ผู้เขียน หัวข้อ: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดีมากกว่าที่คิด**  (อ่าน 132500 ครั้ง)

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆชาว Headlightmag.com ผมเองได้ติดตามเว็บนี้มาเสมอๆ ตั้งแต่ Exclusive First Impression Nissan Teana ตัวใหม่ จนมาถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้สมัครสมาชิก อาศัยหลบๆแอบๆซ่อนๆ อ่านบทความต่างๆในเว็บ จนไปอ่านเจอกระทู้ ที่รีวิว เทียนา 2.0 ด้านล่างครับ มีคนมาโพสว่า เจ้าของกระทู้น่าจะรีวิว A32 อีกคันที่บ้านด้วย เพราะรุ่นนี้ มีคนสนใจหาซื้อมือ 2 เยอะ ผมคิดแล้วก็เลยอยากให้ข้อมูลแก่เพื่อนๆบ้าง ประกอบกับที่ตัวเองขับรถรุ่นนี้อยู่แล้ว เลยอยากจะมารีวิวข้อดี ข้อเสียต่างๆให้ชาวเว็บทราบกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ

 ;D ;D ;D



Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
คำว่า cefiro เป็นภาษาสเปนครับ เท่าที่ไปหาความหมายมาดูจะแปลได้ว่า “ลมตะวันตก” ซึ่งโฉม A32 นี้ทำตลาดแทน A31 ประมาณปี 1997 แทบจะเรียกได้ว่า เปลี่ยนใหม่หมดทุกอย่าง ทั้งเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อนจากขับหลังมาเป็นขับหน้า ช่วงล่างจาก Multi-Link มาเป็น Multi-Link Beam รูปทรงจากสปอร์ตๆเพรียวลม มาเป็นทรงภูมิฐานหรูหรา (จะว่าแก่ก็แก่นั่นแหละ) เหลือไว้แค่ชื่อ cefiro เท่านั้นแหละ


Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
คันที่ได้มา ซื้อมือ 2 มาครับ พ่อกับแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันรับปริญญา โดยซื้อจากรถบ้านโดยตรง เจ้าของขับมือเดียวรักษามากครับ ผมเห็นรถครั้งแรกก็วางเงินมัดจำไว้เลย โดยก่อนหน้านั้นก็มองไว้หลายๆรุ่น ทั้ง BMW 525i E34 big-nose แต่ทนซ่อมจุกจิกไม่ไหว เพราะเสียงบ่นเยอะเหลือเกิน กับมอง Volvo 850 แต่ตัวนี้ก็เกียร์ไม่จบ มีปัญหาตลอด ส่วนรถญี่ปุ่นก็ดู Honda Accord ปี 94 รุ่นขนมปัง 2 ก้อนไว้ แต่ผมไม่ชอบที่ห้องโดยสารแคบ เกินไป Camry โฉมแรก ก็ไม่ค่อยสวย เลยมาจบที่ Cefiro A32 เพราะคิดว่าคุ้มเงินที่จ่ายไปที่สุดแล้วครับ ประกอบกับเคยนั่งรถของลุงแล้วติดใจ แกเองก็ไม่ยอมเปลี่ยนรถซะที ใช้มานานตั้งแต่ป้ายแดง แสดงว่ามันต้องมีอะไรดีบ้างล่ะน่า เลยตัดสินใจ....เอาตัวนี้แหละ cefiro

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Cefiro A32 จัดว่าเป็นรถขนาดใหญ่ทีเดียวในสมัยนั้น ด้วยความยาว 4,770 มม. กว้าง 1,770 และสูง 1,415 มม. ซึ่งปัจจุบัน รถญี่ปุ่นไซส์ใหญ่จะเฉียดเข้าใกล้ 5 เมตรไปทุกที และความสูงก็มากกว่า แต่ เจ้า A32 ก็ยังคงความใหญ่โตของตัวถังได้ไม่แพ้รถคันอื่นๆ (เคยไปจอดเทียบกับ Corolla AE100 รถร่วมสมัย Cefiro ใหญ่โตโอฬารมาก) แม้ว่าขนาดตัวจะออกแบนกว้าง ซึ่งต่างกับรถสมัยนี้ที่ออกแนวอ้วนป่องพองกลม ท้ายยกสูง ทำให้เจ้า A32 ดูตัวตัวเล็กกว่าความเป็นจริงเยอะ แต่ถ้าลองเข้าไปนั่งในรถ หรือเทียบความยาวกับรถคันอื่นๆ ก็จะพบว่ามันมีขนาดใหญ่โตทีเดียว ซึ่งรูปร่างตัวรถถ้ามองด้านข้างจะหลอกตาว่าดูเล็กกว่าความเป็นจริงครับ
 
แต่พี่ๆที่ทำงาน กลับมองว่าเจ้าตัวนี้ใหญ่กว่ารถรุ่นใหม่ๆซะอีก เพราะความแบนกว้างของตัวถัง


Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
เพื่อนมานั่งรถก็จะบอกว่า “รถแกคันใหญ่มากอ่ะ” ไม่ก็ “โห กว้างจัง” หรือ “ทำไมซื้อรถคันใหญ่จัง ขับในกรุงเทพฯ ไม่ลำบากเหรอ” ทำนองนี้แหละครับ


Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
ด้วยขนาดเนื้อตัวของเจ้าคันนี้ ทำให้น้ำหนักรถปาไปถึง 1,420 กก. ถือว่าหนักเอาการ แต่ก็ได้คำตอบเมื่อเอารถไปเข้าอู่สี เพราะโดนเฉี่ยว พอช่างถอดกันชนหน้าและหลังออกมา ปรากฏว่า มีคานเหล็กกันกระแทกอันเบ้อเริ่มเทิ่มทั้งหน้าและหลัง ลองเคาะตู ก็หนาเอาการ เป็นอันว่าหายห่วงเวลาโดนเสย อย่างมากก็ไม่ถึงเนื้อถึงตัวกันง่ายๆ ไม่เหมือนรถรุ่นใหม่ๆปัจจุบันนี้ มีแต่กันชน แต่ไม่มีคานเหล็กกันกระแทก


Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
อีกอย่างหนึ่งคือ ประตูครับ ทั้ง 4 บานเลย
มันหนัก.......อึ้ง *___*
   พอเพื่อนๆ หรือญาติๆ หรือใครก็แล้วแต่มาขึ้นรถ จะเกิดปัญหาปิดประตูไม่สนิททุกคน เพราะความหนักของประตูนี่เอง ทำให้ต้องปิดย้ำกันบ่อยๆ จะไม่สามารถเหวี่ยงปิดทีเดียวแบบรถคันอื่นได้เลย ต้องเอามือดันประตูจนสุดนั่นแหละครับ บางคนก็กระแทกซะโครมใหญ่ ไม่สงสารรถเราบ้างเลยแฮะ..... เรื่องนี้ก็ได้คำตอบอีก ตอนเอาไปเปลี่ยนเครื่องเสียง ช่างถอดหนังหุ้มประตูด้านในออก ทำให้เห็นคานเหล็กกันกระแทกอันใหญ่(อีกแล้ว) ท่อนเบ้อเร่อ วางขวางรูปตัว Z นะ (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งคานเหล็กน่ะ ใหญ่จริงครับ และท่อนกลมหนาจริง มิน่าถึงหนัก


Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
เราเลยไม่เกิดความรำคาญเวลาปิดประตูอีก เพราะก็คิดได้ว่า รถเราปลอดภัยหายห่วง....>_< แนวหลังคาทำเป็นร่องครับเอาไว้กันน้ำไหลลงมาทางด้านข้างประตูรถ กรอบกระจกล้อมรอบด้วยโครเมี่ยม รวมทั้งมือจับเปิดประตูทั้ง 4 บาน ทำให้ตัวรถดูหรูหราขึ้นมาบ้าง แต่ที่น่าติเตียนอย่างมากมาย คือกระจกหลังทั้ง 2 บานไม่สามารถเลื่อนกระจกลงมาจนสุดครับ ลงมาสุดๆแล้วจะเหลือกระจกโผล่มาหน่อยหนึ่ง  แต่แม่ก็แซวว่า เอาไว้เป็นคุณนายนั่งอยู่ข้างหลังไง เวลาเค้าเปิดกระจกคุยเค้าไม่เลื่อนลงสุดกันหรอก มันเสียมาดคุณนาย......โอเค จัดไป 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2010, 21:09:49 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:11:15 »
ไฟหน้ารูปทรงภูมิฐานครับ ตัวโคมเป็นแก้วใส ไม่เกิดปัญหามัวง่ายๆแบบพลาสติคแน่ แต่ว่าไม่ค่อยสว่าง ผมเลยไปติดชุดเพิ่มไฟ ให้ความสว่างหน่อย ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะ ในตัวโคมรวมกันหมดทั้ง ไฟหรี่ ไฟต่ำ ไฟสูง มีลูกเล่นที่มุมกันชนทั้ง 2 ข้าง ไฟนี้จะติดขึ้นเมื่อเราเปิดไฟต่ำ แล้วกระพริบไฟเลี้ยวครับ มันจะส่องทางให้เห็นระหว่างเลี้ยวรถ ถือเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจมาก ตั้งแต่ไฟหน้าแบบ AFS ปรับองศาตามวงเลี้ยวพวงมาลัย ยังไม่ถือกำเนิดน่ะนะ

ไฟท้ายไม่มีอะไรมากครับ ธรรมดาพื้นๆ ปกติทั่วไป มีไฟเบรคดวงที่ 3 ไว้ด้วย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 16, 2010, 21:14:58 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
ด้วยความที่รูปทรงรถมันออกแนวยุโรปๆ เทือกนั้น ทำให้บั้นท้ายไม่กระดกมาก เท่ารถสมัยใหม่ ฝากระโปรงหน้าก็ไม่ได้ลาดลงมากแบบพวกรถขนาดเล็ก นี่เองที่เป็นที่มาของ “ความแก่” ของตัวรถ แต่ถ้ามองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป มันเป็นรถที่ให้ทัศนวิสัย อยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” คันหนึ่งครับ เพราะเมื่อผมนั่งอยู่หลังพวงมาลัย (สูง 182 ซม.) ผมสามารถมองเห็นฝากระโปรงหน้ารถได้เคลียร์แบบทุกจุด โดยไม่ต้องกลัวเวลาตีวง ว่าจะไปเชยชมรถชาวบ้าน หรือเสยฟุตบาทเล่น รวมทั้งฝากระโปรงหลังที่ไม่ได้ยกสูงมากนั่นเอง ทำให้ผมมองกระจกหลังได้แบบกว้างมาก เพราะมันไม่มีฝากระโปรงหลังมาบดบัง คือผมสามารถมองเห็นรถตามหลังได้แบบเต็มๆคัน โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนกระจกหลังให้ใหญ่ขึ้น อีกทั้งเวลาถอยจอด เข้าซอง ผมสามารถกะระยะได้ง่ายมากจริงๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2010, 21:20:45 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
กระจกมองข้างให้ทัศนวิสัยดี ไม่หลอกตา ปรับด้วยไฟฟ้าทั้ง 2 ข้าง โดยใช้วิธี Joy Stick ครับ (ใครเคยเล่นเกม น่าจะนึกออก) คือจับแล้วโยกๆๆๆๆๆ เอาเลย ไม่ต้องกด ซ้าย ขวา ขึ้น ลง สรุปคือ ง่าย.......ย ต่อการปรับอ่ะ ตัวกระจกสามารถพับได้ด้วยมือครับ ทั้งไปด้านหน้า และ ด้านหลัง กันพวกมอไซด์เฉี่ยวใน กทม. ได้ดี พวกนี้ชอบมุด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2010, 21:20:11 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
ที่เปิดฝากระโปรงท้ายรถครับ ต้องดึงขึ้น แต่ถ้ากดลงจะเป็นการเปิดฝาถังน้ำมัน รวมอยู่ในอันเดียวไปเลย แรกๆสับสนเวลาใช้ หลังๆ ชินแล้ว ท้ายรถกว้างขวางเว่อมากๆๆ ใครจะเอาไปติดแก๊สก็มีที่วางถังเหลือเฟือแน่ๆ (รถผมก็ติดแก๊สครับ เจ้าของเก่าติดมาอยู่แล้ว เท่าที่เช็คระบบใช้ได้ ติดร้านมีคุณภาพอยู่พอสมควร แต่เราก็พยายามสลับวิ่งกับน้ำมันบ้าง และระบบจะบังคับ
สตาร์ทด้วยน้ำมันครับ)
ที่น่าถูกใจอีกอย่างคือ ยางอะไหล่ใส่แม็กติดรถมาให้ด้วย ไม่ใช่ล้อเหล็กรูประๆปรุๆ แบบรถกระบะขนของ


Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
มาตรวัดเรียบๆ ไม่มีอะไรมากครับ มี 4 วง เรียงจากซ้ายไปขวา คือ ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ความเร็ว (ซึ่งอันนี้ผมไปเปลี่ยนมาครับอันเก่ามันเสีย ความเร็วเลยโชว์แค่ 180 ซึ่งก็ไมได้เป็นปัญหามาก เพราะปกติไม่เคยขับเกิน 150 อัดสุด 160 ก็เต็มที่ กลัวครับ บอกตรงๆ ไม่อยากขับเร็วมากเท่าไร) ถ้ามาตรวัดของเดิมจะมีถึง 260 กม./ชม. ในของใหม่นี้ก็มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์มาด้วย ซึ่งจะเพิ่มมาในรุ่น Minor change ของเดิมไม่มีเช่นกันครับ ถัดไปเป็นมาตรวัดรอบเครื่อง กับอุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2011, 21:52:05 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
คอนโซลกลางไม่ได้ยื่นยาวมากเท่าไร ส่งผลให้ความกว้างในห้องโดยสารมีมากขึ้นกว่าเดิม แอร์ดิจิตอลครับ รู้สึกต่ำสุดปรับได้ 18 องศา ถึง 32 นะ ไม่แน่ใจ ด้วยความที่เป็นแอร์ดิจิตอล ไม่ใช่หมุนๆปรับได้แบบรถญี่ปุ่นทั่วไป ดังนั้นการจะเอาความเย็นแบบเจี๊ยบๆๆๆๆ นั้นต้อง......รอ ครับ รอ อย่างเดียว จะให้เย็นทันใจแบบ DENSO คู่ขาของคุณโต คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อปรับแอร์แบบออโต้ แอร์จะเร่งสปีดพัดลมเอง แล้วค่อยๆผ่อนลงเมื่อได้อุณหภูมิตามที่ต้องการ ซึ่งถ้าเย็นแล้วก็ฉ่ำครับ ฉ่ำได้ใจจริงๆ สรุปคือแอร์น่ะเย็น แต่ต้องทำตัวเป็นคนใจเย็นหน่อยครับ อย่าไปเร่งให้มันเอาเย็นๆทันใจเรา.....แต่แอร์ก็แทนกันด้วยความฉ่ำของมันหลังจากคุณปิดมันไปแล้ว มันยังให้ความฉ่ำ(ไอความเย็นที่ยังเหลืออยู่น่ะครับ) ภายในห้องโดยสารได้อยู่ ถ้าภายนอกรถไม่ร้อนจนเกินไปนัก แต่ถ้าจอดกลางแดดก็ไม่ไหวเหมือนกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2010, 08:06:36 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
เปิด-ปิดกระจกด้วยไฟฟ้า เป็นระบบ one touch เฉพาะบานคนขับบานเดียวครับ ลองกดดีดีจะมี 2 จังหวะ กดลึกหน่อยจังหวะที่ 2 จะเข้าระบบ one touch ให้ แล้วก็เรื่อง เซ็นทรัลล็อค จะล็อคตั้งแต่ความเร็วเกิน 30 กม./ชม. ขึ้นไป (หรือ 20 ก็ไม่แน่ใจ...แบบว่าลืม) และจะล็อคหมดทุกบานยกเว้นประตูฝั่งคนขับ เพราะเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ (คงกะให้คนอื่นช่วยออกมาได้เวลาเกิดเหตุน่ะครับ) เช่นกันกับกดล็อคตรงที่ท้าวแขนจะปลดล็อคทั้ง 3 บาน แต่ถ้าขยับไปปลดล็อคที่บานประตูโดยตรงจะปลดให้หมดทั้ง 4 บานครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2010, 21:32:55 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:34:03 »
เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ ขับสบายครับ ข้างรางเกียร์มีโหมดให้เลือกแบบ Power คือ ขับเอามันส์ เกียร์เปลี่ยนง่าย เร่งง่าย พุ่งเร็ว แต่ซดน้ำมันนะ กับโหมด Snow เอาไว้เวลาหิมะตก         -_____-* คาดว่า เมืองไทยคงไม่มีโอกาส เลยปรับเอาไว้ใช้เวลาฝนตกหนักๆถนนลื่นๆแล้วกันเนอะ
เกียร์ลูกนี้การทำงานก็น่าประทับใจครับการตัดต่อ D ไป N หรือ N ไป D ไม่ค่อยมีอาการกระตุกเท่าไร
แต่........แต่ และ แต่ ช่วงเวลาเปลี่ยนเกียร์ ในโหมด D จากเกียร์ 1 ไปเกียร์ 2 มีอาการกระตุกจนรู้สึกได้ โอเค มันไม่ถึงกับน่ารำคาญ แต่เวลาขับในเมืองรอบคลานต่ำๆ วิ่งเกียร์ 1 อยู่ พอกระตุกไป 2 ปั๊ป เจอรถคันหน้าก็ต้องเบรค มันเลยเกิดความรู้สึกรำคาญบ้างที่ต้องกระตุกๆ เบรคๆ แต่พอนานๆไปก็ช่างมัน 55+ ขับทางไกล เกียร์เปลี่ยนรอบสูงยากนิดนึงเวลาจะเพิ่มความเร็วกะทันหัน บางครั้งไม่ทันใจก็ kick down เอา รึไม่ก็กดปุ่ม OD เวลาเร่งแซงครับ ถือว่าใช้ได้ 
เดี๋ยวตรงนี้ ไว้ไปพูดทีเดียวเรื่องสมรรถนะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2011, 22:49:58 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
กล่องเก็บของไม่ลึกเท่าไร เรียกว่าใส่แค่ปก CD ก็เต็มแล้ว เลยพึ่งพาไม่ค่อยได้ ดีที่ไปเปลี่ยนเครื่องเสียงแบบใหม่เล่น port USB ได้เลย ไม่ต้องนั่งไรท์ซีดี ผมเลยเอาไว้ใส่มือถือกับกระเป๋าตังค์เอา กล่องเก็บของนี้สามารถเป็นที่ท้าวแขนในตัวได้ ถือว่าสบายมากครับสำหรับเวลาขับแล้วเมื่อยแขน ด้านหน้าที่วางแขนเป็นช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง มีลูกเล่นที่สามารถปรับขนาดได้ตามขนาดแก้วน้ำด้วย แล้วก็คันเบรคมือ หน้าตาธรรมดาๆ ดึงได้ 2 จังหวะ (ต่างกันตรงไหนระหว่างทั้ง 2 จังหวะดึงเบรคมือ ใครบอกที ??)

