ผู้เขียน หัวข้อ: ที่ได้ยินว่า e-power จะมา คิดว่า Nissan มีแผนจะมีในรุ่นไหนบ้างครับ  (อ่าน 8568 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
ที่ได้ยินว่า e-power จะมา คิดว่า Nissan มีแผนจะมีในรุ่นไหนบ้างครับ
ควรจะมีใน Note, next March, next Almera, next Sylphy, Kicks เลยรึเปล่า
แต่ Kicks ที่จะมาใหม่ในเมืองนอกก็ดูไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับ e-power แต่ตลาด b cross ก็ร้อนแรงอยู่แล้ว
Sylphy ถ้ามีก็น่าจะเป็นจุดขายที่แปลกใหม่ได้
ส่วนรถใหญ่แบบ X-trail, Teana คงจะมีรุ่น hybrid มากกว่า เพราะ e-power
เหมาะกับเฉพาะรถเล็กรึเปล่า ?

แต่มานึกดูอีกที รถราคาถูกของ Nissan ที่เป็นตัวหลักมาตลอดแบบ March
พอตัวใหม่มาก็ไม่รู้ว่าจะกดราคาให้ถูกเหมือนเดิมได้มั้ย เพราะดูจากภาพแล้วเหมือนแพง
ส่วน old march เองก็ถูกดี รูปทรงก็ออกแนว classic ถ้า Nissan ไม่ discontinue
แล้วขายต่อไปในฐานะรถราคาถูกสำหรับลูกค้าที่ชอบของถูกของ Nissan ก็ดี แบบ Nissan NV
ที่ลากขายกันมานาน ในขณะที่ March ใหม่ ทรงก็ออกแนว Fiesta ผมว่าตัวใหม่ยิ่งดูเหมาะกับ
e-power มากกว่า Note ซะอีก ส่วน Almera ก็น่าจะมาหรูสปอร์ตตามพี่น้องของมัน

ว่าถึงว่า Toyota ก็จะมี Daihatsu มาทำรถตัวล่างให้ เพราะ Yarisตัวใหม่คงแพงขึ้นไปแน่
จนจะไปแทนรถ 1500 เดิมแล้ว แต่ Nissan จะมีรถราคาถูกๆ แบบนั้นบ้างมั้ย จริงๆก็มี
Datsun แต่เหมือนไม่มีข่าวเลยว่าจะมา

ผมมองว่า รถที่เปิดตัวในต่างประเทศหลายตัวของ Nissan ที่ใช้กระจังหน้าใหญ่เดี่ยวๆ ดูแพง
กว่าเดิม แต่ค่ายนี้เวลามาแพงคนก็ไม่สนหรือไม่ค่อยซื้ออยู่แล้ว ดังนั้นถ้าใช้ e-power มาช่วย
ก็ดูจะเพิ่มมูลค่าในแบรนด์ได้อยู่ในฐานะของ new technology ซึ่ง Mazda ทำสำเร็จไปแล้วกับ
Skyactiv โดยที่ไม่ได้จำเป็นต้องไปแตะต้องกับเรื่องศูนย์เรื่องการบริการอย่างเป็นรูปธรรมเท่าไหร่เลย
อำนาจของ new technology นี่มหัศจรรย์ดีจริงๆ ซึ่งค่ายไหนถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆ มาเลย
ก็จะเป็นที่ถูกลืมในที่สุด แม้รถจะสวยนักก็ตาม อย่างเช่น Ciaz ที่ดูสวยไม่น้อยกว่า Swift แต่ Suzuki
ไม่มี technology อะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจมานานพักใหญ่แล้ว อย่าง Dualjet engine กับเกียร์ AMT
ที่ล้วนออกแบบมาให้มีการ update ในเรื่องของ technology สำหรับรถที่ขายในต่างประเทศ
ซึ่งถือว่ามีการพัฒนาและดูแปลกใหม่ แต่ในไทยกลับไม่มีอะไร เรียกได้ว่านิ่งสนิท




ออฟไลน์ moo36

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 195
ไม่กี่วันก่อนถามน้องที่เป็น engineer อยู่นิสสัน เค้าบอกว่ายังไม่มีแผน แต่ไม่รู้น้องเค้ากั๊กข้อมูลรึป่าวนะครับ
2017 Honda Civic Turbo RS
2016 Volvo XC90 T8
2015 Volvo XC60 D4
2009 Toyota Estima Hybrid
1993 Bmw E36

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
E-power จะเริ่มกับ Note ก่อนที่รุ่นอื่นจะตามมา
มีขั้นกลางด้วย 3 สูบอัดอากาศ ออกมาตามจังหวะการเปิดตัวโมเดลใหม่ครับ

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 591
ไม่กี่วันก่อนถามน้องที่เป็น engineer อยู่นิสสัน เค้าบอกว่ายังไม่มีแผน แต่ไม่รู้น้องเค้ากั๊กข้อมูลรึป่าวนะครับ

ผมทำงาน บ.supplier รายใหญ่ก็ไม่ได้ยินข่าวเช่นกัน   ซึ่งผมว่ากว่าจะมาคงช้ามาก ตาม style nissan thailand
คงเห็นเปิดขายที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ก่อนจะมาขายที่ไทย

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
ที่ได้ยินว่า e-power จะมา คิดว่า Nissan มีแผนจะมีในรุ่นไหนบ้างครับ
ควรจะมีใน Note, next March, next Almera, next Sylphy, Kicks เลยรึเปล่า
แต่ Kicks ที่จะมาใหม่ในเมืองนอกก็ดูไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับ e-power แต่ตลาด b cross ก็ร้อนแรงอยู่แล้ว
Sylphy ถ้ามีก็น่าจะเป็นจุดขายที่แปลกใหม่ได้
ส่วนรถใหญ่แบบ X-trail, Teana คงจะมีรุ่น hybrid มากกว่า เพราะ e-power
เหมาะกับเฉพาะรถเล็กรึเปล่า ?

แต่มานึกดูอีกที รถราคาถูกของ Nissan ที่เป็นตัวหลักมาตลอดแบบ March
พอตัวใหม่มาก็ไม่รู้ว่าจะกดราคาให้ถูกเหมือนเดิมได้มั้ย เพราะดูจากภาพแล้วเหมือนแพง
ส่วน old march เองก็ถูกดี รูปทรงก็ออกแนว classic ถ้า Nissan ไม่ discontinue
แล้วขายต่อไปในฐานะรถราคาถูกสำหรับลูกค้าที่ชอบของถูกของ Nissan ก็ดี แบบ Nissan NV
ที่ลากขายกันมานาน ในขณะที่ March ใหม่ ทรงก็ออกแนว Fiesta ผมว่าตัวใหม่ยิ่งดูเหมาะกับ
e-power มากกว่า Note ซะอีก ส่วน Almera ก็น่าจะมาหรูสปอร์ตตามพี่น้องของมัน

ว่าถึงว่า Toyota ก็จะมี Daihatsu มาทำรถตัวล่างให้ เพราะ Yarisตัวใหม่คงแพงขึ้นไปแน่
จนจะไปแทนรถ 1500 เดิมแล้ว แต่ Nissan จะมีรถราคาถูกๆ แบบนั้นบ้างมั้ย จริงๆก็มี
Datsun แต่เหมือนไม่มีข่าวเลยว่าจะมา

