ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)  (อ่าน 26907 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
         หลังจากที่เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ผมได้รับตกลงไปเอาเจ้า 1.9 บลูฯ ออกมาเป็นเพื่อนเดินทาง และได้ลองขับทางไกลกว่าสองพันกิโลเมตร ในขณะที่รถยังใช้งานแค่หมื่นกิโลต้นๆ และได้จดตัวเลขจากการใช้งานจริงในสภาวะปกติไปแล้วนั้น บทความครั้งก่อน http://community.headlightmag.com/index.php?topic=54528.0
         และตอนนี้ เลขไมล์ก็ปาไปกว่า 64,xxx กม. ในเวลา 1ปี3เดือน ก็มีโอกาสได้ขับทางไกลอีกครั้ง เมื่อภรรยาผมเขานัดกับเพื่อนไปเที่ยวอุบลราชธานีกัน  ผมจึงอาสาเป็นพลขับพาภรรยาและเพื่อนๆเขาไปเที่ยว  ก็เลยถือโอกาสจดตัวเลขมาฝากกันอีกครั้งครับ

เริ่มจากหัวค่ำวันที่ 20 ตค.60
        ก่อนออกจากกรุงเทพฯ ก็ได้ไปเติมน้ำมันไว้จนเต็มถัง ที่ปั๊มเชลล์สาขาวิภาวดี ไกล้ รพ.วิภาวดี ตอน 2 ทุ่มครึ่ง (นับเป็นน้ำมันถังแรก)
หลังจากเติมน้ำมัน เช็คลมยางเสร็จ(ลมยาง 35/35) ผมก็ออกเดินทางกับภรรยาเพียง 2 คน พร้อมสัมภาระท้ายกระทะคลุมผ้าใบจนล้นหลังคา เพราะไหนๆก็ไปอุบลฯทั้งที จึงไม่อยากเสียเที่ยว เลยไปถามคนรู้จักกัน เขาเลยฝากของไปลงที่ อ.ตระการพืชผล โดยได้ค่าน้ำมันค่าฝากมาพอสมควรครับ
        ครั้งนี้ ผมใช้เส้นทาง กทม. - สระบุรี - สีคิ้ว - เส้นทางหมายเลข 24(โชคชัย-เดชอุม) ครับ  ขับรถช่วงกลางคืน ใช้ความเร็วไม่มาก เพราะผ้าใบที่คลุมของหลังรถมันกระพือลมง่ายมาก กลัวมันจะขาด ขับอยู่ที่ 80-90 ตลอดเส้นทาง  มีจอดแวะพักเข้าห้องน้ำกินข้าวเที่ยง(คืน) ที่ ปตท.ก่อนด่านชั่งน้ำหนักลาดบัวขาว(สีคิ้ว)ช่วงเที่ยงคืน  แวะเข้าห้องน้ำที่ ปตท.ประโคนชัย  และแถวแยกสังขะ  ไปแวะงีบนอนครึ่งชั่วโมงที่ ปตท.เขต อ.ไพรบึง ศรีสะเกษ ช่วง ตี 4.30 น.   ออกเดินทางต่อช่วง 05.10 น. ไปถึงบ้านเพื่อนที่นัดกันไว้ ที่ ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลฯ ตอน 7 โมง ของวันที่ 21 ตค.60 พอดี (ช่วง สุรินทร์ ไป อุบลฯ มีความรู้สึกว่าเหมือนขับรถขึ้นเนินค่อนข้างเยอะ เกือบตลอดช่วงทางเลยครับ)
        หลังจากที่พักบ้านอาบน้ำ กินข้าว งีบนอนเรียบร้อย เวลา 10.30 น.ก็ออกเดินพร้อมกับสมาชิกเพิ่มอีก 3 คน เป็น 5 คน มุ่งหน้าไป บ้านขามเปี้ย อ.ตระการฯ เพื่อเอาของที่ฝากลงก่อนจะไปเที่ยวกันต่อ โดยใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองด้านตะวันออก ถึงที่หมาย 12.00 น. ลงของเสร็จ ก็ไปแวะร้านส้มตำที่คนแถวนั้นแนะนำมา ตรงข้ามศูนย์โตโยต้า ข้างศูนย์อีซูซุ ชิมแล้วก็แซ่บตามคำแนะนำครับ  14.00 น. ออกเดินต่อไปยังน้ำตกสร้อยสวรรค์(อช.ผาแต้ม) ถึงเวลา 15.30 น. แวะถ่ายรูปกัน  น้ำหน้าลงเล่นมากแต่ไม่ได้เตรียมชุดมา หินที่นี่ค่อนข้างหยาบครับ เสร็จแล้วก็ออกมาหาที่พักในโขงเจียม เพื่อรอไปดูตะวันขึ้นที่ผาแต้มครับ
