ผู้เขียน หัวข้อ: เบนซิน Turbo 1.5 L กับ 2.5 V6 ขับใช้งานจริงแรงต่างกันมากไหมครับ  (อ่าน 6805 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jatupon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
ใช่แล้วครับ กำลังหมายถึง  Civic Turbo RS 1.5  กับรถที่ใช้อยู่ตอนนี้ Teana J32 V6

คือผมเองใช้รถแบบ คนปกติธรรมดาทั่วไป จากบ้านเช้าไปเย็นกลับ ออกต่างจังหวัดบ้างปีนึง  2-3 ครั้ง แต่ที่เลือก  J32 V6  เพราะต้องการ  Option + พละกำลังช่วงเร่งแซง หรือกดคันเร่งพอให้อดรีนาลินสูบฉีดบ้าง ไม่ได้ขับเร็วหรือต้องการ  Top speed  อะไรขนาดนั้น  อารมณ์เหมือนผู้ชายที่ดูสุภาพ เรียบร้อยดี   แต่พร้อมป้องกันตัวเองเมื่อถูกหาเรื่อง .....(เอ๊ะยังงัยกันแน่) 

Teana  เข้าปีที่ 7  แล้ว แต่สภาพดีเพราะดูแลรักษาและเปลี่ยนอะไหล่แท้มาตลอด    บังเอิญช่วงนี้เห็น  Civic  ใหม่บ่อยเหลือเกิน โดยเฉพาะตัว  Turbo  RS .....แหม  ยิ่งดูยิ่งเข้าตาแฮะ

เนื่องด้วยไม่เคยลองขับ  จึงอยากสอบถามเพื่อนๆ ว่าเบนซิล  Turbo  downsize   กับรถ  NA  เครื่อง  V6 2500  ขับจริงแล้วแรงต่างกันมากไหมครับ   ดูตัวเลขในตารางทดสอบแล้ว    Civic  Turbo RS  แรงกว่าแน่    แต่ผมกำลังหมายถึงการกดคันเร่งใช้งานจริง   คือ  J32 V6 กำลังมันมาหนุนเนื่องทุกจังหวะโดยไม่ต้องเค้น  ไม่ต้องพึ่งอัตราทดเกียร์  วิ่งยาวๆ ก็กดคันเร่งเรียกม้าได้เรื่อยๆ  ......  เบนซิล turbo  down size
ขับแล้วได้ความรู้สึกแบบนี้ไหม 

ปล.   1. อายุ  35  แต่งงานแล้ว แต่ไม่มีลูกใช้รถคนเดียวเป็นหลัก   เปลี่ยนจาก J32  มาเป็น  Turbo  RS จะเข้าท่าไหม
        2. มีรถสำรองจอดอยู่บ้านคุณพ่อเป็น ACV 50 2.0 G ใช้ได้เมื่อ รถหลักเข้าศูนย์ 
 

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
เรื่องแรงตอบโจทย์นะผมว่า
ถ้าเน้นต้น กลาง Civic1.5T ผมว่าสนุกกว่า Teana J32 V6

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
ลองรถติดโบแล้วอาจจะชอบนะ 8)

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
ผมว่ายังไม่ต้องเปลี่ยนครับ ไม่ได้แรงกว่ากัน
สิ่งที่ดีกว่าเทียน่าคือการตอบสนองเกียร์ คืออาการslipน้อยกว่า ถ้ามีการกดคันเร่งกะทันหันสักหน่อยจนถึงมาก  นอกนั้นผมยังไม่เห็นว่าส่วนไหนดีกว่าเทียน่าเลยครับ

ในภาพรวมคุณจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับ civicเลย แนะนำว่าไปลองขับดูครับ ผมพูดจากคนที่ขับเทียน่าแล้วไปลองขับ civic turbo

