม ถ้าไม่มีใครแช่ขวา ก็จะไม่มีการขับจี้ตูด
บางคนคิดว่าเขาจี้ตูด แต่จริงๆ ท่านขวางทางเขาต่างหา เพราะเขาแซงไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ขับด้วความปลอดภัยครับและมีน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนนครับ

มันต้องมีใครไปขวางเค้า ไม่ใครล่ะคันนึงแน่นอน เห็นด้วยครับ

การขับรถที่ดี มันต้องถูกที่ถูกตำแหน่งที่ควรด้วย อีกทั้งอ่านความเร็วของเพื่อนร่วมถนนด้วย เราจะได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด เสี่ยงต่อการเกิดเหตุน้อยที่สุด
เคสพวกนี้เจอประจำ คนขับรถดีก็เยอะ ห่วยแตกไม่สนใจโลกก็มากมายและมากขึ้นแบบรวดเร็ว ยิ่งฝนตกขับ40-60แช่ขวา เข้าใจครับว่ามันอันตราย แต่อันตรายแล้วไปอยู่ซ้ายดีกว่ามั๊ย อย่ามาคลานขวางทางอยู่

จริงๆผมเชื่อว่าคนที่ขับรถดีไม่ต้องบอกหรอก ผมว่าเค้ารู้อยู่แล้ว แต่คนขับรถไม่ดี ถึงบอกก็ไม่รู้ตัวอยู่ดี


ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 21:22:30 »
ถ้าไม่อยากเล่นด้วย เปิดไฟเลี้ยวซ้าย และชลอความเร็วครับ ปล่อยๆมันไป แต่ถ้ายังมาดันอีก ก็กดทิ้งครับ ถ้ารถไม่แรงพอที่จะกดทิ้ง ก็ชลอความเร็วลดลงไปเหลือซัก 60 เด๊วพวกนี้ก็ไปเอง รถผมแรงพอสมควร ส่วนใหญ่จะกดทิ้งให้หายไปเลย ผมรำคาญพวกมาจี้ตูดแบบแทบติดกันชน กลัวจะโดนชนแล้วเสียเวลามานั่งเรียกประกัน

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 21:24:24 »
ถ้ามองในอีกมุม ถ้าไม่มีใครแช่ขวา ก็จะไม่มีการขับจี้ตูด
บางคนคิดว่าเขาจี้ตูด แต่จริงๆ ท่านขวางทางเขาต่างหา เพราะเขาแซงไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ขับด้วความปลอดภัยครับและมีน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนนครับ

+1 นะครับ ผมว่าถ้ายิ่งโล่งๆเนี่ย เห็นมาแต่ไกลก็ควรจะหลบตั้งนานแล้ว
จะเร็วจะช้าขับเลนขวาแช่ยังไงก็ผิด

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 21:34:21 »
ผมคิดว่า  กะบะซิ่งกับเฟียสต้าคงซัดกันมาอยุ่

คุณไปขวางเขารึป่าวนะ. มองกระจกหลังบ่อยๆ
ถนนไม่ใช่ของคุณคนเดียว

ยิ่งคุณบอกถนนโล่งๆ  เส้นนั้นก็น่าใส่อยุ่
คุณขับแช่ขวาแล้ว พวกขับเร็วๆมันเสียจังหวะไง


ต่อให้คุณจะให้ทาง  แต่มันมากันเร็วไงครับ
นี่คือเหตผลที่คุณไม่ควรขับขวา เผื่อถนนสำหรับผุ้รีบกว่าคุณ
ต่อให้แข่งกันมา มันถือว่าผลพลอยได้จากการขับเร็วอะ

สรุป
  เผื่อถนนสำหรับพวกขับเร็วด้วยครับ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 21:54:59 »
     ถนนเส้นนั้นเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ถ้าสายเอเซีย ความเร็ว 100-130 ชิดขวาไม่ได้นะครับ เกะกะถนน ถ้าอยากชิดขวาโดยไม่เกะกะใครมากคงต้อง 140-160 ขึ้นไป

