ระหว่าง Remap กับกล่องพ่วง ... ผมเลือกกล่องพ่วงนะ .... โอเคล่ะ Remap โดยรวม อาจจะแรงกว่าชัดเจน แต่เวลาที่เราเบื่อ หรือขายรถเราจะเสียตรงนั้นไปเลย ... แต่ถ้าเป็นกล่องพ่วง มันยังถอดออกมาขายต่อได้นะ .... ส่วนความแรงที่ว่า ตัว 2.5 เดิมๆไม่พอ ... อยากรู้ ทุกวันนี้ เคยเหยียบมิดไหมครับ แบบ กดจมคันเร่งเลย .... ถ้าไม่เคยแล้วบอกไม่แรง ผมว่า คุณไม่ควรไปทำกล่องหรอกครับ เปลืองเงินเปล่า ๆ
เปลี่ยนเฮดเดอร์ก่อนเลยมั้ยครับ
ขอถามต่อด้วยนะครับ อย่าง NPJS ถ้าอยากได้ปลายให้ถึงซัก 220 การพ่วงกล่อง หรือ Remap ช่วยมั้ยครับแล้วผมเห็นแทบทุกยี่ห้อ ถ้ารถยกสูงหรือ SUV ตั้งแต่ญี่ปุ่นไปถึงยุโรปเครื่องแรง ทำไมปลายจากโรงงานมาไม่มีทะลุ 210 ซักรุ่นเลยครับ มันเป็นข้อจำกัดของรถสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อหรือเปล่าครับ
ถ้าจะ REMAP ต้องศึกษาและดูฝีมือจูนเนอร์ดีๆหน่อย เดี่ยวนี้เยอะไปหมด ใส่กล่องพ่วงCUBE Max+ใส่ท่อแทนแคท+ใสท่ออินเตอร์แบบดัด ชุดครึ่งท่อนแทนท่อยาง แค่นี้ ก็วิ่งสบายๆแล้วครับ
ต้องดูด้วยรถคุณทำอะไรมาบ้าง ถ้าเริ่มต้น Remap พอ ถ้าทำมาเยอะ เซ็ทโบ 300ม้า+ กล่องแรงกว่า
ผมใช้บริการที่แรกหลายคันละ จัดว่าโอเคนะครับ ตอนนี้ราคาไม่แพงด้วย พี่เค้าก็บริการดี ใช้มาปีกว่ายังไม่พัง คนใช้ MG เกือบทุกคนก็ใช้บริการเจ้านี้ พึงพอใจกัน แต่ชื่อเสียแกก็จะเยอะด้าน Marketing เวอร์ๆเพียงแต่ถ้าเทียบฝีมือแล้วอาจจะสู้ร้านดังๆ อย่าง Gettuned อะไรงี้ไม่ได้ แต่ส่วนตัวไม่เคยลอง มีแต่คนบอกมา เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ก็คงต้องลองเองครับ ผมลองร้านคุณวิชัยมาให้แล้วส่วนกล่องพ่วงผมว่าสุดท้ายมันก็อยู่ที่คนจูนอยู่ดีครับ ส่วนใหญ่ถ้าจะดีก็มักจะแพงเพราะเค้ามีค่าของ+ค่าจูน สุดท้ายเอาไปขายต่อมันก็ไม่ได้ต่างเท่าไร ยกเว้นแต่เป็นพวกกล่องเค้นสมรรถนะอย่างพวกดันรางควันดำ แบบนั้นพันสองพัน ใช้ๆ ไปก็แรงขึ้นหน่อย แต่มันจะไม่ได้เต็มที่แบบ Reflash
Remap แน่นอน จะเพิ่มแรงช่วงต้นกลางปลาย เลือกได้หมด เคยใช้กล่องพ่วง เซ็นเซอร์สามจุด ก็ไม่เสถียร รอบแกว่ง เดินเบาเกือบดับเอง กระตุกจนปวดหลัง
