« เมื่อ: มกราคม 09, 2017, 18:33:55 »
รถคันนี้เกิดขึ้นมาจากการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า Fortuner ที่ซื้อรถไปแต่ง ว่าคนเหล่านั้นทำอะไรเพิ่มให้กับรถตัวเองบ้าง จากนั้นนำมาบริหารงบแล้วจัดอุปกรณ์ต่างๆใส่ลงไปชนิดที่ว่าแม้แต่คนชอบแต่งรถ ซื้อ TRD รุ่นนี้ไปแล้วไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม จ่ายครบจบในคันเดียว
ผมพูดกับคนอื่นว่าขับรถมาหลายปี เห็น Fortuner หลังคาดำน้อยมาก..มันจะขายได้เร้อ (เสียงสูง) แต่พอคุณบอล Northbridge กับน้อง Kwan P บอกว่า "มันมานะพี่..เทรนด์มันมา คอยดู" เพียงเดือนเดียวหลังจากนั้นผมแทบจะเห็นเจ้าหลังคาดำนี่อย่างน้อย 1 คันทุกครั้งที่ขับออกจากต่างจังหวัด
เอาล่ะสมมติว่าคุณไม่ต้องการหลังคาดำ และคุณไม่ต้องการรถสีขาว (ซึ่งก็จะมีทางเลือกเหลืออีกอย่างเดียว..คือสีดำ) ราคามันจะลดลงเหลือ 1,749,000 บาท ซึ่งก็แพงกว่ารุ่น 2.8V 4WD ปกติอยู่ 120,000 บาท
สิ่งที่คุณได้เพิ่มมาในงบดังกล่าว..ก็คือชุดแต่งรอบคัน ล้ออัลลอย 20 นิ้ว (ยางกว้างเท่ารุ่นปกติ) ดิสก์เบรกหลัง สปริงและโช้คอัพเซ็ตใหม่โดย TRD ชุดเครื่องเสียง JBL พร้อมแอมป์ 11 ลำโพง เพิ่มการตกแต่งเบาะคาดแดงกลาง แผงประตูแดง ไอ้นั่นแดง ไอ้นี่แดง หน้าปัดเปลี่ยนเป็นไฟโทนสีแดง แม้แต่กุญแจก็ยังเปลี่ยนเป็นสีแดง
ส่วนต่างที่เพิ่มมา 120,000 บาทส่งผลแค่ไหนกับชีวิตจริง? ถ้าไม่นับเรื่องความแดงในส่วนต่างๆ ช่วงล่าง กับเครื่องเสียงนั้น WORK!
เราทราบกันดีนะครับว่าในบรรดา PPV ทั้งหมดตอนนี้ Fortuner มีบุคลิกช่วงล่างที่คล้ายรถกระบะที่สุดแล้ว ในขณะที่ Everest จะเกือบเหมือนรถ SUV ฝรั่งคันโตๆเข้าไปทุกที ในขณะที่ Pajero Sport วิ่งตรงๆซับแรงกระแทกดี แต่ถ้าหักพวงมาลัยปุ๊บจะพบว่าช่วงล่างมันย้วยไปนิด (ผมกลับรู้สึกว่ารุ่นเก่าขับทางไกลมั่นใจกว่า)
แต่หลังจากได้ชุดสปริงและโช้คอัพ TRD.. Fortuner ก็กลายเป็นรถที่น่าขับขึ้น ด้านหน้าแข็งขึ้นไม่มาก แต่ส่งผลต่อความมั่นใจในการขับในแง่ดี ส่วนด้านหลังนอกจากจะดีดดิ้นน้อยลง แปรเปลี่ยนเป็นความหนึบเข้ามาแทน ยังช่วยยับยั้งอาการยวบเวลาเข้าโค้ง
ผมว่านี่คือข้อพิสูจน์ว่า Fortuner นั้นพอได้โช้คที่คิดคำนวณความหนืดมาดีสักหน่อย มันก็ขับสนุกขึ้นมาก มั่นใจขึ้นมาก ..