ออฟไลน์ Jhinz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 25, 2016, 22:41:21 »
     ถนนเส้นนั้นเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ถ้าสายเอเซีย ความเร็ว 100-130 ชิดขวาไม่ได้นะครับ เกะกะถนน ถ้าอยากชิดขวาโดยไม่เกะกะใครมากคงต้อง 140-160 ขึ้นไป

เห็นด้วยครับ ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่แปลกมากอีกอย่างนึงคือขับไป140-150แล้วถ้าไม่เหลือบดูหน้าปัดจะนึกว่า120ไม่เหมือนมอเตอร์เวย์หรือบูรพาวิถีขับ120ก็รู้ว่าอยู่ประมาณนี้
2005 Honda CRV 2.0 Gen2 (Sold)
2007 Toyota Camry 2.4V ACV40
2014 VW Tiguan 2.0 TSI R-Line (drive in CN)
2015 Volvo S60 (Sold)
2016 Mazda CX-5 2.2XDL mc

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,192
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 10:20:05 »
เลนขวาโล่งๆยาวๆ ต้องวิ่งเร็วจริง แต่ก็ยังพวกวิ่งเร็วกว่า เอาไว้แซงแล้วเข้าซ้าย
และเจอกล้องตรวจจับความเร็ว อันนี้เจอบ่อยๆครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,641
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 10:21:24 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ


ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 10:46:42 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ

ตอนนี้ถนนเมืองไทยก็ตายรายวันอยู่แล้วครับ  :'( ผมเห็นล็กอินหนึ่งในห้องรัชดาที่ชอบรายงายข่าวอุบัติเหตุให้ดูกันรายวัน เปิดไปดูทีไรมีแต่การชนที่เกิดมาจากขับรถเร็วทั้งนั้นเลย พวกชนคนอื่นแล้วขับหนีไปนี่มีให้เห็นทุกเดือน สงสัยทางเดียวที่จะรอดได้คือต้องไปซื้อรถบรรทุกมาใช้แล้วกระมัง  :-\
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,469
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 13:16:44 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ

ตอนนี้ถนนเมืองไทยก็ตายรายวันอยู่แล้วครับ  :'( ผมเห็นล็กอินหนึ่งในห้องรัชดาที่ชอบรายงายข่าวอุบัติเหตุให้ดูกันรายวัน เปิดไปดูทีไรมีแต่การชนที่เกิดมาจากขับรถเร็วทั้งนั้นเลย พวกชนคนอื่นแล้วขับหนีไปนี่มีให้เห็นทุกเดือน สงสัยทางเดียวที่จะรอดได้คือต้องไปซื้อรถบรรทุกมาใช้แล้วกระมัง  :-\

การลงข่าวว่า รถคันที่ชน "ขับมาด้วยความเร็วสูง" มันเป็นสำนวนข่าวที่นักข่าวชอบใช้กัน
เหมือนกับคำว่า " เสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว " ทั้งที่ในทางการแพทย์ไม่มีคำนี้
รถจะขับมาเร็วหรือช้า แต่ถ้าชน จะลงข่าวว่าขับมาด้วยความเร็วสูงทั้งนั้น คำนี้นักข่าวใช้กันมานานมากๆ ตั้งแต่รถปิคอัพใช้เครื่องดีเซล 2200cc ไม่มีเทอโบ ท็อปสปีดอยู่ที่ 120-130 เท่านั้ัน

การเดินทางไกลๆ ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ถ้าขับช้าก็เหนือยล้า และหลับในได้ การชนโดยไม่ได้เบรก ความเร็ว 80 ก็ตายได้
มีน้องคนนึงที่ผมรู้จัก ขับตู้จากกรุงเทพไปหาดใหญ่ ขับไม่เกิน 120 กม/ชม แต่หลับใน ลงข้างทาง ชนต้นไม้แถวพัทลุง (คนในรถที่รอด เล่าให้ฟัง)

คนที่ขับรถเร็วส่วนใหญ่ ใช่ว่าจะขับเร็วโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม เช่น ผ่านแยก เขตชุมชน ก็ใช้ความเร็วปกติ
แต่ถ้าถนนโล่ง ทางตรงยาวๆ ไม่มีแยก ไม่มีชุมชน ก็จะใช้ความเร็วสูง

