ผู้เขียน หัวข้อ: เคยรู้สึกไหมครับว่า..อยากมีรถ Benz BMW ที่มีไส้ในเป็นรถญี่ปุ่นขับหน้าครับ  (อ่าน 8899 ครั้ง)

ออฟไลน์ GoatGoat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 895
ไม่ครับ ผมซื้อรถตามที่เค้าสร้างรถมา ไม่ได้อยากเอาตราหน้ารถไปบอกชาวบ้านว่ามีเงินซื้อ
BMW ใส้ในโตโยต้า มันยังจะเป็น BMW เหรอครับ

ถ้าคิดแบบนี้ใช้ Lexus ก็อาจไม่จบ ตัวรถไม่จุกจิก แต่เสียขึ้นมา ค่าซ่อมโหดเอาเรื่อง จ่ายขึ้นหลักแสนก็มี
ถ้าอยากได้รถขับดี วัสดุดี ราคาไม่แพง ไม่จุกจิก ซื้อ Mazda 2 แล้วเอาภายในไปบุหนัง Nappa เลยก็ได้ครับ บ้านเราร้านรับทำเยอะเลย

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ไม่ครับ ผมซื้อรถมาขับ. ไม่ได้ซื้อมาอวดสถานะตัวเองครับว่าขับรถยุโรปนะ

ตามนี้ครับ พังก็ช่างแต่ซื้อมาขับนี่ไม่ได้อยากเอาแค่กรอบมาบังว่าฉันรถยุโรปนะ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,143
  • SNK vs Playmore
ผมว่าหลายคนคงจะเข้าใจคุณรถสีเขียวผิดไปนะครับ (ผิด   ไป๊........... ซิลลี่ฟูล)

เค้าหมายถึง เค้าต้องการรถยุโรปที่ทนทึกเหมือนยุคก่อนครับ แบบกะจะใช้ยาว ๆ ใช้แล้วสบายใจ ใช้ไปเรื่อย ๆ ครับ

คือ performance ที่ได้มากจาก mechanic  ไม่ใช่ electronic ครับ

แต่ผมก็ชอบสังคม HLM นะครับ มีหลายแง่มุมดีครับ ถ้าคิดเห็นเหมือนกันหมดมันก็ไม่สนุก ถูกไหมครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
เอาจริงๆนะครับ รถญี่ปุ่นโดยเฉพาะ D-Seg ที่ระบบไฟฟ้าต่างๆท่วมคันไม่แพ้รถยุโรปใช่ว่าจะไม่จุกจิกนะ เจอโน่นนี่นั่นกันอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่มันซ่อมไม่ยากเท่ารถยุโรปและอะไหล่ไม่แพงเท่า ยกเว้นรถไฮบริดที่ราคาอะไหล่บางชิ้นได้ยินราคาแล้วลมจับแค่นั้นเอง

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
ถ้ารับไม่ไหวกับค่าบำรุงรักษา ระยะเวลารออะไหล่ ค่าแรงแพง ฯลฯของรถยุโรป
ก็ใช้รถหยุ่นต่อไปก็ได้ครับ ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่หรอกครับ
ไปโดนใครไซโคว่าภาพลักษณ์ดีต้องขับเบนส์บีเอ็ม เลิกได้แล้วค่านิยมนี้มันตกยุคแล้ว
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ AVANTGARDe'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,206
  • AWDiesel

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
ผมว่าหลายคนคงจะเข้าใจคุณรถสีเขียวผิดไปนะครับ (ผิด   ไป๊........... ซิลลี่ฟูล)

เค้าหมายถึง เค้าต้องการรถยุโรปที่ทนทึกเหมือนยุคก่อนครับ แบบกะจะใช้ยาว ๆ ใช้แล้วสบายใจ ใช้ไปเรื่อย ๆ ครับ

คือ performance ที่ได้มากจาก mechanic  ไม่ใช่ electronic ครับ

แต่ผมก็ชอบสังคม HLM นะครับ มีหลายแง่มุมดีครับ ถ้าคิดเห็นเหมือนกันหมดมันก็ไม่สนุก ถูกไหมครับ
ไม่เชิงนะครับ

อยากใช้ Benz, BMW อ่ะอยากใช้  แต่อยากให้มันลดระบบ electronics ให้น้อยลง  แต่สมรรถนะเหมือนเดิมอ่ะ  ซึ่งคงทำไม่ได้อยู่แล้ว  เพราะแทบทุกอย่าง มันขึ้นอยู่กับ electronics หมดแล้ว 

พูดง่ายๆ คืออยากให้ Benz, BMW ทำรถดีๆ เหมือนเดิม  แต่กลับมาใช้ความเป็น mechanical มากกว่า electronics ครับ

ส่วนรถญี่ปุ่นแบรนด์บ้านๆ  ก็ไม่ได้ค่อยอยากใช้เท่าไร เพราะสมรรถนะไม่ได้จริงๆ 
ถ้ารถญี่ปุ่่นทำสมรรถนะได้ดีๆ  แบบ Benz, BMW  แล้วจุกจิกน้อยแบบ Toyota แบบนั้น  ผมจะไม่ต้องคิดมากเลยที่จะไปใช้  แต่มันเป็นไปไม่ได้ครับ

