ผู้เขียน หัวข้อ: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //  (อ่าน 10037 ครั้ง)

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,486
    • อีเมล์
ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้โพสต์ข้อมูล รูปภาพ และ คลิปวีดีโอ
ทางหน้า Fanpage : Headlightmag.com เกี่ยวกับรถยนต์พระที่นั่ง
และ เรื่องราวที่เกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เผื่อคุณผู้อ่าน หรือ สมาชิกท่านไหนยังไม่ได้รับชม ผมก็เลยเอามารวบรวม
ไว้ให้ในกระทู้นี้นะครับ (ถ้ามีเนื้อหาอื่นๆเพิ่มเติม ผมจะนำมาอัพเดตให้ที่กระทู้นี้)



14 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1017026225073261/?type=3

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี
จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

เรื่องราวนี้นำมาจาก สารสภาวิศวกรรม ฉบับเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2550
เป็นเรื่องเล่าโดย คุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คุณนินนาท ได้เล่าว่า

สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ตนเอง และ พนักงานโตโยต้าทุกคน คือ
เมื่อกลางปี พ.ศ. 2540 ที่ประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ในวันที่
5 พ.ย.2540 มีข่าวในหน้า นสพ.ว่า ทางโตโยต้าจะปิดโรงงานลอยแพ พนักงาน
5,500 คน ซึ่งกระทบภาพลักษณ์บริษัท ขวัญและกำลังใจของพนักงานอย่างยิ่ง

ในบ่ายวันเดียวกัน ทางบริษัทฯ ได้จัดแถลงข่าว เพื่อแก้ข่าวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า
บริษัทไม่เคยคิดปิดโรงงาน และ เลิกจ้างพนักงาน

ต่อมามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใย พนักงานโตโยต้า

ในเช้าวันที่ 6 พ.ย. 2540 เลขานุการส่วนพระองค์ได้ โทรศัพท์ถึง คุณนินนาท
และแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมี พระราชประสงค์ สั่งซื้อรถโตโยต้า
โซลูน่า 1 คัน โดยให้พนักงาน ใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องรีบ
พนักงานคนไทย จะได้มีงานทำนานๆ

ประโยคนี้สร้างความปลื้มปิติยินดีแก่พนักงานโตโยต้าเป็นอย่างมาก

เมื่อนำรถคันดังกล่าวไปถวายพระองค์ในเดือน ธ.ค.2540 พระองค์ทรงพระราชทาน
ทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเช็คเงินสด 600,000 บาท โดยทรงพระราชทาน
แนวพระราชดำริว่า ให้โตโยต้า ไปตั้งโรงสีข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนา ซึ่งมีปัญหา 2 อย่าง
เวลาเก็บข้าวในยุ้งฉาง มักเสียหายและถูกขโมยบางส่วน เวลาสีเป็นข้าวสารก็ขายไม่ได้ราคา
โตโยต้ามีการบริหารจัดการที่ดี ควรตั้งโรงสีข้าวตัวอย่าง เมื่อสีข้าวได้แล้วขายในราคา
สวัสดิการ ให้แก่พนักงาน และ ขายผลพลอยได้ เช่น แกลบ รำ ให้แก่เกษตรกรชุมชน
ที่เลี้ยงหมูและ เป็นที่มาของ บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด

ที่มา : http://www.coe.or.th/

-------------------------------------------------------------------

หลังจากนั้นจึงมี Toyota Soluna รุ่นพิเศษออกมา ผลิตจำนวนจำกัด 600 คัน
ด้านท้ายรถบนฝากระโปรงหลังจะติดตัวอักษร (emblem) ด้านซ้ายด้วยเลขไทย
" ๑.๕ " และ ด้านขวาเป็นชื่อรุ่น " โซลูน่า " มีออกมาด้วยกัน 2 สี คือ
1. สีทองอ่อน คาดสีน้ำตาลข้างล่าง 2. สีเงินอมฟ้า คาดสีเทาดำข้างล่าง





15 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1018053994970484/?type=3&theater

