ไม่ยากถ้าจะทำ..ถ้าทุกวันนี้เครื่อง Jazz L15A ติดเทอร์โบป้อน 0.3 บาร์โดยไม่ได้ดัดแปลงภายในเครื่อง และยังวิ่งควอเตอร์ไมล์ได้เร็วกว่า Civic 2.0, Focus TDCi.
ถ้าบริษัทรถยนต์ต้องถูกจำกัดด้วยกฏดังกล่าว ไม่้ต้องห่วง อีกไม่นานมี March Turbo เซ็ตเองโผล่มาให้เห็นแน่ๆ
แล้วจะได้เห็นกันซะทีว่าการเอาเครื่องเล็กจากโรงงานมาทำเป็นสเป็คเทอร์โบ มีระบบกรองไอเสียและควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพ จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าการทำเครื่องใหญ่ขยายแต่ความจุอย่างเดียว
ในระหว่างที่สาธารณูปโภครองรับรถไฟฟ้ายังมาไม่ถึงประเทศไทย เราน่าจะหาหนทางอื่นเพื่อทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่ปล่อยมลพิษน้อยลงให้ได้มากที่สุด ที่ต่างประเทศนั้นเขายอมรับเครื่องเล็กๆกันมานานแล้ว VW ในปัจจุบันใช้เครื่อง 1.4 ลิตร 122 แรงม้า แรงบิดพอๆกับเครื่อง 2.0 ที่ไม่มีระบบอัดอากาศ Ford ฝั่งออสเตรเลียมีรถใหญ่อย่าง Falcon ที่มักใช้เครื่อง 4.0 ลิตรขึ้นไป Falcon (หรือรถที่มาแทน)รุ่นต่อไปจะมีเวอร์ชั่นเครื่อง 4 สูบเล็ก ใช้เทอร์โบมาเป็นรุ่นล่างแทน
เบนซ์ก็ทำแบบนี้มานานแล้ว โดยใช้เครื่อง 1.8 ซูเปอร์ชาร์จ อัดกำลังจนได้มากเท่าเครื่อง 2.8 ลิตร และ E-Class ในปัจจุบัน ขนาด 1.8 ลิตร แรงบิดประมือได้กับเครื่อง 3.2 ลิตร แต่เวลาวิ่งที่รอบเดินเบา ปล่อยมลพิษน้อยกว่า และส่วนมากเวลาวิ่งกันก็ไม่ได้กดคันเร่งลึกจนปล่อยมลพิษมากอยู่แล้ว
SAAB เองเป็นต้น ค่ายนี้ยืนหยัดกับเครื่อง 4 สูบเทอร์โบ ใช้เทอร์โบเรียกกำลังแทนความจุมาตลอด แม้จะมีเครื่อง V6 ที่ GM เอามาให้ใช้บ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดจะทำรถเครื่องบล็อคโตๆออกมาขาย
เปอโยต์ ซีตรอง ก็เช่นกัน
ณ จุดนี้ ผมท้าเลยครับ ถ้า Tiida จะทำเครื่องที่มีความจุเล็กลง ไม่ต้องมีเทอร์โบ เอาไว้ใช้ขายสำหรับตลาดทั่วไป และใช้เทอร์โบสำหรับเครื่องที่เน้นสมรรถณะ โดยไม่ไปเน้นที่การขยายความจุ..รับรองว่าประเทศอื่นเขายอมรับ
มีแต่ประเทศไทยนี่ล่ะ ที่จะเอามาใช้ไม่ได้ ด้วยเหตุผลเช่นความกังวลเรื่องความทนทาน ต้นทุนการผลิต หรือน้ำมันไม่สะอาดพอ