ส่วน Lexus  ก็น่าใช้นะ  แต่ราคาก็ทุred เกินจะรับไหวครับ
มีรถเยอรมันหลายคันที่ผมใช้ หรือคนรอบตัวใช้แล้วมันทนพอๆกับรถญี่ปุ่นแต่คนไม่นิยมซื้ิอเพราะมันเป็นรุ่นถูก คนไปซื้อรุ่นแพง ออพชั่นเยอะ เครื่องแรงกันหมด( BMW318 E46 M43, Benz 124 230E, BMW 120i Cabrio N43 E88, R56 Mini One, E60 520D M47, MB c180 w203, New Beetle 2001 AQY-คันนี้ติดแก๊ซด้วย) 

ผมเลยคิดว่า คนที่มีความต้องการใช้รถแค่พอใช้ ไม่ต้องแข่งกับใคร ไม่ต้องมีออพชั่นมากมาย สนใจแค่ตัวถังแน่นๆ คนกลุ่มนี้มันมีน้อยกว่าคนชอบออพชั่นเยอะๆไฮเทคมากๆ

ถ้าทำรถยุโรปLow tech คนอาจจะไม่ซื้อมาก

ใช่ครับ จริงๆ ที่ผมอยากให้มันมี คน รถยี่ห้อดีๆ (ไม่ใช่ของ ญี่ปุ่น) ที่ง่ายๆ ไม่จุกจิก

ขับแล้วเน้นที่ยี่ห้อ บ่งบอกถึงความสำเร็จได้พอสมควรครับ


ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
ผมกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นนะครับ 5555+ คือตัวผมเองบอกเลย ฝั่งยุโรปผมขอบาย เนื่องด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่พูดๆกันนั่นแหละครับ

แต่ผมเคยไปลองขับ BMW 528i F10 แล้วบอกตามตรงว่ายังติดใจในทุกๆเรื่องไม่หาย 555+ ก็ไม่แปลกใจครับ ถ้าเค้าจะขายดี หรือมีคนซื้อไปเยอะๆ มันมีดีของมันอยู่ครับ

จากที่ผมใช้รถมาและเห็นจากคนข้างเคียงก็ดี มันมี 4 ข้อที่ต้องแลกออกข้อนึงครับ

1. สมรรถนะ
2. ความสบาย
3. ราคา
4. ความทนทาน (ไม่จุกจิก)

ไม่มีรถคันไหนที่มาพร้อมกัน 4 ข้อแบบครบๆครับ
อย่างรถยุโรปที่ว่ากันมาด้านบน ก็ต้องแลกข้อที่ว่าด้วยความทนทานออก
ถ้าจะไป Lexus ก็ได้หมดครับ แต่ต้องแลกข้อ 3 (บวกลบข้อ 1 ด้วย) ออก
ถ้าจะไป D-Seg ของญี่ปุ่น ก็แลกข้อ 1 ออกครับ

+1 สุดยอดเลยครับคุณหมอ ผมชอบสมการ 4 ข้อนี้มากๆ มันตรงจริงๆ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,721
    • อีเมล์
 ผมคนนึงที่ไม่ชอบรถยุคใหม่ๆก็เพราะระบบไฟฟ้าท่วมคันจนเกินความจำเป็น ทำให้ทุกวันนี้เปลี่ยนรถเป็นมือสองทั้งนั้นครับ ดังนั้น สมการ 4 ข้อข้างบนของคุณหมอ ก็ออกไปที่ Lexus ตรงโจทย์ทุกข้อ ( ราคาเปลี่ยนมือของ Lexus เจ้าของเก่าช่วยไว้มาก )

 ถ้ามีผู้โดยสารด้วย ตอนนี้ GS S190 น่าสนใจมากครับ
แถมต่อไปเกิดเท้าหนักขึ้น ก็เอา 3UZ ตรงรุ่นมาร้อยน็อตได้เลย แถมอะไหล่ก็เยอะ ช่างก็มากมาย

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
สมการนี้ ก็มีแล้วไง
Lexus CT200H ไงครับ
ใส้ใน Prius รถญีปุ่น แต่สมรรถณะดีกว่า และราคาแรง รวมทั้งได้ขับแบรนด์หรูด้วย

แต่ แต่ ราคาแพงกว่า Prius 2 เท่า คิดว่าคุ้มไหมล่ะครับ มันก็ทนทานแบบโตโยต้าด้วยนะครับ
และถ้าจ่ายเพิ่ม 2 เท่าคิดว่าไม่คุ้ม มือสองปีใหม่ๆ ก็มีราคาไม่แรงด้วย
(แต่ถ้าเทียบกับราคามือสองของ Prius กลายเป็นแพงกว่า 2 เท่ากว่าซะงั้น)

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เคยเลยครับ ไม่แม้แต่จะคิดจริงๆ