อะไรที่ทำให้ราคารถที่ขายในเมืองไทยแพงหูฉี่ขนาดนี้ครับ?

Narong Lith

ไม่ว่าจะเป็นรถที่ผลิตในประเทศ หรือนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้อัตราภาษีต่ำอยู่แล้ว แต่ราคาตัวรถก็ยังแพงหูดับตับไหม้อยู่ดี

ดูอย่าง CX-5 ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว, 2.2 AWD ขายที่อังกฤษ 31,395ปอนด์ ซึ่งก็ราวๆ 1.35ล้าน แต่บ้านเราเปิดตัวปาเข้าไปเกือบ 1.8ล้าน (ทอน 3หมื่น) ส่วนต่าง 4แสนนี่เพราะบ้านเราเป็นประเทศที่สามหรือยังไง?

เพราะค่ายรถอยากตั้งราคาอย่างไรก็ได้โดยไม่มีการควบคุมหรือเปล่าครับ?



Symphonic

ภาษีสรรพสามิตไงครับที่ทำให้รถแพง
แต่ก็แลกมากับภาษีรายปีที่จ่ายถูก

พี่ลองเทียบภาษีรายปีของประเทศที่ขายรถถูกดูสิครับ



Mike

ภาษี ซ้ำซ้อน
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS
SUBARU XV 2.0i-P
FORD Ranger
-WT 2.2 TDCi
-Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi
-Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi
Mitsubishi Triton Single
TOYOTA Hilux Mighty X
Discon.HONDA City SV,ISUZU Dragon Eye SLX 2.8,MITSUBISHI Cyclone,TOYOTA Hilux Super Star



whoami

เมืองนอกรถถูก แต่ภาษีรายปี ค่าแรงช่าง ค่าที่จอด ค่าปรับ ค่าโน่นนี่นั่น แพงนะครับ

ราคาในไทย มีแต่คนบ่นแพงๆๆๆ แต่รถก็เต็มถนน มีกันแทบทุกบ้านอ่ะครับ



ซิ่งเข้าส้วม

การควบคุมราคาทำได้โดยผู้บริโภคครับ ถ้าคนไม่ซื้อเค้าก็ขายไม่แพง

แต่บริษัทรถต้องทำกำไรครับ



rojsak2021

คนรวยเยอะไป 5555



Auto

  ภาษีบ้านเรามันเยอะ ครับและซ้ำซ้อนหลายรายการ   



Narong Lith

ภาษีสรรพสามิตไงครับที่ทำให้รถแพง
แต่ก็แลกมากับภาษีรายปีที่จ่ายถูก

พี่ลองเทียบภาษีรายปีของประเทศที่ขายรถถูกดูสิครับ

ผมว่ามันแลกกันไม่ได้น่ะครับ ภาษีรายปีเราจ่ายให้รัฐบาล ไม่ได้เกี่ยวกับราคาตัวรถ
และไอ้ที่ภาษีสรรพามิตแพง ก็เพราะคิดจากราคาตัวรถที่ตั้งมาสูง ไม่ใช่หรือครับ?



xman2029

ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมูลค่าเพิ่ม+ภาษีชิ้นส่วนนำเข้า ไม่แปลกใจทำไมรถยนต์เมืองไทยมันจะแพงถ้าลองเอาภาษีสรรพสามิตออกไปสิ ราคาไม่หนีจากญี่ปุ่นเท่าไรหรอกครับ



Narong Lith

เมืองนอกรถถูก แต่ภาษีรายปี ค่าแรงช่าง ค่าที่จอด ค่าปรับ ค่าโน่นนี่นั่น แพงนะครับ

ราคาในไทย มีแต่คนบ่นแพงๆๆๆ แต่รถก็เต็มถนน มีกันแทบทุกบ้านอ่ะครับ

ผมว่าไม่เกี่ยวกันน่ะครับ ภาษีรายปีเราจ่ายให้รัฐบาล ค่าแรงเราจ่ายให้ช่าง ค่าปรับเราจ่ายตำรวจ ที่จอดเราก็จ่ายให้ผู้ประกอบการนั้นๆ ก็ไม่เกี่ยวกับบริษัทรถตั้งราคาตัวรถอยู่ดี



Narong Lith

ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมูลค่าเพิ่ม+ภาษีชิ้นส่วนนำเข้า ไม่แปลกใจทำไมรถยนต์เมืองไทยมันจะแพงถ้าลองเอาภาษีสรรพสามิตออกไปสิ ราคาไม่หนีจากญี่ปุ่นเท่าไรหรอกครับ