เรื่องราวนี้นำมาจาก บทความ 'ในหลวง...ของเรา' ในความทรงจำของล่ามมลายู (ตอน ๑)

ตลอดระยะเวลา ๓๐ กว่าปีที่ทำหน้าที่เป็นล่ามประจำขบวนเสด็จ มีเรื่องมากมาย
ที่สร้างความประทับใจจนเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ผนึกแน่นอยู่ในหัวใจ
ว่าที่ร้อยโท ดิลก ศิริวัลลภ

“ อย่างภาพที่พระองค์ท่าน ทรงนั่งพิงรถแลนด์โรเวอร์บนสะพานไม้ จำได้ว่า
ในเดือนกันยายน 2524 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักทักษิณ
ราชนิเวศน์ ไปทางอำเภอตากใบ

เมื่อถึงเขตอำเภอสุไหงโก-ลก ทรงเลี้ยวขวาไปทางบ้านเจาะบากง ตำบลปูโนะ
ท่านจะเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศ และ ระดับน้ำท่วมที่ไหลมาจากป่าพรุ

ตอนนั้นถนนหนทางไม่ค่อยดี พระองค์ท่านทรงขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง
พอไปถึงจุดนั้นรถยนต์ไปต่อไม่ได้ต้องถอยกลับ

เมื่อทอดพระเนตรเห็นชาวบ้านมาเฝ้า ก็ทรงสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านบนสะพาน
แรกๆ ยืนคุยกันก่อน นานเข้าพระองค์ท่านจึงตัดสินใจย่อพระวรกายทรงนั่งบนสะพานไม้
เมื่อก่อนทางลำบากเฉอะแฉะไปหมด บนสะพานเท่านั้นนั่งได้ ภาพนี้ต่อมากลายเป็นภาพ
ที่เราได้เห็นในหัวข่าวโทรทัศน์เป็นประจำ ”

ที่มา : 'ในหลวง...ของเรา' ในความทรงจำของล่ามมลายู (ตอน ๑)
http://www.oknation.net/blog/narapong-sak/2007/10/15/entry-1




-------------------------------------------------------------------

รถยนต์คันในภาพคือ Land Rover Series III (ปี 1971 - 1985)
(Land-Rover 109 Station Wagon)
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.25 ลิตร คาร์บูเรเตอร์ กำลังสูงสุด 71 แรงม้า
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 161 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ






16 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/videos/1018203478288869/

ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง (รถยนต์ที่ทรงขับคือ Toyota Prius
Generation 1 : ซึ่งทาง Toyota Motor Thailand จัดถวายให้พระองค์ท่าน
ในช่วงปี 1998) เสด็จกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อครั้งวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พ.ศ.2541 โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับร่วมในรถยนต์พระที่นั่งคันดังกล่าว



-------------------------------------------------------------------

Toyota Prius Generation 1
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 58 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด 40 แรงม้า ที่ 940-2,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร
ที่ 0-940 รอบ/นาที





17 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1019803024795581/?type=3

เวลาตามเสด็จฯ นั้น หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นเขา เราก็ต้องปีนเขาด้วย
พระองค์ทรงรับสั่งว่า การทำงานพัฒนา ร่างกายเราต้องแข็งแรง ดังนั้นจึงต้องพัฒนา
สุขภาพให้แข็งแรง ฉันเคยฝึกแบกของเดินขึ้นเขา เพราะถ้าเกษตรกรพื้นที่สูง
อยากให้เราเดินขึ้นไปดูไร่ของเขาบนภูเขา ก็ควรพยายามไป เขาชี้ให้ไปดูอะไรก็ต้องไป
ถึงแม้บนยอดเขาจะมีกาแฟเพียงต้นเดียวก็ต้องขึ้นไป บางครั้งปีนเขาตั้งหลายลูก
เราก็ต้องไปเพื่อเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและผูกมิตรด้วย ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน
พระองค์เสด็จฯ ไปทุกที่