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,259
    • อีเมล์
ถ้าคิดถึงขนาดนั้น ผมว่าต้องลองเปรียบเทียบแบบระเอียดแล้ว
ซึ่งเครื่อง downsize ปัจจุบัน หลายๆ ยี่ห้อ boots ติดเร็ว ดึงเร็ว toque ก็มารอบต่ำ ยิ่งมาแบบ flat toque แล้วน่ะครับ ไม่เหมือนเครื่อง turbo แต่ก่อน กว่าจะติด boots ต้องรอรอบกลางๆ ขึ้นไป ซึ่ง v6 teana ก็ต้องดูว่า ดึงตอนไหน ดึงยาวแค่ไหน (ส่วนตัวเคยลองแค่ 2.5 ตัว J33)

สุดท้าย ต้องไปลองขับดูครับ เอาความรู้สึกตัวเองเข้าว่าเลย ว่าชอบหรือไม่ชอบ ใช่หรือไม่ใช่

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
ไม่เคยj32 2.5 แต่ 2.0ผมว่าไปRS ไม่ต้องคิดเลยครับ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,192
    • อีเมล์
เคยลองแต่รถ 2.0T เทียบกับ na ผมว่าใช้ในเมืองดึงพอๆกับเครื่อง na ระดับ 3.5 เลยครับ แต่รถ na คันเร่งตอบสนองช่วงกดแรกๆได้ทันใจกว่า
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 926
ผมคิดว่า กิเลส ล้วน ๆ ครับ    ตอนนี้ยังไม่มีลูก คือตั้งใจมีแต่ยังไม่มี หรือไม่คิดจะมี  ถ้าเป็นแบบแรกคุณก็ใช้คันเดิม ๆ ไปเหอะ อนาคตไม่แน่นอน ลูกค้าผมบางคนมีลูกหลงมาตอนอายุ 40 กว่า ๆ  ถึงตอนนั้น ค่อยมาคิดอีกที

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,912
    • อีเมล์
ขับd segแล้วขยับกลับไปc seg  ระยะยาวอึดอัดแน่ครับ  ผมเคยแล้วสุดท้ายกลับมาคันใหญ่เครื่องเล็กก็ยอม

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,492
  ผมว่าไม่ต่างกันนะ  เทียน่า  อาจจะมาเนิบๆ  ดีงไม่หนัก  แต่เรื่อย ๆ

  ลองกลับไปหารีวิวเก่ามาเทียบกับรีวิวซิวิคใหม่ซิครับ   น่าจะเห็นภาพมากกว่า

  ถ้าเทียบกับรถผม โบ04  ซึ่งบูสต์ติดที่ สองพันสองร้อยรอบ และหนักหน่วงหลังสามพันรอบ... ซีวิคมาเร็วกว่า พันห้าก็มาแล้ว  แต่เนิบ ๆ  (ดึงแบบสุภาพ)

ออฟไลน์ zgmx9900

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
ช่วงแรกอาจจะสนุกและชอบCivic แต่ใช้ไปสักพักคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างระหว่าง D-seg กับ C-seg
แถมที่บ้านคุณยังใช้ D-seg 2คันด้วย

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,584
ซีวิคอาจจะขับมันส์กว่าเพราะรถมันแรงตัวถังมันเบาแต่อย่างอื่นช่วงล่างพวงมาลัยอาจจะสู้ไม่ได้ทางทีดีผมว่าต้องไปลองครับ

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
อาจจะเริ่มเบื่อๆคันเดิมหรือเปล่าครับ

ผมว่า D-segment มีหลายอย่างที่ C ทดแทนไม่ได้ครับ

ถ้าแค่เครื่อง 1.5T ในตัวรถที่เบากว่า อาจทำให้กระฉับกระเฉงกว่า ติดเท้ากว่า แต่ดูจากการขับใช้งาน ผมว่า D-seg ยังน่าจะให้อะไรได้มากกว่าครับ


*** สำหรับผม ขับ 1.6T กับ 2.5 n/a สลับกันสัปดาห์ละคันตลอด วันละ 220 กม. ให้เลือกคันเดียวเลือก 2.5 n/a ครับ มันได้อะไรที่นอกเหนือจากกำลังการตอบสนองเยอะครับ ***
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ Jatupon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
เพิ่งเข้ามาดู   ขอบคุณ น้องๆ  เพื่อนๆ ครับผม