ผมมองว่า รถที่เปิดตัวในต่างประเทศหลายตัวของ Nissan ที่ใช้กระจังหน้าใหญ่เดี่ยวๆ ดูแพง
กว่าเดิม แต่ค่ายนี้เวลามาแพงคนก็ไม่สนหรือไม่ค่อยซื้ออยู่แล้ว ดังนั้นถ้าใช้ e-power มาช่วย
ก็ดูจะเพิ่มมูลค่าในแบรนด์ได้อยู่ในฐานะของ new technology ซึ่ง Mazda ทำสำเร็จไปแล้วกับ
Skyactiv โดยที่ไม่ได้จำเป็นต้องไปแตะต้องกับเรื่องศูนย์เรื่องการบริการอย่างเป็นรูปธรรมเท่าไหร่เลย
อำนาจของ new technology นี่มหัศจรรย์ดีจริงๆ ซึ่งค่ายไหนถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆ มาเลย
ก็จะเป็นที่ถูกลืมในที่สุด แม้รถจะสวยนักก็ตาม อย่างเช่น Ciaz ที่ดูสวยไม่น้อยกว่า Swift แต่ Suzuki
ไม่มี technology อะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจมานานพักใหญ่แล้ว อย่าง Dualjet engine กับเกียร์ AMT
ที่ล้วนออกแบบมาให้มีการ update ในเรื่องของ technology สำหรับรถที่ขายในต่างประเทศ
ซึ่งถือว่ามีการพัฒนาและดูแปลกใหม่ แต่ในไทยกลับไม่มีอะไร เรียกได้ว่านิ่งสนิท

Suzuki Ciaz ที่ตอบรับไม่ดีช่วงแรก อาจเป็นเพราะว่ารุ่นเกียร์ CVT ล่างสุดมีราคา 559,000 บาทรึเปล่าครับ
สมัยนั้น Almera E CVT ยังราคาราว ๆ 519,000 บาท
ปัญหาอาจคล้าย Note ในปัจจุบันคือไม่มีราคา Entry ให้เลือกซื้อ


ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,377
เท่าที่ผมเข้าใจ e power ของ nissan คือการเอาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มาปั่นไฟใส่แบตขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า

ซึ่งการออกแบบอย่างนี้ ตลาดรถเมืองไทยไม่มีทางได้เกิดหรอก เพราะมีข้อจำกัด จากขนาดแบต และ ถังน้ำมันที่มีขนาดเล็ก

ทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล เน้นเป็นซิตี้คาร์จริงๆ วิ่งในเมืองได้อย่างเดียว ถ้าจะให้วิ่งทางไกลได้ ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น

ก็จะทำให้อัตราการกินน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น จนไม่จูงใจให้ใช้ครับ

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
ที่ได้ยินว่า e-power จะมา คิดว่า Nissan มีแผนจะมีในรุ่นไหนบ้างครับ
ควรจะมีใน Note, next March, next Almera, next Sylphy, Kicks เลยรึเปล่า
แต่ Kicks ที่จะมาใหม่ในเมืองนอกก็ดูไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับ e-power แต่ตลาด b cross ก็ร้อนแรงอยู่แล้ว
Sylphy ถ้ามีก็น่าจะเป็นจุดขายที่แปลกใหม่ได้
ส่วนรถใหญ่แบบ X-trail, Teana คงจะมีรุ่น hybrid มากกว่า เพราะ e-power
เหมาะกับเฉพาะรถเล็กรึเปล่า ?

แต่มานึกดูอีกที รถราคาถูกของ Nissan ที่เป็นตัวหลักมาตลอดแบบ March
พอตัวใหม่มาก็ไม่รู้ว่าจะกดราคาให้ถูกเหมือนเดิมได้มั้ย เพราะดูจากภาพแล้วเหมือนแพง
ส่วน old march เองก็ถูกดี รูปทรงก็ออกแนว classic ถ้า Nissan ไม่ discontinue
แล้วขายต่อไปในฐานะรถราคาถูกสำหรับลูกค้าที่ชอบของถูกของ Nissan ก็ดี แบบ Nissan NV
ที่ลากขายกันมานาน ในขณะที่ March ใหม่ ทรงก็ออกแนว Fiesta ผมว่าตัวใหม่ยิ่งดูเหมาะกับ
e-power มากกว่า Note ซะอีก ส่วน Almera ก็น่าจะมาหรูสปอร์ตตามพี่น้องของมัน

ว่าถึงว่า Toyota ก็จะมี Daihatsu มาทำรถตัวล่างให้ เพราะ Yarisตัวใหม่คงแพงขึ้นไปแน่
จนจะไปแทนรถ 1500 เดิมแล้ว แต่ Nissan จะมีรถราคาถูกๆ แบบนั้นบ้างมั้ย จริงๆก็มี
Datsun แต่เหมือนไม่มีข่าวเลยว่าจะมา

ผมมองว่า รถที่เปิดตัวในต่างประเทศหลายตัวของ Nissan ที่ใช้กระจังหน้าใหญ่เดี่ยวๆ ดูแพง
กว่าเดิม แต่ค่ายนี้เวลามาแพงคนก็ไม่สนหรือไม่ค่อยซื้ออยู่แล้ว ดังนั้นถ้าใช้ e-power มาช่วย
ก็ดูจะเพิ่มมูลค่าในแบรนด์ได้อยู่ในฐานะของ new technology ซึ่ง Mazda ทำสำเร็จไปแล้วกับ
Skyactiv โดยที่ไม่ได้จำเป็นต้องไปแตะต้องกับเรื่องศูนย์เรื่องการบริการอย่างเป็นรูปธรรมเท่าไหร่เลย
อำนาจของ new technology นี่มหัศจรรย์ดีจริงๆ ซึ่งค่ายไหนถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆ มาเลย
ก็จะเป็นที่ถูกลืมในที่สุด แม้รถจะสวยนักก็ตาม อย่างเช่น Ciaz ที่ดูสวยไม่น้อยกว่า Swift แต่ Suzuki
ไม่มี technology อะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจมานานพักใหญ่แล้ว อย่าง Dualjet engine กับเกียร์ AMT
ที่ล้วนออกแบบมาให้มีการ update ในเรื่องของ technology สำหรับรถที่ขายในต่างประเทศ
ซึ่งถือว่ามีการพัฒนาและดูแปลกใหม่ แต่ในไทยกลับไม่มีอะไร เรียกได้ว่านิ่งสนิท

Suzuki Ciaz ที่ตอบรับไม่ดีช่วงแรก อาจเป็นเพราะว่ารุ่นเกียร์ CVT ล่างสุดมีราคา 559,000 บาทรึเปล่าครับ
สมัยนั้น Almera E CVT ยังราคาราว ๆ 519,000 บาท
ปัญหาอาจคล้าย Note ในปัจจุบันคือไม่มีราคา Entry ให้เลือกซื้อ