ที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหนังสือ ที่พระองค์ทรงขับรถพระที่นั่งลงไปอยู่กลางน้ำ
แถวจังหวัดนราธิวาส พอเปิดประตูออกไปเป็นพงหนามพอดี นอกจากลงน้ำแล้วยังมี
พงหนามอยู่ในน้ำด้วย และพอเวลาเสด็จฯ ไปถึงที่ไหนก็จะทรงมีพระราชปฏิสันถาร
กับทุกคน จนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าขืนทรงทักคนทุกจุดอย่างนี้ กว่าจะถึงวังก็
Good Morning และไปทีไรก็ Good Morning ทุกที

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์เกี่ยวกับ
หลักการทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากหนังสือ พระมหากษัตริย์นักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขสู่ปวงประชา
โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ



-------------------------------------------------------------------

รถยนต์ที่ทรงขับด้วยพระองค์เอง คือ Jeep Wagoneer (1963-1993)
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง คาบูเรเตอร์ ขนาด 3.8 ลิตร 147 แรงม้า
ที่ 4,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 292 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ





18 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1020158808093336/?type=3&theater

ว่าที่ร้อยโท ดิลก ศิริวัลลภ เล่าว่า เรื่องการทรงงานหนักเป็นอีกเรื่องหนึ่งใน
ความประทับใจ บางครั้งเสด็จฯ ตั้งแต่เที่ยงวันถึงตอนเที่ยงคืน หรือ แม้กระทั่ง
กลับตี 4 ยังเคยมี

พูดได้ว่าเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงงานหนักที่สุดในโลกก็ว่าได้
ไม่มีที่ไหนที่ไม่เสด็จฯ ไป ในป่า ในทุ่งนา ในดง ในเขา ตามแม่น้ำลำคลอง
และ ป่าพรุ พร้อมอุปกรณ์ ได้แก่ แผนที่ กล้องถ่ายรูป และ ดินสอ

ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปบ้านโต๊ะโมะ อำเภอสุคิริน ตอนน้ำท่วม พอถึงบ้านไอตีมุง
สะพานขาด รถยนต์ในขบวนต้องวิ่งลงในแม่น้ำใต้สะพาน หัวรถพระที่นั่งจมหาย
ไปในสายน้ำที่ไหลเชี่ยวขณะวิ่งผ่าน ดังที่เราได้เห็นภาพตอนช่วงต้นก่อนการ
เสนอข่าวในโทรทัศน์ ทำให้เกิดความประทับใจมาก

“ จำได้ว่าครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปอำเภอเบตง ตั้งแต่ 9 โมงเช้า กลับมาตี 4
เพราะคนที่มารอเฝ้ารับเสด็จฯ มีจำนวนเยอะมาก พระองค์ท่านเห็นประชาชนแล้ว
ไปต่อไม่ได้ เสมือนว่าถูกอะไรบางอย่างดึงดูดให้ต้องอยู่

สังเกตได้ว่าพระองค์ท่านจะมีความสุขที่สุด ทรงได้เห็นประชาชนของท่าน
มาเฝ้ารับเสด็จ จะทรงดีใจและมีความสุขใจมากเมื่อได้พระราชทาน
ความช่วยเหลือประชาชนที่ลำบาก พระองค์ท่านทรงยิ้มแย้มแจ่มใส"

ที่มา : 'ในหลวง...ของเรา' ในความทรงจำของล่ามมลายู (ตอน ๑)
http://www.oknation.net/blog/narapong-sak/2007/10/15/entry-1





19 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/posts/1021923027916914

ไม่ว่าจะเสด็จฯไปที่ไหนๆก็ตาม คนไทยมักจะได้เห็นว่าในหลวงทรงถือแผนที่ไว้เสมอ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่าถึงเรื่อง “แผนที่ของในหลวง”
นี้ไว้ในรายการพูดจาภาษาช่าง ทางสถานีวิทยุจุฬาฯ ไว้ว่า

“ แผนที่แผ่นหนึ่งของท่านค่อนข้างจะกว้างกว่าแผนที่ที่ใครๆเห็นกันทั่วไป เพราะ
ท่านเอาหลายๆระวาง มาแปะติดกัน การปะแผนที่เข้าด้วยกัน ท่านทำอย่างพิถีพิถัน
แล้วถือว่าเป็นงานที่ใครจะมาแตะต้องช่วยเหลือไม่ได้เลยทีเดียว