อีกมุมนึง ผมมองว่า ทุกวินาทีที่อยู่บนถนน จะขับเร็วหรือช้า มันก็เสี่ยงอันตรายด้วยกันทั้งนั้น
ในระยะทางเท่ากัน คันที่ขับช้าใช้เวลา  10 ชั่วโมง ก็อยู่ในความเสี่ยง 10 ชั่วโมง
คันที่ขับเร็วกว่า ใช้เวลา 9 ชั่วโมง ก็อยู่ในความเสี่ยง 9 ชั่วโมงครับ


ออฟไลน์ Yamaha

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 209
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 15:20:08 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ
ขอบคุณมากครับ. ผมพยายามจะหาจังหวะหลบให้  แต่มันมากันเร็ว
แข่งกันมา. 

ไม่ใช่นักขับรถที่เก่งและตัดสินใจเร้วๆครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 15:26:43 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ

ผมเห็นด้วยครับ....
จะขับแช่ขวา หรือขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ก็ล้วนแล้วแต่ผิดกฎจราจรทั้งนั้น
แต่เคยสังเกตุกันไหมครับ  ว่าในโลก social network มักจะตำหนิรถขับแช่ขวาเป็นส่วนมาก แต่จะไม่ค่อยพูดถึงคนที่ขับรถเร็วเกินกำหนด
มันคือการเลือกปฎิบัติ....เลือกตำหนิคนอยู่กลุ่มๆหนึ่ง แต่ไม่ค่อยตำหนิคนกลุ่มอื่นๆที่ทำผิดกฎเหมือนกัน

ก่อนหน้าผมเคยทำข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติมาให้ดู ว่าสาเหตุหลักๆของอุบัติเหตุมาจากอะไรบ้าง
อันดับต้นๆก็มาจากการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ขับปาดหน้ากัน ก็เรื่องที่เราๆไม่ค่อยจะพูดถึงกันนี่ล่ะครับ

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 16:25:12 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ

ตอนนี้ถนนเมืองไทยก็ตายรายวันอยู่แล้วครับ  :'( ผมเห็นล็กอินหนึ่งในห้องรัชดาที่ชอบรายงายข่าวอุบัติเหตุให้ดูกันรายวัน เปิดไปดูทีไรมีแต่การชนที่เกิดมาจากขับรถเร็วทั้งนั้นเลย พวกชนคนอื่นแล้วขับหนีไปนี่มีให้เห็นทุกเดือน สงสัยทางเดียวที่จะรอดได้คือต้องไปซื้อรถบรรทุกมาใช้แล้วกระมัง  :-\

การลงข่าวว่า รถคันที่ชน "ขับมาด้วยความเร็วสูง" มันเป็นสำนวนข่าวที่นักข่าวชอบใช้กัน
เหมือนกับคำว่า " เสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว " ทั้งที่ในทางการแพทย์ไม่มีคำนี้
รถจะขับมาเร็วหรือช้า แต่ถ้าชน จะลงข่าวว่าขับมาด้วยความเร็วสูงทั้งนั้น คำนี้นักข่าวใช้กันมานานมากๆ ตั้งแต่รถปิคอัพใช้เครื่องดีเซล 2200cc ไม่มีเทอโบ ท็อปสปีดอยู่ที่ 120-130 เท่านั้ัน

การเดินทางไกลๆ ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ถ้าขับช้าก็เหนือยล้า และหลับในได้ การชนโดยไม่ได้เบรก ความเร็ว 80 ก็ตายได้
มีน้องคนนึงที่ผมรู้จัก ขับตู้จากกรุงเทพไปหาดใหญ่ ขับไม่เกิน 120 กม/ชม แต่หลับใน ลงข้างทาง ชนต้นไม้แถวพัทลุง (คนในรถที่รอด เล่าให้ฟัง)

คนที่ขับรถเร็วส่วนใหญ่ ใช่ว่าจะขับเร็วโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม เช่น ผ่านแยก เขตชุมชน ก็ใช้ความเร็วปกติ
แต่ถ้าถนนโล่ง ทางตรงยาวๆ ไม่มีแยก ไม่มีชุมชน ก็จะใช้ความเร็วสูง

