ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคำแนะนำผู้ที่รู้และผู้ที่เคยใช้รถยนต์สัณชาติฝรั่งเศสครับ  (อ่าน 5099 ครั้ง)

ออฟไลน์ Siemens

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 141
มีโอกาสได้นั่งเ PEUGEOT 508 มาวันนี้ รู้สึกว่ารถมันขับได้ดีมากๆๆๆ เลย
ช่วงล่างนิ่งมากๆๆ การตอบสนองของเครื่องยนต์ก็ทันใจดีมากๆๆ
เห็นว่าเป็นรถยนต์จากฝั่งยุโรปเหมือนกัน
ไม่ทราบคุณภาพจะเทียบรถยนต์จากเยอรมันได้ปะครับ

ออฟไลน์ thiti

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 100
ในยุคปี 90 เปอร์โยต์ เป็นรถที่โดดเด่นช่วงล่าง แข็งแรง นุ่มสบาย ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก แต่ยังคงความสามารถในการยึดเกาะถนนสูง
พอพิจารณารถฝรั่งเศษทุกยี่ห้อ วิศวกรรมเทคนิคการออกแบบระบบรองรับการสั่นสะเทือนทำได้ดีโดดเด่นมาก เหนือกว่ายี่ห้ออื่นเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2017, 06:54:01 โดย thiti »

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
ในยุคปี 90 เปอร์โยต์ เป็นรถที่โดดเด่นช่วงล่าง แข็งแรง นุ่มสบาย ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก แต่ยังคงความสามารถในการยึดเกาะถนนสูง
พอพิจารณารถฝรั่งเศษทุกยี่ห้อ วิศวกรรมเทคนิคการออกแบบระบบรองรับการสั่นสะเทือนทำได้ดีโดดเด่นมาก เหนือกว่ายี่ห้ออื่นเยอะ
เคยใช้ยุคนั้นเหมือนกันครับ เป็นรุ่น504 จำได้ว่าพวงมาลัยและคลัทช์หนักมากๆแต่หนึบแน่นได้ใจ สมัยนั้นBMW 528Iยังนิ่มเกินไปด้วยซ้ำ ต่อมาผมขับE30และได้ซื้อPeugeot305ป้ายแดงโดยขับไปส่งให้ผจก.โรงงานที่โคราช ประทับใจมากๆกับช่วงล่างที่เกาะถนนดี อัตราเร่งดีกว่าE30แบบชัดเจน เรียกว่าขับสนุกกว่ากันเยอะเลย แต่รถฝรั่งเศสก็จะมีการออกแบบภายในที่ไม่เหมือนขาวบ้านชาวช่องเขาครับ ปุ่มหรือสวิทช์ก็จะมาอยู่ที่ๆเราไม่เคยเจอเป็นต้นครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ coolcarrera

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 517
ถ้ารถประเทศนี้ แอบเหล่ renault มานานครับ อยากลองใช้สักครั้ง
หมายถึง renault ยุคปัจจุบันนะ
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18

ออฟไลน์ aum_nattha

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 333
เคยขับ Renault 9, Renault 21, Peugeot 406 L5 ขาด Citroen อีกค่ายรถฝรั่งเศส ที่ผมยังอยากลิ้มลองระบบ Hydropneumatic (Hydractive) ของมันจนทุกวันนี้ 555 รถฝรั่งเศสผมชอบ character อย่างนึงของมันคือความ นุ่มๆ หนืดๆ คืนตัวช้าๆ ของช่วงล่าง มันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใครดีครับ นิ่งสบาย ผ่อนคลายมากๆ แต่ก็ขาดความสนุกในการขับไปหน่อย เกียร์ออโต้ของมันก็เปลี่ยนนุ่มๆ แบบหนืดๆ เช่นกัน 555 แต่ไม่รู้รถฝรั่งเศสสมัยใหม่ character เปลี่ยนไปอย่างไรแล้ว ;D 
MB E280 V6 3.0 AV W211 FL
MB E280 I-6 W124
LEXUS RX300 V6 (XU35)
Citroen Xantia 2.0i Exclusive
Volvo S 90 (960) 3.0L I-6
BMW E12 520 M20 Inline 6
Ford Focus 1.8Ghia
Honda Jazz GE