นั่นก็ใช่ครับ 555 Ciaz สวย เข้าใจว่าราคาแรงเพราะกดต้นทุนไม่ได้
แต่เทคโนโลยี่ก็เก่าด้วย ถ้าใหม่ก็อาจจะน่าสนใจขึ้นนะคับ

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,815
กระทู้แนวนี้ กะนิสสัน มาเรื่อยๆ  จะเฝ้าติดตามด้วยใจระทึก

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,571
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
เท่าที่ผมเข้าใจ e power ของ nissan คือการเอาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มาปั่นไฟใส่แบตขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า

ซึ่งการออกแบบอย่างนี้ ตลาดรถเมืองไทยไม่มีทางได้เกิดหรอก เพราะมีข้อจำกัด จากขนาดแบต และ ถังน้ำมันที่มีขนาดเล็ก

ทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล เน้นเป็นซิตี้คาร์จริงๆ วิ่งในเมืองได้อย่างเดียว ถ้าจะให้วิ่งทางไกลได้ ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น

ก็จะทำให้อัตราการกินน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น จนไม่จูงใจให้ใช้ครับ

ถ้าใส่ถังน้ำมันตามปกติของ Note 4x ลิตร อัตราการสิ้นเปลืองประมาณ 20 กม./ลิตร (คิดแบบไม่เข้าข้างนะ)

วิ่งได้กี่กิโลเอ่ย?
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
ไม่ต้องมาหลายรุ่นหรอกครับ เอา note ให้รอดก่อนดีกว่า ถ้าดี ค่อยตามๆๆกันมา

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
ถ้ามองว่า Nissan ไม่ได้มีปัญหาภายในอะไรและมีความสามารถดีพอนะที่จะนำ e-power เข้ามาเมื่อไรผมว่ามีประเด็นดังนี้
1. ระบบ e-power ที่ Nissan ใช้จริงมีปัญหาอะไรที่ยังติดขัด ในการจัดการหรือการบำรุงรักษาบ้างไหม ถ้ายังมีอยู่ยังไม่เรียบร้อย
การนำมาขายนอกตลาดญี่ปุ่นคงไม่ดีเท่าไรนัก เพราะจะเป็นการทำลายภาพพจน์ของระบบที่ตัวเองว่าจะเป็น ตัวชูโรงแข่งขันกับของค่ายอื่นๆ
2. ถ้าข้อแรกไม่มีปัญหา Nissan มีความสามารถในการจัดการสื่อสารกับผู้บริโภค ถึงจุดเด่น และข้อดีกว่าเหมาะกับตลาดกลุ่มไหนและให้ความรู้ผ่านการตลาดให้ดี และพร้อมทั้งเตรียมถ่ายทอดความรู้การดูแลรักษา และบริการหลังการขายรวมถึงการเตรียมจัดหาอะไหล่ที่จำเป็นต้องใช้ให้กรณีมีปัญหาต้องเปลี่ยนไม่ให้ต้องรอกันนานๆนะ

ส่วนเรื่องรุ่นที่จะนำตลาด ผมว่าควรดูว่าในแต่ละตลาดที่จะเข้าไปขาย ช่องทางการตลาดที่เหมาะสม กับตลาดนั้นอยู่ที่รถลักษณะไหนมากกว่า
เพราะแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน แต่จริงๆถ้าดูตลาดและแนวโน้มความต้องการของตลาดโลกจะเห็นว่า รถ SUV (ไม่ว่าจะเป็น B Segment,Compact) เป็นที่ต้องการเพราะ ตอบโจทย์หลายอย่างมากกว่า รถท้องติดดิน แบบดั้งเดิม นะ และ ยิ่งในเมืองที่ระบบ การจัดการหลายอย่างไม่ดี และภาวะโรคร้อน ฝนตก น้ำท่วมถนนปล่อยๆ แบบกทม นี้นะ รถกลุ่ม  SUV ตอบโจทย์มากกว่ามาก เอาจริงเราไม่ต้องวิ่งกันไวๆมากกว่าหรอกครับ  ดังนั้น รถที่ CG สูงขึ้นหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ว่าใช้งานในสภาวะที่สภาพถนนไม่ค่อยดีได้สะดวกกว่า
โดยส่วนตัวจึงคิดว่า นอกตลาด ญี่ปุ่น จริงๆ Nissan ควรจะนำ e-power มาใส่ในรถกลุ่ม SUV PPV  นอกตลาดญี่ปุ่น โดยในประเทศกำลังพัฒนา ที่ถนนหนทางไม่ได้ดีอะไรมากกว่า ด้วยซ้ำ ไม่ใช้จะเอา Note e-power เข้ามาทำตลาด ตัวเลขมันก็ไม่ออกมาสวยหรอกครับ ถ้าพิจารณาความเหมาะสมของตลาดให้ดี จะเห็นเลยว่าควรเอารุ่นไหนเข้ามา (อยากให้ดู Toyota ที่จะเอา CHR มาขายดูนะยอดดีแน่ๆ แม้พื้นที่การใช้งานห้องโดยสารจะแย่กว่ายี่ห้ออื่นๆ แต่คิดว่าจะ Toyota อาจเป็นเจ้าแรกที่นำ hybrid แบบที่มีดูประสิทธิภาพสมเรียกว่าเป็นรถ hybrid มาขายในไทยเป็นเจ้าแรก เพราะอัตราสิ้นเปลืองดีกว่า 20 กิโล/ลิตร แน่นอน ไม่ใช้แบบของ Nissan ที่บอกมี X-Trail ้ hybrid แต่ดูไม่สมเป็น hybrid ลยคือประหยัดเพิ่มขึ้นมาแค่ 2-3 กิโลลิตรจากที่ไม่มีระบบไฟฟ้าเข้าช่วยนี้นะ จะทำ hybrid ติดตั้งมาเสริมทั้งที่นะ ควรจะประหยัดขึ้นมากกว่าเดิม 40-50% ขึ้นนะครับ งั้นอย่าทำมาเลยครับ  คนใช้รู้สึกมันจะคุ้มที่จะเสี่ยงไหมกับที่ต้อง Maintenance สูงขึ้น หรือ กับการใช้ระบบที่อาจไปหาช่างข้างนอกได้ ต้องวิ่งแต่ในเมืองอะครับ)

ออฟไลน์ Nismo De Alpina

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
  • Whatever brews your coffee.
เท่าที่ผมเข้าใจ e power ของ nissan คือการเอาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มาปั่นไฟใส่แบตขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า

ซึ่งการออกแบบอย่างนี้ ตลาดรถเมืองไทยไม่มีทางได้เกิดหรอก เพราะมีข้อจำกัด จากขนาดแบต และ ถังน้ำมันที่มีขนาดเล็ก

ทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล เน้นเป็นซิตี้คาร์จริงๆ วิ่งในเมืองได้อย่างเดียว ถ้าจะให้วิ่งทางไกลได้ ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น

ก็จะทำให้อัตราการกินน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น จนไม่จูงใจให้ใช้ครับ

ถ้าใส่ถังน้ำมันตามปกติของ Note 4x ลิตร อัตราการสิ้นเปลืองประมาณ 20 กม./ลิตร (คิดแบบไม่เข้าข้างนะ)

วิ่งได้กี่กิโลเอ่ย?