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:39:11 »
พวงมาลัยขนาดกำลังดี วงไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้ง่ายเวลาขับ แต่ไม่มีถุงลมนิรภัยบรรจุมาให้ จะมีตอนรุ่นหลัง Minor change รอบแรก ที่เปลี่ยนไฟทับทิม กับมีปีกนกที่กระโปรงหน้า
น้ำหนักพวงมาลัยค่อนข้างหนืดมือ ไม่ถึงกับเบาโหวงแบบ Altis ตัวใหม่ อันนั้นเบาจนน่าตกใจ ไปขับของป้าครั้งแรก ตกกะใจเพราะเราชินแต่กับรถเราเอง เรียกว่าน้ำหนักพวงมาลัยต่างกันเยอะ ความหนืดของพวงมาลัยทำให้มีความมั่นใจสูงเวลาขับทางไกล แอบมีโหวงๆนิดๆ แต่พวงมาลัยยังคงอยู่ในวิสัยที่บังคับควบคุมได้ง่าย ถึงแม้จะไม่หนักเท่ารถยุโรป (Chevrolet Zafira ที่เคยขับ) แต่งานนี้ไม่มีเครียดแน่นอน และก็ไม่ได้เป็นปัญหาเวลาขับในเมือง เพียงแต่ต้องตีวงกันบ้างเพราะขนาดของตัวรถครับ ถอยเข้าซองต้องสาวกันหน่อยนึง ไม่เหมือนพวกรถคันเล็กๆ

เอ้อ.....อีกอย่างนึง วงเลี้ยวกว้างครับ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร กลับรถบนถนนลาดพร้าว ต้องหมุนพวงมาลัยจนเหนื่อย กลัวไปเสยฟุตบาท
(น้องจูน พ่อผมกลับรถยังง่ายกว่าเลย ทั้งที่ตัวโตซะชนาดนั้น ลองหมุนพวงมาลัยดู เหมือนว่าจะหมุนได้รอบมากกว่าน้องเซเยอะมาก)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 06, 2011, 11:51:43 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:41:04 »
ด้านขวาเป็นพวกไฟเลี้ยว ไฟหรี่ ไฟต่ำ ไฟสูง เหมือนรถญี่ปุ่นทั่วๆไป ด้านซ้ายเป็น ที่ควบคุมระบบปัดน้ำฝน มีลูกเล่นนิดหน่อยตรงปลายก้าน ถ้าบิดตามขีดๆเหมือนสัญญาณโทรศัพท์นั่น จะเป็นการปรับความถี่ในการปัดน้ำฝนเวลาเลื่อนก้านควบคุมลงมาสเต็ปแรก INT จะเป็นการปัดแบบหน่วงเวลาครับ นอกนั้นก็ตามสเต็ปปกติ เหมือนรถทั่วๆไป