ท่านได้ตัดหัวแผนที่นั้นออก แล้วส่วนที่ตัดออกนั้นทิ้งไม่ได้ ท่านจะค่อยๆเอากาว
มาแปะติดกัน สำนักงานของท่านคือห้องกว้างไม่มีเก้าอี้ มีพื้น แล้วท่านก้มอยู่กับพื้น
แล้วเอากาวติดกับแผนที่เข้าด้วยกัน

แล้วเวลาเสด็จไป ก็ต้องไปถามชาวบ้านว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน ทิศเหนือมีอะไร
ทิศใต้มีอะไร ท่านถามหลายๆคน แล้วตรวจสอบไปมาว่าแผนที่อันนั้นถูกต้องดีหรือไม่
น้ำไหลจากไหนไปที่ไหน ”

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=838846



(ภาพด้านล่าง 3 ภาพ คือ ลายพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน, ส่วนรถยนต์ที่
ทรงประทับอยู่ และ ขับด้วยพระองค์เอง คือ Jeep Wagoneer (1963-1993)
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง คาบูเรเตอร์ ขนาด 3.8 ลิตร 147 แรงม้า
ที่ 4,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 292 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)







20 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/posts/1022827661159784


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงงานยังพื้นที่จริง ซึ่งเกือบ 100%
เป็นที่ทุรกันดาร บางแห่งข้าราชการยังไม่เคยไปหรือไม่กล้าไป เพราะกลัวอันตราย
ด้วยซ้ำ หรือถ้าวันไหนอากาศไม่ดี หากเป็นผู้ใหญ่ไปดูงาน ฝนมาก็เลื่อน หรือยกเลิก

แต่สำหรับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีคำว่า " ยกเลิก " เพราะอากาศไม่ดี
แถมยังเสด็จฯ ออกนอกเส้นทางเป็นประจำ ถ้าทีมถวายความปลอดภัยกราบบังคมทูลว่า
“ เสด็จฯ ไม่ได้ ไม่มีถนนตัดผ่านพระพุทธเจ้าข้า ” พระองค์ท่านจะรับสั่งกลับมาทุกครั้งว่า

“ ฉันไปได้ ”

ทั้งที่หลายครั้งต้องทรงพระราชดำเนินปีนป่ายไปบนภูเขา หรือทรงพระดำเนิน
ไต่ลงไปในหุบเหว ที่เต็มไปด้วยโคลนตม ปลิง และ ทาก จนค่ำมืดดึกดื่น หลายครั้ง
สมเด็จพระเทพฯ ตามเสด็จฯ ด้วย มีท่านพระองค์เดียวที่ดึงทากออกจากพระบาทได้
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเล็กสำหรับในหลวง

คืนหนึ่งผมได้ร่วมโต๊ะเสวย หลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่
ทุรกันดารแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระราชกระแสรับสั่งที่ยังก้อง
อยู่ในหูของผม จนถึงทุกวันนี้คือ

“ ที่เขายากจนต้องมาทำมาหากินในพื้นที่แห้งแล้งเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะมา
แต่เพราะเขา ไม่มีที่อื่นจะไป ที่ฉันช่วยเขา ไม่ใช่ว่าจะช่วยตลอดไป แต่ช่วย
เพื่อให้เขา ได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเองต่อไป ”

จากคำบอกเล่าของ สวัสดิ์ วัฒนายากร อดีตองคมนตรี อดีตตุลาการศาลปกครอง
สูงสุด และ อธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์









พระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจปวงชนตลอดไป ขอพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

ข้าพระพุทธเจ้า ทีมงาน WWW.HEADLIGHTMAG.COM
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2016, 08:41:27 โดย MoO Cnoe »