ผมให้ถังน้ำมันจุ 40 ลิตรเลยเอ้า
40x20 = 800 Km
วิ่งได้ไม่ไกลหรอกครับ แค่กรุงเทพ-เชียงใหม่โดยแวะปั๊มซื้อแค่กาแฟก็พอ  :D
Eventually i've made my home country,Thailand.

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,377
เท่าที่ผมเข้าใจ e power ของ nissan คือการเอาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มาปั่นไฟใส่แบตขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า

ซึ่งการออกแบบอย่างนี้ ตลาดรถเมืองไทยไม่มีทางได้เกิดหรอก เพราะมีข้อจำกัด จากขนาดแบต และ ถังน้ำมันที่มีขนาดเล็ก

ทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล เน้นเป็นซิตี้คาร์จริงๆ วิ่งในเมืองได้อย่างเดียว ถ้าจะให้วิ่งทางไกลได้ ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น

ก็จะทำให้อัตราการกินน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น จนไม่จูงใจให้ใช้ครับ

ถ้าใส่ถังน้ำมันตามปกติของ Note 4x ลิตร อัตราการสิ้นเปลืองประมาณ 20 กม./ลิตร (คิดแบบไม่เข้าข้างนะ)

วิ่งได้กี่กิโลเอ่ย?

ผมให้ถังน้ำมันจุ 40 ลิตรเลยเอ้า
40x20 = 800 Km
วิ่งได้ไม่ไกลหรอกครับ แค่กรุงเทพ-เชียงใหม่โดยแวะปั๊มซื้อแค่กาแฟก็พอ  :D

เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์ใน e power มั้ยครับ มันเอากำลังทางกลของเครื่องยนต์มาปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงาน

โดยการควบคุมรอบเครื่องยนตืให้อยู่ในย่านแรงบิดสุงสุด เพื่อประหยัดน้ำมันมากที่สุด จากการปั่นไฟ

ส่วนกำลังงานบางส่วนจากการเบรคหรือในช่วงที่ใช้ไฟไม่ถึงกำลังผลิต จะถูกเก้บในแบตดเตอรี่ขนาดเล็ก เพื่อช่วยเร่งแซงระยะสั้นๆ

การวิ่งทางไกลยาวๆ โดย regen หรือเบรคน้อยๆ มอเตอร์ไฟฟ้าต้องอาศัยกำลังไฟจากการปั่นของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นเมื่อ e power ใช้เครื่องยนต์เล็ก 1.2 ลิตร 3 สูบ มันก็ไม่ต่างจาก โน็ต ที่ขายในบ้านเรา

concept e power ที่นิสสันใช้ เน้นการใช้งานในเมืองที่วิ่งๆ หยุดๆ สลับกันไป มันถึงจะได้อัตราการกินน้ำมันที่เคลมไว้

concept e power เจ้าอื่น เค้าใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กันครับ ที่เราๆ เรียกว่า hybrid ไม่ว่าจะ hon to หรือว่า benz

อันนี้ นอกจากจะขับมันแล้ว ยังประหยัดด้วย แต่ข้อด้อยคือ ราคา มันไม่น่ารักเท่าไหร่

ปล. ดังนั้นในเคสนี้ คุณต้องชิลจริงๆ ถ้าจะขับจาก กทม-ชม. เพราะมันแย่กว่าโน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร อย่างเดียวซะอีก

เนื่องจากถูกลดทอนจากประสิทธิภาพการเปลี่ยนรูปพลังงานถึง 2 ครั้ง คือจาก กล>ไฟฟ้า ไฟฟ้า>กล

ขณะที่ โน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร ไม่มีการเปลี่ยนรูปพลังงานเลย นอกจากนี้ การที่ขับเร็ว รอบเครื่องมันไม่สามารถยู่ในย่านแรงบิดสูง

ต้องไปอยู้ในย่านแรงม้าสูงแทน ทำให้มันไม่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทำให้ภาพรวมในการใช้วิ่งทางไหลมันแย่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2017, 13:47:02 โดย HHHsung »

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
เท่าที่ผมเข้าใจ e power ของ nissan คือการเอาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มาปั่นไฟใส่แบตขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า

ซึ่งการออกแบบอย่างนี้ ตลาดรถเมืองไทยไม่มีทางได้เกิดหรอก เพราะมีข้อจำกัด จากขนาดแบต และ ถังน้ำมันที่มีขนาดเล็ก

ทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล เน้นเป็นซิตี้คาร์จริงๆ วิ่งในเมืองได้อย่างเดียว ถ้าจะให้วิ่งทางไกลได้ ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น

ก็จะทำให้อัตราการกินน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น จนไม่จูงใจให้ใช้ครับ

ถ้าใส่ถังน้ำมันตามปกติของ Note 4x ลิตร อัตราการสิ้นเปลืองประมาณ 20 กม./ลิตร (คิดแบบไม่เข้าข้างนะ)

วิ่งได้กี่กิโลเอ่ย?

ผมให้ถังน้ำมันจุ 40 ลิตรเลยเอ้า
40x20 = 800 Km
วิ่งได้ไม่ไกลหรอกครับ แค่กรุงเทพ-เชียงใหม่โดยแวะปั๊มซื้อแค่กาแฟก็พอ  :D

เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์ใน e power มั้ยครับ มันเอากำลังทางกลของเครื่องยนต์มาปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงาน

โดยการควบคุมรอบเครื่องยนตืให้อยู่ในย่านแรงบิดสุงสุด เพื่อประหยัดน้ำมันมากที่สุด จากการปั่นไฟ

ส่วนกำลังงานบางส่วนจากการเบรคหรือในช่วงที่ใช้ไฟไม่ถึงกำลังผลิต จะถูกเก้บในแบตดเตอรี่ขนาดเล็ก เพื่อช่วยเร่งแซงระยะสั้นๆ

การวิ่งทางไกลยาวๆ โดย regen หรือเบรคน้อยๆ มอเตอร์ไฟฟ้าต้องอาศัยกำลังไฟจากการปั่นของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นเมื่อ e power ใช้เครื่องยนต์เล็ก 1.2 ลิตร 3 สูบ มันก็ไม่ต่างจาก โน็ต ที่ขายในบ้านเรา

concept e power ที่นิสสันใช้ เน้นการใช้งานในเมืองที่วิ่งๆ หยุดๆ สลับกันไป มันถึงจะได้อัตราการกินน้ำมันที่เคลมไว้

concept e power เจ้าอื่น เค้าใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กันครับ ที่เราๆ เรียกว่า hybrid ไม่ว่าจะ hon to หรือว่า benz

อันนี้ นอกจากจะขับมันแล้ว ยังประหยัดด้วย แต่ข้อด้อยคือ ราคา มันไม่น่ารักเท่าไหร่

ปล. ดังนั้นในเคสนี้ คุณต้องชิลจริงๆ ถ้าจะขับจาก กทม-ชม. เพราะมันแย่กว่าโน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร อย่างเดียวซะอีก