        วันที่ 22 ตค. 60   ออกจากที่พัก 05.00 น. จากโขงเจียม ไป ผาแต้ม ราว 40 นาที เพื่อไปรอดูตะวันขึ้นเป็นที่แรกของประเทศ(จริงๆเขาวัดกันที่ผาชะนะไดครับ แต่ทางมันลำบาก เลยพาเพื่อนๆมาที่ผาแต้มก็พอ) สายๆหน่อยก็ไปเดินเที่ยวลายภาพเขียนมนุษย์ยุคหิน ถ้าจะดูครบทั้ง 4 กลุ่ม ต้องเดินราว 4 กม. พวกเราจึงเลือกเดินแค่ 2 กลุ่มแรก ระยะทางราวๆ 600 เมตรพอครับ เหนื่อยแฮร่ะๆ  ตอนลงผมมองไปเห็นป้ายบอกทางไปศาลาที่ประทับ จึงลองขับไปดูประมาณ 2 กม. ผมได้พบกับสิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ตรงจุดจิดรถสุดทางนั้น ห่างจากกลุ่มภาพเขียน กลุ่มที่ 4 (ซึ่งเป็นไฮไลท์ของภาพเขียนทั้งหมด 4 กลุ่ม) เดินห่างไปแค่ 100 ม. เองครังฟลุ๊คมากๆ (แต่ขอแนะนำท่านไหนมีบุตรหลาน เด็กเล็ก คนชรา ไม่แนะนำให้เดินไปน่ะครับ เพราะทางเดินแคบและลิมผามาก อันตรายครับ)       ช่วงสายออกจากผาแต้ม ตรงไปที่น้ำตกลงรู(น้ำตกแสงจันทร์) ที่นี่น้ำน้อยครับไม่ค่อยสวย ใครคิดมาลงเล่นน้ำที่นี่ไม่เหมาะครับ เที่ยวอยู่แปปเดียว ก็กลับออกมามุ่งหน้าไปพัทยาน้อย(เขื่อนสิรินธร) แต่ออกมาได้สักพัก เห็นป้ายบอกทางไปผาชะนะได เอาหละลองไปดูซิว่า ทางจะลำบากแค่ไหน จากทางแยก ขับออกไปราว 6 กม. จะถึงลานจอดรถสุดท้ายก่อนเข้าสู่ทางหิน ดิน ทราย เจ้าหน้าที่บอกว่า ระยะต่อจากนี้ประมาณ 7 กม. แต่ใช้เวลาปรมาณ 1-2 ชม. ตามความชำนาญคนขับ ผมคิดแล้วว่าไหนๆก็มาแล้ว ลองดูสักหน่อย(ตอนนี้เวลา 11.00 น.) ขับเข้าไปได้สักประมาณ 1 กม. ราวๆ 20 นาที ก็ต้องหันหัวกลับเพราะว่า มันใช้เวลานานมาก เที่ยงแล้วด้วย ที่สำคัญ หินที่นี่หยาบและคม มีตะปุ่มตะป่ำเป็นโหนกแหลมอยู่มาก กลัวจะบาดยางรถรั่วเอาได้ เดี๋ยวงานจะเข้ายาว(ยางรถผมเป็นยางบริดสโตน Dureller H/T 255/60 r18 ครับ) อย่าเสียงดีกว่า เดี๋ยวลำบากคนอื่นเขา   ลงมาได้ก็มุ่งหน้าไปพัทยาน้อยตามแผนที่วางไว้ ไปกินข้าวเที่ยง(ถึงเวลา 13.30 น.) นอนพักงีบกัน     15.30 น.ออกมาฆ่าเวลาโดยไปเดินเล่นที่ตลาดด่านช่องเม็ก และกลับมารอชมความสวยงามของวัดสิรินธรวราราม ภูพร้าว ช่วงค่ำ (คนเยอะมากครับ ถ่ายรูปไม่สวยเลย)   18.30น.ออกจากวัด มุ่งหน้าไปกินข้าวเย็นที่ร้านเล็กนมสดเมืองอุบลฯ ระยะทางราว 80 กม. ช่วงนี้ขับค่อนข้างเร็วครับ 120-140 กม./ชม. เกรงว่ามันจะดึก ถึงร้านก็ 2 ทุ่มพอดี กินเสร็จก็แวะมาเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ ถนนอุปราช ในเมือง(ไกล้หมดถังพอดี แต่ยังไม่ขึ้นไปเตือน) ได้ระยทาง 1,085.2 กม. เติมกลับได้ 61.48 ลิตร คิดเป็น 17.65 กม./ลิตร   เสร็จแล้วก็มุ่งหน้ากลับมาที่ ต.โคกสว่าง อ.สำโรง โดยใช้เส้นเดชอุดม ระยะทางราว 60 กม. เพื่อมานอนบ้าน
         วันที่ 23 ตค. 60   ออกจากบ้าน เวลา 10.40 น. กลับกัน 4 คนครับ  มาแวะกินข้าวเที่ยงที่ในตัว อ.ขุขันธ์ ศรีสะเกษ ช่วงเที่ยงพอดี  บ่ายโมงก็เดินทางกลับ  มาถึงลำตะคองรถค่อนข้างเยอะเพราะมีทำทางครับ   แวะกินข้าวเย็นในตัวปากช่อง   18.30น.แวะซื้อของที่ฟาร์มโชคชัย   20.30แวะส่งเพื่อนที่เมืองอยุธยา ฝนตกแรงมากครับ  กลับถึงที่พักย่าน ม.เกษตร เวลา 22.00 น. ลืมเติมน้ำมันกลับ
        วันที่ 24 ตค. 60 ออกมาทำงาน เลยแวะเติมน้ำมันเต็มถังที่ ปตท. สาขาในม.เกษตร   ได้ระยทาง 651.9 กม. เติมกลับได้ 31.73 ลิตร คิดเป็น 20.54 กม./ลิตร   ขากลับใช้ความเร็ว 90-110 กม./ชม.