ถึงภาษีจะแพงยังไง แต่ผมว่าคงไม่เข้าใกล้ตัวเลข 4แสนแน่ๆครับ



Narong Lith

ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมูลค่าเพิ่ม+ภาษีชิ้นส่วนนำเข้า ไม่แปลกใจทำไมรถยนต์เมืองไทยมันจะแพงถ้าลองเอาภาษีสรรพสามิตออกไปสิ ราคาไม่หนีจากญี่ปุ่นเท่าไรหรอกครับ

แต่ภาษีสรรพสามิตก็คิดมาจากมูลค่าของตัวรถ(ตามอัตราการปล่อยไอเสีย)นี่ครับ ซึ่งราคาตัวรถที่สูง ค่าภาษีก็สูงตาม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ไม่น่าจะเข้าใกล้ตัวเลข 4แสน



Narong Lith

บริษัทรถต่างๆก็อยากขายของได้กำไร กันทั้งนั้นละครับ ภาษีจะตั้งมายังไง สุดท้ายมาบริษัทรถต่างๆ ตั้งราคามาสูงอยู่ดี

เดียวก็หาข้ออ้างอื่นๆ ในการขึ้นราคาสินค้า จนได้ละครับ

แล้วกระทรวงพานิชย์ไม่มีการควบคุมราคาเหมือนสินค้าอื่นๆหรือครับ?



apinui

แพง แต่ดันซื้อง่าย .......

ไม่ด้องดาวน์ ไม่ต้องค้ำ ติดบูโรก็ซื้อได้ ...

มันซื้อง่าย คนเข้าถึงง่าย เค้าก็ขายแพงหน่อย เอากำไร .. เพราะแพงแค่ไหนคนไทยก็ซื้อ เพราะการขับตัว TOP มันดูรวย ....

รถเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะ รถราคาเป็นล้าน ดูรวย  ECOcar รถคนจน รากหญ้า ...

รถแบรนด์ยุโรป  option ไม่มีอะไรเลย แพงแต่อยู่ในความฝันของใครหลายๆคน ...

ภาษีฯสูงสุด สำหรับรถที่ประกอบในประเทศคือ 30% ... อยากรู้ราคารถที่แท้จริงก้ลบ 30% ไป หรือถ้าเป็น ecocar ก็ 12% เอาไปลบดู ไปหาเรทภาษีฯได้ในกูเกิลนะ ...

ต่างประเทศ ไม่รวยจริง เครดิตไม่ดีจริง ซื้อไม่ได้ครับ ......



Nouiii1

ต่อให้ลดภาษี ราคารถ ก็ไม่มีวันลดลง ดูอัตรา ภาษีใหม่เทียบกะรุ่นรถ เห็นมีแต่แพงเอาๆ :-[



Peet Sayumpoo

ภาษีล้วนๆครับ

CX5 ยังน้อยไปครับ จขกท ลองดูนี่ครับ

Camry V6 3.5L เมืองนอก เช่น อเมริกา,เกาหลีใต้,อังกฤษ ฯลฯ ขาย 1.1-1.2 ล้าน (คำนวนเป็นเงินไทย)
มาอยู่เมืองไทย ขาย 2,750,000 บาท

BMW 530i m sport G30 อเมริกา,เกาหลีใต้,อังกฤษ ฯลฯ ขาย 2 - 2.2 ล้าน (คำนวนเป็นเงินไทย)
มาอยู่เมืองไทย ขาย 4,399,000 บาท


โอ้ววว สงสัยคันที่ส่งมาขายเมืองไทยนี่ฝังเพชรมาด้วยแน่ๆ อิๆ



MUK

บางรุ่นถูกคนก็ไม่ซื้อครับ ก็เพราะมันถูก มันดูไม่แพง ครับ



xman2029

ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมูลค่าเพิ่ม+ภาษีชิ้นส่วนนำเข้า ไม่แปลกใจทำไมรถยนต์เมืองไทยมันจะแพงถ้าลองเอาภาษีสรรพสามิตออกไปสิ ราคาไม่หนีจากญี่ปุ่นเท่าไรหรอกครับ