แล้วก็ทำให้สงสัย ว่าทำไมไม่ใส่โช้คแบบนี้มาให้ในรุ่นธรรมดา ทั้ง 2.4 และ 2.8 เสียเลยเล่า ในเมื่อมันไม่ได้กระด้างขึ้น เหมือนกับว่าทีมวิศวกรยังเผื่อใจไว้ให้คนที่ขับรถไม่ซิ่งเรียกหาความสบายจากรถคันนี้ได้บ้าง ...มั่นขึ้น สบายขึ้น..ใส่มาเลยสิฮะ
นอกจากนี้ เครื่องเสียง JBL 11 ลำโพงนี้ไม่กระจอกนะครับ มิติ ความตึ้ม ความน่าฟัง ดีกว่ารุ่นปกติชัดเจน ส่วนดิสก์หลัง หลายคนอาจชอบแต่ส่วนตัวผมบอกตามตรงว่ามันไม่ได้ช่วยให้เบรกมั่นใจขึ้นในชีวิตจริง เคยวิ่งเร็วๆแล้วต้าบเบรก รถมันตอบสนองไม่ต่างจาก Fortuner 2.4 และ 2.8 ซึ่งในความเห็นผม..เซ็ตการตอบสนอง น้ำหนัก ระยะยุบของแป้นเบรกมาได้ดีแล้ว ใครตีนหนักก็กรุณาหาผ้าเบรกดีๆใส่หน่อยแล้วจะขับได้มั่นใจมากขึ้น
ส่วนเรื่องสมรรถนะอัตราเร่ง ในขณะที่ Pajero Sport ใช้เครื่องแบบรอบจัด เกียร์ทดถี่ Toyota ใช้แรงบิดช่วงกลางและความยืดหยุ่นของเครื่องเป็นอาวุธ ขับกดคันเร่งครึงๆกลางๆก็เร่งลื่น แต่รอบปลายธรรมดาไม่ลื่น โดยรวมแล้ว นั่งสามเข้าเส้น 1.7 กม. (ในคลิปบอก 1.5 แต่คลิปที่ทำต่อจากนี้ไปผมจะเปลี่ยนเป็น 1.7) ที่ 176 ได้ก็ถือว่าน่าจะสูสีกับ Pajero Sport และแพ้ให้กับรุ่น 2.8V 4WD นิดเดียว
ถ้าคุณมองว่าอยากได้รถจบๆ 1 คัน เครื่องเสียงดี ระบบนำทางมี ช่วงล่างอาจจะไม่นิ่ม แต่มั่นใจ สนุกได้ บางทีรุ่น TRD อาจจะคุ้ม แต่ขอให้พิจารณาด้วยว่าคุณอยากได้ชุดแต่งนะ..คุณชอบล้อที่เขาให้มานะ ซื้อมาแล้วอย่าไปทำอะไรเพิ่มนะ แล้วมันจะคุ้ม แต่ถ้าสนใจแค่เรื่องช่วงล่างกับเบรก ผมว่าซื้อรุ่น 2.8V มาแล้วไปแต่งโช้คเองทำเบรกเองเวิร์กกว่าครับ เท่าที่มีคนลองมาให้ คุณบอนน์ Autodeft ลอง Koni กระบอกแดงมา ราคา 27,000 บาท ช่วงล่างจะแข็งกว่า TRD แต่ขับเร็วระดับหาพระแสงแล้วจะมั่นใจกว่า ส่วนคุณ Thitisan จากโคราช ใช้โช้คหน้า Old Man Emu (13,000) และโช้คหลัง Rancho RS9000XL (8,000) ปรับแข็งได้ 9 ระดับ+ผ้าเบรก N Sport Pro
อันนี้ผมยังไม่ได้ลองเอาตูดสัมผัสเอง แต่ได้ข้อมูลมาเลยเอามาแชร์ให้ฟัง
Extra Clip