*********----------------******************-------------------*****************---------------
คิดเลขได้ว่า 
ตลอดระยะทาง 1,085.2 + 651.9 = 1,737.1 กิโลเมตร
ใช้น้ำมันดีเซลธรรมดา 61.48 + 31.73 ลิตร = 93.21 ลิตร
  **** 1,737.1/93.21 = 18.63 กม./ลิตร  สำหรับผมถือว่าพอใจครับ****

การขับขี่ก็เป็นในแบบที่ ISUZU เป็น คือ ขับ 120+ เสียงลมปะทะดัง   ช่วงทางเป็นคลื่นไม่เรียบ รถจะเด้งเยอะ เด้งแบบนิ่มๆ เหมือนเรือ แต่ผมกลับชอบเพราะมันไม่กระแทกให้ปวดเอว 
เครื่อง 1.9 นี้ เรี่ยวแรงเหลือเฟือครับ แต่จะรอรอบหน่วยช่วงก่อน 1,800 รอบ/นาที ต้องอาศัยสับเกียร์บ่อย(ในเกียร์ธรรมดา 6 MT) เพื่อเลี้ยงรอบไว้แถว 1,600-2,000 กำลังดีครับ
 ***************ขอบคุณครับ จบการรีวิวแบบบ้านๆ****************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2017, 09:39:32 โดย Thanawat Ton »

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:03:55 »
-

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:08:51 »
2

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:13:21 »
3

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:16:45 »
4

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:18:52 »
5

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:20:07 »
6

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:22:11 »
7

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:23:21 »
8

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:24:28 »
9

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:25:37 »
10

ออฟไลน์ locomotive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 12:26:53 »
บริษัทผม ซื้อ 1.9 Spark ตอนเดียวมาใว้ลากอะไหล่รถบรรทุก ไปเอาเพลาโบกี้รถสิบล้อ,เพลาเปล่าๆ ใส่มา ยังแทบวิ่งไม่ออก คลานขึ้นทางด่วนเอาซะหืดจับ เอาตัว Navara ตัวที่แล้วไป พุ่งกว่ากันคนละเรื่อง มันเหมาะวิ่งตัวเปล่าๆหรือบรรทุกไม่มาก มากกว่านะ ตัวนี้ นะ ในความเห็นผม ถ้าเน้นบรรทุก เล่นเครื่องใหญ่ๆสบายจิตกว่า

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,328
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 13:04:18 »
อัตราสิ้นเปลือง ตัวเลขดีเลยครับ สำหรับการใช้งานทั่วๆไป แต่ถ้าบรรทุกๆหนักๆ เครื่อง 1.9 ไม่พอจริงๆครับ ขับเหนื่อยมาก แนะนำ 3.0 จบ

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 13:10:17 »
ใช่ครับ คันนี้ผมซื้อมาไว้ใช้ทำธุระทำงานทั่วๆไปมากกว่า เน้นคนนั่งได้ 5 คนเผื่อขนของบางครั้งคราว  ส่วนมาก 80% คือกระบะเปล่ากับของนิดหน่อย   เพราะว่าถ้าบรรทุกจริง ที่บ้านมี  2.5 vgs อยู่กำลังช่วงต้นดีกว่าเยอะครับ  นี่ก็รอดูเครื่องใหม่ ที่เขาว่า 2.4 มาแทน 3.0 อยู่ ไม่รุ้มาตอนไหน กะว่ามีตังจะเอาอีกสักคัน  แต่ตอนนี้ สมาชิกครอบครัวเริ่มเยอะ ก็มอง h-1 เป็นเนืองๆ 555