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,399
ยังไม่เคยขับ1.5t นะครับแต่วันก่อนขับ G9 hybrid แล้วเจอ rs ไล่บอกเลยว่าหนีออกยากมาก hybrid เร็วกว่านิดเดียวจริงๆ แถมล้อคเร็วกว่าด้วย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,483
ผมว่ามันคนละอารมณ์เลยนะ เครื่องเทอโบ กับ NA

ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 700
ถ้าดูเฉพาะตัวเลขทดสอบ RS turbo เร็วกว่า D-seg เครื่องธรรมดาแน่นนอน
คือมันขึ้นไปเทียบชั้นกับ D-seg Hybrid ทั้งหลายได้สบาย
แต่สิ่งที่ RS turbo กับ C-seg อื่นๆให้ไม่ได้คือ การเก็บเสียง ความนิ่ง เงียบ ความผ่อนคลาย ความกว้างของห้องโดยสาร ที่ D-seg มีให้มากกว่า

ถ้าเป็นผมเลือก จะดูว่าถนนที่ขับประจำต้องเร่งแซงบ่อยแค่ไหน เป็นถนน 2 เลนรถสวน หรือ 4 เลน
ถ้าขับแต่ในเมือง ขึ้นทางด่วน ถนน 4 เลนตลอด ใช้ความเร็ว cruising ต่อเนื่องมากกว่าการเร่งแซง ผมเลือก D-seg ครับ

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,677
ผมก็ใช้ J32 แต่ 2.0 นะครับ
แล้วก็เพิ่งซื้อ Turbo RS มา ได้ 1 เดือน

อารมณ์ต่างกันมากมายจริงๆครับ
Passenger Car
กับ
Driver Car

ต่างกันชัดเจนเลยครับ ชีวิตมีชีวามากขึ้นครับ ขับ J32 มัน นุ่มเงียบ สบาย
ขอบ RS ไม่เงียบเท่า ไม่นุ่มเท่า แต่ก็เงียบ และ นุ่ม พอตัว ตามสไตล์ Honda ยุคใหม่นะ

เทอร์โบใน RS เนื่องจากผมมีรถที่แรงกว่า เลยไม่รู้สึกว่า RS มันแรงเท่าไหร่
แต่ตอนดึงก็พอสนุกได้ครับ สนุกกว่าเครื่อง NA เยอะพอสมควรครับ

เอาเป็นว่าถ้าอยากให้ ชีวิตมีชีวา ก็ลอง Turbo ดูครับ 2.5 NA มันแรงก็จริง
แต่มันไม่ดึงเท่ามี Turbo แน่ๆครับ ความมันการขับรถมันไม่ได้อยู่ที่ตีนปลายๆ
มันอยู่ที่คันไหนดึงดี เหยียบพุ่งมากกว่า ก็สนุกกับมันได้มากกว่า (ต้องลองครับ สไตล์ใครสไตล์มัน)
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
รถใช้งานอยู่ เครื่อง NA ต้องไปลองขับ Civic 1.5Turbo RS แล้วถามใจตัวเองครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
ถ้าถามความแรง ผมว่าเทียน่าคงกินได้ตอนปลาย แต่ปลายเท่าไหร่ละนั่นละตอบไม่ได้ เพราะท็อปสปีดเท่าไหร่ กล้ากดกันขนาดไหน
ถ้าความมันในการขับ เทอร์โบสนุกกว่าอยู่แล้่ว

ออฟไลน์ bluecef169

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
ยังไม่เคยขับ1.5t นะครับแต่วันก่อนขับ G9 hybrid แล้วเจอ rs ไล่บอกเลยว่าหนีออกยากมาก hybrid เร็วกว่านิดเดียวจริงๆ แถมล้อคเร็วกว่าด้วย


เล่นยาวๆครับ N/A ได้เปรียบกว่าเทอร์โบเยอะ เทอร์โบลากรอบแช่ยาวไม่ได้นะครับ ไงก้ต้องถอน ไม่งั้นแกน/ใบเทอร์โบไปก่อนเลยครับ
NISSAN Sunny B310  MT '1975 สีไข่ไก่
NISSAN Cefiro A31  RB25DET MT '1994 สีฟ้า
HONDA City VAT Society '2011  สีขาวมุก