ถึงภาษีจะแพงยังไง แต่ผมว่าคงไม่เข้าใกล้ตัวเลข 4แสนแน่ๆครับ
ภาษีสรรสามิตนี่ 10-25% แล้วแต่รุ่นรถนะครับจากนั้น ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นำราคารถยนต์+ภาษีสรรสามิตมาคิดอีกทีสุมมุติรถยนต์ราคา 500000 ภาษีภาษีสรรสามิตนี่รุ่นนี้เก็บ 10 % 50000 ก็ให้เอา 550000 มาคิด vat อีก คือไหนจะค่าภาษีสิ้นส่วนนำเข้าอีก ซึ่งเราไม่รู้ว่ารถยนต์คันนึงใช้ชิ้นส่วนนำเข้าแค่ไหน และเสียภาษีขนาดไหน



akewizard

ราคารถหลักๆมันมาจาก 2-3 ปัจจัยครับ คือภาษี ส่วนต่างกำไร และค่าการตลาด

ที่ราคา CX-5 มันโดดไปขนาดนั้น ผมมองว่าหลักๆมันมาจากเรื่องค่าการตลาดนี่ล่ะครับ ทางผู้ขายเองคงมองว่าตั้งราคาขนาดนี้ยังไงก็มีคนซื้อ....จะขายได้แค่ไหนก็อีกเรื่อง
สำหรับผู้บริโภคอย่างเราที่จะต่อกรกับค่ายรถเหล่านี้ได้ ... ก็คงทำได้แค่ว่าใครขายแพงเกินจริงก็ไม่ต้องไปซื้อ ไปหารถเจ้าอื่นแทน ให้กลไกการตลาดในการแข่งขันด้านราคามันได้ทำงานของมันไป

ส่วนเรื่องการควบคุมราคาสินค้าหรือการปกป้องผู้บริโภคผมไม่ขอพูดถึง.....
เพราะถ้าจะให้พูดกันตรงๆจริงๆมันจะลากไปถึงเรื่องการเมืองได้...ซึ่งคงไม่เหมาะที่จะมาพูดถึงกันในนี้ครับ



FyGI

ผม copy ข้อมูลมาจากที่อื่น

กรมศุลกากรก็จะมีวิธีการคำนวณและหลักเกณฑ์ในการประเมินภาษีของรถนำเข้าแต่ละคันไว้
ที่ส่งสัยกันมากมายว่าทำไมถึงแพงนักลองไปดูกันว่ารถนำเข้า 1 คันจะต้องเสียภาษีกี่ด่านอะไรบ้าง
 
โดยใช้เกณฑ์การประเมินราคา CIF (ราคา + ค่าประกันภัย + ค่าขนส่ง) เป็นฐานการประเมินอากรขาเข้า
ราคา CIF (ราคา + ค่าประกันภัย + ค่าขนส่ง)
ภาษีอากรขาเข้า 80% ของราคา CIF
ภาษีสรรพสามิต = (C.I.F. + ภาษีขาเข้า + ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) x อัตราภาษี / 1 – ( 1.1 x อัตราภาษี )
            *( อัตราภาษี 2,500 c.c – 3,000 c.c. = 40%, > 3,000 c.c. = 50% )
ภาษีกระทรวงมหาดไทย = 10% ของภาษีสรรพสามิต
VAT 7% ของราคา CIF + ภาษีขาเข้า + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีกระทรวงมหาดไทย


ถ้ารถนำเข้า เท่าที่ดูจากข้อมูลตัวแปรหลักเลยคือ ภาษีอาการขาเข้า 80% ครับ



lek12

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2017, 12:15:24 โดย lek12 »



Mr. RO

มันเป็น Demand & Supply
เพียงแต่ Demand บ้านเรามันเกิดจากพฤติกรรม พวก อวดมั่งอวดมี โอ้อวด ตามกระแส และ รักสบายกันเกินไป เหนื่อยนิด ร้อนหน่อย ก็บ่น อะไรแบบนี้นะครบั
ไม่ค่อยได้เป็น พื้นฐาน Demand บนความพอเพียงเท่าที่ควรนะครับ
Demand ส่วนนี้เลย เจ้าขอผลิตภัณฑ์ เลยปั่นใช้สื่อต่างๆ สร้างทำให้เกิดกระแส demand ที่เกินความจำเป็นขึ้นมานะ และหากินกับความอยาก ของคนในสังคมไทยนี้แหละครับ



Symphonic

ภาษีสรรพสามิตไงครับที่ทำให้รถแพง
แต่ก็แลกมากับภาษีรายปีที่จ่ายถูก

พี่ลองเทียบภาษีรายปีของประเทศที่ขายรถถูกดูสิครับ

ผมว่ามันแลกกันไม่ได้น่ะครับ ภาษีรายปีเราจ่ายให้รัฐบาล ไม่ได้เกี่ยวกับราคาตัวรถ
และไอ้ที่ภาษีสรรพามิตแพง ก็เพราะคิดจากราคาตัวรถที่ตั้งมาสูง ไม่ใช่หรือครับ?