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,701
ขอบคุณทางทีมงานที่ได้นำเรื่องราวดีๆ และทรงคุณค่าเกี่ยวกับพระองค์ท่านมาให้พวกเราได้เข้าใจถึงความเหนื่อยยากของท่านตลอด 70 ปีครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,723
  • Nine & Knight
เรื่องราวของพระองค์ท่านมีแต่เรื่องราวดีๆที่เล่าได้ไม่มีวันหมดเพราะสิ่งที่ทำนั้นเยอะจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวงกันซึ่งไม่แค่คนไทยคนต่างชาติมากมายก็รักในหลวง ไม่ได้รักที่เป็นกษัตริย์แต่รักในความดีและจริยวัตรของท่าน
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Harem

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,818

ออฟไลน์ rotorsx

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
ขอบคุณทีมงาน Headlight ทุกคนที่นำเสนอความรู้ และเรื่องดีๆ เกี่ยวกับรถยนต์มาโดยตลอด

ออฟไลน์ ceberos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 779
    • อีเมล์
ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีเสมอมา คำว่าพอเพียง มาจากพ่อหลวงของเราจริง ๆ

ภาพที่ติดอยู่ในหัวของผม คือ ยาสีฟันที่รีดจนหลอดแบนครับ

ยังไม่เคยเห็นท่านใช้อะไรที่หรูหราซักชิ้นเลยครับ

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,997

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,021
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,187
    • อีเมล์
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ  ขออนุญาติแชร์ต่อนะครับ

ออฟไลน์ masuoka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
สมัยพระองค์ทรงงาน ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ไปในที่ห่างไกลมากๆ ทรงศึกษาแผนที่ที่ทรงทำขึ้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะไปถึงที่หมายได้ตรงจุด เพราะสมัยนั้นยังไม่มีระบบ gps ดาวเทียมนำทาง ทรงมีพระปรีชาสามารถมากๆเลยนะครับ


ออฟไลน์ Paully

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 205
    • อีเมล์
มีอีกคัน จาก MV ต้นไม่ของพ่อ

นาทีที่ 2.01-2.07
น่าจะเป็น Lexus LS400

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,062
    • อีเมล์
มีอีกคัน จาก MV ต้นไม่ของพ่อ

นาทีที่ 2.01-2.07
น่าจะเป็น Lexus LS400

ที่ผมจำได้มีอีกหลายคันครับ

- Honda Insight รุ่นแรก

- Toyota Camry ACV30 2.4Q

- Lexus GS300 รุ่นที่แล้ว

- Toyota Alphad รุ่นแรก

ส่วนใหญ่จะเป็นรถตระกูล toyota

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***

ออฟไลน์ tubtup

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
    • อีเมล์

ออฟไลน์ Mr.Boogie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2016, 19:34:13 »
ขอบคุณข้อมูล ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2016, 11:42:58 โดย Darkart »
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,048
ขอบคุณที่มาแจ้งครับ อย่าง SUV เก่าๆนี่ผมไม่คล่องก็ได้รับทราบ
ส่วน TOYOTA เมื่อก่อนทราบเพียงว่าพระองค์มี Corolla นอกเหนือจาก Soluna ก็ได้ทราบว่ามีรถไฮบริดด้วย

ออฟไลน์ Life is a Highway

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,334
  • My Way or The Highway
อีกเรื่องราวจากคุณนะจังงัง

อุบัติเหตุของพระเจ้าอยู่หัว…ที่ไม่น่าเกิด...! และคนไทยบางคนอาจไม่เคยรู้....!

เหตุร้ายมักจะเกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดฝันเสมอ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อรถยนต์พระที่นั่งและรถยนต์ในขบวนเสด็จฯ ถึงตัวเมืองนราธิวาสตรงแยกถนนพิชิตบำรุง หน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส ตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์อยู่ตามปกติ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ากำลังเสด็จฯ กลับ และมีการปิดจราจรบนถนนที่ไปสู่ถนนสายที่กำลังเสด็จฯ อยู่ทุกด้านแล้ว