Bike : Honda Goldwing F6B 1,800 Boxer 6 สูบ

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
เคยใช้แต่รถยุค90 Renault R21อะครับ ละก็เคยนั่งพวกCitroen หลายๆรุ่น  เอาตามตรงนะครับรถฝรั่งเศสมันเป็นรถที่ขับดีในระดับนึงเลย พวกออพชั่นภายในรถเทียบกันรถในยุคเดียวกันนี่แซงหลายค่ายไปเลย Renault R21ผมปี94นี่บอกน้ำมันเป็นlitreแล้วแถมมีบอกพวกอัตราสิ้นเปลืองต่อลิตรน้ำมันที่เหลือจะวิ่งได้กี่กิโลแบบรถยุคใหม่เลย ตอนได้มาแรกๆก็คิดว่าระบบมันคงไม่ตรงซักเท่าไหร่ แต่พอใช้งานจริงก็ค่อนข้างตรงเลย พวกช่างล่างอะไรนี่พอๆกับรถเยอรมันเลยครับ ดีกว่าพวกVolk Opel Ford แต่เสียตรงที่ว่าพวกเครื่อง เกียร์ มันไม่ค่อยทนวิ่ง100,000กว่าต้องโอเวอฮอลเกียร์ละ ละความร้อนสะสมในห้องเครื่องค่อนข้างสูงด้วย ปัจจุบันอาจจะพัฒนาให้ดีขึ้นแล้ว เครื่องยนตร์2000cc 12valve ของR21ผมนี่ดูในspecบอกมี่แค่130กว่าม้าเอง top speed 230km/h แรกๆก็คิดว่ามันโม้ พอเหยียบจริง แตะ200ละยังไปต่อได้อีก ทีนี้เลยคิดว่าน่าจะของจริง ;D ทุกวันนี้ก็ยังแอบอยากได้ Renault Megane RS หรือตัว Trophyไปเลย ถ้ามีศูนย์มาเปิดบริการผมว่าคงมีคนอยากซื้อมาวัดกับA45 AMGอะ

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
ในบรรดารถขับหน้า เศสเจ๋งสุด ตั้งแต่สมัยหน้ากบ ไฮโดรลิคแม้กระทั่งเบรค พวงมาลัย
ยุคนั้นมีแต่สามแฉก600 ที่มีระบบทำงานเหมือนกันแต่ราคาต่างกันฟ้ากับเหว
รถหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ส่วนใหญ่ยกระบบจากเครื่องบินลงมาใส่ บางคันล้ำมากกว่ารถสมัยนี้ด้วยซ้ำ

รถเศสเหมือน รถต้นแบบ ราคารถบ้าน เป็นงานศิลป์ที่คนจนสัมผัสได้ ไม่ต้องละเมอแบบลี่แพงเวอร์
แต่การดูแล อะไหล่ คนใช้ต้องเข้าใจ มีตังค์เฟืองก้างปลา กลางๆเพชรแวซาย สิงยกขา
จน2cv รถตั้งตัวผลิตก่อนเต่าเป็นตำนานตะลุยทั่วโลก ราคาถูกจนฮิตเลอร์ดำริให้สร้างรถราคาแมงไซด์

แต่เศสมีข้อเสียร้ายแรงเรื่องอะไหล่เปราะ ระบายความร้อนห้องเครื่องไม่ดี เน้นแต่หนาวอย่างเดียว
อะไหล่ทนแต่เจอร้อนแบบบ้านเราพาลเสียง่าย แถมตัวแทนฟันไม่เลี้ยง บ.แม่ไม่ใส่ใจ
เครื่องยนต์ทนไม่แพ้เย แต่ฝาสูบโบราณแรงแต่ไม่เท่าเย ลี่ ยุ่น เกียร์ซื้อเขามาใส่

พอเจ๊งมากเข้าสิงโตยกขามารวมกับเฟืองก้างปลา อะไรๆที่แตกต่างกลายเป็นตัวเดียวกัน
รถขับดีแต่ขาดเอกลักษณ์ที่เคยมี ความทนลดลง ชุดซ่อมเริ่มไม่มีเปลี่ยนอย่างเดียว
ส่วนเพชรแวซายน์ เครื่องแรงขับหน้าวางตามยาว ตรงข้ามกับหน้ากบ ช่างบางคนไม่เข้าใจเศสยำจนรถเน่า
แถมไปด่าวิศวกรทั้งที่ตัวเองโง่เง่าเต่าตุ่น พอวางยุ่นลงไม่ได้ก็โทษโน้นโทษนี้ พอมีคนทำได้ก็ลอกเขาหากิน

แต่คนไม่เข้าใจยังไงก็ไม่เข้าใจ แบบที่ทำแอร์ปลาวาฬไม่เป็น คอมไม่เคยตัดปิดฮีทเตอร์ ระบบรวนก็ไปโทษรถ
พอมีคนทำจบแต่ต้องรื้อหมดหาว่าฟัน ลูกค้าเศสที่เข้าใจมีไม่มาก ช่างที่ทำเก่งมีน้อย บ.แม่ไม่สนใจ
ตัวแทนรีดเลือดจากปู ไม่เจ๊งก็ปาฏิหารย์แล้ว วันนี้ถ้าจีนแดงไม่อุ้มชูเจ๊งไปนานแล้ว