แหม่... จะภาษีอะไรก็จ่ายให้รัฐทั้งนั้นล่ะพี่
แล้วภาษีสรรพสามิตเนี่ย 30-40% นะฮะ (ตามเงื่อนไข)

แต่ก็เถอะ ผมยังไม่เคยเห็นประเทศไหนเลยที่การมีรถจะมี
ค่าใช้จ่ายถูก  ส่วนใหญ่แล้วที่เห็นจะเปน pattern เหล่านี้

1. ถ้าซื้อถูก แต่ค่า running cost จะแพง (รวมภาษีรายปีด้วย)
2. ซื้อแพง แต่ running cost ถูก
3. ซื้อแพง, running cost แพง

บ้านเราเป็นแบบ 2 ฮะ แต่ประเทศที่เรามองมักเป็นแบบที่ 1



kiwiwi

นายช่างที่สิงคโปร์ และเซลที่อยู่ฮ่องกงที่เป็น supplier ให้บริษัทที่ผมทำงานอยู่บอกว่า

การมีรถในประเทศไทยง่ายมากๆ เค้ายังบอกอีกว่า
ถ้าเค้าต้องมาทำงานปีนึง เค้าจะซื้อรถขับแน่นอน

ตอนกลับค่อยขาย เค้ายังไม่เสียดายเงินเลย

ผมควรภูมิใจดีมั๊ยครับนั่น ว่าขนาดมีคนบอกว่าแพงๆๆๆ(ส่วนตัวก็ว่าแพงนะ) แต่เพื่อนบ้านเราบอกว่าถูกแสนถูก



LoveYouToo

ผมก็สงสัยเหมือน จขกท นะครับ ไม่ว่าจะคิดรวมภาษีไปแล้ว ยังไงก็แพงไปมากกว่าที่ควรจะเป็นอยู่ดี ถ้าไม่ใช่แพงเพราะด้านภาษีทั้งหมด แสดงว่าค่าการตลาดรถยนต์ของไทยสูงมาก มีเหตุผลอะไรที่ต้องสูงขนาดนี้ น่าจะมีหน่วยงานรัฐมาช่วยควบคุมตรงนี้ รถหรูยิ่งตัวดีเลยแอบบวกค่าความหรูตลาดเมืองไทยไว้สูงมาก

คิดๆแล้วก็เซ็ง รถที่ผลิตในไทย ส่งข้ามไปขายอีกซีกโลก แล้วยังขายถูกกว่าที่ขายในไทยมาก หากมองในด้านภาษี รัฐมีเหตุผลอะไรที่มาเก็บภาษีรถแพงขนาดนี้ ทั้งที่รัฐปล่อยทิ้งขว้างระบบขนส่งมวลชล โดยเฉพาะต่างจังหวัด ถ้าไม่มีรถนี้คือลำบากสุดๆ เก็บภาษีแพงไม่ว่าแต่ต้องสนับสนุนการเดินทางโดยขนส่งมวลชนให้ประชาชนด้วย



h0661036

TAX ล้วน ๆ       

   เมืองไทยคนเสียภาษีเงินได้มีแค่ 5-10 % ของจำนวนประชากร   ดังนั้นก็เลยต้องรีดภาษีพวกสรรพสามิต หรืออีกสารพัดนี่แหละ   อีกอันก็คือนโยบายปกป้องผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในประเทศ
 
   ......