แล้วก็อันนี้เป็นปรับความสว่างของแผงหน้าปัทม์ตอนกลางคืน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2012, 18:21:00 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:43:30 »
มาถึงจุดเด่นของรถคันนี้กันครับ ก็คือ ความกว้างของห้องโดยสาร ซึ่งถือว่ากว้างไม่น้อยหน้ารถรุ่นใหม่ๆเลย บางทีอาจจะกว้างกว่าบางรุ่น บางยี่ห้อด้วยซ้ำ เนื่องด้วยฐานล้อที่ยาวถึง 2,700 มม. และแผงคอนโซลที่ไม่ยื่นยาวมาก ทำให้เนื้อที่ใช้สอยภายในอยู่ในระดับ “เหลือเฟือมากๆๆ” เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้ครับ สีดำทำความสะอาดง่าย ตรงนี้ผมชอบนะไม่ต้องกังวลเหมือนพวกเบาะสีครีม แต่สีดำมีข้อเสียคือซีดง่าย และร้อนตูดสุดๆๆๆๆ เวลาจอดกลางแดดนานๆ

**แนะนำว่าตอนซื้อ ดูเบาะให้ดีดี เพราะรุ่นนี้มีทั้งเบาะผ้าและเบาะหนัง บางคนก็เอาไปเปลี่ยนเป็นเบาะหนังในภายหลัง
ซึ่งหนังก็ไม่ได้คุณภาพเท่าที่ติดรถมา ตรงนี้ต้องสังเกตุลายกับกลิ่นของเบาะดีดีครับ**
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2010, 23:32:09 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:45:53 »
ผู้โดยสารด้านหน้าสามารถยืดขายืดคอได้เต็มที่ ไม่ต้องไปทะเลาะกับซุ้มล้อ หรือการเบียดของคอนโซล ยิ่งด้านหลังล่ะก็นั่งสบายหายห่วง ถ้าหุ่นมาตรฐานชายไทยทั่วไปแบบ 170 เซนติเมตร ก็มีที่วางเท้าให้มากพอ โดยที่ไม่ต้องอาศัยเบาะหน้าเป็นที่ซุกเท้าเลย เรียกว่านั่งสบายทั้งหน้าหลัง อาการปวดเมื่อยหลังเวลานั่งนานๆ ก็ไม่ค่อยพบเจอ เจอแต่เมื่อยก้นนั่นแหละ ด้านหลังถ้านั่ง 3 คน คนกลางก็ต้องลำบากหน่อยเพราะอุโมงค์เพลากลางค่อนข้างสูง และอาจจะต้องนั่งเบียดไหล่กันนิดนึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 06, 2011, 11:53:27 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากคือ “กลิ่น” ของห้องโดยสาร มันหอมเบาะมากจริงๆ หอมแบบเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ไปแล้ว ไม่ฉุนจมูกเหมือนรถรุ่นใหม่ๆ
เบาะขนาดใหญ่โตนั่งสบายครับ ปรับแบบอัตโนมืออยู่ ไม่ใช่ไฟฟ้านะครับ......ก็ดีที่ไม่ได้วุ่นวายมากเวลาซ่อม ปรับมือนี่แหละง่ายดี ส่วนคนขับปรับได้ทั้งเลื่อนหน้า ถอยหลัง พนักพิงเอนมาก เอนน้อย ตัวเบาะกระดกขึ้นลง สูงต่ำ แถมมีดันหลังด้วย ทำให้สบาย ผมไม่เคยพบปัญหาปวดหลังเลยจากการขับทางยาวๆ 400 กิโลขึ้น (ไกลกว่านี้ไม่รู้นะ เพราะไม่เคยอ่ะครับ)
เบาะคนนั่งปรับได้แค่ เลื่อนหน้าหลัง กับ พนักพิง 2 อย่างครับ มาดูเบาะหลังบ้าง มันกว้างจริงๆๆๆๆๆ นี่ปรับตามขนาดที่บ้านผมนั่งนะ มีแต่ตัวสูงๆกันทั้งนั้น เนื้อที่ข้างหลังก็ยังยืดขายืดคอได้อีกมาก นับว่าเป็นจุดแรกที่ผมสนใจรถรุ่นนี้เลยแหละ ที่วางแขน ดึงลงมาได้ครับ จะเจอช่องที่เปิดทะลุไปยังฝากระโปรงท้าย หยิบของง่าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2010, 21:50:39 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
วัสดุในห้องโดยสารเท่าที่ดูจะเห็นถึงความประณีตในการทำครับ
ทั้งแผงคอนโซลที่ใช้พลาสติค กับ ไวนีล อย่างดีพื้นผิวสัมผัสดูมีราคา พลาสติคไม่เคาะแล้วดังก๊อกแก๊ก หรือดูเป็นของเล่นมากเกินไป (ขอบ่นหน่อย เห็นวัสดุในห้องโดยสารของวีโก้ หรือโตโยต้า รุ่นหลังๆนี่ขัดใจมาก ดูไม่สมราคาที่จ่ายไปเลย)
ด้านบนมีไฟส่องแผนที่ 2 ดวง กลางหลังคามีไฟเพดาน ซึ่งจะดับเวลาปิดประตูรถ(แล้วแต่ตั้งครับ) ซึ่งเวลาดับจะไม่ดับทีเดียว แต่จะหรี่ลงครึ่งหนึ่ง แล้วค่อยๆดับลงไปเอง....ผมชอบแฮะ ดูเป็นลูกเล่นเล็กๆน้อยๆ ที่เอาใจใส่ดี แผงประตูหน้า 2 บานมีไฟส่องทางลงด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 05, 2010, 21:54:25 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:56:35 »
มาถึงสมรรถนะ ที่หลายคนก็อยากรู้แน่นอน ว่ารถขนาดน้ำหนัก เนื้อตัวขนาดนี้ กับเครื่องยนต์แค่ 2.0 ลิตร มันจะอืดมั้ย ??? มาดูกันดีกว่าคับ   
บิดกุญแจสตาร์ทกันเลย อันนี้มีลูกเล่นอีก เวลาดับเครื่องยนต์แล้วบิดกุญแจกลับ จะไม่สามารถดึงกุญแจออกมาได้ ถ้าไม่กดปุ่มตรงนี้ครับ ข้างรูกุญแจ กดแล้วกุญแจจะเด้งออกมา ก็ดึงออกแล้วก็จบ (ไปรับมาครั้งแรกพ่องง...ว่าดึงกุญแจออกยังไง ต้องโทรไปถามลุงที่ขับรุ่นนี้อยู่ ลุงหัวเราะก๊ากกกกก...บอกว่า กดปุ่มสิ)