อีกมุมนึง ผมมองว่า ทุกวินาทีที่อยู่บนถนน จะขับเร็วหรือช้า มันก็เสี่ยงอันตรายด้วยกันทั้งนั้น
ในระยะทางเท่ากัน คันที่ขับช้าใช้เวลา  10 ชั่วโมง ก็อยู่ในความเสี่ยง 10 ชั่วโมง
คันที่ขับเร็วกว่า ใช้เวลา 9 ชั่วโมง ก็อยู่ในความเสี่ยง 9 ชั่วโมงครับ

เคสแบบนี้ผมบอกหลายครั้งแล้วว่า จะเร็วจะช้า จะถูกหรือผิดกฏหมายก็ตาม มันใจเขาใจเราครับ อยู่ในที่ที่ถูกที่ควร มันดีเองครับ คิดถึงคันอื่นบ้าง สื่อสารกับคันอื่นบ้าง จะหลบให้เค้าอย่าคิดคนเดียวครับ แต่ไม่ตีไฟไม่บอกใคร ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับตราบเท่าที่แค่คุณบอกว่าคิดอยู่

ในเหมือนทุกคนพูดว่าขับเร็วผิด  ผมขอพูดขับช้าแทนแล้วกัน ถนน4เลน แบ่งเป็น2เลนไป2เลนกลับ รถสิบล้อพ่วงคันนึงกำลังขึ้นเนิน 30km/h อีกคันเป็นรถใหญ่เช่นกัน เครื่องดีกว่าแบกน้ำหนักน้อยกว่า 35km/h ถนนว่างนิดนึง แกออกมาเลย แล้วก็แซงกันอยู่แบบนี้ ก็ไปนึกเอาว่าไม่ผิด กม จริงๆ

ถ้าบอกว่าคนทำตาม กม อยู่ยาก ผมว่าไม่จริง  ผมขับช้าก็ไม่เคยมีเพื่อนร่วมถนนแซงซ้ายผมเลย นอกว่าคันอื่นบล๊อคเค้า  สำคัญว่าคนที่บอกว่าขับรถตาม กม กำหนดอยู่ยากเคยขับ80-90จริงรึเปล่า เพราะผมเคยขับ ผมว่าอยู่ไม่ยาก ที่มันยากเพราะไม่ขับตามกม จริงๆ หรืออยู่ในเลนที่ไม่ควรมากกว่า
ถ้าเราขับ80-90 เราจะไม่หงุดหงิดรถที่ขับ60หรอกครับ เพราะแค่ถอนคันเร่ง ความเร็วมันก็ตกมา60แล้ว แต่เมื่อคันหน้าขับ 60 คุณต้องการแซงเค้าเพื่อไปขับ90 ต้องทำยังไง แซงขวาเพื่อไปขวางคนอื่นรึเปล่าครับ หรือเร่งพรวดเลยเพื่อแซง หรือค่อยๆเร่งค่อยๆแซง หรือตามก้น60นั้นไปเรื่อยๆ
ไปคิดเอาเองครับว่าจะเป็นคนเห็นแก่ตัวรึเปล่า จะคิดถึงคนอื่นบ้างรึเปล่า  ตรงนี้ผมว่าสำคัญ หรือจะบอกว่าแซงอยุ่ ไม่ได้ขับเกิน กม กำหนดใครจะทำไม
ผมว่าตรงนี้สำคัญ


ทุกวันนี้คุณขับรถโดนให้คนอื่นเบรคให้คุณขนาดไหน   หรือแค่เค้าถอนคันเร่งให้ เค้าก็พ้น คุณก็ไม่ขวาง  ผมว่าตรงนี้เป็นมารยาทของการใช้ถนนร่วมกันมากกว่าครับ แน่นอนถ้าคุณให้เค้าเบรคให้เยอะๆ เเพื่อให้คุณคนเดียว สักวันก็จะเจอคนที่เค้าไม่เกรงใจคุณ เหมือนที่คุณไม่เกรงใจใคร

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 21:16:01 »
บางครั้งมันก็น่าเห็นใจคนขับรถตามความเร็วกฏหมายกำหนดอยู่เหมือนกันนะครับ