เนื่องจากถูกลดทอนจากประสิทธิภาพการเปลี่ยนรูปพลังงานถึง 2 ครั้ง คือจาก กล>ไฟฟ้า ไฟฟ้า>กล

ขณะที่ โน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร ไม่มีการเปลี่ยนรูปพลังงานเลย นอกจากนี้ การที่ขับเร็ว รอบเครื่องมันไม่สามารถยู่ในย่านแรงบิดสูง

ต้องไปอยู้ในย่านแรงม้าสูงแทน ทำให้มันไม่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทำให้ภาพรวมในการใช้วิ่งทางไหลมันแย่ครับ

คืออ่านแล้วเหมือน e-power คือรถ Hybrid ปกติ คือต้องวิ่งในเมืองถึงจะประหยัด
ที่ตัดในส่วนของการวิ่งด้วงเครื่องเปล่าๆ ออกไป ทำให้วิ่งทางไกลไม่ได้ ผมว่าไม่น่าจะใช่แล้วนะครับ

แล้วก็เข้าใจผิดเรื่องรถ Hybrid วิ่งยาวนอกเมืองไม่ประหยัดด้วยครับ
เพราะเวลาผมจะวิ่งทำสถิติประหยัด (ผมชอบทำ 555)
วิ่งยาวนี่ล่ะครับโคตรประหยัด เพราะเครื่องที่ใช้เป็น Atkinson cycle
วิ่งยาวๆ โดยปราศจากไฟฟ้าช่วยมันประหยัดมากกกก แต่ตัวเครื่องเพียวๆ วิ่งในเมืองมันจะไม่ประหยัด
อัตราเร่งก็ไม่ดี ตรงนี้ก็มีไฟฟ้ามาช่วยให้มันประหยัด กับอัตราเร่งดี

แลกเปลี่ยนกันนะครับ ไม่ได้ชวนทะเลาะนะ  ::)

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,571
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์ใน e power มั้ยครับ มันเอากำลังทางกลของเครื่องยนต์มาปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงาน

โดยการควบคุมรอบเครื่องยนตืให้อยู่ในย่านแรงบิดสุงสุด เพื่อประหยัดน้ำมันมากที่สุด จากการปั่นไฟ

ส่วนกำลังงานบางส่วนจากการเบรคหรือในช่วงที่ใช้ไฟไม่ถึงกำลังผลิต จะถูกเก้บในแบตดเตอรี่ขนาดเล็ก เพื่อช่วยเร่งแซงระยะสั้นๆ

การวิ่งทางไกลยาวๆ โดย regen หรือเบรคน้อยๆ มอเตอร์ไฟฟ้าต้องอาศัยกำลังไฟจากการปั่นของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นเมื่อ e power ใช้เครื่องยนต์เล็ก 1.2 ลิตร 3 สูบ มันก็ไม่ต่างจาก โน็ต ที่ขายในบ้านเรา

concept e power ที่นิสสันใช้ เน้นการใช้งานในเมืองที่วิ่งๆ หยุดๆ สลับกันไป มันถึงจะได้อัตราการกินน้ำมันที่เคลมไว้

concept e power เจ้าอื่น เค้าใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กันครับ ที่เราๆ เรียกว่า hybrid ไม่ว่าจะ hon to หรือว่า benz

อันนี้ นอกจากจะขับมันแล้ว ยังประหยัดด้วย แต่ข้อด้อยคือ ราคา มันไม่น่ารักเท่าไหร่

ปล. ดังนั้นในเคสนี้ คุณต้องชิลจริงๆ ถ้าจะขับจาก กทม-ชม. เพราะมันแย่กว่าโน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร อย่างเดียวซะอีก

เนื่องจากถูกลดทอนจากประสิทธิภาพการเปลี่ยนรูปพลังงานถึง 2 ครั้ง คือจาก กล>ไฟฟ้า ไฟฟ้า>กล

ขณะที่ โน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร ไม่มีการเปลี่ยนรูปพลังงานเลย นอกจากนี้ การที่ขับเร็ว รอบเครื่องมันไม่สามารถยู่ในย่านแรงบิดสูง

ต้องไปอยู้ในย่านแรงม้าสูงแทน ทำให้มันไม่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทำให้ภาพรวมในการใช้วิ่งทางไหลมันแย่ครับ

วิ่งทางไกลไม่ได้ระยะแย่ครับ พิสัยมันไกลพอๆ กะ Volt นั่นแหละ ผมว่าคุณเข้าใจหลักการ e-Power เบื้องต้น แต่คุณไม่เข้าใจการใช้งานจริงๆ

มันเป็น "มอเตอร์ปั่นแบตความจุน้อย" แต่ไม่ใช่ "ความจุเท่าแบตน้อยๆ แล้วปั่นเพิ่มไม่ได้ นอกจากชาร์จ เลยวิ่งได้ไม่ไกล แบบ Leaf"

มันจะแย่ต่อเมื่อคุณกดไปความเร็วสูงๆ มันจะหมดแรง เพราะมอเตอร์กำลังมันน้อย (อัตราเร่งช่วง 140+ จะช้าแบบไม่มีแรง) เท่านั้น

ลองเสิร์ชก็ได้ครับ ว่า 1 ถัง มันวิ่งได้เท่าไหร่ ผมจำได้ว่า แค่ตัวไม่ใช่ Range-Extended ก็ได้ถังละ 1,000 กม. แล้ว

และถ้าจะบอกว่า อัตราสิ้นเปลืองไม่ได้ ก็ใช่ครับ เขาเคลมไว้ 37.2 km/l ตามเกณฑ์ทดสอบญี่ปุ่น (ซึ่งได้มากกว่า UNECE Reg 101.2 ราวๆ 6 กม./ลิตร)

ผมถึงพูดว่า คิดแบบไม่เข้าข้างที่ 20 กม./ลิตร คิดแบบกลมๆ 800 กม./ถัง และเติมน้ำมันวิ่งได้อีก เท่ากับพิสัยวิ่งมันก็ไม่ได้จำกัดเหมือนพวกต้องชาร์จ

ผมพูดผิดตรงไหนหรือครับ????  :-\
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
ครับ ผมก็ว่า e-power นี่ดูยืดหยุ่นที่สุดแล้วนะครับ
ถ้า engineer setting มาฉลาดๆ นี่อนาคตไกล
แต่ถ้าเป็นหลักการแบบน้ำมันปั่นไฟเฉยๆ ไม่ได้มีประสบการณ์มาจาก Leaf
อาจจะเป็นตามที่ HHHsung ว่าครับ
ผมว่าหลักการของระบบ e-power คือเน้นสะดวก
และนำข้อดีของรถน้ำมันมารวมกับข้อดีของรถไฟฟ้าครับ
ถ้าไม่ติดที่ต้อง setting ระบบดีๆ ค่ายอื่นคงลอกการบ้านกันหมดแล้ว
เพราะมันเกิดฮิตขึ้นมา แล้วก็ง่ายที่จะมาแปลงใส่รถ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 20, 2017, 14:24:46 โดย Dark Overlord »