เหตุการณ์ที่มิมีผู้ใดคาดฝันเกิดขึ้นเมื่อจักรยานต์คันหนึ่งแล่นมาโดยเร็ว และผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังรักษาการณ์อยู่เข้ามาได้จนถึงรถยนต์พระที่นั่ง แล้วพุ่งเข้าชนรถพระที่นั่งทางประตูด้านซ้ายอันเป็นด้านที่พระเจ้าอยู่หัวทรงนั่งและทรงขับรถยนต์คันนั้นอยู่

ครั้นแล้ว รถจักรยานต์คันนั้นก็เสียหลักกระเด็นไปล้มลงที่ริมถนน ทั้งคนขับและผู้ที่นั่งซ้อนท้ายอีกสองคนกระเด็นออกนอกรถ ล้มลงนอนแน่นิ่งอยู่

ผมนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในรถของตำรวจซึ่งแล่นอยู่ถัดรถยนต์พระที่นั่งทางด้านหน้า และเห็นเหตุการณ์จากกระจกมองหลังทันทีและโดยตลอด พอรถนำตำรวจหยุด ผมก็วิ่งเต็มฝีเท้าไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ขณะที่วิ่งไปนั้นผมคิดอย่างเดียวว่า เหตุที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปตามแผนของผู้ไม่หวังดีต่อพระยุคลบาท ผมเข้าไปยืนข้างรถยนต์พระที่นั่งและหันหน้าออก อาวุธปืนกลในมือเตรียมพร้อม ตั้งใจว่าหากมีเหตุการณ์ต่อไปที่ยืนยันความสงสัยของผม ก็จะใช้อาวุธในมือทันที


เจ้าหน้าที่ถวายความปลอดภัยทั้งที่ตามเสด็จฯ อยู่ในขบวนและที่อยู่นอกขบวนต่างวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ และเมื่อพบว่า ผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันนั้นและผู้นั่งซ้อนท้ายทั้งสามต่างนอนสลบอยู่ ก็ช่วยกันทำปฐมพยาบาล ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง และต่อมาแพทย์ต้องตัดเท้าข้างนั้นออก ทั้งสามคนได้รับการรักษาพยาบาล และควบคุมตัวไว้เป็นผู้ต้องหาฐานขับรถโดยประมาท

ขณะที่ทุกคนกำลังสาละวนอยู่กับคนเจ็บนั้น พระเจ้าอยู่หัวประทับนิ่งทอดพระเนตรอยู่โดยไม่มีพระราชกระแสรับสั่งอย่างใด จนกระทั่งคนเจ็บถูกนำตัวไปพ้นที่เกิดเหตุแล้ว จึงทรงขับรถยนต์พระที่นั่งและเสด็จฯต่อไปยังพระราชตำหนัก

ผมต้องยอมรับว่ารู้สึกอับอายขายหน้าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ทราบว่าผู้ขับจักรยานยนต์คันนั้นเป็นพลตำรวจสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสนั่นเอง ก่อนเกิดเหตุ พลตำรวจผู้นั้นไปเที่ยวดื่มสุราและคงจะเมา และคงเป็นเพราะความเมา จึงขับฝ่าแถวตำรวจที่ยืนระวังรักษาการณ์อยู่จนกระทั่งไปชนรถพระที่นั่ง

และที่ทำให้ผมรู้สึกอายเป็นซ้ำสองก็เพราะปรากฏว่าตำรวจที่ยืนระวังรักษาการณ์และมีหน้าที่ต้องสกัดกั้นมิให้คนใดหรือรถชนิดใดผ่านไปจนถึงรถพระที่นั่งได้นั้น ไม่มีใครเลยที่สามารถทำหน้าที่นั้นได้

ก่อนที่กรมตำรวจจะทันเอาผิดและลงโทษพลตำรวจผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันนั้น ก็มีพระราชกระแสรับสั่งลงมาว่า ขออย่าให้ลงโทษหนักมิหนำซ้ำยังกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่พลตำรวจผู้นั้นในการรักษาพยาบาลบาดเจ็บของเขาด้วย