จริงอยู่กฏหมายอาจจะล้าหลัง ไม่ปรับปรุง แต่ยังไงก็ตามความเร็วระดับเกิน 120 กม./ชม. ก็สร้างความเสียหายถึงชีวิตได้

จริงอยู่บางคนอาจจะบอกว่า 120 ก็ตาย 180 ก็ตาย ก็จริงอยู่ แต่ปัญหาคือคนเริ่มฝ่าฝืนกฏ หรือไม่เคารพกฏไม่ได้ตายคนเดียว มันพาคนอื่นเค้าไปตายด้วยนี่สิ

คนขับตามกฏเรื่องความเร็ว แต่ผิดช่องทาง ไม่ถูกก็จริงอยู่เพราะขวางทางรถเร็วกว่าในช่องทางขวาสุด
แต่ลองมองในมุมที่ว่า ระหว่างทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วยกันขับให้ถูกกฏกันหมด กับ ทำทุกอย่างที่ตนเองพอใจ และใช้ช่องว่างในกฏหมายนั้นเข้าข้างความพอใจของตนเอง

แบบไหน ทำให้คนหมู่มากที่ใช้ถนน มีความปลอดภัยมากกว่ากันกันแน่ครับ เพราะผมเองมองว่า กฏหมายต้องการคุ้มครองคนหมู่มากที่ใช้รถใช้ถนนกันแบบยึดถือกฏหมายเป็นหลักมากกว่า

อย่างที่ยกตัวอย่างว่าโดนดัน ต้องหลบให้ ความเร็วขนาดนั้นบนท้องถนน จะสื่อสารอย่างไรให้คันหลังรู้หล่ะครับว่า เฮ้ยรอเดี๋ยวกำลังหาทางหลบให้อยู่ คนที่ดันคันหน้า ถามจริงๆเคยสนใจหรอครับว่าเค้ากำลังพยายามอยู่ หรือกำลังมือไม้สั่น เพราะมีรถที่เกิดมาเค้าไม่เคยกระทั่งอยากจะโดยสารนั่งไปกับคนขับประเภทนี้ ขับจี้ตูดอยากให้หลบ หรืออยากให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่รู้ เรียนสอบใบขับขี่มาก็ไม่เคยมีสอนว่า เจอรถซิ่งที่ขับผิดกฏควรทำอย่างไรซะด้วยซ้ำไป

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ หรือผู้เริ่มต้นทำผิดมักจะหาข้ออ้างให้ตนเองอยู่แสมอ และโยนความซวยนั้นให้อีกฝ่ายเป็นประจำ

ลองมองในมุมที่ว่า ถ้ากฏหมายระบุไว้ว่า ข้อ 1. ควบคุมเรื่องความเร็วก่อน แล้วเรื่องอื่นก็ตามมาเป็นข้อ 2 3 4 --->

ใครกันที่เป็นต้นเหตุหล่ะครับ ถ้าคันหน้าขับ 80 แช่ขวา แต่คันหลังขับไม่เกิน 100 ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมน้อยกว่า

ผมก็ไม่เถียงว่า ขับช้าแช่ขวามันละเมิดกฏ แต่เท่าที่เห็นกันมา มักจะเป็นเรื่องรำคาญและไม่พอใจ หงุดหงิดเสียมากกว่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายๆนะครับ

ขับรถทุกวันนี้สำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะอะไรมากนัก ใช้รถเป็นยานพาหนะทั่วไป ผมว่าก็เหนื่อยในการใช้รถใช้ถนนพออยู่แล้ว แค่เอาขับให้ถูกกฏ ปลอดภัยก็ยากมากๆ แล้วต้องให้มาระวังคนที่ไม่สนใจอะไร ใช้ความพอใจเป็นที่ตั้งตลอด ไหนจะมอไซ ฯลฯ มันก็ยากจริงนะครับ

ก็แค่อยากจะบอกว่า เพลาๆกันได้ก็เพลาๆกันบ้างก็ดีครับ ไม่งั้นอีกไม่กี่ปี เราอาจได้เห็นถนนที่มีแต่เลือดก็เป็นได้ เราอยากให้เป็นเช่นนั้นกันหรืออย่างไรครับ
   