เครื่องยนต์รหัส VQ20 เป็น V6 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้า 140 ตัว ซึ่งเด่นเรื่องการเดินเครื่องที่ราบเรียบ และเงียบเสียง
ซึ่งผมขอคอนเฟิร์มเลยครับ ว่าเงียบจริง และ เรียบจริง เรียกได้ว่าถ้าคุณติดเครื่องยนต์โดยที่ยังไม่ต้องเปิดแอร์นะ(เพราะมันจะมีเสียงคอมแอร์ดังนี่แหละ) แล้วลองฟังในห้องโดยสารดู จะพบว่าคุณแทบไมได้ยินเสียงการทำงานและไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์เลย นิ่งและเงียบมากๆ หรือไม่ก็ลองออกไปฟังนอกรถเลย
เสียงมันเงียบถึงขนาดว่าต้องก้มลงเอาหูไปแนบฝากระโปรงนั่นแหละ ถึงรู้ว่าเครื่องยนต์มันทำงานอยู่  ซึ่งตรงนี้ขอชมเชยนิสสัน เรื่องเครื่องยนต์ VQ มากๆ ว่าทำได้ดีสมกับเกรดของรถจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 06, 2011, 11:58:43 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 21:59:06 »
มาลองขับดีกว่า ถามว่าอืดมั้ย ?? ผมบอกตรงๆเลยว่า ไม่อืดมากนะ ตามความรู้สึกผม โอเคคือคุณต้องเข้าใจนิสัยของรถก่อนว่ามันเป็นรถใหญ่ น้ำหนักมาก จะให้กดพุ่ง กดพุ่ง แบบรถเล็กคงเป็นไปไม่ได้
อีกอย่างหนึ่ง คือเครื่องมันเล็กครับแค่ 2.0 ลิตร แบกน้ำหนักตัวถังตั้ง 1.4 ตัน ตีนต้นต้องรอรอบพอสมควร เหมือนรู้สึกว่ากดคันเร่งลงไปแล้วแรงมันยังไม่มานั่นเอง การออกตัวอาจจะชักช้าไปบ้างตามขนาดของเครื่องยนต์ แต่ก็ไม่ได้อืดอาดจนเว่ออย่างที่ใครๆหลายคนค่อนขอดกัน รถจะพุ่งออกไปอย่างนุ่มๆไม่ใช่พุ่งปรู๊ดปร๊าด เวลาเรียกหาความเร็วตอนเร่งแซงก็ยังพอพึ่งพาได้ เพียงแต่ไม่ทันอกทันใจคนใจร้อนเท่าไร ถ้าความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ไปแล้วนั่นแหละ แรงมันจะค่อยๆไหลมา และความเร็วจะเริ่มทะยานไปเรื่อยๆจนถึง 120 กม./ชม. อย่างรวดเร็ว
แต่ถ้าจับตัวเลขจาก 0-100 กม. ก็อีหรอบเดิม เห็นแล้วอาจจะหงุดหงิดได้ คิดว่าน่าจะตกอยู่ที่ 14 วินาทีกว่าๆ แต่ถ้าลองขับจริงๆบอกได้ว่า มันไม่อืดถึงขนาดนั้นนะครับผม ^^


สรุปคือ รอรอบตีนต้น ม้ามาตีนปลายครับ ตอนต้นค่อนข้างอืด แล้วค่อยไปกระฉับกระเฉงเอาช่วงรอบเครื่องปานกลาง ถึง รอบเครื่องสูงครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2011, 21:49:06 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
เรียกว่าการใช้ความเร็วจาก 60 ถึง 120 ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก ยกเว้นแต่ว่าเบรคกะทันหันแล้วเรียกความเร็วขึ้นมาใหม่ ก็ต้องรอกันบ้างตามประสา คือขับรถรุ่นนี้ บอกเลยว่าต้องใจเย็นนิดนึง ถ้าใจร้อนคุณจะหงุดหงิดมากเวลาขับ เพราะมันไม่เหมือน วีออส โฉม 2002 ที่ผมเคยลอง อันนั้นขับมันส์จริง ยอมรับ กดเป็นพุ่ง เป็นพุ่ง เพราะด้วยขนาดรถเล็ก กับน้ำหนักเปล่าที่ไม่ถึง 1 ตันด้วย ต่างกับ เจ้า A32 ที่หนักตั้ง 1.4 ตัน

การเร่งแซงไม่ได้เป็นปัญหา ทั้งในเมืองเวลามุดผ่านจราจรติดขัด หรือเปลี่ยนเลนส์กระทันหันแต่ต้องกะระยะเผื่อไว้บ้างกับแรงของเครื่องยนต์ เพราะมันไม่ได้พุ่งเหมือนรถไซส์เล็กกว่าแต่ก็ไม่ใช่อืดจนรับไม่ได้  ส่วนการเดินทางไกลก็แค่กดคันเร่งลงไปลึกหน่อยเกียร์ก็จะเปลี่ยนลงไปต่ำให้ หรือถ้าไม่ทันใจก็กด switch OD ตรงคันเกียร์ไปเลย เกียร์จะเปลี่ยนลงมาเป็นเกียร์ 3 แล้วก็กดคันเร่งหน่อยก็แซงได้สบายแฮ.....เพียงแต่ว่าแรกๆ ต้องทำความรู้จักกับบุคลิคตัวรถบ้างนิดนึง  