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,603
  • may the force lead your way ...
หวังว่ากำลังปั่นไฟเพื่อ motor กับเก็บลงแบตนี่จะมากพอนะครับ  :o
(ของ H ไม่น่าห่วงเพราะเครื่องใหญ่)

เห็นธรรมชาติจากแบตมือถือนี่หละ
ที่เจ๊งเร็วบวมเพราะไฟเข้าแบตพอๆกับถูกเรียกใช้งานขณะขาร์จ
(คือชาร์จเข้าและใช้ไป ซ้ำๆตรงเซลตัวเดิม ไม่เพิ่มไม่ลด%แบต)

ตรงความเร็วต้นๆไม่น่าห่วงเท่าไหร่(มั้ง?)
แต่ความเร็วปลายๆที่จะกินกระแสเยอะจนปั่นเข้าแบตไม่พอ
และใช้ไฟจากแบตด้วย ผมก็หวังว่าจะป้องกันไว้ดีแล้วนะครับ  :-X
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Nismo De Alpina

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
  • Whatever brews your coffee.
ผมก็ว่าผมเข้าใจอะไรไม่ผิดนา หลักการมันก็ไม่ค่อยซับซ้อนนะ
ไม่เป็นไร คุยกันสนุกๆ ถือว่าแลกเปลี่ยนกันครับ 
Eventually i've made my home country,Thailand.

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
หวังว่ากำลังปั่นไฟเพื่อ motor กับเก็บลงแบตนี่จะมากพอนะครับ  :o
(ของ H ไม่น่าห่วงเพราะเครื่องใหญ่)

เห็นธรรมชาติจากแบตมือถือนี่หละ
ที่เจ๊งเร็วบวมเพราะไฟเข้าแบตพอๆกับถูกเรียกใช้งานขณะขาร์จ
(คือชาร์จเข้าและใช้ไป ซ้ำๆตรงเซลตัวเดิม ไม่เพิ่มไม่ลด%แบต)

ตรงความเร็วต้นๆไม่น่าห่วงเท่าไหร่(มั้ง?)
แต่ความเร็วปลายๆที่จะกินกระแสเยอะจนปั่นเข้าแบตไม่พอ
และใช้ไฟจากแบตด้วย ผมก็หวังว่าจะป้องกันไว้ดีแล้วนะครับ  :-X

น่าสนใจครับ
แต่ผมคิดว่าอาจจะมีการ set ให้คอมปั่นไฟล่วงหน้าถ้าเหยียบหนักๆ
เหมือนเรียนรู้ลักษณะการขับในเวลานั้นๆ ซึ่งไฟไม่มีทางลงไปถึงจุดแบบที่มือถือเป็น
แต่เครื่องจะต้องปั่นเก็บไฟไปเรื่อยๆ กินน้ำมันเพิ่ม เกจ์น้ำมันก็ร่วงเร็วขึ้นแบบรถน้ำมันทั่วไปครับ
ผมว่าเขาน่าจะ setting มากันไว้แล้วแหล่ะ นะๆๆ เหมือนปัจจุบันที่คอมรถก็เรียนรู้ลักษณะคนขับ
รถรุ่นเดียวกัน แต่คันนึงอืดมากขับไม่ค่อยจะไป เพราะคอมเรียนรู้ว่าปกติคันนี้ขับแบบเนิบๆ
ส่วนอีกคันวิ่งปลิวเลย เพราะเจ้าของเล่นซัดตลอดครับ

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ
e-power ของ Nissan นี้มันคือรถไฟฟ้านะครับ
ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่าง รถดั้งเดิมขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน(ICE) vs รถไฟฟ้า vs รถ hybrid ตามความเข้าใจของผม แบบคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรถอะไร ได้แต่เข้ามาอ่านๆ ฟังๆ จาก Guru มากมายในเว๊บนี้ คือ
1. รถทั่วไปที่เราใช้อยู่ ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล จะมีระบบขับเคลื่อนด้วยการใช้การทำงานจากการหมุนของเครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซลก็แล้วแต่ ผ่านระบบส่งกำลัง โดยใช้เกียร์เป็นตัวช่วยควบคุมอัตราทด และมีการส่งกำลังผ่านเพลาถ้าเครื่องกับระบบขับเคลื่อนไม่ได้อยู่ด้านเดียวกัน  ซึ่งการทำงานด้าน mechanic เหล่านี้จะพบว่าเสียง และความร้อนมากมาย ออกมา นั้นคือการสุญเสียพลังงานไป หมายถึงพลังงานจากการเผาไหม้จากห้องเครื่อง 100 ส่วนจะถึงล้อจริงๆกี่ส่วน ผมว่าน่าแค่ครึ่งเดียวมั้งอย่างมาก เพราะมีการส่วนเสียพลังงงานจากความเครียดความเค้นผ่านเนื้อวัสดุในระบบส่งกำลังมหาศาล จนเราต้องมีระบบหล่อลื่นมากมายและต้องเปลี่ยนมันปล่อยๆตามสภาวะการใช้งาน
2. รถไฟฟ้า คือรถที่ใช้พลังงานที่มีไปขับมอเตอร์ที่ต่อกับล้อโดยตรง ใช้ครับมีการสูญเสียพลังงานที่มอเตอร์ไปหมุนล้อ ที่จะมีความร้อน เหมือนใช้พัดลมนั้นแหละครับ ถ้าไม่นับพฤติกรรม การขับรถ การจะสูญเสียความร้อนจากการทำงานมอเตอร์รถ หลักมาจากประสิทธิภาพของมอเตอร์ และ โปรแกรมที่เขียนมาควบคุมว่าเขียนดีมีประสิทธิภาพแค่ไหน  ลองนึกดูนะครับว่า พลังงานที่จะสูญเสียมีแค่ตรงมอเตอร์เป็นหลักจุดเดียวนะครับ เทียบกับระบบรถดั้งเดิม ที่มีจากห้องเครื่องกว่าไปถึงล้อผ่านอะไรกี่จุด
3. รถไฟฟ้า hybrid คือผมมองว่า คือรถแบบดั้งเดิม ที่มีเครื่องยนต์ มีเกียร์ ระบบส่งกำลัง และ มีระบบไฟฟ้ามาช่วยเสริม ช่วยให้กำลังรถ หรือ ช่วยประหยัดพลังงานด้วยวิธีต่างๆ มาเสริมเข้าไปในรถด้้งเดิมดังกล่าว เช่น นำพลังงานจากการเบรคกลับมาป้อนเข้าแบตเตอรี่เพื่อใช้พลังงานใหม่ หรือช่วงที่รถวิ่งไม่เร็วก็ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สะสมไว้ ช่วยไม่ให้รถเครื่องยนต์ หรือ อาจใช้เครื่องยนต์ที่รอบต่ำลง