   ต่างประเทศราคารถถูกจริง แต่ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นแพงนะครับ อย่างเช่นค่าที่จอดรถ แบบพวกญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงค์โปร์  หรือบางประเทศก็ VAT กับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแพงแบบในยุโรป

 



12345678910

เมืองนอกรถถูก แต่ค่าจ่อทะเบียนอะไรแพงนะครับ
ทำใบขับขี่ก็ยาก แถมแพงมากในด้านค่าใช้จ่าย เพื่อกรองคนขับรถและออกรถ
แถมบางประเทศ ไม่มีที่จอดรถในบ้าน ในที่ทำงานห้ามซื้อรถ  เมืองไทยหรอ ที่จอดไม่มี ซื้อไปเถอะ3-4 คัน จอดขวางไปทั่ว ไม่สนใจใคร


ขนาดรถที่จขกท บอกแพง คนยังออกรถได้มากมาย จนถนนไม่พอกับรถแล้ว รถติดมหาศาล ภาษีที่ได้จากราคารถ มาสร้างถนน ทางด่วนไม่ไหวแล้ว ต้องสร้างรถไฟฟ้า เพื่อแก้ปัญหารถติด

แล้วต่างประเทศที่ผลิตรถไม่ได้เค้าต้องตั้งกำแพงภาษีไว้ เพื่อช่วยผู้ผลิตในประเทศอีก (แม้จะตั้งโรงงานและผลิตในประเทศ)



Nyquist

ไม่ใช่ภาษีเสมอไป

รถยุโรปประกอบในประเทศ แต่ตั้งราคาแพงเวอร์



Auto

นายช่างที่สิงคโปร์ และเซลที่อยู่ฮ่องกงที่เป็น supplier ให้บริษัทที่ผมทำงานอยู่บอกว่า

การมีรถในประเทศไทยง่ายมากๆ เค้ายังบอกอีกว่า
ถ้าเค้าต้องมาทำงานปีนึง เค้าจะซื้อรถขับแน่นอน

ตอนกลับค่อยขาย เค้ายังไม่เสียดายเงินเลย

ผมควรภูมิใจดีมั๊ยครับนั่น ว่าขนาดมีคนบอกว่าแพงๆๆๆ(ส่วนตัวก็ว่าแพงนะ) แต่เพื่อนบ้านเราบอกว่าถูกแสนถูก
  ถ้าเทียบกับบางประเทศเช่่น สิงคโปร์ ฮ่องกง  ลาว เวียดนาม  ผมว่าบ้านเราราคารถถูกกว่าครับ 
แต่ถ้าเทียบที่อื่นมันก็ไม่แน่เสมอไป     เพราะอย่างรถยนต์ Mazda 2  Honda City  Nissan March   ที่ประกอบบ้านเราส่งกลับไปขายญี่ปุ่น     ราคามันก็ไม่ได้แพงกว่ารถที่ขายบ้านเราเลยนะ        แถมอ๊อพชั่นมากกว่าด้วย คุณภาพก็มากกว่าแน่นอน 
ผมก็มองแบบนั้นละ  ว่าแท้จริงแล้วภาษีบ้านเราแพง  แถมมีเก็บซ้ำซ้อน



berm

ราคารถหลักๆมันมาจาก 2-3 ปัจจัยครับ คือภาษี ส่วนต่างกำไร และค่าการตลาด

ที่ราคา CX-5 มันโดดไปขนาดนั้น ผมมองว่าหลักๆมันมาจากเรื่องค่าการตลาดนี่ล่ะครับ ทางผู้ขายเองคงมองว่าตั้งราคาขนาดนี้ยังไงก็มีคนซื้อ....จะขายได้แค่ไหนก็อีกเรื่อง
สำหรับผู้บริโภคอย่างเราที่จะต่อกรกับค่ายรถเหล่านี้ได้ ... ก็คงทำได้แค่ว่าใครขายแพงเกินจริงก็ไม่ต้องไปซื้อ ไปหารถเจ้าอื่นแทน ให้กลไกการตลาดในการแข่งขันด้านราคามันได้ทำงานของมันไป

ส่วนเรื่องการควบคุมราคาสินค้าหรือการปกป้องผู้บริโภคผมไม่ขอพูดถึง.....
เพราะถ้าจะให้พูดกันตรงๆจริงๆมันจะลากไปถึงเรื่องการเมืองได้...ซึ่งคงไม่เหมาะที่จะมาพูดถึงกันในนี้ครับ

cx 5 ใหม่นี่จริงๆ ผมว่าราคามันต้องถูกกว่าเดิมด้วยซ้ำ นำเข้าจากมาเล ค่าเงินริงกิตสมัยก่อน 10 บาท/1ริงกิต มายาวนาน

ตอนนี้ 7 บาทปลายๆ หายไป 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ ในเมื่อราคาตั้งต้นมันหายไป 20 กว่าเปอร์เซ็นต์

แต่ราคาตั้งขายในประเทศไทยกลับสูงขึ้น ก็อยู่ที่กำไรล้วนๆเเหละครับ