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2012, 18:41:14 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 22:03:37 »
ช่วงล่างรถรุ่นนี้หน้าเป็นแบบ MacPherson Strut คอยล์สปริง หลังเป็นแบบ Multi link Beam ถ้าก้มลงมองด้านท้ายของรถรุ่นนี้ จะเห็นท่อเหล็กอันโตเชื่อมระหว่างดุมล้อทั้ง 2 ข้างครับ ซึ่งช่วงล่างแบบ Multi link Beam เป็นเอกลักษณ์ของ Nissan เอง โดยการผสมผสานระหว่างระบบช่วงล่างแบบ Multi link ที่ให้ความนุ่มนวล กับ ระบบ Torsion Beam ที่ให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนน ทำให้เนื้อที่ในห้องโดยสารของ A32 มีความกว้างขวาง ต่างกับรุ่น A31 ครับ ระบบช่วงล่างแบบ Multi link Beam จุดเด่นคือ มันจะพยายามทำให้หน้าล้อสัมผัสพื้นถนนตลอดเวลาเพื่อการทรงตัว เพราะเจ้าคาน torsion beam จะกดหน้าล้อให้สัมผัสพื้นถนน และแน่นอนว่า มันทำได้ดี เพราะการทรงตัวระดับ 150 กม./ชม. ยังไม่สร้างความเครียดอันใดให้ปรากฏ ยกเว้นเกินกว่านั้นก็ต้องลองอีกทีล่ะครับ แต่ปกติการเดินทางผมจะใช้ความเร็วประมาณ 120-130 กม./ชม. เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว การทรงตัวของมันยังคงนิ่ง และจะรู้สึกว่า รถเคลื่อนที่ไม่เร็วเลย จนก้มลงมองหน้าปัทม์นั่นแหละถึงรู้ว่า ความเร็วมันพุ่งไปที่ 140 แล้ว เรียกว่าการทรงตัวนั้นไว้วางใจได้แล้วกัน ไม่มีโคลงหรือส่ายให้น่าเสียวเล่น แต่ว่าเข้าโค้งแรงๆตัวถังมีอาการเอียงมากพอสมควร เพราะตัวใหญ่ น้ำหนักมาก และคาน Torsion Beam มันพยายามกดหน้าล้อให้สัมผัสพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา (ก็รถเน้นขับนุ่มๆด้วยล่ะครับ ไม่ใช่รถซิ่งสาดโค้ง 555+)

ส่วนความนุ่มนวล ขอบอกว่ามันนุ่มนวลแต่ไม่นุ่มนิ่ม เวลาวิ่งทางขรุขระ แรงกระเทือนจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนนั้นส่งผ่านมาถึงตัวบ้าง แต่ก็ไม่ใช่แข็งโป๊กจนรับไม่ได้ ช่างล่างยังพอเก็บอาการได้อยู่ จะมาเริ่มเก็บไม่อยู่ตอนเวลาเจอหลุมหรือ ยิ่งเป็นคอสะพานดุดุเวลาขับมาเร็วๆต้องเบรคกันตัวโก่งไม่งั้นเด้งแรงมาก (เคยขับบนเส้นบางนา-ตราดตอนมืดๆ ประจวบเหมาะกับกำลังซ่อมแซมทาง มองสะพานไม่เห็นวิ่งมา 110 ซัดไปเต็มเหนี่ยว แก้วน้ำ ขนม คนนั่งหลังเด้งกันหมด...โดนด่าไปตามระเบียบครับ งานนี้) และเกิดการโยนตัวของตัวถังเหมือนตัวรถเด้งขึ้นมาแล้วยุบลง เพราะเจ้าคาน Torsion Beam (อีกแล้ว) ที่จะพยายามกดหน้าล้ออยู่ตลอด เวลาขับผ่านหลุมหรือสะพานอาการเลยกระแทกกับเด้งมากไปนิด (สงสัยญี่ปุ่นไม่มีถนนแบบนี้ ???)

