ตอนที่ซื้อ Camry HB 2013 มือสองมา ก็คิดแบบนี้เลยครับ
ผมซื้อมาเข้าปีที่ 6 โชคดีที่ขึ้นให้เปลี่ยนแบ็ต (ยังลุ้นให้มันรีบขึ้นไวไว) เผื่อปีที่ 9 จะได้เปลี่ยนฟรีอีกที
ถ้าโชคไม่ดี แบ็ตดันเสื่อมตอนปีที่ 10 นิดๆ ยังคิดอยู่เลยครับว่าจะเอายังไงดี จะยอมควัก 7 หมื่น หรือยอมทนเห็นข้อความ CHECK HYBRID SYSTEM ไปตลอด (ถึงจะขับได้ปกติ แต่ก็แอบรำคานมาก ที่เวลากดดู info ไปเรื่อยๆ แล้วมันก็จะเด้งมาข้อความนี้ตลอด)
ว่าไปมันก็เป็นระเบิดเวลาดีดีนี่เอง (ไม่ใช่แบ็ตระเบิดนะครับ
) แต่เป็นระเบิดเวลาที่ต้องให้ตัดสินใจ ณ ตอนนั้น
ตอนนี้ก็ยังพูดได้ครับว่า ใช้ๆไปอย่าคิดมาก รอให้ถึงเวลานั้นค่อยคิด(เหรอ)
ถ้าจินตนาการ ได้เปลี่ยนแบ็ตฟรีตอนปีที่ 9-10 ใช้ไปอีก 5 ปี แบ็ตเสียอีกรอบ ก็จะเท่ากับว่าตอนนั้นอายุรถน่าจะ 14-15 ปี (แต่ผมใช้จริง 9-10 ปี)
เอาตรงๆ ตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุ 26 ยังไม่มีรถคันไหนในบ้านอยู่ถึงปีที่ 8 สักคัน ส่วนใหญ่ 4-5 ปี ก็ขายเปลี่ยนใหม่ตลอด มีแค่ Wish นี่แหละที่พึ่งจะเข้าปีที่ 8
ถ้า Camry ไปต่อจนถึงปีที่ 10 มันคงจะเป็นรถที่ทรงคุณค่ามากๆ ที่ได้ไปต่อถึงขนาดนั้น (ผมว่ามันถึงแน่ๆ เพราะเป็นรถที่แม่งโคตสบายที่สุดเท่าที่เคยนั่งมา)
ก็เลยอดกังวลใจไมไ่ด้เหมือนกันครับ ที่รถแสนดีขนาดนี้ จะต้องมามีระเบิดเวลาติดตัว
ปล.อยากให้ตัว 2.5 ธรรมดา มีเบาะปรับเอนได้แบบตัว Top จังเลยครับ เห้อ....
ปล.2 ผมมีแพลนว่า อาจจะขายก่อนเปลี่ยนแบ็ตรอบ 2 นั่นก็คือปีที่ 9-10 แล้วไปสอย 2.5 ธรรมดา โฉมปัจจุบัน (ตอนนั้นก็คงราคา 7-8 แสน เท่าๆกับคันนี้ที่ซื้อมา) อย่างน้อยก็มีเมมเบาะมาให้ ไม่ต้องตีกันกับแฟนเวลาเปลี่ยนกันขับรถ
แต่ต้องแอบนอยส์เบาะหลังแน่ๆ