หลังจากเกิดเหตุการณ์แล้ว กรมตำรวจได้ออกแถลงการณ์และสั่งกำชับให้มีการประชุมวางแผนเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายทำนอนนั้นขึ้นได้อีก ขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่า แม้เวลาล่วงเลยมาแล้วถึง 23 ปี การวางแผนราชการไทยนั้นมักจะมีแต่เป็นตัวหนังสือ ไม่มีการสมมุติเหตุการณ์และฝึกซ้อมให้เจ้าหน้าที่ได้หัดเผชิญและแก้ไขสถานการณ์กันเลย เพราะฉะนั้นพอเกิดเหตุการณ์ร้ายหรือฉุกเฉินขึ้น เจ้าหน้าที่จึงมักสิ้นสติ ตกตะลึง และไม่รู้จะทำอย่างไร

ความอับอายขายหน้ายังพอทำเนา แต่ถ้าเหตุการณ์ร้ายแรง จนกระทั่งเป็นอันตรายถึงเบื้องยุคลบาท ความเสียหายที่ตามมานั้นจะรุนแรงกว้างขวาง ไม่มีมาตรการใดจะบำบัดหรือแก้ไข

ไม่มีใครนึกว่า เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นในวันนั้นแล้ว รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีก....! 

วันที่ 22 กันยายน 2520 ยะลา เวลา 13.28 น. พระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ พร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงทั้งสองพระองค์ เพื่อไปพระราชทานรางวัลแก่ครูโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้

เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นเมื่อมีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นสองครั้งติดๆกันที่หลังปะรำอันเป็นที่ที่ทางราชการจัดไว้ให้ประชาชนนั่งเฝ้าฯ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของพลับพลาพิธีที่ประทับ ปะรำนั้นอยู่ห่างพลับพลาที่ประทับประมาณ 50 เมตร พอสิ้นเสียงระเบิด ก็มีเสียงร้องด้วยความตระหนกและเจ็บปวดตามมา ราษฏรที่นั่งเฝ้าพากันลุกฮือขึ้นเพื่อหลบภัยอันตราย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สำหรับผมคือฝันร้ายที่กลายเป็นจริง ผมเคยถามตัวเองอยู่เสมอๆ ก่อนหน้านี้ว่า หากเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นจะทำอย่างไร นายตำรวจราชสำนักประจำได้รับการกำชับว่า ในกรณีเช่นนั้นความปลอดภัยของพระยุคลบาทเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และจะต้องคำนึงถึงก่อนสิ่งใดทั้งสิ้น เราตกลงกันว่า ในกรณีเช่นนั้นเราจะต้องเข้าล้อมพระวรกายเอาไว้ มิให้อันตรายถึงพระยุคลบาท

ผมตัดสินใจก้าวจากพื้นพลับพลาขึ้นไปบนแท่นที่เขาจัดถวายให้เป็นที่ประทับของทั้งสี่พระองค์โดยเฉพาะ ผมเข้าไปยืนชิดจนชิดพระวรกายพระเจ้าอยู่หัว และหันหน้าออกเพื่อเผชิญภัยที่อาจตามมา พร้อมๆกันนั้นนายทหารราชองครักษ์ประจำและนายตำรวจราชสำนักประจำคนอื่นๆก็ปฏิบัติอย่างเดียวกัน ผมเชื่อว่าคงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พวกเราได้เข้าถวายความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดถึงเพียงนี้

ตามหลักการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นสิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพึงกระทำ ก็คือเอาตัวบุคคลสำคัญผู้นั้นออกจากที่เกิดเหตุไปทันที เพื่อมิให้ได้รับอันตรายจากเหตุร้ายที่จะตามมาอีก

แต่ไม่มีใครกล้ากราบบังคมทูลให้เสด็จออกจากพลับพลาพิธีนั้น เพราะทั้งพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จฯ ทรงแสดงกิริยามั่นคง ทรงยืนนิ่ง สีพระพักตร์เป็นปกติ

สิ่งที่ผมเห็นข้างล่างก็คือ บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาลูกเสือชาวบ้านได้เข้าระงับควบคุมฝูงชนอย่างฉับพลัน มีการใช้เครื่องขยายเสียงแบบมือถือที่เตรียมไว้แล้วปลอบโยนประชาชนมิให้ตื่นตระหนก และให้อยู่กับที่ ขณะเดียวกันก็มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล

