ผู้เขียน หัวข้อ: ขอบคุณ MG กับ Toyota นะครับ ที่ทำให้ผมเข้าใจถึงความสำคัญของอุปกรณ์ความปลอดภัย  (อ่าน 11989 ครั้ง)

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,374
การที่มีระบบความปลอดภัยหรือตัวช่วยต่างๆ มากมายเป็นเรื่องดีครับ มีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น

แต่ในทางตรงกันข้าม ก็อาจให้คนเราประมาทมากขึ้นได้เช่นกันครับ มั่นใจในรถมากเกินไป

เห็นว่ารถมีของครบ เลยกล้าที่จะทำอะไรมากขึ้น กล้าขับรถเร็วมากขึ้น กล้าเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ


ออฟไลน์ inoros

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 125
จขกท. จะสื่อว่าศูนย์ที่เปิดให้ทดสอบเกี่ยวกับระบบ การช่วยด้านความปลอดภัย ณ ปัจจุบัน ยังมีแค่2เจ้าครับ

เจ้าอื่นต้องไปลองในงานmotorใหญ่ๆเอง ไม่มีศูนย์ให้ทดสอบระบบพวกนี้ตลอดปี ว่าระบบทำงานอย่างไร พอระบบทำงานต้องปฏิบัติตัวยังไงครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
Toyota ในไทยก็เป็นผู้นำด้านระบบ safety ต่างๆมาเยอะล่ะครับ

- ถุงลมคู่หน้าเบรค ABS ในรุ่น Corolla Hitoq เป็นครั้งแรกในกลุ่ม C-seg
- ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัวใน Corolla Altis เป็นครั้งแรกสำหรับรถญี่ปุ่นประกอบในประเทศ
- Camry ACV30 เป็นรถญี่ปุ่นประกอบในประเทศรุ่นแรกที่มีถุงลมมากกว่า2ใบ
- Camry ACV40 V6 เป็นรถประกอบในประเทศรุ่นแรกที่มีระบบ Active safety

ผลงานในอดีตที่ผ่านมาก็เยอะอยู่ครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
จขกท. จะสื่อว่าศูนย์ที่เปิดให้ทดสอบเกี่ยวกับระบบ การช่วยด้านความปลอดภัย ณ ปัจจุบัน ยังมีแค่2เจ้าครับ

เจ้าอื่นต้องไปลองในงานmotorใหญ่ๆเอง ไม่มีศูนย์ให้ทดสอบระบบพวกนี้ตลอดปี ว่าระบบทำงานอย่างไร พอระบบทำงานต้องปฏิบัติตัวยังไงครับ

ใช่ครับ ตรงนั้นเลย

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
ผมเองเรีองความปลอดภัยเนียผมขอแค่เบรคABSก็พอแล้วครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ นักสร้างภาพ

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
ผมไม่ประมาท เอาเรนเจอร์3.2 มาเต็มๆมีทุกระบบ

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,527
ของผมตอนก่อนมีลูก airbag 2 ใบ abs ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากมีลูก รถคันต่อไประบบความปลอดภัยต้องจัดเต็ม อยากเลี้ยงเค้าไปนานๆๆ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ไม่รู้นะครับ ผมคนยุคใหม่ ของพวกกนี้ต้องพื้นฐานได้แล้ว
ถ้าไม่มีก็อย่าหวังจะได้เงิน
ส่วนการทดสอบของสองเจ้าก็เห็นด้วย จะได้รู้ไปเลยว่ามันสำคัญ

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,009
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
บางคนไม่ได้อยากได้ถุงลมข้าง เพียงเพราะอยากหุ้มเบาะหนัง

บางคนไม่อยากได้ถุงลมเยอะ กลับตอนซ่อมจะแพง

แต่ผมคนนึงละที่ไม่กลัวซ่อมแพง เพราะมีประกัน ถ้าซ่อมไม่คุ้มก็หาเงินซื้อใหม่
เพราะชีวิตของผมมีค่ากว่านั้น และที่สำคัญไม่มีอะไหล่เปลี่ยนเหมือนรถซะด้วยสิ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,418
แน่นอนครับ การมีระบบอะไรมากๆ ก็มีโอกาสเสียมากกว่ารถโล้นๆ แต่บางครั้งเงินที่เราเพิ่มมาเพื่อระบบพวกนี้ มันคุ้มตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกแล้ว

ออฟไลน์ G.K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
  • Respect Others' Opinions.
จริงๆแล้วข้อมูลดรื่องความปลอดภัยเหล่านี้มีการนำเสนอมานานแล้ว สามารถหาดูได้ทั่วไปตามอินเตอีเน็ต มันไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่นะครับ เพียงแต่จขกท.ไม่ตระหนักใส่ใจเอง 

ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยที่สุด จึงใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผมเลือกสนใจรถอยู่แค่ 3 ยี่ห้อ คือ Volvo, Nissan และ Chevloret

