ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใดที่ K CAR ที่ญี่ปุ่นต้องล็อกไว้ที่ 64 เเรงม้าครับ?  (อ่าน 3887 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cheap and cheerful

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 603
    • อีเมล์
เห็นหลายๆรุ่นเทคโนโลยีเครี่องน่าจะไปได้มากกว่านี้ เเต่ติดเพดานตลอดเลย

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
คุมไอเสีย เขตโตเกียวมีแต่เบนซิน ตอนหลังให้มีดีเซล
คุมไม่ให้แรงเกิน เพราะวิ่งในชุมชน ชนกันยังไม่เจ็บหนัก
แต่ปลดล็อคได้ ทำให้บ.ประดับยนต์ได้เงินอีกต่อ

การใช้ความเร็วในญี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้
ความเร็วในช่วง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในทางด่วน
ความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนใหญ่ระหว่างเมือง
ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขตเมือง
ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในถนนเส้นเล็กหรือทางแยกถนนใหญ่

https://chillchilljapan.com/4-things-need-to-know-when-driving-in-japan/

ขนาดที่โน้นเคร่งครัด โทษหนัก ยังคุมรถจากโรงงานอีกที
บ้านรถถ้าตอนมาแบบนี้ขายไม่ออก ต้องเร็ว แรงยังกับรถสปอร์ต รถบ้านๆรับส่งเด็กไม่ชอบ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,395
คุมมลพิษ จำกัดความเร็ว ลดอันตราย

รถพวกนี้ เป็นรถใช้ในเมือง ไม่จำเป็นต้องขับเร็ว เลยโดนคุมไว้แบบนี้ครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,855
คุมไอเสีย เขตโตเกียวมีแต่เบนซิน ตอนหลังให้มีดีเซล
คุมไม่ให้แรงเกิน เพราะวิ่งในชุมชน ชนกันยังไม่เจ็บหนัก
แต่ปลดล็อคได้ ทำให้บ.ประดับยนต์ได้เงินอีกต่อ

การใช้ความเร็วในญี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้
ความเร็วในช่วง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในทางด่วน
ความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนใหญ่ระหว่างเมือง
ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขตเมือง
ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในถนนเส้นเล็กหรือทางแยกถนนใหญ่

https://chillchilljapan.com/4-things-need-to-know-when-driving-in-japan/

ขนาดที่โน้นเคร่งครัด โทษหนัก ยังคุมรถจากโรงงานอีกที
บ้านรถถ้าตอนมาแบบนี้ขายไม่ออก ต้องเร็ว แรงยังกับรถสปอร์ต รถบ้านๆรับส่งเด็กไม่ชอบ

ความเป็นอยู่ต่างกะนสิ้นเชิง

อย่าเอาบ้านเราและบ้านเค้ามาเทียบกันเลยครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
คุมไอเสีย เขตโตเกียวมีแต่เบนซิน ตอนหลังให้มีดีเซล
คุมไม่ให้แรงเกิน เพราะวิ่งในชุมชน ชนกันยังไม่เจ็บหนัก
แต่ปลดล็อคได้ ทำให้บ.ประดับยนต์ได้เงินอีกต่อ

การใช้ความเร็วในญี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้
ความเร็วในช่วง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในทางด่วน
ความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนใหญ่ระหว่างเมือง
ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขตเมือง
ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในถนนเส้นเล็กหรือทางแยกถนนใหญ่

https://chillchilljapan.com/4-things-need-to-know-when-driving-in-japan/

ขนาดที่โน้นเคร่งครัด โทษหนัก ยังคุมรถจากโรงงานอีกที
บ้านรถถ้าตอนมาแบบนี้ขายไม่ออก ต้องเร็ว แรงยังกับรถสปอร์ต รถบ้านๆรับส่งเด็กไม่ชอบ

ความเป็นอยู่ต่างกะนสิ้นเชิง

อย่าเอาบ้านเราและบ้านเค้ามาเทียบกันเลยครับ

ผมชอบ k car นะคับ แต่ถ้าให้ใช้ในบ้านเรา ผมว่าไม่ค่อยเหมาะ เพราะถนนบ้านเราใหญ่และเร็วกว่ามาก


ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
รถยาวไม่เกินสามเมตรครึ่ง หนักประมาณ850กก.
แต่ก่อนสามเมตรสามสิบ หนัก650กก.
หกสิบกว่าแรงม้า 0-100 ประมาณ 15 วิ สมัยก่อนเร็วกว่านี้

ถ้าเทียบกับออสตินมินิ เฟียต500 เดิมๆแรงไม่ต่างกันมา
ถ้าเป็นรุ่นแรงพิเศษ พวกนี้เล็กพริกขี้หนู 0-100 9วิ ลงมา ทำไม่ยาก
สามคาร์บู เกียร์กระปุกทดใหม่ ควิคชิพ ขับสี่ ลุยหิมะบางๆสบาย
ราคาไม่เกินวิออส แต่ตีนต้นไล่คูเป้ไม่ยากเย็น เข้าโค้งได้ไวกว่า
ศูนย์ถ่วงต่ำกว่า ดื้อโค้งน้อยกว่า นั่นแหละถึงต้องตอน

สมัยนี้ใช้ไฟเบอร์กลาส เปลี่ยนกระโปรงหน้าหลัง ประตู แค่นี้รถก็แรงขึ้นเยอะแล้ว
ค่าปรับแต่งประหยัด ตีนปลายไม่เน้นมาก แข่งทางตรงที่มาเลตีนต้นแซงกระทิงได้แป๊ปหนึง
เพราะรถเบากว่าเยอะ แต่ม้าต่อนน.ไม่ต่างกันมาก ขับคล้ายโกลคาร์ท คุมง่าย
พวงมาลัยเพาเย่อเหลือๆ ไม่ต้องมีตัวฉุดแรงเครื่อง

สมัยที่ออสตินมินิ แข่งแรลลี่ที่ยุโรป วิ่งทางหินชนะบรรดาขับสี่แรงม้าเยอะ
เพราะยางไม่แตก ตัวเบา แรงบิดพอดีๆ คนขับไม่เหนื่อยคุมรถ

มาขายในไทย เจ็ดสิบถึงแปดสิบแรงเหลือๆ ขายของแต่งสบาย
ยิ่งรถผู้หญิงใช้ หรือรับส่งเด็ก คนชรา ขายการตกแต่งอุปกรณ์เสริมได้อีก
รถจิ๋วพวกนี้มาเลใส่ระบบหน่วงวาล์ว เครื่องแรง ขายดี นำเข้ามาไม่ต้องเสียภาษีก็ได้
ไม่ต้องประกอบในไทย ลองตลาดไปก่อน ถ้าขายดีค่อยหาแบบที่ขายดีประกอบทีหลัง