แต่ถ้าขับผ่านถนนผิวดวงจันทร์ของ กทม. ถ้าความเร็วเกิน 40-50 กม./ชม. แล้วก็จะรู้สึกว่ามันพอรับได้ คือตัวรถจะผ่านพื้นผิวถนนเหล่านั้นโดยจะให้ความรู้สึกกระชับมากกว่านุ่มย้วย ซึ่งเจ้าช่วงล่างแบบกึ่งคานแข็งนี่ ยังไงก็นุ่มสู้พวกช่วงล่างอิสระไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าวิ่งบนทางลาดยางดีดีแบบถนน วิภาวดี-รังสิต หรือ วงแหวน-กาญจนาภิเษกล่ะก็ จะพบความสบายในการโดยสารเลยครับ มันให้ความนุ่มนวลและราบเรียบได้มากเท่าที่รถขนาดนี้จะให้ได้เลยทีเดียว ส่วนเวลาเข้าโค้งก็ต้องระวังนิดนึงเพราะการเอียงตัวจะมีมาก เนื่องจากน้ำหนักรถค่อนข้างเยอะ ก็เพลาๆหน่อยแล้วกันครับ อย่าสนุกกับการโยนโค้งมาก คนนั่งคงไม่สนุกด้วยเท่าไรหรอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2011, 22:01:39 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 22:06:10 »
ระบบเบรคเป็นแบบดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ พ่วงมาด้วย ABS ซึ่งการทำงานของมันจะว่าหนึบมั้ยก็ไม่หนึบเท่าที่ควร เนื่องจากต้องอาศัยระยะเวลาในการจับตัวของผ้าเบรค ทำให้ต้องเผื่อระยะในการเบรคพอสมควร จะไม่เหมือนกับรถโตโยต้า ที่พอกดปุ๊ปจะรู้สึกว่าผ้าเบรคจับตัวปั๊ป แล้วจะหยุดทันที
แต่เจ้า A32 ต้องกดหนักๆหน่อย เวลาเบรคกะทันหัน อาการหน้าทิ่มก็จะตามมาเพราะรถน้ำหนักเยอะแต่ไม่ถึงกับทิ่มพรวดท้ายกระดกนะครับพอรับได้อยู่ ก็ไม่ต้องกลัวไปว่าจะพึ่งพาไม่ได้ จากเหตุการณ์ตอนนั้นพ่อเป็นคนขับอยู่บริเวณหน้าพุทธมณฑลความเร็วประมาณ 90-100 กม./ชม. แล้วอยู่ดีดีรถมอเตอร์ไซด์ก็ปาดเข้าเลนส์กระทันหันแบบกระชั้นชิดมาก จนพ่อต้องเหยียบเบรคอย่างแรงและลึก เพื่อหยุดรถ โดยที่เจ้าระบบ ABS ก็ทำการช่วยเหลือทันที ผลปรากฏคือหยุดได้ครับ ไม่เกิดอุบัติเหตุแต่ประการใดแต่หน้ารถก็ทิ่มพอสมควรดีที่เข็มขัดนิรภัยรั้งไว้ แล้วผมเองก็นั่งสรรเสริญการขับของมอเตอร์ไซด์คันนั้นไปตามระเบียบ
สรุปว่าเบรคเอาอยู่ครับ แต่ต้องเรียนรู้นิสัยของมันบ้าง ก็เลยทำให้เวลาขับในเมืองผมจะไม่กล้าจี้ตูดรถคันหน้ามาก เพราะเมื่อเกียร์เปลี่ยนไปเกียร์ 2 ปั๊ป ความเร็วจะเพิ่มขึ้น แล้วก็จะมีรถมาปาด ทำให้ต้องเบรคตัวโก่งเพื่อหยุดรถ    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2012, 18:46:55 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 22:08:04 »
ส่วนเรื่องการเก็บเสียง ผมว่ามันเงียบครับ เงียบดีทีเดียว ทั้งเสียงเครื่องและเสียงลมปะทะ ที่จะได้ยินชัดหูตั้งแต่ความเร็ว 140 ขึ้นไป นอกนั้นเสียงที่เข้ามาล้วนๆเลยคือ เสียงของช่วงล่าง ที่จะได้ยินถนัดหูมากไปนิดเวลากระแทกหลุม บ่อ รอยต่อถนนคอนกรีต ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นที่ยางด้วย เจ้าของเก่าติด บริดกะโจน ตรูลันซ่า ER60 มา ไม่รู้คุณภาพอยู่ในระดับไหน ยังไง ถ้าได้ยางชุดใหม่คาดว่าน่าจะได้เรื่องกว่านี้นะ

***ตอนนี้เปลี่ยนยางไปเป็น Bridgestone Turanza GR90 แล้วคับ นุ่มขึ้นเยอะมากกกกกกกกกก เสียงยางสัมผัสพื้นถนน ก็เงียบขึ้นเยอะ สบายทั้งหู สบายทั้งก้น ยางใหม่ ก็ทำให้บุคลิคตัวรถเปลี่ยนไปมากเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงล่าง ที่นุ่มขึ้นจนรู้สึกได้ แต่ยังคงเกาะถนน ทรงตัวดีเหมือนเดิม***
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2010, 00:01:10 โดย Mercedes Bomb »

Mercedes Bomb

  • บุคคลทั่วไป
Re: Review Nissan Cefiro 2.0G A32 **ถึงจะเหมือนรถคนแก่ แต่มีอะไรดีดี
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2010, 22:11:30 »
ส่วนเรื่องการกินน้ำมัน บอกได้คำเดียวว่า "ซด" ในเมืองที่ผมลองวัดดูอยู่ที่ 5-6 กม./ลิตร นอกเมือง 10-11 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 110-140 นะครับ ล่าสุดวัดอัตราสิ้นเปลืองโดยเติม Shell Gasohol 95 ความเร็วเฉลี่ย 120-140 กม./ชม. จาก กทม.ไปโคราช ได้อยู่ที่ 10.54 กม./ลิตร ซดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วอัตราการซดน้ำมันนี่ไม่สมเหตุสมผลกับสมรรถนะที่ได้เอาซะเลย เครื่อง 2.0 กินน้ำมันอย่างกับเครื่อง 3.5 แถมต้องเค้นรอบอีกต่างหาก เรี่ยวแรงก็ใช่ว่าจะมาเร็วทันใจ ต้องรอตีนปลายถึงจะไหล
เวลาขับรถคันนี้กดคันเร่งทีไรเสียววาบ ยิ่งออก ตจว. เข็มน้ำมันลดลงฮวบฮาบจนน่าใจหาย

อย่าลืมว่ารถใหญ่เครื่องเล็ก แถม V6 ด้วย กว่าจะเร่งให้ทันใจก็กดคันเร่งกันเกือบจมพื้น งานนี้.......เหงื่อตก ถังน้ำมัน 70 ลิตรครับ บริโภคแต่ 95 เสียด้วย
เห็นอัตราการสิ้นเปลืองแล้วเป็นไงครับ จึงเป็นเหตุผลที่เจ้ารถรุ่นนี้ เจ้าของต่างโบกมือลาจับไปดมแก๊สกันเป็นทิวแถว 

(อันนี้ตัวปรับดันหลัง สำหรับคนขับนะครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 30, 2012, 18:30:51 โดย Mercedes Bomb »