ไฮโดรลิคเหลือแต่กระบอกสำเร็จ แต่ช่วงล่างสุดล้ำยังพัฒนาต่อ เยทำขับหน้าแย่กว่ามาก วงเลี้ยวกว้าง
ได้ยุ่นมาสอนมวยถึงทำเป็น เพราะรู้ดีกว่ารถขับหลังเพลากลางใกล้อวสานแล้ว ต่อไปจะมีแต่ขับตรงที่ล้อ
แล้วเศสพัฒนามานานสุด ใครๆก็อยากได้ไปครองแต่รัฐบาลเศสอุ้มเต็มที่ ได้จีนแดงช่วยเลยยกบางส่วนใส่หงฉี

เลยมีทุนมาทำฟูเอลเซลใส่รถแบบe100 เพราะภาคเกษตรผลิตสบาย แต่จีนแดง เย ยุ่นเน้นเรือ รถไฟ เครื่องบินมากกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2017, 11:50:28 โดย bahamu »

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,433
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
ในบรรดารถขับหน้า เศสเจ๋งสุด ตั้งแต่สมัยหน้ากบ ไฮโดรลิคแม้กระทั่งเบรค พวงมาลัย
ยุคนั้นมีแต่สามแฉก600 ที่มีระบบทำงานเหมือนกันแต่ราคาต่างกันฟ้ากับเหว
รถหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ส่วนใหญ่ยกระบบจากเครื่องบินลงมาใส่ บางคันล้ำมากกว่ารถสมัยนี้ด้วยซ้ำ

รถเศสเหมือน รถต้นแบบ ราคารถบ้าน เป็นงานศิลป์ที่คนจนสัมผัสได้ ไม่ต้องละเมอแบบลี่แพงเวอร์
แต่การดูแล อะไหล่ คนใช้ต้องเข้าใจ มีตังค์เฟืองก้างปลา กลางๆเพชรแวซาย สิงยกขา
จน2cv รถตั้งตัวผลิตก่อนเต่าเป็นตำนานตะลุยทั่วโลก ราคาถูกจนฮิตเลอร์ดำริให้สร้างรถราคาแมงไซด์

แต่เศสมีข้อเสียร้ายแรงเรื่องอะไหล่เปราะ ระบายความร้อนห้องเครื่องไม่ดี เน้นแต่หนาวอย่างเดียว
อะไหล่ทนแต่เจอร้อนแบบบ้านเราพาลเสียง่าย แถมตัวแทนฟันไม่เลี้ยง บ.แม่ไม่ใส่ใจ
เครื่องยนต์ทนไม่แพ้เย แต่ฝาสูบโบราณแรงแต่ไม่เท่าเย ลี่ ยุ่น เกียร์ซื้อเขามาใส่

พอเจ๊งมากเข้าสิงโตยกขามารวมกับเฟืองก้างปลา อะไรๆที่แตกต่างกลายเป็นตัวเดียวกัน
รถขับดีแต่ขาดเอกลักษณ์ที่เคยมี ความทนลดลง ชุดซ่อมเริ่มไม่มีเปลี่ยนอย่างเดียว
ส่วนเพชรแวซายน์ เครื่องแรงขับหน้าวางตามยาว ตรงข้ามกับหน้ากบ ช่างบางคนไม่เข้าใจเศสยำจนรถเน่า
แถมไปด่าวิศวกรทั้งที่ตัวเองโง่เง่าเต่าตุ่น พอวางยุ่นลงไม่ได้ก็โทษโน้นโทษนี้ พอมีคนทำได้ก็ลอกเขาหากิน

แต่คนไม่เข้าใจยังไงก็ไม่เข้าใจ แบบที่ทำแอร์ปลาวาฬไม่เป็น คอมไม่เคยตัดปิดฮีทเตอร์ ระบบรวนก็ไปโทษรถ
พอมีคนทำจบแต่ต้องรื้อหมดหาว่าฟัน ลูกค้าเศสที่เข้าใจมีไม่มาก ช่างที่ทำเก่งมีน้อย บ.แม่ไม่สนใจ
ตัวแทนรีดเลือดจากปู ไม่เจ๊งก็ปาฏิหารย์แล้ว วันนี้ถ้าจีนแดงไม่อุ้มชูเจ๊งไปนานแล้ว