ตำรวจชี้ "ขับช้าแช่ขวา" ผิด 2 กระทง แถมเพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุ
เถียงกันไม่จบ "ขับช้าแช่ขวา" หรือ "ขับขวาใช้ความเร็วสูง" ฝ่ายไหนถูก ฝ่ายไหนผิด ตำรวจทางหลวงมีคำตอบไขข้อข้องใจ
จากกระทู้ดราม่าในเว็บไซต์ยอดนิยมที่ดูเหมือนว่าข้อถกเถียงเรื่องการขับรถแช่เลนขวา จะกลายเป็นปัญหาโลกแตกชนิดที่เถียงกันไม่จบไม่สิ้น โดยฝ่ายผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วต่ำในเลนขวา มองว่าการขับขี่ในลักษณะนี้ไม่ผิดกฎจราจร อีกทั้งยังเป็นการใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ทว่าฝ่ายรถที่ใช้ความเร็วและวิ่งตามหลัง ส่วนใหญ่จะยึดว่าเลนขวามีไว้สำหรับแซงเท่านั้น ประเด็นนี้จึงกลายเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์
ล่าสุด ทีมนิวมีเดีย PPTV ได้มีโอกาสถามถึงประเด็นดังกล่าวกับ ดาบตำรวจวิมล แก้วชู ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้รับคำชี้แจงว่าตามกฎหมายเลนขวามีไว้สำหรับแซงเท่านั้น เมื่อเข้าเลนขวาแล้วแซงขึ้นมาจนถึงระยะที่ปลอดภัย ผู้ขับขี่ต้องตีรถกลับเขามาในเลนซ้ายห้ามแช่ขวา เพราะเลนขวาเป็นช่องทางที่รถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง การขับรถแช่อยู่เลนขวาจึงไม่เพียงก่อให้เกิดความรำคาญใจแก่ผู้ขับที่ตามมา แต่ยังเพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วย เนื่องจากจังหวะที่รถตามหลังกำลังจะเบี่ยงแซงซ้าย จะเกิดจุดบอดที่คนขับซึ่งอยู่ในตำแหน่งขวามองไม่เห็น จึงมีโอกาสสูงที่จะหักไปเจอรถเลนซ้ายในด้านหน้า ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ความเร็วไม่สูงมากประมาณ 60-80 กม./ชม. ก่อให้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนได้
"ความคิดที่ว่าขับแช่ขวาไม่เป็นอะไรเพราะมองว่าตัวเองใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ตามกฎหมายจราจรผู้ขับขี่ในลักษณะนี้ถือว่ามีความผิด 2 กระทง คือ
 1.มาตรา 34 บัญญัติไว้ว่าถนนที่มีการแบ่งเส้นจราจรมากกว่า 2 เลนขึ้นไป ผู้ขับขี่ต้องขับชิดขอบทางด้านซ้าย หากไม่ปฏิบัติตามอาจโดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และ
2.การขับรถกีดขวาทางจราจร โทษปรับตั้งแต่ 400 - 1,000 บาท"
ดาบตำรวจวิมล ย้ำว่าการขับขี่รถให้ปลอดภัยทุกคนต้องร่วมใจปฏิบัติตามกฎจราจร ในกรณีนี้หากผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วต่ำในช่องทางขวา มองเห็นรถที่วิ่งตามมาด้วยความเร็วสูง ก็ควรหลีกทางให้เพราะเลนขวามีไว้สำหรับแซง อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่เลนขวาที่ใช้ความเร็วสูง ก็ต้องระวางโทษในข้อหาใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการตรวจจับการใช้ความเร็วบนท้องถนน
เครดิตhttp://www.pptvthailand.com/sport/news/31807   

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=52945.0

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: อุทาหรณ์ สำหรับการไม่ยอมกันบนท้องถนน
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กันยายน 26, 2016, 21:33:51 »
เดือดร้อนกันไปหมด ทั้งคนในเหตุการณ์ คนใช้ถนนเส้นนั้น