รถที่ความปลอดภัยดีต้องดูไปถึงโครงสร้างรถ เกรดเหล็กที่ใช้ ประสิทธิภาพของช่วงล่าง ไม่ใช่ดูแค่จำนวนถุงลม หรือระบบช่วยเหลือด้านการทรงตัวต่างๆ เช่น VSC  VSA VDC DSC เหล่านี้

รถที่ช่วงล่างดีๆโอกาสเสียการทรงตัวยากมาก รถช่วงล่างห่วยๆที่เบรคแล้วแถลงข้างทาง สมควรที่จะมีระบบเหล่านี้

รถถุงลมเยอะๆไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป ถ้าโครงสร้างตัวรถไม่สามารถรับแรงกระแทก แรงอัดได้ดีพอ เช่นรถที่ใช้เหล็กเกรดต่ำ เมื่อชนประสานงารถก็อาจจะหดเข้ามาจนถึงห้องโดยสาร จนถุงลมระเบิดใส่หน้าผู้ขับขี่ก่อนที่จะเสียชีวิต หรือบาดเจ็บสาหัส

ฉะนั้นรถที่จะปลอดภัยจริงต้องมาจากระบบโครงสร้างที่แข็งแกร่ง แล้วมีระบบช่วยเหลือต่างๆเข้ามาช่วยเสริม

ต้องพิจารณาหาข้อมูลที่รอบด้าน ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ผลิตที่จะให้แค่ข้อมูลบางด้านที่เป็นประโยชน์แก่ผลิตภัณฑ์ของตน

ส่วนตัวแล้วมองว่ารถที่เป็นผู้นำด้านความปลอดภัยที่แท้จริง และผลิตในประเทศไทย คือ TEANA L33 ที่ออกมาในปี 2013 ที่ผ่านมาตรฐานการชนระดับ 5 ดาว และได้คะแนนเต็ม พร้อมถุงลม 6 ใบ VDC/TRC, ABS/EBD ในทุกรุ่นย่อย

นอกจากนั้นก็ยังมีระบบช่วยการเข้าโค้ง (ATC), Blind Spot Monitoring (BSM), Lane Departure Warning (LDW) ระบบกล้องรอบคัน (AVM) เซ็นเซอร์หน้า-หลัง (2.5XV)

ถ้าจะสนใจเรื่องความปลอดภัยต้องไปให้สุดครับ อย่าหลงคำโฆษณาชวนเชื่อ

http://www.headlightmag.com/iihs-study-lane-departure-warning-decrease-accident/

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
ขอบคุณผิดบริษัทละครับ คิดผิดคิดใหม่นะครับ

ออฟไลน์ daimyo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • อีเมล์
ผมว่าคุณขอบคุณผิดบริษัทแล้วครับ
รถรุ่นแรกที่เอาทุกระบบ abs ebd ba vsc trc มาใส่ในทุกร่นย่อย คือมาสด้า 3

มาสด้ามีคลิปวีดิโอแสดงการทำงานของระบบต่างๆนี้อัพโหลดบนยูทูป และเปิดอยู่ในทุกโชว์รูม

ณ ปี 2014 เป็นปีที่ผมซื้อรถพอดี ผมหารุ่นที่มี vsc ก่อน ซึ่งทุกยี่ห้อใส่มาให้ในรุ่นท็อป แต่ mazda3 skyactiv ใส่มาให้ตั้งแต่รุ่นล่าง

ถ้าจำไม่ผิด ในปีเดียวกัน Honda เปิดตัว new city จัดเต็มระบบความปลอดภัย มี abs ba ebd vsc trc ทุกรุ่นย่อย รุ่นท็อปได้ 7 ใบอีกต่างหาก ตอนแรกผมจะเอารุ่นนี้แล้ว ราคา 7 แสนกลางๆ จะไปขอลองที่ศูนย์พนักงานไม่สนใจใยดีอะไรเลย เพิ่มเงินไม่ถึงแสนได้ mazda3 รุ่นล่าง

ในขณะนั้น b sec รุ่นอื่นๆ ถ้าเทียบกับ city นี่คือโล้นมากๆ ยิ่ง vios นี่คือ abs รุ่นล่างสุดไม่มีเลยมั้ง

เพราะฉะนั้นมี Mazda กับ Honda นี่แหละครับ ที่ควรขอบคุณ ทำให้ทุกยี่ห้ออัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาในทุกรุ่นย่อย


คงเข้าใจประเด็นผิดแล้ว

ในเมืองไทย มี2บริษัทที่เปิด driving center ให้ลูกค้ามาทดสอบการทำงานของระบบต่างๆที่ใส่มาในรถ (คงเว้นแอร์แบ็คแน่ๆ)

ยี่ห้ออื่น ไม่มีการลงทุนแบบนั้นให้ลูกค้าครับ

จขกท ขอบคุณเพราะได้ไปใช้บริการมาและเรียนรู้การทำงานของระบบ