REMAP ดูจะคุ้มตังกว่านะครับ เพราะมันทำได้ทั้งปรับแรงดันน้ำมัน ปรับระยะเวลาการจ่ายน้ำมัน ปรับการตอบสนองคันเร่ง ปลดความเร็วปลายถ้าจะพ่วงกล่อง ต้องจัดกล่อง 3-4 กล่องเลยนะครับถึงจะได้ทั้งหมดนั่น หรือไม่ก็ต้องไปกล่อง standalone เลย หมดตังเยอะกว่า REMAP ด้วยนะครับ***ส่วนเรื่องความทนทาน อยู่ที่จูนเนอร์แล้วครับว่ามีความรู้และประสบการณ์แค่ไหนรถเดิมๆ >>> REMAP คุ้มกว่ารถโมเต็ม >>> กล่อง standalone
ผมใช้ฟอร์จูน3.0 รีแมปกับจารย์ ว.0-100 เดิม 14นิดๆ หลังรีแมป 10. นิดๆอัตราสิ้นเปลือง เดิมขับ 120 นิ่งๆ ได้ 11 โลลิตร หลังรีแมป ขับ 120 นิ่งๆ ก็ได้ 11 โลลิตรเนียนดีมาก เร่งติดเท้า ครับ
รีแมพ ดีกว่าเยอะครับ ถ้าคนทำ ทำดี ทำเป็น
ผมไปทำที่แรกตามที่คุณ จขกท. ถามมาครับถือว่าดีครับวัดแรงม้าขึ้นไดโน่ ก่อนรีกล่องและหลังรีกล่องได้ประมาณ 50 กว่าม้าและแรงบิดเพิ่ม 200 นิวตัน เราก็บอกเขาได้ครับว่าเอาแรงเพิ่มพอประมาณหรือจะเค้น ถ้ามากเกินไปควันจะดำและอุปกรณ์หลายอย่างพังเร็ว ได้ครับ ส่วนรีกล่องปรับได้หลายอย่างครับดันราง ยกหัวฉีด ปรับบูส ถ้าเบื้อหรือจะขาย คืนค่ากล่องได้ครับ
รถผม ถอดกล่อง MONMAX ขายไป แล้วเอาเงินมารีแมปกับ อ. ว รีแมป 8,000 บาท กล่อง 30,000 บาท ถ้าเบื่อแล้วถอดกล่องขาย 20,000 บาท ก็ยังแพงกว่ารีแมปแต่ในอนาคต กล่องมือ 2 จะขายยากและไม่ได้ราคาแน่นอนครับ เพราะความนิยมจะลดลงมาก
แชร์ครับ ผม mu x3.0 รีแมฟมาถือว่าคุ้มนะราคาไม่แพง เร่งดีประหยัดขึ้นนิดหน่อย
ถ้ารถใช้งานเอาแค่แรงเน้นใช้งานทั่วไป ติดกล่องดีกว่า ปรับเลือกได้เค้นเครื่องน้อยกว่ารับรองแรงกว่านิวปาเจโรเดิมๆด้วย ถ้ามองแง่ความแรงรีแมพดีกว่าแต่เสัยตรงปิดเปิดไม่ได้ละก็เค้นมากกว่ารถใช้งานดันรางใบเดียวพอแล้วครับเค้นน้อยกว่า หาคนจูนดีๆไม่โลภมากไม่พังง่ายๆหรอกครับส่วนตัวผมใส่กล่องcube กับดีแมค2.5เหมือนกันแต่เปนตัวเก่าโบธรรมดา ใช้มาประมาณสี่หมื่นกว่าโลแล้วเหยียบอัดทุกวันยังไม่พังตอนหลังเปลี่ยนปลายหัวฉีดด้วย มีแต่ถ่ายของเหลวน้ำมันเครื่องไวกว่าปกติหน่อย รถใช้งานทุกวันยังไม่มีปัญหาครับ