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 13:36:22 »
กลัวพิมพ์ไปว่า อยากได้ MU-X ขึ้นมาเลย แล้ว จขกท. จะแซวว่า มันหนักขึ้นหลายร้อยโลนะเพ่ 5555
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 14:04:28 »
เคยขับแบบ cab บรรทุกคน 10 คนนั่งหลัง ขึ้นเนินชันๆนี่แทบจะขึ้นไม่ไหวเพราะไม่ชินกับรถด้วย เพราะทุกทีขับ vigo 2.5 ขึ้นได้สบายๆ ปรากฏว่าขึ้นไปกลางทางรถดับต้องให้คนลงแล้วขึ้นรถเปล่าถึงได้ ยอมรับเลยว่า เวลาบรรทุกของแล้วขึ้นทางซันๆนี่ขับยากมาก แต่ถ้าวิ่งทางเรียบนี่ประหยัดน้ำมันกว่า vigo 2.5 มาก

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 15:20:56 »
เคยขับแบบ cab บรรทุกคน 10 คนนั่งหลัง ขึ้นเนินชันๆนี่แทบจะขึ้นไม่ไหวเพราะไม่ชินกับรถด้วย เพราะทุกทีขับ vigo 2.5 ขึ้นได้สบายๆ ปรากฏว่าขึ้นไปกลางทางรถดับต้องให้คนลงแล้วขึ้นรถเปล่าถึงได้ ยอมรับเลยว่า เวลาบรรทุกของแล้วขึ้นทางซันๆนี่ขับยากมาก แต่ถ้าวิ่งทางเรียบนี่ประหยัดน้ำมันกว่า vigo 2.5 มาก

1.9 นี่  ถ้ารถหนัก ทางชันมากๆ  ใจร้อนไม่ได้เลยครับ แล้วถ้าออกตัวบนทางชันด้วยแล้ว จบเลย อาจจะต้องเกียร์ 1 ยาวๆ แบบเรื่อยๆ ห้ามรีบ ครับ ถ้าทางชันมากรถหนักมันจะร่วงตอนจังหวะสับ 2 นี่แหละ   ข้อเสียที่ชัดสุดคือระยะ 1 กับ 2 ห่างเกินไป ห่างกับเกือบ 800 รอบ ในความเร็วที่เท่ากัน 
ฉะนั้น หากจะสับ 2  เกียร์ 1 ต้องเร่งให้รอบสูงมาก เกิน 3000 รอบขึ้น แล้วต้องสับให้ไว ถ้า สับ 2แล้ว ความเร็วตก รอบไม่ถึง 2,000 รอบ อย่าฝืน ให้สับลง 1 เหมือนเดิมครับ
   คนที่ยังไม่ชิน หรือปรับตัวยังไม่เข้ากับรถ ก็จะเจอปัญหานี้ประจำครับ

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 15:53:25 »
...เห็นอัตราสิ้นเปลือง  นึกถึง  มังกร  2.5 ที่เคยใช้  อยู่แถว 15-17 ...

ขอบคุณรีวิวครับ

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,534
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 17:20:20 »
ประหยัดกว่าอีโคคาร์อีกแนะครับ
ปล. ผมว่าผ้าใบปิดหลัง (ในภาพคห.4และ5) ช่วยตรงนี้แยะครับ กันลมตีในท้ายกระบะ ช่วยเรื่องอัตราสิ้นเปลืองพอสมควร

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2017, 23:17:51 »
จขกท ขับรถอึดมากครับ เดี๋ยวนี้ผมไม่ไหวแล้ว หมดแรงก่อน ขับยาวๆ ไกลๆแบบนี้

ขอบคุณมากครับ กับข้อมูลดีๆ

ข้อมูลจากผู้ใช้จริง มีประโยชน์มากๆ

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2017, 09:38:17 »
จขกท ขับรถอึดมากครับ เดี๋ยวนี้ผมไม่ไหวแล้ว หมดแรงก่อน ขับยาวๆ ไกลๆแบบนี้

ขอบคุณมากครับ กับข้อมูลดีๆ

ข้อมูลจากผู้ใช้จริง มีประโยชน์มากๆ

ผมนอนกลางวันมาอิ่มแล้วครับ 555   ถ้าไม่ได้นอนกลางวัน ได้จอดนอนตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วครับ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: เที่ยวอุบลฯ กับ D-max 1.9 4Dr Hi-lander(กับระยะทาง 1,737.1 Km.)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2017, 14:41:14 »
ประหยัดม๊ากๆ

ผมใช้ รีโว 2.4 E Auto Pre 4ประตู A1 ปี 2015 ครับ