ไฮโดรลิคเหลือแต่กระบอกสำเร็จ แต่ช่วงล่างสุดล้ำยังพัฒนาต่อ เยทำขับหน้าแย่กว่ามาก วงเลี้ยวกว้าง
ได้ยุ่นมาสอนมวยถึงทำเป็น เพราะรู้ดีกว่ารถขับหลังเพลากลางใกล้อวสานแล้ว ต่อไปจะมีแต่ขับตรงที่ล้อ
แล้วเศสพัฒนามานานสุด ใครๆก็อยากได้ไปครองแต่รัฐบาลเศสอุ้มเต็มที่ ได้จีนแดงช่วยเลยยกบางส่วนใส่หงฉี

เลยมีทุนมาทำฟูเอลเซลใส่รถแบบe100 เพราะภาคเกษตรผลิตสบาย แต่จีนแดง เย ยุ่นเน้นเรือ รถไฟ เครื่องบินมากกว่า

อ่านแล้วเกือบงง 555

สิงโตยกขา = Peugeot
เฟืองก้างปลา = Citroen
เพชรแวร์ซาย = Renault
หน้ากบ = DS?
ปลาวาฬ = CX?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2017, 13:52:37 โดย 5thAvenue »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,462
ผมว่าที่รถฝรั่งเศสไม่นิยมในไทย ส่วนนึงเพราะผู้นำเข้ามาครับ

สมัยเด็กๆ บ้านญาติเคยมี R21 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด รถมันดีมากๆ แต่กลับไปไม่รอดในตลาดบ้านเรา

ออฟไลน์ manonmoon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
    • อีเมล์
405 หนึบแบบดิบ ๆ หน่อย ลงเครื่อง XU9J4 ยิ่งสนุก
406 หนึบแบบนิ่ม ๆ ขับสบาย ๆ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
    • อีเมล์
 Peugeot 205 sr รถเบา แฮนลิ่งดี คล่องตัวมาก ( ไม่ถึง 900 km ) เครื่องเดิม 1400 อืดหน่อย แต่ก็ขับสนุก

 ยิ่งพวกเวอรชั่นแรง ผมชอบ 205 GTI มากกว่า Golf MK2 GTI อีก

 ถ้ามีโอกาส ลองขับ ลองนั่ง Citroen C6 ครับ รุ่นส่งท้ายของระบบ hydropneumatic วิ่งผ่านถนนขรุขระนี่ รู้สึกชัดเจนมาก

 รุ่นใหม่ๆ Citroen ได้เปลี่ยนมาเป็น progressive hydraulic cushions อยากลองเหมือนกันครับว่าจะดีขึ้นตามที่คุยหรือเปล่า และทนทานขึ้นมากน้อยแค่ไหน
 

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,127
    • อีเมล์
สำหรับรถประเทศนี้ ผมมีความประทับใจมากๆกับ PEUGEOT ครับ

ถึงไม่ได้ขับแต่ก็ใช้ชีวิตอยู่กับเขามาตลอดตั้งแต่ 504 - 505 - 305 -405 ทุกคันให้ความประทับใจเรื่องช่วงล่างซึ่งโดดเด่นมากๆ

504-505 จะออกแนวนุ่มแน่น หนึบ และ ทนทานมากๆๆถึงมากที่สุด ช่วงล่างแน่นเงียบ แม้ผ่านการใช้งานหนักมายาวนาน เครื่องค่อนข้างอืด กินน้ำมัน

305 เป็นรถที่กระฉับกระเฉง กำลังเครื่องดี ช่วงล่างนิ่ง และ ทรงตัวดีมาก แปลกที่ทำให้นิ่ง มีกระด้างแต่น้อยมาก แต่ไม่กระเด้งเหมือนรถรุ่นหลังๆ ทั้งที่ นน.ก็ไม่ได้หนักมาก ประหยัดน้ำมันใช้ได้ เปิดตัวใหม่ๆขาย 385,000 บาท เกียร์ธรรมดา ราคาดีมากๆในยุคนั้น

405 - สวยมาก รูปทรงโดนใจ ช่วงล่างนิ่ง หนึบ  เป็นคันที่ชอบมากที่สุด ในยุคนั้นราคาเปิดตัวใหม่ๆ 745,000 บาท กับรถยุโรป ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย (ยังอยากมีไว้ในครอบครองเลยจริงๆ ยิ่งตัว MI16 นี่น่าเก็บมาก)

ชอบครับ ยี่ห้อนี้  เสียดายที่ไม่ได้ไปต่ออย่างสง่างาม ทั้งที่ 504 - 505 -305 - 405  ทำยอดขายได้ดีมากๆในสมัยนั้น

2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)