มาถึง e-power ของ Nissan ผมมองว่ามันคือ รถไฟฟ้า (ผมเดานะว่าระบบขับเคลื่อนน่าจะใช้ motor ไปขับเคลื่อนล้อโดยตรง มันไม่น่าจะเอาต้องมีระบบส่งกำลังแล้ว) เพราะแบบนี้จะลดและประหยัดชิ้นส่วนกว่ามาก และตามความเข้าใจผม
มันจะเป็นการใช้พล้งงานที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าด้วย เพียงแต่พลังงานจากแบตเตอรี่ไม่ได้มาจากการชาร์ตไฟ มันมาจากการหาเครื่องยนต์มาปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ ถ้าคุณไม่ใช้ตีนผี เหยียบคันเร่งมิดตลอดนะครับ ผมว่า รถแบบนี้เครื่องยนต์ที่ติดตั้งสามารถเดินที่รอบเดินเบาสม่ำเสมอ ไปได้เรื่อยได้สบาย แถมอาจจะเครื่องยนต์แค่ ขนาด  600-1200 cc ก็น่าจะพอเหลือ หรือเต็มที่ 1000 cc Turbo ถ้าสมมติรถหนักไม่ถึง 1.5 ตันนะครับ อันนี้ผมกะเอาเองนะครับ  รถที่ระบบแบบนี้ เรียกเป็นแบบ สามัญว่า Range Extender ที่ผมได้ยินครั้งแรกจากการฟังคุณแพน จากรายการวิทยุของ Headlightmag นี้แหละ ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมคุณแพนถึงว่ามันน่าจะดีและน่าสนใจ พอฟังๆไปและอ่านไปเรื่อยก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่า ผมว่านี้นะน่าจะเป็นระบบ Interim ระหว่างเครื่องยนต์สันดาป และ ไฟฟ้า แบบที่พอเพียง ระหว่างรอที่แบตเตอรี่จะถูกและสามารถผลิตและกำจัดได้อย่างปลอดภัยไม่เป็นมลพิษจริงนะครับ เพราะว่า รถที่เป็น Range Extender สามารถวิ่งระยะทางได้ไกลมากพอควร คือน่าถึง 600-1000 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ถังที่อยู่ระหว่าง 20-40 ลิตร  ได้สบายๆ และที่สำคัญมันคือรถไฟฟ้า ที่คนใช้ บริษัท และช่างซ่อม ได้สัมผัส และได้มีประสบการณ์การใช้ การดูแลรักษา กับรถไฟฟ้าอย่างจรืงจัง (คนใช้ได้รู้ว่า ประสิทธิภาพ การประหยัดจากการใช้งาน และ การบำรุงรักษาเป็นอย่างไร, บริษัท รู้ว่าต้องสื่อสารอะไร และเตรียมการผลิต ชิ้นส่วนอะไร เท่าไรดี, และช่างซ่อม ได้รู้ว่าต่อไปต้องเรียนรู้ระบบ และรู้จักปัญหาที่ต้องแก้ไขยังไง)
>>> แต่ไปอ่านในเว็บ เขาก็ให้ระบุว่า e-power เป็น Series Hybrid นะครับ (ผมเป็นการนิยามว่าที่มองว่า ถ้ารูปการใช้พลังงานกับการขับเคลื่อนไม่ได้มาจากแหล่งเดียวกัน หรือมีมากกว่า1 ในแต่ละมิติเขาจัดเป็น hybrid นะครับ แต่ในมุมที่ผมพูดไปก่อนหน้าเป็นการเน้น ระบบอะไรที่ไปทำให้ล้อรถหมุนนะครับ)

และผมไปอ่านพบอีกว่ามีการทดสอบ โดยยกตัวอย่างประสิทธิภาพ ของ Electrical Motor Generator (ในส่วนมอเตอร์ที่ใช้ไฟ ไปหมุนล้อ) ของรถ Prius ในปี 2004 มีประสิทธิภาพ อยู่ระหว่าง 77-93% นั้นหมายถึงตอนที่วิ่งในโหมด EV ประสิทธิภาพการใช้พลังงานจะสูงเกิน 70% หรือ อาจไป 85-90% เลยเชียวนะครับ และที่ความเร็วรอบของมอเตอร์ระหว่าง 1200-5000 มีประสิทธิภาพ ระหว่าง 85-93% สำหรับความต้องการ torque น้อยกว่า 200 Nm ซึ่งผมว่าประสิทธิภาพน่าดีกว่า ของระบบ ICE ที่กว่าพลังงานจากต้นทางมาถึงล้อรถยนต์นะครับ
ปล. ข้อมูลตัวเลขดูคร่าวจากบทความนี้นะครับ
https://www.greenoptimistic.com/electric-cars-gears/#.WXGsF4TyjIU
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2017, 15:34:25 โดย Mr. RO »

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  :D

ออฟไลน์ adsajan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
รถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า100% แรงบิด254Nmมารอตั้งแต่กดคันเร่ง
0-100 เจ็ดวิกว่าๆ อัตตราสิ้นเปลืองดูมาหลายคลิปเห็นได้ประมาณ25/กิโลลิตร
หลายคนยังเข้าใจผิดว่าขับได้ใกล้ๆ คือเครื่องยนต์มันปั่นไฟอย่างเดียวโดยใช้รอบที่ดีที่สุด
lossน้อยไม่ได้ต่อกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน มันก็ขับไปได้เรื่อยๆแบบรถใช้น้ำมันนี่ล่ะ หมดก็เติม
 

ออฟไลน์ locomotive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
E-Power คือไร นึกไม่ออก ให้นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ของรถไฟที่วิ่งทุกวันนี้ละละ เครื่องยนต์เดินรอบ ปั่นไฟอย่างเดียว ส่งกระแสไปให้ มอเตอร์ขับกำลัง อยากตรงไหน เถียงกันทำไม

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
รถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า100% แรงบิด254Nmมารอตั้งแต่กดคันเร่ง
0-100 เจ็ดวิกว่าๆ อัตตราสิ้นเปลืองดูมาหลายคลิปเห็นได้ประมาณ25/กิโลลิตร
หลายคนยังเข้าใจผิดว่าขับได้ใกล้ๆ คือเครื่องยนต์มันปั่นไฟอย่างเดียวโดยใช้รอบที่ดีที่สุด
lossน้อยไม่ได้ต่อกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน มันก็ขับไปได้เรื่อยๆแบบรถใช้น้ำมันนี่ล่ะ หมดก็เติม


555 สั้นๆ แต่ได้ใจความครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,706
E-Power คือไร นึกไม่ออก ให้นึกถึง หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ของรถไฟที่วิ่งทุกวันนี้ละละ เครื่องยนต์เดินรอบ ปั่นไฟอย่างเดียว ส่งกระแสไปให้ มอเตอร์ขับกำลัง อยากตรงไหน เถียงกันทำไม

+1

ใช่ครับ จะเถียงกันทำไม
Wait & See
ถ้ามันดีจริง ระบบไม่ซับซ้อนแบบนี้
เดี๋ยวใครๆ ก็ทำ (พี่จีนเล่นก่อนเลย)  555+

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,348
    • อีเมล์
nissan ไทยตอนนี้ ทำอะไรต่างๆช้ามาก กว่า kick กับ new march จะมาก็ 2018-2019 ถึงตอนนั้นคู่แข่งเขาก็ปรับโฉม กันเกือบหมด ตัวเองเปิดตัวรถก่อนแต่ขายทีหลัง คู่แข่งมีเวลาทำการบ้านเพียบ พอวางขายในไทย เส้นสายที่สวยนำสมัย ก็เริ่มกลายเป็นเชยแล้ว nissan ไทยช่วงนี้นี่ขยับตัวชักช้าอืดอาดตลอด

