ผมเข้าใจคุณเจ้าของกระทู้นะ เรื่องรุ่นแพงกว่า แรงม้ามากกว่า คือตั้งแต่ผมสนใจเรื่องรถ (นานมาแล้ว) มันก็เป็นแบบที่คุณเจ้าของกระทู้บอก คือ รถบอดี้เดียวกัน รุ่นที่แพงกว่า ก็จะมีแรงม้ามากกว่า เพราะสมัยก่อนยังแบ่งแยกชนิดของเชื้อเพลิงกับรถที่ใช้ชัดเจน รถเก๋งส่วนใหญ่ก็ใช้เบนซิน ส่วนกระบะก็เป็นดีเซล
รุ่นที่แพงกว่า ก็จะมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้นในเชื้อเพลิงชนิดเดียวกัน แรงม้าก็จะมากกว่ารุ่นที่ถูกกว่า
แต่พอต่อมา(ก่อนยุคไฮบริด) รถเก๋งเริ่มมีรุ่นย่อยเครื่องดีเซล ก็ไม่เป็นเช่นเดิมที่ว่ารุ่นแพงกว่าต้องมีแรงม้ามากกว่าเสมอไปแล้ว เทรนด์มาตั้งแต่เมืองนอก คือ รุ่นที่แพงกว่าจะเป็นเครื่องดีเซล ซึ่งแรงม้าน้อยกว่าเครื่องเบนซิน
ส่วนเครื่องไฮบริดของโตโยต้า ก็เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ก่อน c-hr แล้ว คือ ถ้าดูเฉพาะแรงม้าของเครื่องล้วนๆ(ไม่รวมระบบมอเตอร์ ไฟฟ้า) จะน้อยกว่ารุ่นที่เป็นเครื่องเบนซินเพียวๆชัดเจน
อย่างพรีอุสรุ่นที่แล้ว เครื่อง 1.8L + มอเตอร์ไฟฟ้า ถ้าดูเฉพาะแรงม้าของเครื่อง 1.8L จะไม่ถึง 100 แรงม้า ทั้งๆที่เครื่อง 1.8L ของอัลติส แรงม้าเกิน 100 ไปพอสมควร จะไม่ใช่เป็นการเอาเครื่องของอัลติสที่แรงม้าเท่าเดิมแล้วบวกมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปแล้วจะทำให้แรงม้ามากขึ้น แต่ทางโตโยต้าเค้าปรับจูนเครื่องยนต์สันดาปภายในของรถไฮบริดให้ออกไปในแนวประหยัดน้ำมัน (อันนี้พูดถึงใน segment ของระดับพรีอุส c-hr นะครับ , ถ้า hybrid ที่เน้นแรงนั้นจะเป็น segment ที่สูงกว่านี้)
ตอนนี้ในรถหลายๆรุ่น ที่มีหลากหลายประเภทของเครื่องยนต์อยู่ในบอดี้เดียวกัน เช่น มีทั้งเบนซิน ทั้งดีเซล ทั้งไฮบริด ก็เลยไม่เป็นดังสมัยก่อนที่รุ่นย่อยที่แพงกว่าจะต้องมีแรงม้ามากกว่าอีกต่อไป
ส่วนคำถามที่ว่า c-hr hybrid ในไทยจะขายได้ไหม ผมคาดว่าขายได้น้อยกว่ารุ่นเบนซินล้วนๆ แต่ที่ขายได้น้อยกว่า ไม่ใช่เพราะคนมองว่าแรงม้าน้อยกว่า แต่คนกลัวเรื่องค่าซ่อมของระบบไฮบริดเมื่อพ้นประกันและราคาขายต่อที่ตกกว่าครับ