และอีกอย่างหนึ่งที่ผมมิได้คาดฝันว่าจะได้ยินคือ เมื่อประชาชนอยู่ในความสงบแล้ว พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงก้าวพระบาทเข้าไปหาไมโครโฟน แล้วทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทด้วยพระสุรเสียงที่เป็นปกติ ไม่มีสั่นหรือเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ข้อความตอนหนึ่งมีว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น หากปรองดองกัน ให้กำลังใจและขวัญซึ่งกันและกัน รู้จักสงบจิตสงบใจ ก็จะสามารถขจัดภยันตรายและรักษาสถานการณ์ไว้ได้ด้วยดี

พระราชกรณียกิจต่อจากนั้น ทั้งสองพระองค์พร้อมทูลกระหม่อมหญิงยังทรงปฏิบัติเป็นปกติ แทนที่จะเสด็จฯ กลับเพื่อความปลอดภัย ทรงพระราชดำเนินเยี่ยมประชาชนอย่างใกล้ชิดเป็นปกติ
ไม่ต้องสงสัยว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นจะทำให้ราชการโดยเฉพาะกรมตำรวจวิตกกังวลเพียงใด ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ 4 คน ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ยึดของกลางได้หลายรายการ มีสายไฟชิดเดียวกับที่ใช้ทำลูกระเบิด ผลการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ไม่ปรากฏจำเลยให้การซัดทอดผู้ใดว่าเป็นผู้ว่าจ้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ได้มีการกระทำที่ส่อความไม่จงรักภักดีในพระยุคลบาท เป็นการข่มเหงรังแกน้ำใจคนไทยทั้งชาติ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
มีอีกคัน คันสีขาว ที่จอดอยู่ใน ที่ประทับ ที่ จังหวัดเพชรบุรี ครับ ผมจำรุ่นไม่ได้

เป็นกระบะโตโยต้า  :-* :-* :-* :-*

ออฟไลน์ golf8023

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,381
    • อีเมล์
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

ครั้งนึง วันที่5ธันวาของปีหนึ่ง ท่านทรงตรัสให้ประชาชนาที่มาเข้าเฝ้าในวันนั้นให้ฟังถึงคุณทองแดงสุนัขทรงเลี้ยง
คุณทองแดงต้องเดินทางจากพระราชวังไกลกังวลมายังกรุงเทพฯ (หรือเดินทางจากกรุงเทพฯมายังไกลกังวล ผมไม่แน่ใจ) ทรงตรัสว่าคุณทองแดงนั้นนั่ง BMW Series 7 เลยนะ ส่วนเราน่ะนั่งToyota ^_^
ผมได้ฟังผ่านทีวียังจำเสียงของท่านและเสียงหัวเราะของประชาชนที่มาเข้าเฝ้าได้จนถึงทุกวันนี้

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,495
 :( :( :( :(

ช่วงนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยอยากให้มาถึงจริงๆ อยากให้เป็นแค่ฝันร้ายตื่นนึงก็พอ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,826
พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างทีี่ทุกคนควรจะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและทำความดีถวายแด่พระองค์ท่าน ช่างเป็นโชคดีของประเทศไทยเราจริงๆครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ popdemonic

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
  • I'm Back!
จนถึงวันนี้ผมก็ยังน้ำตาคลอทุกครั้งที่เห็นพระราชกรณียกิจของท่านผ่านทางสื่อต่างๆ เห็นพระราชอารมณ์ขันของท่าน
รักพ่อหลวงรัชกาลที่9สุดหัวใจครับ

ออฟไลน์ Sappe!

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,975
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล
'02 Ford Ranger 2.5 Turbo XLT
'06 Ford Ranger 3.0 TDCi XLT
'10 Ford Focus 2.0 TDCi Ghia
'11 Ford Fiesta 1.6 Sport
'14 Ford EcoSport 1.5 Titanium