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,803
  • Hail to the darkside
nissan ไทยตอนนี้ ทำอะไรต่างๆช้ามาก กว่า kick กับ new march จะมาก็ 2018-2019 ถึงตอนนั้นคู่แข่งเขาก็ปรับโฉม กันเกือบหมด ตัวเองเปิดตัวรถก่อนแต่ขายทีหลัง คู่แข่งมีเวลาทำการบ้านเพียบ พอวางขายในไทย เส้นสายที่สวยนำสมัย ก็เริ่มกลายเป็นเชยแล้ว nissan ไทยช่วงนี้นี่ขยับตัวชักช้าอืดอาดตลอด

ครับ รู้สึกว่า Kicks ก็มาช้าเกินไป
รูปทรง หน้าตา รูปร่างตอนนี้ ดูล้าสมัยไปแล้วด้วยนะครับ
จะเป็นอีกรุ่นรึเปล่าที่ลงทุนเจ๊งไปเปล่าๆ ปลี้ๆ

ถ้าจะมาช้าๆ ควรพ่วงเทคโนโลยี่มาด้วยครับ เอาให้คู่แข่งหนาว
แต่ถ้ามาพร้อมกระดองใหม่เฉยๆ พื้นฐานอะไรคนก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะเลือกไปทำไม

ออฟไลน์ pikabom

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
แหม่ คาดว่า คงเม้นกันมันส์มือแต่ไม่ได้ ดูก่อน ว่า e-power มันคือ รถไฟฟ้า สินะครับ

ใช้แค่เครื่องยนต์เป็นตัวปั่นไฟเข้าแบต และ ไฟจากแบตเข้าไปมอเตอร์ไฟฟ้าอีกที เครื่องยนจะไม่มีชุดเกียร์ไปเชื้อมต่อกับระบบส่งกำลัง แต่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลัง ครับ เห้นเม้นข้างบน มาเหนือเลย บอกว่า ใช้แค่เร่งแซง..............โถ จริงๆใช้ขับเคลื่อนเลยครับ  ลองดูในคลิปด้านล่าง จริงๆมีเวอชั่นภาษาไทยด้วย แต่หาไม่เจอลองดูครับ เผื่อจะชอบ   



ออฟไลน์ pikabom

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
เท่าที่ผมเข้าใจ e power ของ nissan คือการเอาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก มาปั่นไฟใส่แบตขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้า

ซึ่งการออกแบบอย่างนี้ ตลาดรถเมืองไทยไม่มีทางได้เกิดหรอก เพราะมีข้อจำกัด จากขนาดแบต และ ถังน้ำมันที่มีขนาดเล็ก

ทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล เน้นเป็นซิตี้คาร์จริงๆ วิ่งในเมืองได้อย่างเดียว ถ้าจะให้วิ่งทางไกลได้ ต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น

ก็จะทำให้อัตราการกินน้ำมันโดยรวมสูงขึ้น จนไม่จูงใจให้ใช้ครับ

ถ้าใส่ถังน้ำมันตามปกติของ Note 4x ลิตร อัตราการสิ้นเปลืองประมาณ 20 กม./ลิตร (คิดแบบไม่เข้าข้างนะ)

วิ่งได้กี่กิโลเอ่ย?

ผมให้ถังน้ำมันจุ 40 ลิตรเลยเอ้า
40x20 = 800 Km
วิ่งได้ไม่ไกลหรอกครับ แค่กรุงเทพ-เชียงใหม่โดยแวะปั๊มซื้อแค่กาแฟก็พอ  :D

เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์ใน e power มั้ยครับ มันเอากำลังทางกลของเครื่องยนต์มาปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงาน

โดยการควบคุมรอบเครื่องยนตืให้อยู่ในย่านแรงบิดสุงสุด เพื่อประหยัดน้ำมันมากที่สุด จากการปั่นไฟ

ส่วนกำลังงานบางส่วนจากการเบรคหรือในช่วงที่ใช้ไฟไม่ถึงกำลังผลิต จะถูกเก้บในแบตดเตอรี่ขนาดเล็ก เพื่อช่วยเร่งแซงระยะสั้นๆ

การวิ่งทางไกลยาวๆ โดย regen หรือเบรคน้อยๆ มอเตอร์ไฟฟ้าต้องอาศัยกำลังไฟจากการปั่นของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นเมื่อ e power ใช้เครื่องยนต์เล็ก 1.2 ลิตร 3 สูบ มันก็ไม่ต่างจาก โน็ต ที่ขายในบ้านเรา

concept e power ที่นิสสันใช้ เน้นการใช้งานในเมืองที่วิ่งๆ หยุดๆ สลับกันไป มันถึงจะได้อัตราการกินน้ำมันที่เคลมไว้

concept e power เจ้าอื่น เค้าใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กันครับ ที่เราๆ เรียกว่า hybrid ไม่ว่าจะ hon to หรือว่า benz

อันนี้ นอกจากจะขับมันแล้ว ยังประหยัดด้วย แต่ข้อด้อยคือ ราคา มันไม่น่ารักเท่าไหร่

ปล. ดังนั้นในเคสนี้ คุณต้องชิลจริงๆ ถ้าจะขับจาก กทม-ชม. เพราะมันแย่กว่าโน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร อย่างเดียวซะอีก

เนื่องจากถูกลดทอนจากประสิทธิภาพการเปลี่ยนรูปพลังงานถึง 2 ครั้ง คือจาก กล>ไฟฟ้า ไฟฟ้า>กล

ขณะที่ โน้ตเครื่อง 1.2 ลิตร ไม่มีการเปลี่ยนรูปพลังงานเลย นอกจากนี้ การที่ขับเร็ว รอบเครื่องมันไม่สามารถยู่ในย่านแรงบิดสูง

ต้องไปอยู้ในย่านแรงม้าสูงแทน ทำให้มันไม่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทำให้ภาพรวมในการใช้วิ่งทางไหลมันแย่ครับ

สอบถามครับ รู้จักระบบ e-power แค่ไหนครับ ??

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,431
ตามที่เข้าใจการทำงาน e-power คือใช้เครื่องยนต์มาสร้างพลังไฟฟ้ามาเก็บที่แบตเตอรี่ๆจ่ายพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อน

เครื่องยนต์ไม่ได้มีภาระในการแบกน้ำหนักรถในการขับเคลื่อน มีหน้าที่ปั้นสร้างกำลังไฟฟ้า เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนรถ

ข้อดี ไม่ต้องเสียบปลั๊คเพื่อชาร์จไฟ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนอย่างเดียว เรื่องความแรงก็คงต้องขึ้นอยู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า

ข้อสังเกต ยังไงก็ต้องเติมน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์เพื่อปั่นไฟ ถ้ามอเตอร์ หรือ แบตเตอรี่ลาโลกไปก่อน ถึงมีเครื่องยนต์ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนได้